Group Blog All Blog
|
บัลลังก์จีน อำนาจเปลี่ยนมือ พลิกผืนฟ้า ผลัดแผ่นดินจีน เรียนรู้เรื่องราวแห่งอำนาจ ที่ไม่ได้จีรังยั่งยืน อำนาจที่ยิ่งใหญ่เป็นเจ้าชีวิต เหนือทุกผู้คนใต้หล้า ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่คับฟ้ามากล้นเพียงใด ในวันนี้ พรุ่งนี้อาจดับสูญสลาย หดหายมลายสิ้น การก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่และสืบทอดอำนาจส่งต่อให้ลูกหลาน ได้ครองบ้านครองเมือง เสพสุขมิรู้สิ้น จะได้นานสักเท่าใดไม่รู้ พอสิ้นวาสนาจำต้องส่งต่อให้กับคนที่มีอำนาจสูงส่งเหนือกว่าอย่างจำใจ บทเรียนจากจีน ประเทศที่ยิ่งใหญ่เรืองอำนาจ จากยุคเริ่มรวมตัวเป็นจักรวรรดิ มหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร จวบจนสิ้นอำนาจราชวงศ์ ฮ่องเต้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหนือแผ่นดิน หมดสิ้นไปจากผืนแผ่นดินจีน ชีวิตจริงที่ยิ่งกว่านิยาย การก้าวขึ้นสู่อำนาจและสร้างชาติจีนให้ยิ่งใหญ่ของฮ่องเต้ ในประเทศจีนยุคจักรวรรดิตั้งแต่ราชวงศ์ฉินจนถึงราชวงศ์ชิง ที่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน สถานที่แห่งหนึ่งมีหุ่นขี้ผึ้งของฮ่องเต้ พร้อมกับคำบรรยาย อดีตของฮ่องเต้ทุกพระองค์ บ้างยากลำบากกว่าจะปราบดาภิเษก สถาปนาราชวงศ์ใหม่ บ้างแค่สืบทอดต่ออำนาจในฐานะพระโอรสองค์โตจากฮองเฮา บ้างโชคเข้าข้าง ได้ครองอำนาจ ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์โดยตรง บ้างเป็นเพียงหุ่นเชิด ให้อำนาจแฝงใช้อำนาจได้เต็มที่ เรื่องราวของการมีอำนาจ การก้าวสู่การเป็นฮ่องเต้ การตอบแทนเหล่าบริวารหลังจากได้อำนาจนั้นมาครอบครอง การเสวยอำนาจบนบัลลังก์อย่างเสพสุขมิรู้สิ้น หรืออยู่อย่างทุกข์ระทม ที่ไม่สามารถมีอำนาจจริง และต้องทนอยู่ภายใต้การบงการของกลุ่มผู้มีอิทธิพล ความคิดของผู้ที่มีอำนาจซึ่งเคยยิ่งใหญ่มากในอดีต เมื่อกาลเวลาผ่านไปกลายเป็นเพียงเรื่องเล่าขานให้ลูกหลานได้รู้เรื่องราวที่ผ่านมาเท่านั้น หนังสือเรื่อง “อำนาจพลิกขั้ว มังกรผงาดฟ้า” เล่มนี้ เน้นการขึ้นสู่อำนาจ การใช้อำนาจ และการสิ้นสุดอำนาจ ฮ่องเต้มีอำนาจยิ่งใหญ่ เพราะได้ครอบครองแผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่ไพศาล ผ่านทางอ๋อง จีนครองความยิ่งใหญ่เป็นมหาอาณาจักรมานานนับหลายพันปีจวบจนถึงปัจจุบัน ฮ่องเต้เป็นคำเรียกจักรพรรดิจีนในภาษาแต้จิ๋ว ภาษาจีนกลางจะออกเสียงว่าหวงตี้ คำว่าอ๋อง หมายถึง ผู้ที่ปกครองแต่ละแว่นแคว้น ฮ่องเต้ควบคุมอ๋องทั้งหลาย ฉินจิ๋นซีฮ่องเต้เป็นคนแรกที่ใช้คำฮ่องเต้ ในความหมาย ฮ่องเต้เป็นเทพหรือโอรสของสวรรค์ ฮ่องเต้คือผู้ที่ได้รับบัญชาจากสวรรค์ให้มาปกครองไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ผู้ที่จะเป็นฮ่องเต้ จะสืบทอดต่อกันมาเฉพาะทางสายเลือดเท่านั้น ส่วนมากสืบทอดจากพ่อไปสู่ลูกมากกว่าจากพี่ไปสู่น้อง บางยุคบางสมัยที่ฮ่องเต้หรือราชวงศ์อ่อนแอ อาจมีบางคนหาญกล้าตั้งราชวงศ์ใหม่ขึ้นมาแทนที่ ในกรณีที่เกิดพลิกผันเช่นนี้จะเรียกว่ามีการปราบดา ภิเษกตั้งราชวงศ์ใหม่ขึ้นมาแทนที่ราชวงศ์เดิมได้ นั่นคือ อำนาจที่ยิ่งใหญ่ อาจไม่จีรังยั่งยืน ผลัดเปลี่ยน หมุนเวียน ไปตามผู้ที่มีอำนาจตัวจริง ฮ่องเต้มีฉลองพระองค์ที่ใช้ในพระราชพิธีเรียกว่า “เหมี่ยนฝู” หรือเสื้อคลุมมังกรซึ่งประกอบด้วยสัญลักษณ์ 12 อย่าง ปักมังกรทองโดดเด่นและสัญลักษณ์ที่แสดงถึงพลังอันยิ่งใหญ่ การใส่เหมี่ยนฝูจะแสดงถึงผู้ทรงศักดิ์และสิทธิ์ทุกประการของผู้ปกครองโดยชอบธรรม สัญลักษณ์เหล่านี้มีพื้นฐานการคิดมาจากราชวงศ์โจวที่ใช้สำหรับการปักเสื้อของฮ่องเต้เพื่อใช้ในพระราชพิธีบวงสรวง มังกรในเสื้อเหมี่ยนฝูจะเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ราชวงศ์ฮั่นจนถึงราชวงศ์ชิง ราชวงศ์ถังมังกรจะตัวใหญ่มาก แต่ราชวงศ์หยวนฮ่องเต้เป็นชาวมองโกลสั่งยกเลิกประเพณีการใช้เสื้อเหมี่ยนฝู พวกขุนนางจีนในสมัยต้นศตวรรษที่ 16 นิยมชมชอบเสื้อเหมี่ยนฝูจึงตัดเย็บและใส่กันเกร่อถึงแม้ว่าจะออกกฎห้ามใส่เสื้อเหมี่ยนฝูก็ตามที ภายหลังจึงมีข้อกำหนดว่าเสื้อคลุมสำหรับฮ่องเต้ เชื้อพระวงศ์ ขุนนางจะมีสัญลักษณ์ที่แตกต่างกัน เสื้อคลุมมังกรจะใช้ได้เฉพาะฮ่องเต้เท่านั้น รายชื่อราชวงศ์ที่ปกครองจีนโดยฮ่องเต้ เรียงตามลำดับ ลำดับ 1 ราชวงศ์ ฉิน พ.ศ. 322 - 337 ลำดับ 2 ราชวงศ์ ฮั่นตะวันตก พ.ศ. 337 - 552 ลำดับ 3 ราชวงศ์ ซิน พ.ศ. 552 - 568 ลำดับ 4 ราชวงศ์ ฮั่นตะวันออก พ.ศ. 568 - 763 ลำดับ 5 ราชวงศ์ ยุคสามก๊ก พ.ศ. 763 - 823 ลำดับ 6 ราชวงศ์ จิ้น พ.ศ. 808 - 963 ลำดับ 7 ยุคห้าชนเผ่าสิบหกแคว้น พ.ศ. 847 - 982 ลำดับ 8 ราชวงศ์ เหนือ-ใต้ พ.ศ. 963 - 1132 ลำดับ 9 ราชวงศ์ สุย พ.ศ. 1124 - 1160 ลำดับ 10 ราชวงศ์ ถัง พ.ศ. 1161 - 1450 ลำดับ 11 ราชวงศ์ อู่โจว พ.ศ. 1233 - 1248 ลำดับ 12 ราชวงศ์ ห้าราชวงศ์ พ.ศ. 1450 – 1503 ลำดับ 13 ราชวงศ์ เหลียว พ.ศ. 1450 – 1503 ลำดับ 14 ราชวงศ์ ซ่ง พ.ศ. 1503 – 1822 ลำดับ 15 ราชวงศ์ จิน พ.ศ. 1658 – 1777 ลำดับ 16 ราชวงศ์ หยวน พ.ศ. 1749 – 1930 ลำดับ 17 ราชวงศ์ หมิง พ.ศ. 1911 – 2187 ลำดับ 18 ราชวงศ์ ชิง พ.ศ. 2187 – 2454 ประเทศจีนจะปกครองโดยฮ่องเต้ที่ดูแลอ๋องและรวมดินแดนทั้งหมดเป็นอาณาจักรเดียว ซึ่งดินแดนในแต่ละยุคแต่ละสมัยแตกต่างกัน แม้แต่ในราชวงศ์เดียวกัน แต่ละรัชกาลจะครอบครองดินแดนที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับความเก่งกล้าสามารถของฮ่องเต้แต่ละพระองค์ บางช่วงมีฮ่องเต้หลายองค์พร้อมกันเพราะประเทศจีนโดนแบ่งเป็นหลายอาณาจักร เช่น ในยุคสามก๊ก มีฮ่องเต้พร้อมกัน 3 องค์ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมซึ่งกันและกัน ยุคห้าชนเผ่าสิบหกแคว้นและราชวงศ์เหนือ-ใต้ ยุคห้าราชวงศ์ ราชวงศ์เหลียว ราชวงศ์ซ่ง บางราชวงศ์โดนคั่นรายการด้วยอีกราชวงศ์แต่สามารถกอบกู้และกลับคืนเป็นราชวงศ์เดิมได้ เช่น ราชวงศ์ฮั่นโดนราชวงศ์ซินคั่นกลาง ราชวงศ์ถังโดนราชวงศ์อู่โจวคั่นกลาง บางราชวงศ์พยายามฟื้นฟูราชวงศ์เดิมของตนเอง เช่น ยุคห้าราชวงศ์ สิบอาณาจักรแต่ไปไม่รอด ราชวงศ์หมิงใต้ที่โดนราชวงศ์ชิงปราบสุดท้ายไปไม่รอดเช่นกัน หนังสือเล่มนี้จะเล่าเรื่องราวของฮ่องเต้แต่ละพระองค์เรียงตามลำดับในแต่ละราชวงศ์ ซึ่งคงจะช่วยให้เข้าใจเรื่องราวของผู้มีอำนาจที่บางคนหาญกล้าจนสามารถรวบรวมแผ่นดินและตั้งราชวงศ์ใหม่ปกครองประเทศที่มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลมาก ฮ่องเต้บางองค์เกิดมาแทบจะไม่เคยได้ใช้อำนาจที่มีอยู่เลย เพราะยังเยาว์เกินไปนักและโดนแย่งชิงอำนาจนั้นไปโดยไม่มีโอกาสจะขัดขวางแม้แต่น้อย ฮ่องเต้บางองค์มีอำนาจ แต่ไม่รู้จักใช้อำนาจที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ต่อตนและพสกนิกร มัวแต่ลุ่มหลงในอิสตรีและมัวเมาต่อการใช้ชีวิตเสเพล การเข้าใจเรื่องราวของฮ่องเต้บนผืนแผ่นดินจีน ที่สูญสิ้นไปแล้วในปัจจุบัน จะเป็นบทเรียนให้เข้าใจเรื่องของอำนาจได้ดียิ่งขึ้น พรรณี เกษกมล |
BlogGang Popular Award#20
สมาชิกหมายเลข 4665919
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |