All Blog
การเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างมีสติ
การเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างมีสติ


 

การเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างมีสติ

Living with Bad neighbors

วันนี้ดู DVD เรื่องBad neighbors ทำให้นึกถึงคนที่ไม่มีโอกาสมีบ้านในเนื้อที่กว้างๆ แบบเศรษฐีหรือคนในชนบท แต่จำเป็นต้องอยู่ในบ้านที่ติด ๆ กันหรือหลังคาเกยกัน

เพื่อนบ้านจึงเป็นสิ่งที่กำหนดความสุขความทุกข์ได้อย่างมากโชคดีคงได้เพื่อนบ้านดี โชคร้ายสุดซวยเจอเพื่อนบ้านเลว

ข่าวคราวออกมาบ่อยๆ ว่าเพื่อนบ้านอยู่ใกล้ชิดติดกันมานาน สุดจะทนไหว หยิบปืนออกมาฆ่าล้างครัวกันเลยทีเดียวบางรายแค่ทะเลาะเบาะแว้งขึ้นโรงขึ้นศาล หรือแค่ขึ้นโรงพักเสียค่าปรับไปตามระเบียบ

ในชีวิตจริงของคนเราเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเพื่อนบ้านที่เลวมากๆ แบบในหนังเรื่องนี้จะทำเช่นไรกันนะ ทนเอาแบบไม่มีปากมีเสียง มีปัญญาเสียงดังได้ให้ดังไปแบบสุด ๆ ไปเลย ไม่ใส่ใจเสียอย่าง คงไม่มีเรื่อง ซื้อที่ใส่หู ear plug ไม่ต้องได้ยินเสียงหมูเสียงหมา ให้รำคาญใจ

คนที่มีเงินมาก ๆ ยอมขายบ้านไปหาบ้านใหม่ ซึ่งเป็นไปไม่ได้อีกถ้ารวยมากคงไม่ทนอยู่อย่างนี้ แล้วระดับเงินเท่าที่มีไม่ว่าไปอยู่ที่ไหนคงเจอแบบนี้อีก

หรือจะคิดต่อกร ต่อสู้ให้รู้แพ้รู้ชนะเพื่อให้เพื่อนบ้านยอมแพ้แล้วย้ายบ้านหนีเหมือนในหนังเรื่องนี้แต่มันเป็นได้แค่ในหนัง เรื่องจริงจะทำได้ไหม

การเจรจายอมความน่าจะเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้แน่ ๆเพราะโดยนิสัยที่ขาดการอบรมบ่มเพาะให้รู้จักมารยาทที่ดีต่อเพื่อนบ้านคงแก้ด้วยคำพูดไม่กี่คำได้หรอก

สรุปแล้ว ใครจะเจอเพื่อนบ้านแย่ ๆ ควรจะทำเช่นไรดีนะ สติเท่านั้นกระมังที่จะทำให้สามารถเผชิญหน้ากับปัญหาได้ดีขึ้น




Create Date : 26 พฤษภาคม 2562
Last Update : 26 พฤษภาคม 2562 4:00:28 น.
Counter : 898 Pageviews.

0 comment
อย่าปล่อยให้อารมณ์เหนือสิ่งอื่นใด
อย่าปล่อยให้อารมณ์เหนือสิ่งอื่นใด
Don't let emotions over anything else by DrPK
               สามสิ่งรวมตัวกันก่อเกิดเป็นตัวตนของแต่ละคน อารมณ์ ความคิด และการกระทำ สัดส่วนทั้งสามจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน
               บางคนใช้อารมณ์เป็นใหญ่ เวลาฉุนโกรธ ฟิวส์ขาดได้เลย เห็นช้างตัวเท่ามด ไม่กลัวสักนิด ไม่นึกถึงอนาคตที่ย่ำแย่กว่าเวลาที่ฉุนโกรธมากมายหลายร้อยเท่า คุกตารางรออยู่ตรงข้างทางเดินนั่นเอง
               ถ้าไม่เคยโดนฝึกให้รู้จักเบรคอารมณ์ คงหุนหันพลันแล่น วิ่งไปตามกระแสเหวี่ยง ไม่คิดหน้าคิดหลัง
               บางคนโดนอบรมมามากเกิน จนไม่กล้าแม้แต่จะแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสม กลายเป็นคนเก็บกด
แล้วจะมีสักวันไหม ที่สิ่งที่เก็บกดมากเกินนี้จะระเบิดออกมาอย่างน่ากลัว
                แบบไหนดีที่สุดล่ะ
ถ้ารู้จักบริหารจัดการอารมณ์ให้อยู่ในทิศทางที่สร้างสรรค์ เช่น เมื่อโกรธมาก อย่าเพิ่งด่าทอ ตอบโต้ทันทีทันควัน อาจไปเขียนในบันทึกส่วนตัว ด่ามันให้เต็มที่ หรือเข้าห้องน้ำร้องเพลงให้ลั่นบ้านไปเลย พวกที่มีหัวศิลป์อาจวาดรูป เขียนหนังสือ ระบายความแค้น
               การยอมจนมากเกิน กลายเป็นอดกลั้น ลองเปลี่ยนเป็นคิดว่า สู้มันได้แน่ แต่ไม่ใช่การประลองด้วยกำลัง ลองใช้ปัญญาแก้ปัญหาสิ
               การเข้าใจและยอมรับว่า นี่แหละคือมนุษย์ปุถุชนที่มีอารมณ์ แต่ปัญญาชนจะยอมรับให้อารมณ์นี้เกิดขึ้นได้ในขอบเขตที่พอเหมาะพอเจาะ ใช้ความคิดและการกระทำในระดับที่สังคมยอมรับ
               ลองทำให้อารมณ์ ความคิด และการกระทำสมดุลกัน แล้วจะรู้ว่าชีวิตนี้มีความสุขได้ง่ายนิดเดียว
 
 



Create Date : 25 พฤษภาคม 2562
Last Update : 25 พฤษภาคม 2562 16:41:36 น.
Counter : 838 Pageviews.

2 comment
เมื่อครูทุกคนต้องเป็นครูแนะแนว

เมื่อครูทุกคนต้องเป็นครูแนะแนว

จิตวิทยาแนะแนวกับพรรณี

เมื่อผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาธิการประกาศนโยบายเด่นเฉพาะตน ผู้เกี่ยวข้องย่อมต้องน้อมรับคำสั่ง และพยายามทำให้นโยบายกลายเป็นข้อบังคับเชิงปฏิบัติให้ได้

สมัยหนึ่งช่วงที่จะปรับหลักสูตรเหมือนตอนนี้แหละ น่าจะเป็น 2544 นโยบายที่จะลดคาบกิจกรรมแนะแนว รวมทั้งลดครูแนะแนวลง จึงประกาศว่า ครูทุกคนเป็นครูแนะแนว

ครูแนะแนวหลายคนคงหนาว ๆ ร้อน ๆ แล้วเราจะมีที่ยืนในโรงเรียนไหมเนี่ย เนื่องจากหลักสูตร 2521 ประกาศชัดเจนว่า ทุกโรงเรียนต้องมีครูแนะแนวและให้จัดกิจกรรมแนะแนว 1 คาบต่อสัปดาห์ บางคนจบมาทางแนะแนวโดยตรงระดับปริญญาตรี

คำถามต่อมาแล้วครูทุกคนเป็นครูแนะแนวได้จริงหรือ ไม่จำเป็นต้องมีครูแนะแนวใช่หรือไม่ กิจกรรมแนะแนว 1 คาบต่อสัปดาห์จำเป็นต้องมีหรือไม่ ครูแนะแนวมีโอกาสส่งผลงานทางวิชาการหรือไม่ อะไร ๆ ทำนองนี้ ครูแนะแนวคงสะดุ้งกันบ้างล่ะจริงไหม

ครูแนะแนวต้องรอบรู้เรื่องจิตวิทยา การแนะแนว การให้คำปรึกษา การปรับพฤติกรรม คงไม่ใช่แค่สอนให้เด็กเลือกคณะเข้ามหาวิทยาลัย และไม่ใช่เข้าไปทำอะไรก็ได้ในคาบกิจกรรมแนะแนว และไม่ใช่แค่มีห้องส่วนตัวที่แอบเข้าไปหลับนอนได้

สมัยก่อน ไม่ต้องมีครูแนะแนว เด็กก็เป็นใหญ่เป็นโตได้ คำพูดเช่นนี้มีบ่อยครั้งเมื่อจะลบภาพบางอย่างออกไป เช่น ครูไม่ต้องเรียนสูง ครูไม่ต้องมีวิทยฐานะ

ครูทุกคนสามารถเข้าใจจิตวิทยา การแนะแนว การให้คำปรึกษา การปรับพฤติกรรมและอะไรต่อมิอะไรที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเด็กได้อย่างถ่องแท้เพื่อช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้น หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดแล้วได้จริงหรือไม่ ถ้าได้ ไม่จำเป็นต้องมีครูแนะแนวหรอก

ในขณะที่ทุกวันนี้ ครูเองยังไม่เข้าใจหลักสูตร ไม่รู้วิธีการสอนสารพัดอย่างที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับนักเรียนของตน บริบทเฉพาะของโรงเรียน ได้แต่สอนตามหนังสือที่กระทรวงกำหนด หรือไม่จากสำนักพิมพ์เอกชน แค่นี้ครูคางเหลืองแล้ว

นอกจากนี้ ครูหลายคนชอบอาสาทำงานพิเศษที่บรรดารองผู้อำนวยการมอบหมายให้ทำ ทั้งที่นั่นคืองานโดยตรงของเขา ยังไม่หมดต้องเตรียมรับการประเมินจากต่างหน่วยงานที่มีรูปแบบการประเมินที่ต่างกันอีกด้วย

งานมากมายอย่างนี้ จะมีครูสักกี่คนที่สนใจเด็กตัวน้อย ๆ แต่หลายร้อยชีวิตให้พัฒนาเติมเต็มศักยภาพของตนและช่วยกันป้องกันแก้ไขปัญหาจากสังคมที่ก้าวไปไกลเกินที่เด็ก ๆ จะปรับตัวได้ทัน และเข้าใจว่าโลกมายาหรือโลกเสมือนจริง ไม่ใช่โลกที่เป็นจริง

ครูทุกคนคงอยากเป็นครูแนะแนวกันจริง ๆ นะคะ




Create Date : 25 พฤษภาคม 2562
Last Update : 25 พฤษภาคม 2562 16:40:40 น.
Counter : 2277 Pageviews.

0 comment
ช่วยกันเลี้ยงลูกหลานยุคใหม่

620322 ช่วยกันเลี้ยงลูกหลานยุคใหม่

Helping to raise new generations by DrPK

ชื่อหนังสือ เลี้ยงลูกยุคอัลฟ่าให้ฉลาดเฉลียว ผู้เขียน ดร.พรรณี เกษกมล

เมื่อคน 3 ยุค คือ ยุค gen B ที่เป็นปู่ย่าตายาย ยุค gen X ที่เป็นพ่อแม่ และลูกเล็กที่เป็นเด็กยุค gen Alpha โคจรมาพบกัน อะไรจะเกิดขึ้น

พ่อแม่ต้องเข้าใจลูกน้อยว่าเกิดมาในช่วงที่โลกกำลังแข่งขันกันสูง เด็กต้องเรียนรู้สารพัดอย่างมากมายเพื่อที่จะก้าวยืนอยู่ในแถวหน้าได้อย่างมั่นคง ปู่ย่าตายายที่อยู่ในวัยเกษียณและค่อย ๆ เรียนรู้เทคโนโลยีพร้อมกับเด็กรุ่นใหม่ ความรู้เดิม ๆ ที่เคยมีแทบจะใช้ประโยชน์ไม่ได้ อำนาจตำแหน่งลาภยศที่ใหญ่โตหมดไปพร้อมกับการเรียนรู้วิธีจะยืนหยัดในโลกสมัยใหม่อย่างสง่าผ่าเผยเหมือนในอดีต และช่วยประคับประคองบุตรหลานให้ยิ่งใหญ่เหมือนตนให้ได้ อย่างน้อยให้พวกเขาได้มีที่ยืนในสังคม

คน 3 รุ่น 3 วัย ต่างต้องปรับตัวเข้าหากันและปรับให้ทันกับโลกที่ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว ต่างต้องช่วยกันพยุงและก้าวให้ทัน ถ้ามัวแต่ยืนอยู่กับที่เท่ากับถอยหลังไปอีกก้าว ถ้าปฏิเสธไม่ยอมรับ อาจโดนเตะไปอยู่สุดขอบกลายเป็นคนล้าหลังและไม่มีที่ยืนอีกต่อไป




Create Date : 25 พฤษภาคม 2562
Last Update : 25 พฤษภาคม 2562 16:39:04 น.
Counter : 650 Pageviews.

0 comment
การทำงานที่มีความสุข
620322 การทำงานที่มีความสุข
Working with pleasure by DrPK
สมมติมีเส้น 2 เส้น แทนเส้นความสามารถที่มีอยู่จริงของคนหนึ่ง  กับอีกเส้นแทนเส้นงานที่ต้องรับผิดชอบ
ถ้าเส้นความสามารถสูงกว่าเส้นงานที่ต้องรับผิดชอบ เขาจะหงอยเพราะไม่ได้ทำในสิ่งที่เขาทำได้
ถ้าเส้นความสามารถต่ำกว่าเส้นงานที่ต้องรับผิดชอบ เขาจะเครียดเพราะไม่อาจทำให้งานสำเร็จได้
ถ้าเส้นความสามารถเท่ากับเส้นงานที่ต้องรับผิดชอบ เขาจะมีความสุขในงานที่ต้องทำ
นี่คือ หลักการสำคัญของหัวหน้าในการมอบหมายงานให้ลูกน้อง
ถ้าลูกน้องเครียด ให้เปลี่ยนงานที่ต้องทำให้ง่ายขึ้น
 ถ้าลูกน้องหงอย ให้เปลี่ยนงานที่ต้องทำให้ยากขึ้น
 ถ้าลูกน้องมีความสุขกับงานที่ทำ ให้เขาทำต่อไป
 



Create Date : 25 พฤษภาคม 2562
Last Update : 25 พฤษภาคม 2562 16:37:38 น.
Counter : 862 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments