Group Blog All Blog
|
อ้วนเสี้ยว ผู้มีอำนาจ แต่ไร้ซึ่งปัญญา #อ้วนเสี้ยว ผู้มีอำนาจ แต่ไร้ซึ่งปัญญา #พรรณีเกษกมล อ้วนเสี้ยว เป็นนายทหารใหญ่ประจำกายโฮจิ๋น ผู้มีอำนาจสูงสุดในวัง ได้เสนอให้ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองมาปราบ นี่คือ ความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต และต่อชาติ ใครจะรับผิดชอบล่ะ มีคนอยากรู้ แต่ไม่มีคำตอบ เมื่อผู้ใหญ่ทำพลาด เกิดผลเสียหายร้ายแรง นอกจากทำตาปริบ ๆ ไม่มีแม้แต่เอื้อนเอ่ยคำขอโทษออกจากปาก คงได้แต่อุทาน เวรกรรม ๆ เมื่อโจโฉกับอ้วนเสี้ยว ทหารในสังกัดของโฮจิ๋น รู้ว่า ขันทีฆ่าเจ้านายตัวเอง แผนกำจัดกลับตาลปัตร ภัยจะมาถึงในไม่ช้า รีบฆ่าขันทีแกนนำ เป็นจังหวะที่ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองมาพอดี นายทหาร 2 นาย กับแม่ทัพจากชายแดนพร้อมกองทัพ ที่เข้าเมืองมาโดยคำสั่งของโฮจิ๋น ใครจะใหญ่กว่ากันล่ะ ตั๋งโต๊ะเลยได้หน้าไปเต็ม ๆ และได้อำนาจมาแบบง่าย ๆ เสียอีก สองทหารหนุ่มคงได้แต่อ้าปากหวอและทำตาปริบ ๆ ดูเขาแย่งชิงผลงานไปต่อหน้าต่อตา ธรรมดานะที่ผู้น้อยไม่มีปากเสียงมากพอจะกล่าวอ้างว่า ตนต่างหากที่ฆ่าขันที สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร กับราตรีนี้อีกยาวนานนัก ใครจะไปรู้ว่า โจโฉในวันนั้น กลับกลายเป็นผู้นำก๊กใหญ่ และใช้แผนเดียวกับตั๋งโต๊ะ คือ ให้ฮ่องเต้เป็นเพียงหุ่นเชิด อ้วนเสี้ยวที่เป็นทหารร่วมรุ่นกับโจโฉล่ะ ดูเหมือนจะมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าด้วยซ้ำ ได้เป็นหัวหน้าก๊กด้วยหรือไม่ เมื่อล้มแล้ว ต้องลุกขึ้นในทันใด เมื่อตั๋งโต๊ะยกทัพเข้าลั่วหยาง อ้วนเสี้ยวกลับหลบลี้หนีภัยสงครามไปยังเมืองจี้โจว แทนที่จะต่อสู้กับตั๋งโต๊ะให้รู้แพ้รู้ชนะกันก่อน ทั้งที่ช่วงนี้อ้วนเสี้ยวมีอำนาจมากพอสั่งการกองทัพให้ตอบโต้ แต่เลือกหนีแทนการเผชิญหน้า ตั๋งโต๊ะตั้งตนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน และทำตัวได้ชั่วชาติมาก ๆ กวาดล้างขุนนางเก่าที่เป็นปฏิปักษ์ ย่อมเกิดแรงต้านตอบโต้ อ้วนเสี้ยว หรือหยวนเส้า ผู้ที่บัดนี้ได้รู้ตัวแล้วว่า ชักศึกเข้าบ้าน นำพาความจัญไรมาสู่ตัวและบ้านเมือง ได้คิดแก้ตัว เพื่อความอยู่รอดของตัวเองและพวกพ้อง ฮ่องเต้แอบมีสาส์นลับ หาสมัครพรรคพวก ได้แต่งตั้งตัวแทนแห่งอำนาจ หรืออาจเป็นเพียงการแอบอ้าง เพราะรู้ตัวว่า หามีอำนาจใดค้ำจุน นอกจากเป็นหุ่นเชิด เมื่อหลบหนีออกไปอ้วนเสี้ยวคงคิดใหม่ว่า เอเราหนีทำไม ได้รวบรวมสมัครพรรคพวกเพื่อหวังทวงอำนาจของตนกลับคืนมา ตอนนี้คงต้องหาคำตอบว่า ทำไมอ้วนเสี้ยวหนีออกจากเมือง แทนที่จะอยู่ในเมืองต่อแบบโจโฉ อีก 3 ปีต่อมาตั๋งโต๊ะโดนสังหารและเกิดตำนานเตียวเสี้ยน ฮั่นเสี้ยนตี้ฮ่องเต้ได้กลับคืนนครลั่วหยางหลังตั๋งโต๊ะเสียชีวิต เพราะความเป็นฮ่องเต้ ที่ปลูกฝังความเชื่อว่า ฮ่องเต้ คือ เจ้าเหนือชีวิต จึงไม่มีใครกล้าฆ่า แต่ไม่อยากให้มีอำนาจล้นฟ้า อ้วนเสี้ยวแม่ทัพใหญ่ แต่ไปไม่ถึงดวงดาว เมื่อหลบหนีออกไปอ้วนเสี้ยวได้รวบรวมสมัครพรรคพวกเพื่อหวังทวงอำนาจของตนกลับคืนมา อ้วนเสี้ยวเป็นทหารติดตามแม่ทัพโฮจิ๋น และสนิทกับโจโฉ เมื่อสิ้นโฮจิ๋น ได้สร้างกองทัพจนใหญ่โต และเป็นผู้นำ 18 หัวเมือง ต่อต้านตั๋งโต๊ะ มีกองกำลังใหญ่ 7 แสน แต่พ่ายแพ้ต่อโจโฉที่มีทหาร 7 หมื่น ทำให้อ้วนเสี้ยวกระอักเลือดตาย อ้วนเสี้ยวเป็นผู้มีอุบายมาก แต่เด็ดขาดน้อย ชอบฟังแต่คำยุยง เห็นแก่ญาติพี่น้องของตน ไม่มีความรู้ด้านตำราพิชัยสงคราม ชอบแต่คนมีหน้ามีตาและชอบพูดขัดคอคนอื่น เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงยกใหญ่ ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองมาปลดฮ่องเต้ที่เป็นโอรสจากฮองเฮา แล้วแต่งตั้งฮ่องเต้ที่เป็นโอรสจากสนมให้เป็นหุ่นเชิด รวมพลครั้งใหญ่ แต่ใยไม่ชนะ ในการรวมพล 18 หัวเมืองล้มตั๋งโต๊ะ เป็นจุดเริ่มต้นที่อ้วนเสี้ยวตักตวงผลงาน จนมีขุมอำนาจที่ใหญ่ที่สุด และเป็นขั้วอำนาจที่มีอิทธิพลที่สุดในแดนเหนือแม่น้ำฮวงโห ขยี้กองซุนจ้าน ฮั่นฮก และก้าวมาอยู่ในจุดที่อ้วนสุดน้องต่างแม่ต้องมาอ้อนวอนขอร้อง เพราะอ้วนเสี้ยวเป็นเพียงลูกเมียน้อย เมื่อครั้งที่อ้วนเสี้ยวใหญ่โตและมีขุมกำลังมาก ได้ร่วมมือกับโจโฉ เมื่อปราบตั๋งโต๊ะสำเร็จตามเป้าหมาย อ้วนเสี้ยวกับโจโฉกลับเป็นศัตรูต่อกัน เพราะอะไร หรือต่างคนต่างอยากเป็นใหญ่ เลยไม่มีใครยอมใคร เอาอีกแล้ว อยากเป็นใหญ่คนเดียว กลุ่มเล็กกลุ่มน้อยที่ร่วมรบ ไร้ความหมาย แต่ปล่อยไว้ไม่ได้ จำต้องปราบให้หมดเสี้ยนหนาม จะได้ไม่มาทิ่มแทงหรือทวงบุญคณภายหลัง แม้แต่อ้วนสุดผู้เป็นน้องชายต่างแม่กับกองซุนจ้านสหายของอ้วนสุด ยังไม่ได้รับการดูแลช่วยเหลือเลย คิดไม่ออก ตรองไม่ตก เป็นผู้นำคิดการใหญ่ จำต้องมีกุนซือฉลาดเฉลียวไว้เคียงกาย จะได้ช่วยให้การตัดสินใจดีขึ้น ปัญหาของอ้วนเสี้ยวอยู่ที่มีกุนซือสองคนต่างความคิดสุดขั้ว เสนอแนะวิธีแก้ปัญหาที่ยากต่อการตัดสินใจ เช่น สนับสนุนลูกคนโตหรือลูกคนที่ 3 จะช่วยอ้วนสุดหรือปล่อยให้โจโฉจัดการอ้วนสุด จะร่วมมือกับเล่าเปียวโจมตีโจโฉหรือปล่อยให้สองเสือสู้กันเองแล้วค่อยยื่นมือเข้าไปฆ่า ฉวยโอกาสโจมตีฮูโต๋ตอนที่โจโฉไม่อยู่หรือไปตีกองซุนจ้าน จะได้ไม่ต้องระวังแนวหลัง ช่วยเล่าปี่จัดการโจโฉหรือปล่อยเล่าปี่สู้กับโจโฉให้เสียหายกันทั้งสองฝ่าย ตอนที่โจโฉกับอ้วนเสี้ยวเปิดศึกกัน เร่งให้ยกทัพบุกโจมตีหรือให้หยุดทัพไว้ แล้วส่งคนไปเกลี้ยกล่อม ให้ดึงตัวเตียวสิ้ว เล่าเปียว ซุนเซ็กมาโจมตีตลบหลัง ก่อนจะยกทัพสู้รบกันที่กัวต๋อ โจโฉได้ส่งทหารสร้างแนวป้องกันตลอดริมน้ำลากยาวจากกัวต๋อไปถึงไป๋หม่า เสนอให้อ้อมกัวต๋อแล้วใช้ข้อดีของทหารที่มากกว่าไล่เก็บทีละเมือง อ้วนเสี้ยวมีทหารมากกว่าโจโฉสิบเท่า ถ้าอ้อมไปเท่ากับกลัว ทำให้อ้วนเสี้ยวเปิดศึกขั้นแตกหักกับโจโฉที่กัวต๋อ การมีกุนซือสองขั้วที่ต่างกันเช่นนี้ ส่งผลให้อ้วนเสี้ยวปราชัยตอนจบ ก่อนได้เป็นใหญ่เหมือนโจโฉ หรือเล่าปี่มีขงเบ้งเป็นกุนซือ การมีกุนซือที่เก่งกาจฉลาดเฉลียวเพียงคนเดียว ย่อมดีกว่ามีมากมายหลายคน แต่หาประโยชน์ไม่ แค่บอกทางเลือกหลายทาง ที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ไม่บอกถึงทางเลือกที่ดีที่สุดพร้อมเหตุผล เมื่ออ้วนเสี้ยวบุกเมืองอี้จิง กองซุนจ้านสั่งทหารสร้างกำแพงแน่นหนา อ้วนเสี้ยวใช้วิธีขุดอุโมงค์ไปจับกองซุนจ้าน กองซุนจ้านจนตรอก จึงฆ่าบุตรและภรรยา และฆ่าตัวตาย ในปี พ.ศ. 742 อันเป็นปีเดียวกับที่อ้วนสุด น้องชายอ้วนเสี้ยวตาย ที่สุดอ้วนเสี้ยวพ่ายแพ้ต่อโจโฉ เพราะความประมาทตอนเผชิญหน้ากัน และเปิดช่องโหว่ให้ต้องมีอันแตกทัพยับเยินที่กัวต๋อ อ้วนเสี้ยวหลงระเริงลำพองจนประมาทในฝีมือของโจโฉ หลังจากชนะใครต่อใคร คิดว่าตนมีทหารในสังกัดจำนวนมาก แต่ไม่ได้ฝึกปรือให้มีวินัยและฝีมือฉกาจฉกรรจ์มากพอ ผิดกับทัพของโจโฉที่เข้มงวดมากในการฝึกปรือและฝีมือ ช่วงที่อ้วนเสี้ยวใหญ่โต มีกองทัพนับเรือนแสน ผู้คนต่างคิดว่า อ้วนเสี้ยวนี่แหละจะเป็นใหญ่ในแผ่นดินรองจากฮ่องเต้ เหตุไฉนจึงไม่เป็นเช่นนั้นนะ กีฬาต้องมีผู้แพ้ผู้ชนะ สงครามต้องมีผู้แพ้ผู้ชนะเช่นกัน ใครจะแพ้จะชนะต่างหากที่น่าสนใจ ระหว่างเดินเกม สรุปไม่ได้หรอกนะ จะบอกให้ |
BlogGang Popular Award#20
สมาชิกหมายเลข 4665919
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |