Group Blog All Blog
|
661102 ปมปกปิดชาติกำเนิด
661102 ปมปกปิดชาติกำเนิด by DrPK
ปมในใจ อาจเกิดจากพ่อไม่ยอมรับ หรือเป็นลูกนอกสมรส ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใด มีนัยยะซ่อนเร้นมากน้อยแค่ไหน คำถามมากมายผุดขึ้นมา แต่คงไม่ได้รับคำตอบ บางคนอาจเกิดปมด้อยทำตัวเหลวแหลก บางคนอาจยิ่งเพิ่มแรงทะยานอยาก สมัยกรุงศรีอยุธยา เคยเกิดเหตุเช่นนี้ ไม่ใช่บันทึกทางการ แต่เป็นเรื่องเล่าเม้าท์มอยส์ ให้คนอ่านตั้งคำถามว่า จริงเท็จมากน้อยเพียงใด ไม่มีใครการันตีว่าจริง ได้แต่เล่าสืบต่อกันมา สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ผู้ทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองสุดขีด ตามประวัติ เป็นเพียงบุตรขุนนาง มิใช่เจ้าฟ้าหรือพระราชโอรส คนสามัญธรรมดาได้ปราบดาภิเษกตั้งตนเป็นพระมหากษัตริย์ และสถาปนาราชวงศ์ปราสาททอง ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เรื่องเล่าว่า แท้จริงเป็นพระราชโอรสในพระมหากษัตริย์รัชกาลก่อน แต่มิได้รับรองเป็นทางการ เมื่อจะมอบอำนาจจึงให้เจ้าฟ้าไชย บุตรที่เกิดก่อนพิธีราชาภิเษก แทนที่จะให้พระนารายณ์ราชกุมารพระราชโอรสจากพระอัครมเหสี ทำให้เกิดเหตุยุ่ง ๆ พระศรีสุธรรมราชาพระอนุชาร่วมมือกับพระนารายณ์ราชกุมารแย่งชิงได้ สุดท้ายพระนารายณ์ราชกุมารแย่งต่อ ด้วยข้ออ้างว่า จำต้องปกป้องกรมหลวงโยธาทิพ พระขนิษฐา ให้รอดพ้นจากพระศรีสุธรรมราชา สมเด็จพระนารายณ์มหาราชมิประสงค์ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อน เมื่อได้ลูกชายจากเจ้านางต่างเมือง จึงยกให้สหายสนิท กาลต่อมาคือสมเด็จพระเพทราชา เด็กชายเดื่อหรือพระเจ้าเสือจึงมีปมในใจเช่นเดียวกับสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ที่เป็นลูกชายของพระมหากษัตริย์ แต่มิได้รับรองให้เป็นพระราชโอรส แม้จะได้รับความรัก การดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดียิ่ง สมเด็จพระเจ้าปราสาททองได้ล้างเจ้านายราชวงศ์เดิมด้วยเหตุจำเป็น เช่นเดียวกับพระเจ้าเสือได้ล้างพระปีย์บุตรบุญธรรม ที่มีทีท่าจะได้สืบอำนาจต่อ ข้ออ้างว่า มิใช่พระโอรส รูปร่างเตี้ย หลังค่อม ด้อยปัญญา และเปลี่ยนไปนับถือคริสต์ ที่สำคัญนิยมชาติตะวันตกมาก คงไม่แคล้วกรุงศรีต้องตกเป็นเมืองขึ้น ปมในใจทำให้กล้าทำสิ่งที่บางคนคิดว่าไม่น่าทำ แท้ที่จริงเพราะความรักชาติ ต้องการให้ชาติอยู่รอด รักสุดท้าย เจ้าชายนอกบัลลังก์
รักสุดท้าย เจ้าชายนอกบัลลังก์
รักระหว่างรบ หวานชื่นในความวุ่น เศร้าแรกที่จ้าวทัศน์จากลา ยังไม่ลางเลือนจางหาย ยังความคลางแคลงใจมาสู่ผู้คน แต่ยังมิทันคลายความเศร้าโศก จำต้องโศกเศร้ากว่าเดิมซ้ำร้ายมาเยือนกระทันหันอีกครา รักแรกสมหวัง ท่ามกลางความยุ่งวุ่นวายของราชสำนัก สิงห์ตัดสินใจแต่งงานกับแม่เอื้อย ท่ามกลางความยุ่งเหยิงทางการเมือง ดูไปแล้ว ไม่น่าเลย ที่จะจัดงานแต่ง แต่ความรักที่สุกงอมทำให้รอคอยฤกษ์พานาทีที่เหมาะที่ควรไม่ได้ สิงห์หน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลาของงาน ถึงจะดูยุ่ง ๆ กับพิธีการ หาทำให้สองหนุ่มสาวหงุดหงิดแม้แต่น้อย สีหน้าที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ของสิงห์ ดูแปลกตาไปสำหรับผู้ได้รับเกียรติพิเศษมาร่วมเป็นสักขีพยานในวันสำคัญของบ่าวสาว ปกติมีแต่สีหน้าเรียบเฉย ออกจะเป็นคนขี้เก๊กเสียด้วยซ้ำ และหน้าที่ออกบึ้งตึงดุเด็ดเผ็ดมันยามที่ลูกน้องไม่ได้ดั่งใจ ทุกคนรับรู้ว่า บ่าวสาวรักกันจริงแท้แน่นอน หน้าตาจึงอิ่มเอิบ ดูมีความสุขที่ซ่อนเร้นในอกและพลอยทะลักออกมานอกใจให้ใคร ๆ ได้ปรากฏเห็น “ในที่สุดพี่ท่านได้แม่เอื้อยมาครองรักสมใจ คืนนี้ขอให้พี่ท่านสุขสมอารมณ์หมายทุกประการนะขอรับ” แก้วกล่าวพลางยิ้ม ๆ ในหน้า ขณะรอส่งตัวหน้าห้องหอ น้องสองคนที่สนิทสนมมาแต่วัยเยาว์ มีหรือจะพลาดมาร่วมส่งเข้าเรือนหอในคืนนี้ ตามประสาหนุ่ม ๆ ที่อยากเย้าแหย่ อดปากอดคำเจรจาไม่ได้ “เฮ้ย ไม่ต้องพูดมากความ คืนนี้ พรุ่งนี้ห้ามมากวนใจแล้วกัน ขอดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ให้หวานชื่นเต็มที่” สิงห์กล่าวตอบน้องเล็กที่มาร่วมส่งเข้าหอด้วยเสียงแผ่วเบา เพราะยังมีผู้ใหญ่ยืนอยู่ข้าง ๆ น้ำเสียงมีความสุขล้นใจ จนออกทางสีหน้าอย่างชัดเจน “กระผมยินดีด้วยนะขอรับ ขอให้พี่ท่านมีความสุขสมใจไปตลอดนะขอรับ” ขวัญพูดอย่างเป็นทางการแล้วต่อท้ายด้วยการหยอดคำชม “รู้สึกยินดีจริง ๆ ที่พี่ท่านไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาอุปสรรค คว้าแม่เอื้อยมาครองคู่ได้ นับถือ ๆ ในความใจกล้าของพี่ท่านจริง ๆ” ถึงมาดจะดูเป็นทางการ แต่สีหน้านั้นออกจะยิ้ม ๆ ขำ ๆ ท่าทีของพี่ท่านที่เขินอายนิด ๆ ผิดกับปกติที่สมเป็นชายชาติทหารมาดเคร่งขรึม คืนนี้พี่ท่านจะเป็นเช่นไรหนอ แอบรำพึงในใจ “ขอบใจ ๆ น้องขวัญ น้องแก้ว อย่าลืม ไม่ว่าเรื่องใหญ่เรื่องเล็ก ห้ามมากวนใจเป็นอันขาดนะ คืนนี้น่ะ” สิงห์ตอบยิ้ม ๆ ที่โดนเย้าแหย่จึงแกล้งตอบทีเล่นทีจริงแล้วเข้าเรือนหอเพื่อทำพิธีส่งตัวอย่างเป็นทางการจากบิดามารดาของทั้งสองฝ่าย ก่อนที่จะปล่อยให้ทั้งสองได้อยู่กันตามลำพัง สมใจที่รอคอยกันมานาน คืนส่งตัวจะประกาศ ความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของซึ่งกันและกัน การเป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้องตามระเบียบแบบแผนจารีตประเพณี ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ เมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องหอ มีหรือที่สองหนุ่มสาวจะปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยมิได้กระทำการสิ่งใด อ้อมกอดของชายหนุ่มที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงสาวคนรัก ทำให้มีแต่ความสุขอิ่มเอิบล้นใจ แม่เอื้อยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างเขินอายตามประสาสาวที่ไม่เคยต้องมือชาย ชะม้ายชม้อยชายตามองสามี ที่โอบกอดนางอยู่ นางรู้สึกยินดีที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน พร่ำพรอดบอกรักอย่างหวานชื่น พร้อมคำมั่นสัญญาต่าง ๆ นานาว่าจะดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกันตราบจนชีวิตจะหาไม่ หนุ่ม ๆ ที่นอนเฝ้าหน้าห้องหอหาวหวอด ๆ ตั้งใจแอบฟังเสียงที่อาจเล็ดลอดออกมา เผื่อเอาไว้ไปเย้าแหย่เมื่อเจอกันครั้งต่อไป แต่ไม่ได้ยินสักน้อย เพราะห้องหอนี้กว้างใหญ่มิใช่เบา และหนุ่มสาวที่อยู่ในห้องรู้อยู่เต็มอกว่า ขืนเอะอะมะเทิ่งหรือเสียงดังอึงไป คงรู้กันไปทั่วเรือนในวันต่อมาเป็นแน่ เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ริมหู โอบกอดเร้ารึงไปทั่วร่าง ทั้งสองคลึงเคล้าเรือนร่างซึ่งกันและกัน มิได้เปล่งเสียงอื้ออึงให้ใครต่อใครได้ยิน ความสุขเช่นนี้ มากพอที่จะอิ่มเอมเปรมปรีด์และจดจำไปได้อีกนานแสนนาน ความรักของหนุ่มสาวที่สมหวังได้ครองคู่อยู่ร่วมกันด้วยความเต็มใจของทั้งสองฝ่าย รวมญาติสนิทมิตรสหาย แม้จะอยู่ระหว่างช่วงไว้ทุกข์ของเจ้านายสายตรง และบรรยากาศอันอึมครึมทางการเมืองของคนที่อยู่คนละฟากฝั่ง ว่าจะเดินเรื่องต่อเช่นใดกันแน่ คืนนี้ไม่มีความคิดที่น่าหวาดกลัวอันใด อาจหาญเข้ามาแทรกกลางระหว่างความอิ่มเอมเปรมใจของทั้งสอง มีแต่รักหวานชื่นสมหวังของหนุ่มสาวที่เฝ้ารอคอยคืนนี้มานานพอควร เป็นน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ทุกคู่จะได้พานพบประสบ และจดจำไปจนแก่เฒ่า มิมีลืมเลือน ถ้าหากไม่มีอุบัติเหตุโผล่เข้ามาแปรเปลี่ยน #ยุทธวิถีผู้กล้าแห่งสามก๊ก #เศรษฐกิจนำหน้าการเมือง
#พรรณีเกษกมล
#ยุทธวิถีผู้กล้าแห่งสามก๊ก #เศรษฐกิจนำหน้าการเมือง มณฑลเอ๊กจิ๋ว โดยเจ้ามณฑลคนก่อน ไม่ได้ควบคุมตระกูลที่มั่งคั่ง ปล่อยให้เอารัดเอาเปรียบราษฎร แต่ตนกลับมีชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือย ส่งผลให้คนจนยิ่งจนลง และคนจนเพิ่มมากขึ้น ขงเบ้งเชื่อว่า จ๊กก๊กจะมั่นคง ด้วยการรักษาเสถียรภาพและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คน ถ้าราษฎรมีฐานะความเป็นอยู่ดี ไม่แร้นแค้น นโยบายนี้จะกวาดล้างข้าราชการทุจริต จำกัดการใช้อำนาจในทางที่ผิดของขุนนางต่อราษฎร ยกเว้นภาษี ลดการบังคับใช้แรงงานและการระดมกำลังทหาร จัดระเบียบทางการเกษตร เพื่อเพิ่มผลผลิตอาหาร บูรณะซ่อมแซมเขื่อน เร่งการผลิตเกลือ ผลิตไหม และโลหะ อุยกาย ผู้ล้มโจโฉ ด้วยอุบายตื้น ๆ
อุยกาย ผู้ล้มโจโฉ ด้วยอุบายตื้น ๆ
แกล้งแค้นนายเก่า หลอกลวงศัตรู จู่โจมย่อยยับ อับปางทันใด ![]() ตระกูลซุนมีขุนนางที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดีชื่อ อุยกาย พร้อมพลีกายใจ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ใช้อุบายตื้น ๆ แต่ทว่าได้ผล เอาชนะศึกโจโฉได้ อุยกาย ชาวเมืองอิเหลง มณฑลเกงจิ๋ว เป็นคนยากจนแต่เด็กเพราะกำพร้าพ่อแม่ แต่ใฝ่ดี หมั่นหาความรู้ เพื่อจะได้เป็นขุนนาง มีความมุมานะมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ทำให้ได้เป็นแม่ทัพของซุนเกี๋ยน เพื่อปราบตั๋งโต๊ะ เมื่อซุนเกี๋ยนตาย ยังคงอยู่กับซุนเซ็กและซุนกวน ได้เป็นแม่ทัพปราบชาวซานเย่ว์ และทำได้สำเร็จ ผลงานลือลั่นที่โจษขานต่อมา ในศึกเซ็กเพ็ก โจโฉยกทัพกว่าล้านคนจะบุกกังตั๋ง ฝ่ายเล่าปี่และซุนกวน คิดหาแผนตั้งรับ โดยมีขงเบ้งเป็นกุนซือฝ่ายเล่าปี่ ช่วงนี้สองตระกูลรวมหัวกันเพื่อเอาชนะโจโฉ ขงเบ้งโดนเตียวเจียวเยาะเย้ยถากถางด้วยคำถามงี่เง่า อุยกายกลับพูดว่า ขงเบ้งเป็นยอดกุนซือ ไม่ต้องตอบคำถามคนโง่หรอก และจะพาขงเบ้งไปหาซุนกวน อุยกายอาสาตนให้จิวยี่โบยตีกลางที่ประชุมทัพจนสาหัสหนัก ขงเบ้งรู้ทันแผนการ เอ่ยปากว่า "กังตั๋งมียอดขุนพลเช่นนี้ มีหรือทัพโจโฉจะไม่แตก" กาลครั้งนี้โจโฉพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในศึกเซ็กเพ็ก งง ไหมล่ะ อุยกายวางแผนให้จิวยี่ใช้อุบายยอมสวามิภักดิ์ และแล่นเรือที่บรรทุกน้ำมันและวัตถุระเบิดเข้าหากองเรือของโจโฉ ทำให้โจโฉพ่ายแพ้อย่างยับเยิน เมื่อมีอำนาจล้นฟ้า มักจะหลงลำพองว่าตนเก่งแน่เหนือใครในหล้า ไม่เว้นแม้แต่อ้วนเสี้ยว และโจโฉที่เจริญรอยตาม การหลงกลบังทองที่นำโซ่ไปคล้องเรือไว้ด้วยกัน เพราะหวังจะแก้ปัญหาความไม่ชำนาญทางน้ำของทหารโจโฉ และยังหลงกลของอุยกายอีก ถ้าโจโฉไม่หลงลำพองตัวเอง คงไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้แน่ ๆ เขาคงไม่คิดว่า อุยกายขุนศึกที่บุกเบิกมาร่วมกันตั้งแต่รุ่นซุนเกี๋ยน พ่อของซุนกวนจะแปรพักตร์เพราะโดนเฆี่ยนหนัก ๆ แค่นั้น ผู้กล้าและยุทธวิธีแห่งสามก๊ก
ตั๋งโต๊ะ ใช้อำนาจมิชอบอย่างอำมหิต ปราบคนคิดต่าง กร่างให้สุดฤทธิ์ อย่าคิดต่อต้าน ห้ามค้านทุกเรื่อง กำราบศัตรู ถ่อยเถื่อนได้เรื่อง คิดว่าใหญ่โต ทำได้ทุกสิ่ง |
BlogGang Popular Award#19
![]() สมาชิกหมายเลข 4665919
![]() ![]() ![]() ![]() ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |