All Blog
ยุคสามก๊ก แบ่งแยกเป็นสาม
 
หาคนเก่งมาเคียงกาย
เมื่อมีกำลังพลอันน้อยนิด
หนทางแห่งการเอาชนะ
คือใช้ปัญญามาแก้ปัญหา
 
เล่าปี่ต้องการกุนซือมือหนึ่ง เมื่อรู้ว่า จูเค่อเหลียงหรือขงเบ้งเยี่ยมยุทธ์
ที่สุด และเข้าใจว่าคนเก่งฉลาดมาก แถมยังต้องการอิสระ คงไม่ยอมเป็นลูกน้องใครง่าย ๆ
            เล่าปี่ฉลาดในการชักจูง จึงใช้ความเพียรพยายาม แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจมั่น ยอมลดตัว เทียวไปเทียวมาเพื่อหาถึงสามครั้งสามครา และบอกว่า เพื่อฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่น ช่วยเหลือฮ่องเต้ที่ไร้อำนาจ
            ขงเบ้งยอมอุทิศตน เพราะคำว่า จงรักและภักดีนี่เอง
            ส่วนกวนอู และเตียวหุยยอมเป็นแม่ทัพ เพราะคำสาบานเป็นพี่น้องกัน
 
            จับจุดอ่อนของแต่ละคนให้ได้
           จะมีโอกาสได้ใจเต็มร้อยจากคนนั้น
 
            เมื่อได้ขงเบ้ง ผู้มีปัญญาล้ำเลิศมาช่วย มีแม่ทัพฝีมือเอกกวนอู และเตียวหุย อีกสองคนมาเป็นกำลัง เล่าปี่จึงผงาดขึ้นมาเป็นอีกก๊กหนึ่งได้
 
ก๊กที่สามง่อก๊กหรือก๊กหวู
เมื่อตั๋งโต๊ะและโจโฉตั้งตนเป็นใหญ่กุมอำนาจเหนือฮ่องเต้
ฮั่นเสี้ยนตี้ฮ่องเต้ดิ้นหลายเฮือก เพื่อขอคืนอำนาจ ส่งสารลับไปยังเจ้าเมือง ติดต่อกับซุนกวนเพื่อให้มาช่วยเหลือ
เกิดสามก๊ก เพราะใครกัน
ก๊กแรกคือโจโฉ ผู้ต้องการคืนอำนาจให้ฮ่องเต้ สู้กับตั๋งโต๊ะจนชนะ แต่รู้ซึ้งในอำนาจสูงสุด จึงเขมือบเก็บไว้เอง
ก๊กสอง ฮ่องเต้รู้ว่ามีญาติที่พอมีขุมกำลัง มอบอำนาจให้หวังเป็นพวก
ก๊กสามโดยซุนกวน เช่นกัน เกิดจากคำสั่งฮ่องเต้ให้มาช่วย เพราะซุนกวนเป็นเจ้าเมืองใหญ่ มีขุมกำลังมากมาย
ทั้งสามต่างอ้างคำสั่งฮ่องเต้ที่จะสั่งการได้
ต่างคิดว่า ตนได้รับมอบอำนาจ จึงเต็มที่จัดการปราบอีกสอง
ไม่รู้ อีกสองคิดว่า ตัวเองคือตัวปัญหาด้วยหรือไม่
ไม่มีใคร ยอมใครจริง ๆ
 
แบ่งแยกแผ่นดินเป็นสาม
หลังจากตั๋งโต๊ะเข้าเขมือบอำนาจ
ราชวงศ์ฮั่นที่ดูย่ำแย่มาก ๆ อยู่แล้ว ด้วยผู้มีอำนาจแฝงหวังผลประโยชน์
บรรดาขันทีที่สังกัดฮองเฮา ไทเฮา เพิ่มพูนอำนาจจนเหลือรับ
            ตั๋งโต๊ะเป็นจุดแตกหัก ที่ทำให้ราชวงศ์ฮั่นแทบไม่เหลือเค้ารางแห่งอำนาจเลย นอกจากเป็นเพียงหุ่นเชิด
 
           ทุกสิ่งแตกหักพลันทลาย
           ไม่เหลือซากสิ่งใดให้เลย
           คนฉลาดมุ่งหวังสร้างใหม่
           กอบกู้ดูดีกว่าเดิมให้ได้
 
            ขุนนาง เจ้าเมือง ต่างซึ้งแก่ใจว่า ไม่มีใครมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเพียงลำพังในราชสำนัก ถ้าปราบตั๋งโต๊ะ อาจผงาดขึ้นมาแทนที่ได้
            มันคือยุคทองที่จะแก่งแย่งช่วงชิงขุมกำลังให้มาเป็นของตน
            ไม่ต้องเกรงใจใครอีกแล้ว
 
            ใครเก่ง ใครได้
           ใครใหญ่ ใครอยู่
 
           ไม่ว่าใครที่พอจะมีขุมกำลังบ้างเล็กน้อยถึงมาก ต่างรวมกำลังให้มากขึ้น ทำให้มีก๊กเล็กก๊กน้อยเกิดขึ้นมากมาย
            เมื่ออยากใหญ่ขึ้น จำต้องปราบก๊กอื่น
            บ้านเมืองจะเป็นเช่นไร
            มีแต่ศึกสงครามย่อย ๆ ทั่วไปหมด
หาความสงบสุขไม่ได้
ช่วงระยะเวลาที่เกิดก๊กต่าง ๆ มากมายไม่มีใครยอมกันนี้กินเวลานานถึง 60 ปี ชาวบ้านในยุคนี้คงเกิดมาแบบมีคนมีเวรมีกรรมมีแต่การสู้รบหาความสงบสุขไม่ได้
 
เกิดมาในช่วงบ้านเมือง
มีแต่การแก่งแย่งช่วงชิงอำนาจ
สู้รบวุ่นวายไม่มีความสงบ
กับเกิดมาในช่วงเผด็จการ
กระหายอำนาจดุเด็ดเผ็ดมัน
หาเสรีภาพไม่เจอเลยแม้แต่นิด
อย่างไหนดีกว่า ถ้าเลือกได้นะ
ระหว่างความสงบสุขกับเสรีภาพ
 



Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2567
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2567 4:47:59 น.
Counter : 130 Pageviews.

0 comments
(โหวต blog นี้) 
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments