Group Blog All Blog
|
เจ้าฟ้าน้อย
เจ้าฟ้าน้อยรูปทรงงดงาม ขาวสวย กิริยามารยาทงดงาม ทุกคนรักในเจ้าฟ้าพระองค์นี้ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงหวังจะให้ได้อภิเษกกับกรมหลวงโยธาเทพ พระธิดาพระองค์เดียวของพระองค์ เจ้าฟ้าน้อยหลงรักท้าวศรีจุฬาลักษณ์ พระสนมของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชและแอบได้เสียกัน ปกติผู้ที่จะเข้าเฝ้ากษัตริย์ต้องถอดเสื้อเพื่อป้องกันการพกพาอาวุธเข้าไป แต่วันเกิดเหตุ ท้าวศรีจุฬาลักษณ์แอบเอาเสื้อไปไว้ที่ตำหนักเธอ เจ้าฟ้าน้อยไม่รู้ คิดว่ามีผู้ขโมยจึงทูลฟ้อง เรื่องราวจึงปรากฏ อันที่จริงต้องโดนคำสั่งประหารชีวิต แต่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเปลี่ยนแปลงเป็นให้พระเพทราชากับพระปีย์ซ้อมจนร่างกายพิการ กลับกลายเป็นคนลิ้นห้อย ขาเป๋ ชักกระตุกตลอดเวลา ถ้าเพียงแต่เจ้าฟ้าน้อยจะฉุกใจคิดสักนิดว่า ใครกันนะที่คิดแผลงขโมยเสื้อไปแอบซ่อนเล่น หวังให้ตกใจ หรือเพียงแต่คิด ช่างหัวมัน เสื้อตัวเดียว ความวุ่นวายล่มจม คงไม่มาเยือน ขนาดกล้าเป็นชู้กับพระสนมของพี่ชายที่เป็นถึงพระมหากษัตริย์ ยังกล้าทำแล้วเลย ฤา มันคือ ฟ้าดินลงโทษ ผู้กระทำผิดให้ต้องโทษ หมดสิ้นผู้ที่สมควรสืบทอดต่ออำนาจไปอีกคนแล้ว กรมหลวงโยธาเทพ
กรมหลวงโยธาเทพทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์เดียวของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระนามเดิมว่า เจ้าฟ้าหญิงสุดาวดี ประสูติปีพุทธศักราช 2200 ในสมเด็จเจ้าฟ้าสุริยงรัศมี เอกอัครมเหสี
ภายหลังต้องตกเป็นพระสนมของพระเพทราชาเช่นเดียวกับกรมโยธาทิพ มีพระราชโอรสพระนาม เจ้าชายตรัสน้อย เมื่อเจริญพรรษาได้ครองสมณเพศเพื่อให้พระองค์อยู่รอดปลอดภัย กรมหลวงโยธาเทพมีพระชนม์ชีพจนถึงสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ สตรีสูงศักดิ์ สองพระนาง ชื่อคล้ายกัน กรมหลวงโยธาทิพ พระนามเดิม พระน้องนางเธอเจ้าฟ้าศรีสุพรรณพระราชกัลยาณี กรมหลวงโยธาเทพ พระราชธิดาของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระนามเดิมว่า เจ้าฟ้าหญิงสุดาวดี ทั้งสองพระนาง ต่อมาเป็นพระสนมของพระเพทราชาทั้งคู่ กรมหลวงโยธาทิพ
กรมหลวงโยธาทิพนับว่าเป็นสตรีสูงศักดิ์ที่ทรงอำนาจสูงสุดในราชสำนักรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระนามเต็มว่าพระน้องนางเธอเจ้าฟ้าศรีสุพรรณพระราชกัลยาณี และเป็นผู้ที่มีส่วนผลักดันให้สมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้ครองบัลลังก์ด้วยการอ้างเหตุว่าพระศรีสุธรรมราชาจะเข้าหาทำมิดีมิร้าย
การอ้างเหตุนี้ เป็นจริงหรือเท็จ ค่อนข้างทางจริง เสียมากกว่ากระมัง ที่คิดจะหาเหตุกล่าวโทษเล่น ๆ เพื่อหวังโค่นอำนาจ ภายหลังตกเป็นพระสนมของพระเพทราชา ให้กำเนิดพระราชโอรสที่พระเจ้าเสือลวงไปปลงพระชนม์ พระนางมีพระชนม์ชีพจนถึงรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ พระศรีศิลป์ตั้งตัวเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
พระศรีศิลป์ตั้งตัวเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
เมื่อพระยาศรีวรวงศ์มีใจสองฝักสองฝ่ายว่าจะช่วยฝ่ายใดดี ฝ่ายหนึ่งคือพระเชษฐาธิราชเป็นพระโอรสพระเจ้าทรงธรรม อีกฝ่ายคือพระศรีศิลป์เป็นพระอนุชาพระเจ้าทรงธรรม สุดท้ายพระยาศรีวรวงศ์ตัดสินใจเลือกพระเชษฐาธิราชด้วยคิดว่าน่าจะสามารถคุมเกมได้ง่ายกว่า พระยาศรีวรวงศ์จัดการเก็บพระศรีศิลป์ ถึงขั้นกะให้ตายด้วยการอดอาหารในหลุมลึก โชคช่วยมาก ออกหลวงมงคลแอบขุดหลุมแล้วสับเปลี่ยนตัว ลักลอบเอาพระศรีศิลป์ให้รอดพ้นได้ พระศรีศิลป์เมื่อรอดชีวิตออกมาจากหลุมได้ สามารถรวบรวมไพล่พลกับออกหลวงมงคล มีทหารในสังกัดประมาณ 20,000 คนเศษ ตั้งทัพที่เมืองเพชรบุรี สมเด็จพระเชษฐาธิราชได้ข่าวจึงส่งทหารกำลังเท่ากันรวมกับซามูไรญี่ปุ่นอีก 800 คน พร้อมกับออกญาเสนาภิมุขแม่ทัพญี่ปุ่นมาประจันหน้ารบกัน ออกญาเสนาภิมุขแม่ทัพญี่ปุ่นได้หลอกล่อออกหลวงมงคลอีกว่า พระศรีศิลป์จะได้ครองราชย์แน่นอน โดยจะแกล้งรบแล้วยอมแพ้ แต่ไม่เป็นไปตามที่พูดตกลงกันไว้ ไม่น่าเชื่อว่า ทั้งพระศรีศิลป์และออกหลวงมงคลโดนกลอุบายพระยาศรีวรวงศ์ และออกญาเสนาภิมุขแล้วหลงเชื่อว่า เป็นความจริงได้อย่างไร ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรียกว่า เข็ดแล้วไม่รู้จักจำ ในที่สุดก็พ่ายแพ้ ทั้งพระศรีศิลป์และออกหลวงมงคลต่างเชื่อในคำของออกญาเสนาภิมุขแม่ทัพญี่ปุ่น จึงพ่ายแพ้และหนีไปยังนครศรีธรรมราช โดนออกญากำแหงจับได้ส่งตัวมาถวายสมเด็จพระเชษฐาธิราช ออกหลวงมงคลเป็นผู้มีคาถาอาคมมาก สามารถทำให้โซ่ตรวนที่พันธนาการขาดได้ ทำให้ดาบของเพชฌฆาตที่จะฟันคอบิ่นเบี้ยวและบีบคอฆ่าเพชฌฆาตได้คนหนึ่ง ในที่สุดออกหลวงมงคลขอน้ำขันหนึ่งภาวนามนต์ แล้วดื่มน้ำนั้น เอานิ้วจุ่มน้ำขีดตรงซี่โครงด้านซ้าย แล้วสั่งให้เพชฌฆาตเอาดาบแทงที่ ชายโครงนั้นจนสิ้นชีวิต ส่วนพระศรีศิลป์เอาไปประหารที่ลานโคกพญา คำเตือนของพระศรีศิลป์
คำเตือนของพระศรีศิลป์ พระศรีศิลป์เมื่อเผชิญหน้ากับสมเด็จพระเชษฐาธิราช รู้ว่าคราวนี้ตนต้องสิ้นชีพแน่นอน อาไม่ขอชีวิตต่อหลานเพราะรู้ดีว่าถึงอย่างไรเสียก็ไม่มีทางสำเร็จ จึงกราบทูลเตือนว่า ให้สมเด็จพระเชษฐาธิราชเป็นกษัตริย์ที่ดีและให้ดีต่อไพร่ให้มาก ๆ ด้วย พร้อมกันนี้ได้เตือนให้ระวังพระยาศรีวรวงศ์ด้วย ผ่านไปเพียง 1 ปีกับ 7 เดือน คำเตือนของพระศรีศิลป์เป็นจริง ออกญากลาโหมเข้าปล้นพระราชวัง แล้วยกให้พระอาทิตยวงศ์ครองราชย์แทน เมื่อไม่มีบุญก็ไม่ได้บุญ พระศรีศิลป์เป็นผู้หนึ่งที่มีโอกาสเฉียดเข้าใกล้โอกาสการเป็นกษัตริย์ แต่ไม่ได้เป็นสักที ครั้งแรกได้ร่วมมือกับจมื่นศรีสรลักษณ์ยึดอำนาจจากเจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ แต่กลับยกราชบัลลังก์ให้แก่พระเจ้าทรงธรรม พระเชษฐาของพระศรีศิลป์ เมื่อสิ้นพระเจ้าทรงธรรมแล้ว พระศรีศิลป์สมควรจะได้เป็นกษัตริย์สืบต่อมา สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมกลับยกราชบัลลังก์ให้กับสมเด็จพระเชษฐาธิราชพระราชโอรส พระศรีศิลป์จึงร่วมมือกับออกหลวงมงคลยกตนเป็นกษัตริย์ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อกลอุบายของพระยาศรีวรวงศ์ ในที่สุดความฝันที่จะครองราชย์จึงหมดสิ้นไป เมื่อจังหวะมีโอกาสมา แต่ไม่คว้าไว้ หลงคิดว่า จังหวะและโอกาสจะมีมาบ่อย ๆ แต่ความจริงแห่งชีวิต จังหวะและโอกาสที่ดี อาจมาเพียงครั้งเดียวก็เป็นได้ ถ้าไม่คว้าหรือหยิบฉวยไว้ จะชวดตลอดไป ผู้นำที่ได้อำนาจโดยบังเอิญ จำต้องดูแลปกครองบ้านเมืองให้สงบสุข เพื่อให้ประจักษ์ชัดว่า ถึงอย่างไรตนก็พร้อมจะเป็นผู้นำ และทำให้บ้านเมืองนี้ไม่ผิดหวัง |
สมาชิกหมายเลข 4665919
![]() ![]() ![]() ![]() ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |