เอนทรี่นี้เป็นการร่วมกิจกรรมกับบล็อกแกงค์ ลุย! ล่า! ท้าเขียนนะคะ
สำหรับเอนทรี่นี้จะเป็นหัวข้อนี้ค่ะ
คุณคิดว่าความคิดหรือมุมมองต่างๆของคุณได้เปลี่ยนไปอย่างไรบ้างตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
อืมม์...ที่จริงมีหลายสิ่งเลยค่ะที่คิดว่าความคิดและมุมมองตัวเองเปลี่ยนไปจากสมัยก่อนเยอะมาก แต่เอาเป็นเรื่องๆ เท่าที่นึกออกนะคะ
1. เรามีความเป็นสีเทาในการมองมากขึ้นน่ะ
คือ สมัยก่อนหน้านี้ เรารู้สึกว่าโลกนี้มันมีแค่ขาวกับดำ ดีคือดี ชั่วคือชั่ว แต่ทุกวันนี้เริ่มเข้าใจความซับซ้อนของมนุษย์มากขึ้น และเริ่มเข้าใจว่ามนุษย์หลายคน (หรือส่วนใหญ๋เลย) ก็จะมีทั้งดีและแย่ในตัว ไม่มีใครที่ดีสมบูรณ์พร้อม พอๆ กับไม่มีใครที่เลวสุดขีด (อันหลังนี่...ยังไม่ค่อยแน่ใจ 555) เพียงแต่จะมีดีมากกว่าหรือเลวมากกว่าเท่านั้น มันทำให้ความรู้สึก "สุดโต่ง" เราน้อยลงเยอะค่ะ เมื่อก่อนยอมรับเลยว่าเป็นคนสุดโต่งมากๆ
2. เริ่มทำความเข้าใจกับการนินทาว่าร้ายได้มากขึ้นค่ะ
คือ เมื่อก่อนเราจะไม่เข้าใจว่า เฮ้ย เราไม่ได้ทำ ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ทำไมเค้าถึงเข้าใจและพูดถึงเราแบบนั้นอ้ะ รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนมากๆ ค่ะ
ด้วยการศึกษาพระธรรม ทำให้เห็นจริงว่า พระพุทธเจ้าซึ่งท่านดีพร้อมกว่าเรามาก ยังถูกคนเกลียดชัง ใส่ร้าย นินทาว่าร้ายได้ แล้วเราเป็นใคร้ (เสียงสูง) ดีไม่เท่าครึ่งของท่านด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น...จะโดนบ้างนี่ไม่แปลกเลยค่ะ หลังๆ นี่เลยไม่แคร์เลย ใครอยากว่าร้าย ใส่ร้าย นินทา ไม่สนใจแล้วค่ะ ซึ่งดีกับใจมากๆ
"ถ้าใครว่าร้ายเราแล้วมันจริง ก็มันจริง เราไม่เห็นต้องเดือดร้อน
แล้วถ้ามันไม่จริง ก็มันไม่จริง เราก็ไม่เห็นต้องเดือดร้อน"
จริงนะคะ
3. ความรักกับความดีเป็นคนละเรื่องกันค่ะ
ต่อให้เราเป็นคนดี ทำดีกับเค้า แต่ถ้าเค้าไม่รักก็คือไม่รักนะคะ การเป็นคนดีกับเป็นที่รักมันคนละเรื่องกันค่ะ เหมือนน้องหมา ต่อให้เราทำเค้กอร่อยสุดหล้าแค่ไหน แต่ถ้าเค้าจะชอบแทะกระดูกหมู ก็ต้องปล่อยเค้าไปน่ะ ยังไงเค้าก็ไม่กินเค้กน่ะค่ะ อันนี้ต้องยอมรับจริงๆ ว่าความรักกับความดีมันคนละเรื่องกันค่ะ การเป็นคนดีหรือการทำดี ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะรักคุณได้น่ะ ประโยคที่บอกว่า "ความดีเอาชนะทุกสิ่ง" ไม่จริงเสมอไปในนามของความรักนะคะ
4. การทำบุญ ไม่ได้มีแค่การทำทาน
อันนี้เพิ่งรู้เมื่อไม่กี่ปีที่ผา่นมานี้เองค่ะ เป็นพุทธศาสนิกชนยังไงมาได้สามสิบกว่าปีไม่รู้เรือ่งนี้ฟระ
ซึ่งทำให้ความคิดเกี่ยวกับการทำบุญเปลี่ยนไปค่ะ แล้วก็เข้าใจเรื่องของการทำบุญแบบอื่นๆ มากขึ้น และพยายามที่จะทำบุญในแบบอื่นๆ มากยิ่งๆ ขึ้นค่ะ เพราะการทำเฉพาะทาน (ไม่ว่าจะกับสัตว์ คน หรือพระ) ก็จะได้ผลบุญเฉพาะผลแบบทานค่ะ แต่การทำบุญแบบอื่นๆ มันจะมีผลแบบอื่นด้วย (มีทั้งหมด 10 วิธีนะคะ)
5. การทำดีไม่ได้ดีเสมอไป แต่การทำดีก็ดี
คือ ไม่ได้หมายความว่าทำดีแล้วจะไม่ได้รับผลดีหรอกนะคะ เพียงแต่มันไม่เสมอไป เพราะมันมีอีกหลายเหตุปัจจัยที่อาจจะทำให้เราไม่ได้รับผลของการทำดีนั้นน่ะค่ะ
เปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือนกับเราที่พยายามหาเมล็ดพันธุ์ที่ดี หาที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ดูแลประคบประหงมจนโต แต่ถ้าอยู่ๆ พายุเข้ามา จนต้นไม้ถูกทำลาย เราก็มีโอกาสที่จะไม่ได้รับผลจากต้นนั้น แต่ยังไงเราก็ต้องทำ เพราะถ้าเราไม่ทำ มันจะไม่มีโอกาสได้ผลเลย ไม่ว่าจะเกิดพายุหรือไม่ก็ตาม เพราะฉะนั้นทำดีก็ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าจะได้ (ผลจากการทำ) ดีนะคะ ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยอื่นๆ ด้วยค่ะ
ที่จริงยังมีอีกหลายเรื่องเลยค่ะ แต่ถ้าจะให้แจกแจงหมด เอนทรี่นี้ต้องยาวมากแน่ๆ (แค่นี้จะมีใครอ่านครบก็ยังไม่รู้เลย 555) ขอจบแต่เพียงเท่านี้แล้วกันนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
1,469,696+3890772=5360468/12505/1289 
ซึ่งทำให้ความคิดเกี่ยวกับการทำบุญเปลี่ยนไปค่ะ แล้วก็เข้าใจเรื่องของการทำบุญแบบอื่นๆ มากขึ้น และพยายามที่จะทำบุญในแบบอื่นๆ มากยิ่งๆ ขึ้นค่ะ เพราะการทำเฉพาะทาน (ไม่ว่าจะกับสัตว์ คน หรือพระ) ก็จะได้ผลบุญเฉพาะผลแบบทานค่ะ แต่การทำบุญแบบอื่นๆ มันจะมีผลแบบอื่นด้วย (มีทั้งหมด 10 วิธีนะคะ) 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [
