All Blog
เมื่อความเศร้ามาเปิดหน้าต่างจ๊ะเอ๋ด้วย
เมื่อความเศร้ามาเปิดหน้าต่างจ๊ะเอ๋ด้วย
When sadness comes to open the peekaboo window too
 
            เป็นปกติที่จะเห็นคนส่วนมากบ่นกลุ้มใจ เบื่อ เซ็ง แล้วน้อยคนนักที่จะหัวเราะเริงร่าได้อย่างสบายใจ บางคนทำท่าอยากจะอารมณ์ดีขึ้นมาสักหน่อย เอาอีกแล้วมีเรื่องมากวนใจให้บูดได้อีก
            ถ้าคิดว่า นี่คืออารมณ์ รู้เท่าทันมัน การที่มันมาหา มันเข้ามาทักทาย ถ้าทักทายตอบ ยิ้มแย้มตอบรับ มันจะจากจรไปได้รวดเร็วมากขึ้น
            คนที่สุขมากกว่าทุกข์เป็นคนที่จัดการกับอารมณ์ของตนได้เป็นอย่างดี ต้องนับว่าเป็นยอดคน เป็นคนที่รู้ว่า เมื่อเห็นกองขี้หมาจะไม่เข้าไปเหยียบให้เหม็นขี้หมาติดฝ่าเท้า คนสติดี ที่ไหน จะไปเดินเหยียบกองขี้หมา เช่นกัน คนดีที่ไหนจะรับความทุกข์เข้ามาหาตัวให้เสียอารมณ์ไปเปล่า ๆ ปลี้ ๆ
            ถึงแม้สิ่งที่เรียกว่าทุกข์นั้นมักจะจรเข้ามาหาบ่อยครั้งเหลือเกิน แต่ถ้ารู้จักวิธีที่จะจัดการกับมัน ก็ไม่ยากจนเกินไปที่จะไล่มันไปให้พ้นเส้นทาง เมื่อทำบ่อยครั้งเข้า จะคิดว่าง่ายเสียด้วยซ้ำที่จะไม่ปล่อยให้มันมาจ๊ะเอ๋กับเราได้
            คนที่ทนจนชินจะคิดว่า มันธรรมดานะ ถ้าไม่ทุกข์สิเรื่องแปลก บางคนหาคำขวัญปลอบใจตนเอง บอกว่า มันคืออุปสรรคที่ผ่านเข้ามาทดสอบความสามารถ คนเก่งจะเอาชนะความทุกข์ได้ไม่ยากเย็นจนเกินไปนัก
บางคนบอกปล่อยให้ทุกข์แค่นาทีเดียวก็มากเกินพอแล้ว
 
            ความทุกข์มักจะเปิดหน้าต่างมาจ๊ะเอ๋กับเราบ่อยเหลือเกิน คนที่ผ่านมันแล้วกอง ๆ ไว้ข้างตัว ไม่เอามาสุมในอก หรือโยนทิ้งเสียให้ไกลหูไกลตา มักจะโล่งอก
อยากจะจ๊ะเอ๋บ่อยแค่ไหน ก็ช่างหัวมันเถอะ เราก็จ๊ะเอ๋ตอบด้วยอัธยาศัยอันดี คงจบเรื่อง
            ส่วนคนที่เปิดหน้าต่างครั้งไร ความทุกข์เข้ามาจ๊ะเอ๋ด้วยทุกครั้ง และรับมันเข้ามาเต็มอก ไม่ยอมปล่อยหรือโยนทิ้งแม้สักครั้งเดียว เก็บไว้ตามลำพัง ไม่ผ่อนคลาย ปล่อยวาง หรือระบายออก  ไม่ยอมบอกใครแม้คนที่ใกล้ชิดที่สุด มันรู้ตัวว่า คนนี้แหละที่สมควรจะมาจ๊ะเอ๋ได้บ่อยครั้งเท่าที่จะทำได้
            คนที่ปล่อยให้ทุกข์กองอยู่ในตัว สุมอยู่ในอกมาก ๆ และบ่อยครั้ง ความทุกข์นั้นจะสะสมจนกลายเป็นความเศร้า จากเศร้าน้อย ๆ นาน ๆ ครั้ง เผลอแป๊บเดียวมันจู่โจมเข้าไปถึงหัวจิตหัวใจไปซะแล้ว ยากจะถอนคืนออกไปจากใจ
ไม่ว่าจะคิดอะไร กลายเป็นเรื่องเศร้าลงท้ายได้ทุกที จากคนที่เคยคิดบวกมองโลกในแง่ดีกลายเป็นคนคิดลบมองโลกในแง่ร้ายไปเสียทุกเรื่องสิน่ะ
            จากความเศร้าทำให้เราตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า จากที่นาน ๆ ครั้งมันจะมาจ๊ะเอ๋ กลายเป็นมันจ๊ะเอ๋เราได้ทุกลมหายใจทีเดียว
            แล้วมันเป็นอย่างไรล่ะ
 
ถ้าฉันอยากจะซึมเศร้าบ้าง มันเป็นอะไรนักหรือ
ฉันเห็นใคร ๆ ก็ซึมเศร้ากันทั้งนั้นแหละ ถ้าคิดเช่นนี้ คงอยู่บ้านไม่ได้แล้วล่ะ
            คนที่ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าจะไม่รู้ตัว  รู้แต่ว่าจิตใจห่อเหี่ยว อ่อนแอ ท้อแท้ หมดหวัง หมดกำลังใจ  ถ้าไม่รู้ตัวปล่อยให้อาการซึมเศร้าเพิ่มมากขึ้น อาจนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ๆ ทีเดียว
            ข่าวคราวที่ประโคมกันได้บ่อย ๆ เกี่ยวกับการฆ่าตัวตายนั้น ร้อยทั้งร้อยเกิดจากคนนั้นอยู่ในภาวะซึมเศร้านาน ๆ แล้วคนใกล้ชิดไม่พาไปบำบัดรักษา ไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ ที่จะช่วยให้หลุดพ้นจากวังวนแห่งการคิดซ้ำ ๆ ว่า เขาเป็นคนไร้ค่า ไม่มีใครต้องการเขาแม้สักคนเดียว
            ถ้าไม่ปรับพฤติกรรม ไม่เปลี่ยนวิธีคิด ไม่จัดการกับสารเคมีที่แปลกปลอมเข้าร่างกาย คงยากนักที่จะถอยห่างจากมันได้ คงถึงเวลาที่จะต้องออกนอกบ้านแล้วไปหาหมอซะแล้ว หมอจริง ๆ ตามโรงพยาบาล ไม่ใช่หมอดู หมอเจ้าเข้าทรงนะ
            แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาไปหาหมอแล้ว
คำตอบอยู่ในสิ่งที่เราคิด 
เราจะรู้ได้ว่าเศร้าหรือยัง เศร้ามากน้อยเพียงใด
           เมื่อไหร่ที่เราคิดเกี่ยวกับตนเองและสิ่งแวดล้อมรอบตัวว่าไม่ดี เลวร้าย เราเป็นคนโชคร้าย  ตั้งแต่เกิดมามีแต่ความยากลำบาก  มีความคิดความเชื่อเกี่ยวกับตัวเองในทางไม่ดี  ความคิดไม่มีเหตุผล  คิดว่าตนเป็นคนไม่มีอนาคต  โลกโหดร้ายต่อเรามากเกินไปแล้ว  อนาคตมืดมน  สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นดูจะเลวร้ายไปเสียทุกเรื่อง 
            ถ้าคิดเช่นนี้ซ้ำ ๆ บ่อย ๆ มากเกินไป รีบแจ้นไปโรงพยาบาลได้เลยนะจะบอกให้
            ความคิดเช่นนี้จะทำลายตัวเราและจิตใจของเรา  เพราะการมองว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเลวร้ายและแปลความหมายทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทางไม่ดี  คิดว่าทุกอย่างรอบตัวเราล้วนแต่เป็นภาระและอุปสรรค
            การตรวจสอบให้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกเหนือจากสิ่งที่อยู่ในความคิด เพราะบางคนอาจเข้าข้างตนเอง หรือไม่ยอมรับในความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
            ถ้าแค่เริ่มต้นเศร้า ก่อนเข้าสู่ภาวะซึมเศร้า
อย่าปล่อยให้เรื้อรัง จำเอาไว้ ไม่เช่นนั้นอาจสายเกินแก้
            การเพิ่มกำลังใจให้ตนเองหรือรู้จักเอาชนะความเศร้าจะช่วยให้เรามีกำลังใจ  และมีจิตใจที่เข้มแข็ง  พร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ
Rectangle: Folded Corner: การหัดคิดแต่สิ่งที่เป็นปัจจุบัน  ที่นี่และเดี๋ยวนี้  ไม่คิดถึงอดีตที่ผ่านมาแล้ว  ไม่นึกถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง  ฝึกการคิดแบบมีเหตุผล  เลิกความเชื่อที่งมงายไร้สาระ
ตัวอย่างความคิดที่ไร้เหตุผล เช่น  ฉันจะสุขก็ต่อเมื่อทุกคนรักฉัน   คนที่ดีพร้อมทุกอย่างเท่านั้นจึงจะเป็นคนที่มีคุณค่า  แท้ที่จริงคนทุกคนเหมือนกันหมดมีทั้งดีเลวปะปนกัน   ไม่จำเป็นต้องคิดว่าเราต้องทำดีที่สุด  พลาดไม่ได้  
            ท้ายนี้คนที่ปล่อยให้ความเศร้ามาจ๊ะเอ๋บ่อย ๆ และรับเข้ามาไว้กับตัว ขอให้ปรับพฤติกรรม เปลี่ยนวิธีคิด ให้เป็นคนที่มีอารมณ์แจ่มใส มีความสุขบ่อยครั้งกว่าความทุกข์  จำไว้ว่าถ้าวันนี้อารมณ์ไม่ดีหนึ่งครั้ง พรุ่งนี้จะอารมณ์ไม่ดีสองครั้ง  และจำนวนครั้งจะเพิ่มขึ้นทุกวัน  จนกลายเป็นคนที่อารมณ์ไม่ดีได้ตลอดเวลา  แล้วตัวเราเองจะไม่มีความสุข
            อย่าปล่อยให้ความเศร้ามาจ๊ะเอ๋บ่อย ๆ และรับเข้ามาไว้กับตัวนะจ๊ะ
เมื่อความเศร้าวิ่ง



Create Date : 05 ธันวาคม 2563
Last Update : 5 ธันวาคม 2563 17:07:14 น.
Counter : 791 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments