Group Blog All Blog
|
4บ่างช่างยุก่อเกิดแผลเหวอะหวะ บ่างช่างยุก่อเกิดแผลเหวอะหวะ
อำนาจเป็นสิ่งหอมหวานยากนักที่จะยอมคืนหรือเปลี่ยนมือให้ใครเพราะเมื่อมีอำนาจย่อมได้ทุกสิ่งดังใจปรารถนาและคงไม่ยอมให้ใครมาแย่งชิงอำนาจไปอย่างง่ายดายโดยมิคิดต่อสู้หรือขัดขวาง ในรัชสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถผู้ที่ฝีมือทางการทหารและมีอำนาจปกครองทหารสูงสุดคงได้แก่ สมุหพระกลาโหมผู้เคยเป็นทหารเอกในรัชกาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและมีส่วนร่วมในการประกาศอิสรภาพไม่ขึ้นตรงต่อพม่า ความกำแหงในฝีมือของสมุหพระกลาโหมและพรรคพวกย่อมชัดเจนในสายตาของทุกผู้คนแม้แต่สมเด็จพระเอกาทศรถยังยกย่องในฝีมือและให้เกียรติเสมอมาย่อมทำให้สมุนทั้งหลายเผลอหลงในอำนาจและคิดว่าพวกตนเท่านั้นที่ใหญ่ยิ่งบนผืนแผ่นดินนี้ด้วยเคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่และทำให้กรุงศรีอยุธยาได้เป็นเอกราชอีกครั้ง เมื่อสมเด็จพระเอกาทศรถประกาศแต่งตั้งเจ้าฟ้าสุทัศน์เป็นพระมหาอุปราชนั้นบรรดาพรรคพวกของ สมุหพระกลาโหมย่อมรู้สึกตะหงิดๆ ในใจอยู่แล้ว ด้วยเจ้าฟ้าสุทัศน์เป็นคนเก่งมีฝีมือฉลาดเฉลียวทั้งบุ๋นและบู๊สมควรได้ครองอำนาจสืบต่อจากพระราชบิดา เสือสองตัวย่อมไม่อยากอยู่ถ้ำเดียวกันอยู่แล้วเพราะเริ่มมองเห็นลายเสือหนุ่มจะเข้ามาแทนที่ลายเสือเฒ่าอย่างพวกเขาแต่จะทำเช่นไรได้ มันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของราชประเพณีแม้ว่าเคยว่างเว้นในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ไม่ได้แต่งตั้งผู้ใดเป็นพระมหาอุปราชแต่ทุกผู้คนใต้หล้าต่างประจักษ์ชัดแจ้งในใจอยู่แล้ว พรรคพวกของสมุหพระกลาโหมเริ่มเดือดเนื้อร้อนใจช่องทางรายได้พิเศษที่เคยผ่านเข้ามือมาอย่างสะดวกโยธินจะโดนขัดขวางหรือไม่แล้วปฏิกริยาของพระมหาอุปราชจะเป็นเช่นไรต่อพวกเขาจะยกย่องเหมือนสมเด็จพระเอกาทศรถหรือจะคิดว่าคนแก่ย่อมไร้ฝีมือไปแล้ว เมื่อความคิดหวาดระแวงต่อภัยที่อาจคืบคลานเข้ามาเมื่อเจ้าฟ้าสุทัศน์คนเก่งได้ตำแหน่งพระมหาอุปราชพรรคพวกของสมุหพระกลาโหมจึงคิดจะยุแยงเสียให้เกิดสิ่งมิดีมิร้ายก่อนทั้งหมดต่างพากันคอยใส่ไฟเติมเชื้อแห่งความระแวงแคลงใจว่า เจ้าฟ้าสุทัศน์นั้นคิดก่อการใหญ่และหวังจะล้มล้างอำนาจเก่าให้หมดสิ้นไป ความรู้สึกอิจฉาริษยาแข่งขันชิงดีชิงเด่นต่อกันย่อมไม่ก่อประโยชน์แก่ผู้ใดไม่ว่าเจ้าตัวผู้ริษยาหรือผู้ที่โดนริษยา มีแต่หนทางแห่งหายนะรออยู่เบื้องหน้าด้วยความร้อนรนที่เผาผลาญอยู่ในใจย่อมทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้าได้ เมื่ออิจฉาริษยารุนแรงมากขึ้นผนวกรวมกับอำนาจทางการเมืองด้วยแล้วหายนะที่เกิดขึ้นคงยิ่งใหญ่ตามไปด้วย ไม่ใช่ส่งผลโดยตรงต่อตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องหากหมายรวมถึงชาติและราชบัลลังก์ย่อมสั่นคลอนตามไปด้วย ไม่รู้ว่าพรรคพวกของสมุหพระกลาโหมจะคิดบ้างหรือไม่คงมัวแต่ห่วงผลที่พึงมีพึงได้เท่านั้น น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน หัวใจของสมุหพระกลาโหมย่อมหวั่นไหวตามคำยุแยงเหล่านี้และเริ่มสังเกตสังกาทีท่าของเจ้าฟ้าสุทัศน์ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร ด้วยอคติที่เริ่มเกาะกุมในใจของสมุหพระกลาโหมว่าเจ้าฟ้าสุทัศน์จะมาลดทอนอำนาจของตน และไม่เคารพต่ออำนาจศักดิ์ศรีที่ตนมีย่อมเกิดการจ้องจับผิดและมีทีท่าที่ไม่เป็นมิตรต่อเจ้าฟ้าสุทัศน์มากขึ้นทีละเล็กทีละน้อยโดยที่เจ้าตัวอาจไม่รู้สึกแต่ผู้คนรอบข้างเริ่มรับรู้ถึงความผิดแปลกไปจากเดิมบ้างแล้ว ฝ่ายเจ้าฟ้าสุทัศน์นั้นด้วยความที่เป็นพระราชโอรสองค์โตและมีความฉลาดเฉลียวติดตัวมาแต่กำเนิดและได้เรียนรู้ศิลปวิทยาการอย่างคนสมัยใหม่จากคนต่างชาติต่างภาษาที่เข้ามาค้าขายและรับราชการ จึงอาจมีความคิดใหม่ ๆเกิดขึ้นในสมอง พร้อมจะทดลองทำตามสิ่งที่ตนเชื่อว่าจะได้ผลดีจริงหรือไม่ แรกเริ่มเดิมทีเจ้าฟ้าสุทัศน์เป็นเด็กที่เคารพนบนอบต่อสมุหพระกลาโหมเฉกเช่นเดียวกันกับพระราชบิดาแต่ทำไปทำมาท่าทีของสมุหพระกลาโหมได้เปลี่ยนไปเมื่อตนได้รับพระราชโองการให้ดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราชซึ่งส่งผลให้ความเคารพที่เคยมีลดน้อยลงตามไปด้วยจากท่าทีที่ไม่เป็นมิตรของสมุหพระกลาโหมที่ทวีเพิ่มขึ้น ความรู้สึกใดที่เกิดในใจย่อมส่งให้ผู้อื่นรับรู้ได้และผู้นั้นย่อมเกิดความรู้สึกดุจเดียวกันตอบสนอง ไม่ใช่แต่บรรดาบ่างช่างยุจะยุแยงต่อสมุหพระกลาโหมเท่านั้นแต่ได้กระพือความเกลียดชังให้แก่พรรคพวกทั้งหลายทั้งปวงและคอยหาทางเพ็ดทูลเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง รวมทั้งกุข่าวว่า เจ้าฟ้าสุทัศน์คิดก่อกบฏยึดอำนาจเสียอีกนับเป็นโทษอันรุนแรง ข่าวนี้ค่อย ๆกระพือจากซุบซิบวงในกลายเป็นรู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง เจ้าฟ้าสุทัศน์เองรู้สึกแล้วว่าตนมีศัตรูทางการเมืองกลุ่มก้อนใหญ่ กลุ่มอำนาจเดิมซึ่งตนหามีฐานอำนาจทางการทหารเลยนอกจากกรมทหารรักษาพระองค์เท่านั้นคงยากที่จะต่อกรกับทหารของสมุหพระกลาโหม
เหตุการณ์บานปลายที่เกิดจากการสร้างความรู้สึกเกลียดชังต่อกันจากคำพูดยุแยงของบรรดาบ่างช่างยุนั้นเริ่มก่อตัวอย่างรุนแรงราวพายุบ้าคลั่งต่างฝ่ายต่างหาวิธีช่วงชิงอำนาจมาเป็นของตนให้มากที่สุด วันหนึ่งเจ้าฟ้าสุทัศน์รับสั่งให้จมื่นศรีสรรักษ์หลวงพลพิชัย หลวงเดชณรงค์เข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ด้วยตำแหน่งของพระมหาอุปราชแห่งกรุงศรีอยุธยามีอำนาจรองจากสมเด็จพระเอกาทศรถเท่านั้นเรียกว่า รองเพียงหนึ่งแต่เหนือกว่าคนทั่วหล้า ในความเป็นจริงมิอาจเป็นเช่นนั้นเต็มร้อยด้วยสมุหพระกลาโหมผู้กุมอำนาจทางทหารทั่วราชอาณาจักรไม่ค่อยเป็นมิตรและสนับสนุนเจ้าฟ้าสุทัศน์สักเท่าใดนักด้วยเห็นว่าอ่อนเยาว์กว่าตนมาก แถมยังไม่กริ่งเกรงต่อตนเท่าที่ควรจะเป็นออกจะกระด้างเสียด้วยซ้ำ โดยไม่รู้ตัวเลยว่า สิ่งที่เกิดนี้เริ่มต้นจากคนใกล้ชิดที่คอยเติมไฟ ฝ่ายหนึ่งคิดว่าตนใหญ่โตเป็นถึงพระมหาอุปราชเมื่อชี้นกเป็นไม้ ทั่วทั้งหล้าย่อมต้องคล้อยตามเห็นนกเป็นไม้เช่นกันจะมาอ้างเหตุผลความถูกต้องใด ๆ ไม่ได้ อีกฝ่ายคิดว่าตนเป็นถึงสมุหพระกลาโหมใหญ่โตคับฟ้า เป็นรองเพียงสมเด็จพระเอกาทศรถเท่านั้น เมื่อสิ้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชตนเท่านั้นที่มีอำนาจทางทหารดูแลความสงบเรียบร้อยทั้งในกรุงและป้องกันต่างชาติมารุกรานเหตุไฉน เด็กน้อยเมื่อวานซืนจึงมาทำอหังการได้ เมื่อเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้จำต้องหาทางริดรอนอำนาจของอีกฝ่ายให้น้อยลง เจ้าฟ้าสุทัศน์มองเห็นแต่จมื่นศรีสรรักษ์เท่านั้นที่จะเข้ามาช่วยจัดการเรื่องนี้ได้ หลังการปรึกษาหารือเจ้าฟ้าสุทัศน์คิดเห็นตามข้อเสนอที่สมควรจะสับเปลี่ยนกองกำลังในสังกัดของสมุหพระกลาโหมให้มีพวกของตนเข้าไปมีอำนาจบ้างเป็นการคืบคลานเข้าไปคานอำนาจของสมุหพระกลาโหมให้น้อยลง จะมิอาจทำสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพระองค์ได้ง่ายจนเกินไปนัก คนอย่างสมุหพระกลาโหมหรือเมื่อรู้ว่ามีการสับเปลี่ยนกองกำลังในสังกัดของตน เริ่มไม่พอใจและเมื่อเห็นอีกฝ่ายรุกเข้ามามากขึ้น จึงไม่พอใจเป็นทวีคูณรีบระดมพรรคพวกให้รู้ว่า บัดนี้อำนาจที่เคยมีเต็มไม้เต็มมือใกล้จะถูกดึงออกไปอย่างมีชั้นเชิงจำต้องร่วมมือทำอะไรสักอย่าง ต่างฝ่ายต่างหาสมัครพรรคพวกเพื่อวางแผนกำจัดอีกฝ่ายให้สิ้นซากจากแต่แรกไม่พึงพอใจด้วยอีกฝ่ายแสดงอำนาจบาตรใหญ่ใส่ตน ไม่เคารพในอาวุโสที่ตนมีกลายเป็นขุ่นข้องหมองใจอยากหาเรื่องและทำลายอีกฝ่าย จนบัดนี้คิดอยากทำลายล้างอีกฝ่ายให้หมดสิ้นไปต่อหน้าต่อตา
ความหวาดระแวงแคลงใจที่เริ่มก่อตัว จากบรรดาบ่างช่างยุที่กลัวเสียผลประโยชน์ จนลุกลามบานปลายต่างฝ่ายต่างเกลียดกัน สุดท้ายคงไม่พ้นหายนะต่อประเทศชาติ |
BlogGang Popular Award#20
สมาชิกหมายเลข 4665919
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |