Group Blog All Blog
|
รักแท้ต้องไม่เคลือบแคลง รักแท้ต้องไม่เคลือบแคลง
เมื่อรักจริงย่อมไม่หวั่นไหวและยอมแพ้ ไม่ท้อถอยและกล้าประกาศต่อหน้าธารกำนัลถึงความรักที่มีอยู่ไม่หวั่นไหวและหวาดเกรงต่อกฎระเบียบหรือคำติฉินนินทาที่ผู้อื่นจะมอบให้แม้แต่น้อย เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ชาวบ้านร้านถิ่นจะรู้สึกจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ แม้ว่าอาจจะไม่เคยได้เห็นหน้าได้รู้จักมักคุ้นแต่รับรู้มาตลอดว่า พระมหากษัตริย์คือเจ้าชีวิต คือสมมติเทพ คือสิ่งสูงสุดยิ่งกว่าเทวดาที่จะบันดาลให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นได้ตามใจปรารถนา จมื่นศรีสรรักษ์ที่ทุกคนรู้จักคือบุตรของพระยาศรีธรรมาธิราช ผู้ที่แต่งงานกับน้องสาวของพระสนมในสมเด็จพระเอกาทศรถ ซึ่งเป็นพระชนนีของพระอินทราชา ต่อมาคือสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ทว่าเสียงซุบซิบที่แอบเล็ดลอดมาเข้าหูจมื่นศรีสรรักษ์นั้น บอกว่าแท้จริงแล้วเป็นโอรสลับของสมเด็จพระเอกาทศรถต่างหากให้สังเกตสิว่า สมเด็จพระเอกาทศรถจะทรงโปรดปรานและรักใคร่เอ็นดูในจมื่นศรีสรรักษ์มากกว่าลูกท่านหลานเธอทั้งหลายเพียงแต่ไม่ยกย่องอย่างออกนอกหน้านอกตาเท่านั้น ถึงแม้จะมีบางเสียงซุบซิบว่าไม่ใช่พระโอรสของพระองค์ มารดาของตนนั้นเป็นญาติสนิทของพระสนมที่ได้เข้าวังครั้งที่สมเด็จพระเอกาทศรถติดเกาะและพบรักกัน ณ เกาะบางปะอินสมเด็จพระเอกาทศรถรับหญิงนั้นมาเป็นบาทบริจาริกา เป็นพระสนมที่ทรงรักใคร่เสน่หามาก บางเสียงแอบนินทาว่าร้ายอีกว่าสองสาวนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องกันแต่แท้ที่จริงพ่อแม่ของนางทั้งสองไม่ใคร่ปีนเกลียวกันสักเท่าใดนักถึงจะเป็นญาติจึงเหมือนไม่ใช่ญาติ และทั้งสองต่างแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันมาตลอด คนพี่ดุมากนักไม่ยอมให้น้องสาวได้ดีมาตีเสมอตน ถ้าเป็นเรื่องจริง ที่ว่ามีสามีคนเดียวกันก็คงยอมกันไม่ได้เมื่อพี่สั่งห้ามยกย่องน้องเด็ดขาด ให้ยกแก่ผู้ใดผู้หนึ่งก็ได้ถึงแม้นมารู้ภายหลังว่าติดท้องมาก็ตามที แล้วให้แล้วกันไป
จมื่นศรีสรรักษ์จึงได้ชื่อว่ามีประวัติอันอึมครึม ครั้งหนึ่ง นายไลเคยเอ่ยปากถามบิดาว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร ให้ตอบมาตามตรง ตนรับได้ทุกเรื่องราวฝ่ายบิดาได้แต่หัวเราะหึหึ บอกว่า คนก็พูดกันไป ไม่ใช่เช่นนั้นหรอก เจ้าน่ะลูกแท้ๆ ของพ่อ ส่วนนายเดชและนายพลเพื่อนสนิทบอกว่าพ่อของตนพูดเช่นตามคำซุบซิบว่า นายไลนั้นแท้จริงเป็น โอรสลับของสมเด็จพระเอกาทศรถจริงๆ เพราะช่วงที่สมเด็จพระเอกาทศรถพาสาวสองนางจากเกาะบางปะอินเข้าวังนั้น สองสาวได้อยู่ในพระราชวังด้วยกันจนมาเกิดเรื่องราวทะเลาะวิวาทเสียงดังของสองสาวทำให้คนน้องต้องออกเรือนไปอยู่กับพ่อของพี่ท่าน อย่างไรก็ตามจมื่นศรีสรรักษ์ได้ชื่อว่าเป็นพระญาติคนหนึ่งจึงได้มีโอกาสสนิทชิดเชื้อเข้านอกออกในพระราชวังได้ ด้วยความเคลือบแคลงสงสัยว่าแท้จริงแล้วเป็นเช่นไรไม่อาจได้คำตอบที่แท้จริงไม่ว่าจากปากของผู้ใดที่น่าเชื่อถือเลย จมื่นศรีสรรักษ์ในวัยหนุ่มอดสงสัยไม่ได้ว่าไม่มีมูลคนคงไม่เอามาฟื้นฝอยหาตะเข็บ ใจหนึ่งเชื่อมั่นว่า ตนเป็นลูกของพระยาศรีธรรมาธิราช กับมารดาที่เป็นน้องของพระสนมในสมเด็จพระเอกาทศรถ หรือพระมารดาของพระอินทราชา อีกใจหนึ่งคิดว่าตนเป็นโอรสลับของสมเด็จพระเอกาทศรถตามเสียงซุบซิบที่อื้ออึงไปทั่วแม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ซ้ำบางคนแอบพูดว่าตนมีเค้าหน้าละม้ายไปทางสมเด็จพระเอกาทศรถมากกว่าพระยาศรีธรรมาธิราชด้วยซ้ำและถ้าเป็นเช่นนั้นตนมีสิทธิ์ในบัลลังก์เช่นเดียวกับบรรดาโอรสทั้งหลายด้วย เมื่อสมเด็จพระเอกาทศรถแสดงความเมตตาปราณีต่อจมื่นศรีสรรักษ์มากกว่าคนอื่นบางครั้งบางทียังดูว่ามากกว่าพระโอรสของพระองค์เสียอีก ทำให้จมื่นศรีสรรักษ์อดนึกไปเองว่าน่าจะใช่แน่ ๆ แต่เป็นใหญ่สุดในแผ่นดินถ้าเป็นเรื่องจริง ทำไมเรื่องแค่นี้จึงไม่ประกาศอย่างเปิดเผย จะมามัวอมพะนำทำไมหรือมันมีอะไรซ่อนเร้นอีก ประเด็นนี้ค้างคาใจจมื่นศรีสรรักษ์เป็นอย่างมากและเป็นเวลาช้านานเมื่อเมาได้ที่เมื่อไหร่ต้องพูดเชิงน้อยใจเสียทุกคราไปว่าแล้วตกลงกูนี่มันลูกใครกันแน่ ถึงจะสงสัยและบ่นทุกคราที่เมามายไม่ค่อยได้สติแต่มันคงฝังและหยั่งรากลึกในก้นบึ้งของหัวใจแล้วว่าสักวันหนึ่งเถอะต้องรู้ความจริงนี้ให้ได้และจะเอาทุกสิ่งที่ควรมีควรได้มาเป็นของตน พระสนมที่ได้ชื่อว่าเป็นญาติของมารดาไม่ได้เอ็นดูจมื่นศรีสรรักษ์มากเท่าที่ควรทั้งที่จะนับไปน่าจะเป็นญาติสายตรงของนางเสียด้วยซ้ำทำให้ยิ่งเกิดประเด็นสงสัยมากยิ่งขึ้นว่าที่นางชังน้ำหน้าเป็นเพราะเป็นลูกของญาติที่เกลียดขี้หน้าหรือเพราะเป็นลูกของคนที่จะมาแย่งความรักจากพระสวามี สองหนุ่มเป็นพวกเออออห่อหมกหรือลูกขุนพลอยพยักเมื่อพี่ท่านสงสัยในชาติกำเนิด และคิดว่าถ้าพี่ท่านเป็นโอรสลับของสมเด็จพระเอกาทศรถจริง ๆ น่าจะเท่ดีนะ จึงตั้งข้อสังเกตว่านั่นสินะ ทำไมเป็นญาติพี่น้องกันแท้ ๆ แต่มารดาของพี่ท่านจึงดูไม่โอเคกับพระสนมมากเท่าที่ควรหรือมันชักจะมีข้อสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงเสียแล้วกระมัง
หลวงพลพิชัยกับหลวงเดชณรงค์มักจะสรุปสุดท้ายว่าเป็นลูกใครไม่สำคัญหรอก เป็นตัวของเราโตมาได้เท่านี้ก็พอใจแล้ว ช่างมันเถอะน่า ทั้งสมเด็จพระเอกาทศรถและพระยาศรีธรรมาธิราชต่างรักพี่ท่านมากมายอย่าตั้งข้อสงสัยให้มากความไปเลย ดีเสียอีกมีคนที่คิดว่าเป็นพ่อถึงสองคนทีเดียวมากกว่าพวกเราที่มีพ่อแค่คนเดียว แล้วจะหัวเราะเอิ้กอ้ากให้เพื่อนเลิกคิดมากน้อยใจ ต่อไปถ้าพวกเรามีลูกไม่ว่าจะเกิดจากเมียเอกเมียรองหรือหญิงไหนๆ พวกเราต้องยอมรับว่าเขาเป็นลูก ไม่ว่าหญิงหรือชาย ยกย่องให้เท่าเทียมกันไม่ต้องแยกว่าต้องรักลูกเมียเอกมากกว่าหรือถ้าแอบไปทำใครท้องต้องกล้ายอมรับอย่างเปิดเผยจะได้ไม่ต้องมีใครสักคนเติบโตมาแบบโหยหาความรักที่แท้จริงจากคนที่เป็นพ่อ ทั้งสามหนุ่มพูดคุยหัวเราะเริงร่าหรือเศร้าสร้อยร่วมกันเสมอมาแต่ยังพอรู้ความ นี่เองที่ทำให้จมื่นศรีสรรักษ์เข้าใจว่าชีวิตที่ต้องการความรักนั้น แม้นอาจไม่ได้รับจากพ่อแม่ญาติพี่น้อง ยังอาจได้รับรักจากเพื่อนสนิทมิตรสหายก็เป็นได้เมื่อไม่ได้รับรักจากคนนี้ยังมีรักอื่นที่ทำให้ชุ่มชื่นหัวใจ ไม่ว่าจะเอะอะมะเทิ่งโมโหโกรธามาจากที่ใดและมาลงกับเพื่อนรักไม่มีเสียล่ะที่เพื่อนจะโกรธตอบได้แต่ใจเย็นคอยรองรับอารมณ์ร้ายเสมอมาไม่ว่าใครเกิดอารมณ์ร้ายอีกสองต้องใจเย็นเสมอหรือไม่ว่าจะเศร้านักที่โดนพ่อแม่ดุจะวิ่งแจ้นมาหาเพื่อนแล้วไปวิ่งเล่นให้หายหมองเศร้า นี่คือมิตรภาพที่แท้จริงและความรักอันบริสุทธิ์ผุดผ่องระหว่างสามหนุ่มที่เติบโตมาเคียงบ่าเคียงไหล่กันและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปชั่วลูกหลาน เป็นสิ่งที่ทั้งสามคาดหวังไว้
บรรดาพระโอรสของสมเด็จพระเอกาทศรถทุกพระองค์สนิทสนมและเป็นเพื่อนสนิทกับจมื่นศรีสรรักษ์อย่างไม่มีเคลือบแคลงหรือดูถูกดูแคลนสักคนอาจจะยกเว้นบ้างนิดหน่อยกับเจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ พระศรีศิลป์พระองค์ทองที่ไม่สนิทสนมมากเท่ากับเจ้าฟ้าสุทัศน์ พระอินทราชาที่เติบโตมาแบบคนวัยไล่เลี่ยกัน ไม่ว่ามีเรื่องใดเกิดขึ้นทั้งสามหนุ่มกับเจ้าฟ้าสุทัศน์ พระอินทราชาจะมาเล่าสู่กันฟังเสมออาจแอบกระซิบกระซาบและเน้นว่านี่เป็นความลับนะ อย่าบอกใครล่ะหรือเรื่องที่แอบหนีไปเที่ยวนอกวังโดยปลอมองค์เป็นคนธรรมดาเพื่อสืบรู้ข้อเท็จจริงของชาวบ้านนอกเหนือจากขุนนางในท้องพระโรงเพ็ดทูล เรื่องที่ต้องปกปิดตอนนี้คือ การสับเปลี่ยนกองกำลังทหาร เพื่อลดทอนอำนาจของสมุหพระกลาโหมที่ไม่ยอมลงให้แก่เจ้าฟ้าสุทัศน์สักนิด แม้อยู่เบื้องพระพักตร์สมเด็จพระเอกาทศรถในท้องพระโรง บรรดาขุนนางที่เป็นฝ่ายของสมุหพระกลาโหมยังพูดจาทำนองว่า กลุ่มทหารรักษาพระองค์กับเจ้าฟ้าสุทัศน์นั้นยังไม่เก่งกล้าสามารถพอที่สำคัญสมเด็จพระเอกาทศรถดูจะเชื่อถือในสมุหพระกลาโหมมากกว่าในเจ้าฟ้าสุทัศน์เรียกว่าเกทับกันต่อหน้าต่อตา พระมหาอุปราชกับสมุหพระกลาโหมใครมีบารมีมากกว่ากันอำนาจเป็นสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างต้องแย่งชิงขุมกำลังมาอยู่ฝ่ายตนให้ได้มากที่สุดแล้วใครจะเป็นฝ่ายชนะล่ะ
คำว่ารักนี้มีหลายแบบต่างกรรมต่างวาระ รักพ่อรักแม่รักญาติพี่น้องปู่ย่าตายาย รักเพื่อนฝูงและเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย แต่รักใดจะเป็นรักจริงหรือรักลวง สงสัย |
BlogGang Popular Award#20
สมาชิกหมายเลข 4665919
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |