Group Blog All Blog
|
ตั๋งโต๊ะ หลงในอำนาจ ใช้อย่างอำมหิต
ตั๋งโต๊ะ หลงในอำนาจ ใช้อย่างอำมหิต
#ตั๋งโต๊ะ #พรรณีเกษกมล ![]() โชคชะตาวาสนาหล่นทับโดยไม่รู้ตัว อยู่ดี ๆ ได้รับคำสั่งให้ยกทัพเข้าเมือง เพื่อปราบขันทีที่โกงกิน เป็นจังหวะเดียวกับที่โฮจิ๋นโดนขันทีตัดหัว ไม่มีใครมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แม้แต่ฮ่องเต้ยังเด็กนัก มันเป็นจังหวะอันดีเยี่ยม ที่จะคว้าตำแหน่งยิ่งใหญ่โดยไม่ต้องลงทุนลงแรงให้เหนื่อยยาก แต่อนิจจา มีบุญแต่กรรมบัง ไม่อาจรักษาอำนาจไว้กับตัวได้ นานเท่าที่ควร ด้วยความเป็นคนถ่อยเถื่อน บ้าอำนาจ ไร้มารยาท มีแต่กร่างและเข่นฆ่าอำนาจเก่า จนผู้คนหวาดกลัวและต่อต้าน อำนาจที่ใช้ ได้หยิบยืมมาอย่างคดโกง อ้างพระบรมราชโองการ คนที่อ้างอิงเบื้องสูงเข่นฆ่าทำลายล้าง โจมตีฝ่ายตรงข้าม จะมีอนาคตเช่นไร ไม่มีใครตอบได้ นอกจาก บอกขอให้รอฟ้าดินลงโทษ ความวุ่นวายระส่ำระสายยิ่งใหญ่และลุกลาม กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ตั๋งโต๊ะ แม่ทัพเมืองปิงโจว เข้ามาปราบจลาจลภายในเมืองลั่วหยาง โดยอ้างคำสั่งของโฮจิ๋น ผู้ซึ่งตอนนี้ดับชีพไปแล้วเพราะขันที ยังสงสัยอยู่ว่า ถ้าโฮจิ๋นไม่ตาย ตั๋งโต๊ะจะปราบขันทีเยี่ยงไร และโฮจิ๋นสามารถควบคุมไม่ให้ตั๋งโต๊ะใช้อำนาจอย่างบ้าคลั่งได้หรือไม่ หรือโฮจิ๋นอาจตายด้วยน้ำมือของตั๋งโต๊ะ เช่นเดียวกับฮ่องเต้และฮองเฮา ตั๋งโต๊ะนำกองกำลังทหารบุกนครลั่วหยางกำจัดบรรดาขันทีกว่า 2,000 คน และจัดการฆ่าขันทีตัวบงการที่สั่งฆ่าโฮจิ๋น 10 คน ให้สิ้นซาก แล้วจับฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้และโฮฮองเฮาขังไว้ในตำหนัก ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองตามคำสั่งของโฮจิ๋นพี่ชายฮองเฮา แต่ทำไมไม่ยกย่องฮองเฮาและลูกของฮองเฮา กลับไปเลือกลูกของสนมแทน พ.ศ. 733 ตั๋งโต๊ะคิดแผนการฆ่าฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้ด้วยการให้ดื่มยาพิษที่ผสมในสุรา มอบให้ลิยู กุนซือนำสุราผสมยาพิษไปถวายฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้ ส่วนโฮฮองเฮานั้นให้ลิยูฆ่าเสียให้ตายตกไปตามกัน หลังจากที่ตั๋งโต๊ะสังหารฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้แล้วแต่งตั้งให้ฮั่นเสี้ยนตี้หรือฮั่นเหี้ยนเต้ฮ่องเต้ เป็นฮ่องเต้แทน สิ่งที่เกิดตามมากลับยิ่งก่อให้เกิดความวุ่นวายมากยิ่งขึ้นถึงขั้นเป็นสงครามกลางเมือง คนไทยจะคุ้นเคยกับคำว่า พระเจ้าเหี้ยนเต้ ซึ่งพอเป็นคำไทยดูแปลก ๆ พิกล เหมือนจะแปลว่า หมดไปเลย เกลี้ยงหมด อะไรทำนองนี้ เลยสิ้นราชวงศ์ฮั่นจริง ๆ เสียด้วย ขณะนั้นฮั่นเสี้ยนตี้ฮ่องเต้มีพระชนม์เพียง 11 พรรษา เป็นฮ่องเต้แต่เพียงในนาม ตั๋งโต๊ะอ้างคำสั่งเพื่อบงการทำร้ายผู้คนอย่างโหดเหี้ยม เมื่อตั๋งโต๊ะพ่ายแพ้ ฮั่นเสี้ยนตี้ฮ่องเต้ต้องอพยพออกนอกเมืองพร้อมตั๋งโต๊ะ แล้วลี้ภัยไปยังนครฉางอาน แต่ลิโป้วางแผนสังหารตั๋งโต๊ะได้ในเวลาต่อมา ฮ่องเต้แต่ในนาม รู้ว่า บ้านเมืองตกต่ำถึงขีดสุดในยุคที่ตนเป็นฮ่องเต้ แต่ไร้ซึ่งอำนาจ จึงแอบสั่งการไปยังหัวเมืองให้ระดมพล หวังปราบตั๋งโต๊ะ หนึ่งในแผน คือ มอบอำนาจให้เล่าปี่ที่อาจเป็นเพียงญาติห่าง ๆ ให้ตำแหน่งเป็นพระปิตุลา มีอำนาจมากพอจะคานอำนาจกับตั๋งโต๊ะ และแอบส่งสารไปยังเจ้าเมืองต่าง ๆ ให้ร่วมมือกับเล่าปี่ แผนนี้จะสำเร็จไหม หรือกลายเป็นส่วนหนึ่งที่เกิดสามก๊กขึ้นมา ทหารกล้าแพ้ภัยอิสตรี ช่วงที่ตั๋งโต๊ะครองอำนาจเหนือฮ่องเต้นั้น มีผู้กล้ามากมายอาจหาญคิดจะปราบ แต่ไม่สำเร็จ แล้วจบลงที่ตรงไหน ง่าย ๆ ด้วยเล่ห์กลมารยาของสาวสวยนาม เตียวเสี้ยนหรือเตียวฉาน สาวงามที่เป็นบุตรีบุญธรรมของอ้องอุ้น อุปราชขุนนางผู้ใหญ่ในราชสำนักที่ยังคงดำรงอยู่ แม้บางส่วนโดนเก็บไปแล้ว นางมีความงามเป็นเลิศและชาญฉลาด คิดจะกู้ชาติ ล้มอำนาจของตั๋งโต๊ะ เตียวเสี้ยนยอมเป็นเมียของลิโป้ และตั๋งโต๊ะในเวลาเดียวกัน อันนารี แม้นไม่มีอาวุธเข่นฆ่าศัตรู แต่มารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนสามารถสังหารผู้ที่หลงอำนาจและไร้ซึ่งคุณธรรมได้ก็แล้วกัน ความหึงหวงทำให้ชายสองคน ที่หลงรักนางหัวปักหัวปำ ได้ห้ำหั่นคิดร้ายต่อกัน ตั๋งโต๊ะจะให้เตียวเสี้ยนเป็นเมียน้อย ลิโป้มีหรือจะยอมเสียนางไปง่าย ๆ แต่คงจำใจข่ม เตียวเสี้ยนยุยงให้ทั้งตั๋งโต๊ะและลิโป้แตกคอกันเอง ที่สุดลิโป้ฆ่าตั๋งโต๊ะ จบชีวิตคนที่ได้อำนาจมา แต่ไม่ได้ใช้อำนาจนั้นให้เกิดประโยชน์ต่อตนและชาติบ้านเมือง สุดท้ายแม้แต่ชีวิตยังรักษาไม่ได้ ต้องตายด้วยน้ำมือคนที่ตนรักและดูแลเยี่ยงบุตรบุญธรรม อ้วนเสี้ยว ผู้มีอำนาจ แต่ไร้ซึ่งปัญญา
#อ้วนเสี้ยว ผู้มีอำนาจ แต่ไร้ซึ่งปัญญา
#พรรณีเกษกมล อ้วนเสี้ยว เป็นนายทหารใหญ่ประจำกายโฮจิ๋น ผู้มีอำนาจสูงสุดในวัง ได้เสนอให้ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองมาปราบ นี่คือ ความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต และต่อชาติ ใครจะรับผิดชอบล่ะ มีคนอยากรู้ แต่ไม่มีคำตอบ เมื่อผู้ใหญ่ทำพลาด เกิดผลเสียหายร้ายแรง นอกจากทำตาปริบ ๆ ไม่มีแม้แต่เอื้อนเอ่ยคำขอโทษออกจากปาก คงได้แต่อุทาน เวรกรรม ๆ เมื่อโจโฉกับอ้วนเสี้ยว ทหารในสังกัดของโฮจิ๋น รู้ว่า ขันทีฆ่าเจ้านายตัวเอง แผนกำจัดกลับตาลปัตร ภัยจะมาถึงในไม่ช้า รีบฆ่าขันทีแกนนำ เป็นจังหวะที่ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองมาพอดี นายทหาร 2 นาย กับแม่ทัพจากชายแดนพร้อมกองทัพ ที่เข้าเมืองมาโดยคำสั่งของโฮจิ๋น ใครจะใหญ่กว่ากันล่ะ ตั๋งโต๊ะเลยได้หน้าไปเต็ม ๆ และได้อำนาจมาแบบง่าย ๆ เสียอีก สองทหารหนุ่มคงได้แต่อ้าปากหวอและทำตาปริบ ๆ ดูเขาแย่งชิงผลงานไปต่อหน้าต่อตา ธรรมดานะที่ผู้น้อยไม่มีปากเสียงมากพอจะกล่าวอ้างว่า ตนต่างหากที่ฆ่าขันที สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร กับราตรีนี้อีกยาวนานนัก ใครจะไปรู้ว่า โจโฉในวันนั้น กลับกลายเป็นผู้นำก๊กใหญ่ และใช้แผนเดียวกับตั๋งโต๊ะ คือ ให้ฮ่องเต้เป็นเพียงหุ่นเชิด อ้วนเสี้ยวที่เป็นทหารร่วมรุ่นกับโจโฉล่ะ ดูเหมือนจะมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าด้วยซ้ำ ได้เป็นหัวหน้าก๊กด้วยหรือไม่ เมื่อล้มแล้ว ต้องลุกขึ้นในทันใด เมื่อตั๋งโต๊ะยกทัพเข้าลั่วหยาง อ้วนเสี้ยวกลับหลบลี้หนีภัยสงครามไปยังเมืองจี้โจว แทนที่จะต่อสู้กับตั๋งโต๊ะให้รู้แพ้รู้ชนะกันก่อน ทั้งที่ช่วงนี้อ้วนเสี้ยวมีอำนาจมากพอสั่งการกองทัพให้ตอบโต้ แต่เลือกหนีแทนการเผชิญหน้า ตั๋งโต๊ะตั้งตนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน และทำตัวได้ชั่วชาติมาก ๆ กวาดล้างขุนนางเก่าที่เป็นปฏิปักษ์ ย่อมเกิดแรงต้านตอบโต้ อ้วนเสี้ยว หรือหยวนเส้า ผู้ที่บัดนี้ได้รู้ตัวแล้วว่า ชักศึกเข้าบ้าน นำพาความจัญไรมาสู่ตัวและบ้านเมือง ได้คิดแก้ตัว เพื่อความอยู่รอดของตัวเองและพวกพ้อง ฮ่องเต้แอบมีสาส์นลับ หาสมัครพรรคพวก ได้แต่งตั้งตัวแทนแห่งอำนาจ หรืออาจเป็นเพียงการแอบอ้าง เพราะรู้ตัวว่า หามีอำนาจใดค้ำจุน นอกจากเป็นหุ่นเชิด เมื่อหลบหนีออกไปอ้วนเสี้ยวคงคิดใหม่ว่า เอเราหนีทำไม ได้รวบรวมสมัครพรรคพวกเพื่อหวังทวงอำนาจของตนกลับคืนมา ตอนนี้คงต้องหาคำตอบว่า ทำไมอ้วนเสี้ยวหนีออกจากเมือง แทนที่จะอยู่ในเมืองต่อแบบโจโฉ อีก 3 ปีต่อมาตั๋งโต๊ะโดนสังหารและเกิดตำนานเตียวเสี้ยน ฮั่นเสี้ยนตี้ฮ่องเต้ได้กลับคืนนครลั่วหยางหลังตั๋งโต๊ะเสียชีวิต เพราะความเป็นฮ่องเต้ ที่ปลูกฝังความเชื่อว่า ฮ่องเต้ คือ เจ้าเหนือชีวิต จึงไม่มีใครกล้าฆ่า แต่ไม่อยากให้มีอำนาจล้นฟ้า อ้วนเสี้ยวแม่ทัพใหญ่ แต่ไปไม่ถึงดวงดาว เมื่อหลบหนีออกไปอ้วนเสี้ยวได้รวบรวมสมัครพรรคพวกเพื่อหวังทวงอำนาจของตนกลับคืนมา อ้วนเสี้ยวเป็นทหารติดตามแม่ทัพโฮจิ๋น และสนิทกับโจโฉ เมื่อสิ้นโฮจิ๋น ได้สร้างกองทัพจนใหญ่โต และเป็นผู้นำ 18 หัวเมือง ต่อต้านตั๋งโต๊ะ มีกองกำลังใหญ่ 7 แสน แต่พ่ายแพ้ต่อโจโฉที่มีทหาร 7 หมื่น ทำให้อ้วนเสี้ยวกระอักเลือดตาย อ้วนเสี้ยวเป็นผู้มีอุบายมาก แต่เด็ดขาดน้อย ชอบฟังแต่คำยุยง เห็นแก่ญาติพี่น้องของตน ไม่มีความรู้ด้านตำราพิชัยสงคราม ชอบแต่คนมีหน้ามีตาและชอบพูดขัดคอคนอื่น เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงยกใหญ่ ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองมาปลดฮ่องเต้ที่เป็นโอรสจากฮองเฮา แล้วแต่งตั้งฮ่องเต้ที่เป็นโอรสจากสนมให้เป็นหุ่นเชิด รวมพลครั้งใหญ่ แต่ใยไม่ชนะ ในการรวมพล 18 หัวเมืองล้มตั๋งโต๊ะ เป็นจุดเริ่มต้นที่อ้วนเสี้ยวตักตวงผลงาน จนมีขุมอำนาจที่ใหญ่ที่สุด และเป็นขั้วอำนาจที่มีอิทธิพลที่สุดในแดนเหนือแม่น้ำฮวงโห ขยี้กองซุนจ้าน ฮั่นฮก และก้าวมาอยู่ในจุดที่อ้วนสุดน้องต่างแม่ต้องมาอ้อนวอนขอร้อง เพราะอ้วนเสี้ยวเป็นเพียงลูกเมียน้อย เมื่อครั้งที่อ้วนเสี้ยวใหญ่โตและมีขุมกำลังมาก ได้ร่วมมือกับโจโฉ เมื่อปราบตั๋งโต๊ะสำเร็จตามเป้าหมาย อ้วนเสี้ยวกับโจโฉกลับเป็นศัตรูต่อกัน เพราะอะไร หรือต่างคนต่างอยากเป็นใหญ่ เลยไม่มีใครยอมใคร เอาอีกแล้ว อยากเป็นใหญ่คนเดียว กลุ่มเล็กกลุ่มน้อยที่ร่วมรบ ไร้ความหมาย แต่ปล่อยไว้ไม่ได้ จำต้องปราบให้หมดเสี้ยนหนาม จะได้ไม่มาทิ่มแทงหรือทวงบุญคณภายหลัง แม้แต่อ้วนสุดผู้เป็นน้องชายต่างแม่กับกองซุนจ้านสหายของอ้วนสุด ยังไม่ได้รับการดูแลช่วยเหลือเลย คิดไม่ออก ตรองไม่ตก เป็นผู้นำคิดการใหญ่ จำต้องมีกุนซือฉลาดเฉลียวไว้เคียงกาย จะได้ช่วยให้การตัดสินใจดีขึ้น ปัญหาของอ้วนเสี้ยวอยู่ที่มีกุนซือสองคนต่างความคิดสุดขั้ว เสนอแนะวิธีแก้ปัญหาที่ยากต่อการตัดสินใจ เช่น สนับสนุนลูกคนโตหรือลูกคนที่ 3 จะช่วยอ้วนสุดหรือปล่อยให้โจโฉจัดการอ้วนสุด จะร่วมมือกับเล่าเปียวโจมตีโจโฉหรือปล่อยให้สองเสือสู้กันเองแล้วค่อยยื่นมือเข้าไปฆ่า ฉวยโอกาสโจมตีฮูโต๋ตอนที่โจโฉไม่อยู่หรือไปตีกองซุนจ้าน จะได้ไม่ต้องระวังแนวหลัง ช่วยเล่าปี่จัดการโจโฉหรือปล่อยเล่าปี่สู้กับโจโฉให้เสียหายกันทั้งสองฝ่าย ตอนที่โจโฉกับอ้วนเสี้ยวเปิดศึกกัน เร่งให้ยกทัพบุกโจมตีหรือให้หยุดทัพไว้ แล้วส่งคนไปเกลี้ยกล่อม ให้ดึงตัวเตียวสิ้ว เล่าเปียว ซุนเซ็กมาโจมตีตลบหลัง ก่อนจะยกทัพสู้รบกันที่กัวต๋อ โจโฉได้ส่งทหารสร้างแนวป้องกันตลอดริมน้ำลากยาวจากกัวต๋อไปถึงไป๋หม่า เสนอให้อ้อมกัวต๋อแล้วใช้ข้อดีของทหารที่มากกว่าไล่เก็บทีละเมือง อ้วนเสี้ยวมีทหารมากกว่าโจโฉสิบเท่า ถ้าอ้อมไปเท่ากับกลัว ทำให้อ้วนเสี้ยวเปิดศึกขั้นแตกหักกับโจโฉที่กัวต๋อ การมีกุนซือสองขั้วที่ต่างกันเช่นนี้ ส่งผลให้อ้วนเสี้ยวปราชัยตอนจบ ก่อนได้เป็นใหญ่เหมือนโจโฉ หรือเล่าปี่มีขงเบ้งเป็นกุนซือ การมีกุนซือที่เก่งกาจฉลาดเฉลียวเพียงคนเดียว ย่อมดีกว่ามีมากมายหลายคน แต่หาประโยชน์ไม่ แค่บอกทางเลือกหลายทาง ที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ไม่บอกถึงทางเลือกที่ดีที่สุดพร้อมเหตุผล เมื่ออ้วนเสี้ยวบุกเมืองอี้จิง กองซุนจ้านสั่งทหารสร้างกำแพงแน่นหนา อ้วนเสี้ยวใช้วิธีขุดอุโมงค์ไปจับกองซุนจ้าน กองซุนจ้านจนตรอก จึงฆ่าบุตรและภรรยา และฆ่าตัวตาย ในปี พ.ศ. 742 อันเป็นปีเดียวกับที่อ้วนสุด น้องชายอ้วนเสี้ยวตาย ที่สุดอ้วนเสี้ยวพ่ายแพ้ต่อโจโฉ เพราะความประมาทตอนเผชิญหน้ากัน และเปิดช่องโหว่ให้ต้องมีอันแตกทัพยับเยินที่กัวต๋อ อ้วนเสี้ยวหลงระเริงลำพองจนประมาทในฝีมือของโจโฉ หลังจากชนะใครต่อใคร คิดว่าตนมีทหารในสังกัดจำนวนมาก แต่ไม่ได้ฝึกปรือให้มีวินัยและฝีมือฉกาจฉกรรจ์มากพอ ผิดกับทัพของโจโฉที่เข้มงวดมากในการฝึกปรือและฝีมือ ช่วงที่อ้วนเสี้ยวใหญ่โต มีกองทัพนับเรือนแสน ผู้คนต่างคิดว่า อ้วนเสี้ยวนี่แหละจะเป็นใหญ่ในแผ่นดินรองจากฮ่องเต้ เหตุไฉนจึงไม่เป็นเช่นนั้นนะ กีฬาต้องมีผู้แพ้ผู้ชนะ สงครามต้องมีผู้แพ้ผู้ชนะเช่นกัน ใครจะแพ้จะชนะต่างหากที่น่าสนใจ ระหว่างเดินเกม สรุปไม่ได้หรอกนะ จะบอกให้ โฮจิ๋น ผู้เริ่มจุดชนวนระเบิด ก่อเกิดสามก๊ก
โฮจิ๋น ผู้เริ่มจุดชนวนระเบิด ก่อเกิดสามก๊ก ปลายราชวงศ์ฮั่น ที่บารมีฮ่องเต้เริ่มอ่อนแสงลง ด้วยขันทีรุกคืบต่ออำนาจ โกงกินบ้านเมือง ฉ้อราษฎร์บังหลวง ราชสำนักอ่อนแอถึงขีดสุด เบื้องหลังฮ่องเต้ ผู้มีอำนาจตัวจริงคงไม่พ้นไทเฮา ตระกูลของไทเฮาล้วนเข้ามาเพื่อฉกฉวยแย่งชิงผลประโยชน์กับบรรดาขันที โดยไม่ใส่ใจว่า บัลลังก์จะสั่นคลอนหรือไม่ ปัญหาที่ตามมา ขันทีที่เดิมมีอำนาจเหนือฮ่องเต้ มิยินยอมง่าย ๆ จึงพร้อมจะแก่งแย่งชิงดี สู้รบปรบมือกับอำนาจของฮองเฮา โดยมิหวาดหวั่น ในวัง มีสองกลุ่มก้อนใหญ่ที่เรืองอำนาจและสามารถกอบโกยลาภยศเงินทองเข้าพกเข้าห่อตน อย่างละโมบโลบมาก คือ ตระกูลของไทเฮา กับหัวหน้าขันที เหตุใดฮ่องเต้จึงไร้อำนาจ ปล่อยให้เป็นไปเช่นนี้ล่ะ ไม่คิดจะแก้ไขเลยรึต้องสืบสาวราวเรื่องถึงการสืบทอดต่อตามกฎของราชสำนัก อายุของฮ่องเต้ยังน้อยนิด มิอาจแม้แต่จะช่วยเหลือตน นับประสาจะดูแลปกครองไพร่ฟ้าอาณาประชาราษฎร์ เอาตัวเองยังมิรอดเลย ระบอบอำนาจนิยมที่ส่งผ่านทางสายเลือด จากพ่อสู่ลูกชายคนโตที่เกิดจากเมียเอกเท่านั้น อาจเกิดผิดพลาด ถ้ารอยต่อของผู้รับอำนาจไม่โตพอ ไม่มีบารมีมากพอ แม้แต่ขาดฝีมือ สติปัญญาที่จะรับช่วงต่อ โฮจิ๋น มาจากตระกูลพ่อค้าที่มั่งคั่ง ไม่ได้เชี่ยวชาญการศึกและยุทธวิธีการปกครอง เมื่อน้องสาวเป็นฮองเฮา จึงได้อำนาจและตำแหน่งเป็นแม่ทัพใหญ่ มีโจโฉกับอ้วนเสี้ยวเป็นลูกน้อง เมื่อโฮจิ๋นรู้ว่าตนมิได้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่มีขันทีคอยขวางลำ จึงคิดปราบขันทีที่เรืองอำนาจมากล้นฟ้า ได้ปรึกษานายทหารคู่ใจ เรียกว่า อยากเป็นใหญ่คนเดียว ไม่ยอมรับ สิ่งที่เป็นไปและเป็นมาแต่เก่าก่อน รู้แต่เพียงต้องปฏิรูป ของใหม่ต้องดีกว่าของเก่า ทำไมต้องยอมรับ ความไม่ดีที่สั่งสมกันมา แล้วปล่อยให้เรื้อรังต่อไป อ้วนเสี้ยวเสนอให้เอากำลังทหารเข้ามาปราบ โจโฉไม่เห็นด้วย บอกว่า จะมิยุ่งไปกันใหญ่รึ ขันทีกินมาแต่ไหนแต่ไร ปล่อยไปเถอะ คงไม่เสียหายมากมายกระไรนัก โฮจิ๋นเชื่ออ้วนเสี้ยว จึงสั่งการให้ตั๋งโต๊ะ แม่ทัพชายแดนยกทัพเข้ามาปราบ นับเป็นการสั่งการที่ผิดพลาดมาก ระหว่างการแย่งชิงอำนาจของสองขั้วใหญ่ โฮจิ๋นพี่ชายฮองเฮา กับขันทีที่กุมอำนาจในราชสำนัก ใครจะแน่กว่ากัน ถ้าเพียงแต่โฮจิ๋นเชื่อโจโฉ คิดรอมชอมกับขันที กินตามน้ำไปในช่วงแรก แล้วค่อยหาทางจัดการทีหลัง อาจประคับประคองอำนาจของตนได้ แต่มันไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ชอบหน้าและไม่ยอมกัน เหม็นขี้หน้ากันถึงที่สุด ยากที่จะเอาหูไปนาตาไปไร่ได้ ระหว่างอำนาจของขันทีกับแม่ทัพชายแดน โฮจิ๋นเลือกอำนาจใหม่ โดยไม่รู้ว่าเลวร้ายกว่าอำนาจเก่า ทำไมบางคนยอมทนกับอำนาจเก่าที่เลวร้าย โดยไม่กล้าลุกมาต่อต้านเพราะไม่แน่ใจว่าอำนาจใหม่จะเลวร้ายกว่าเดิมหรือไม่ ดังเช่นนิทานกบเลือกนาย เมื่อขันทีรู้คำสั่งนี้ มีหรือจะนิ่งเฉย รีบสังหารโฮจิ๋นทันที ด้วยกลอุบายหลอกล่อกับโฮฮองเฮาว่า ต้องการขอโทษและปรับความเข้าใจ ให้โฮจิ๋นเข้ามาพบนาง อย่างไม่ระวังตัว และไม่มีทหารคุ้มกัน โฮฮองเฮาแสนจะเชื่อคนง่ายเสียเหลือเกิน ไม่คิดไตร่ตรองสักนิด และวางแผนป้องกันเชียวหรือ อุแม่เจ้า เป็นใหญ่เป็นโตได้ยังไงกันนี่ สมแล้ว ที่จะเกิดเหตุเภทภัยร้ายแรงขึ้นตามมา การไว้ใจคนที่เป็นศัตรู ภัยจะมาถึงโดยไม่ทันตั้งตัว นี่แหละหนา ที่บอกว่า คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาดกว่าเสมอ พวกสิบขันทีฆ่าโฮจิ๋นตาย แล้วตัดศีรษะโยนออกมานอกวัง ฝ่ายองครักษ์ของโฮจิ๋นอันมีโจโฉกับอ้วนเสี้ยวเห็นดังนั้น จึงสั่งให้ทหารของตนบุกเข้าไปข้างใน ไล่ฆ่าฟันทุกคนที่เป็นขันที แผนหลอกล่อให้วางใจ เป็นอุบายที่แยบคายมาก ใช้ได้มาจนถึงปัจจุบัน อย่าไว้เนื้อเชื่อใจใครง่าย ๆ โดยเฉพาะคนที่เคยมีทีท่าร้ายกาจมาก่อน หลังจากฆ่าโฮจิ๋น ใช่ว่าขันทีจะได้กุมอำนาจ อะไรจะขนาดนั้น มันเป็นจังหวะเดียวกับที่ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองมาพอดี เตียวเหยียงหัวหน้าสิบขันทีจับตัวฮ่องเต้และหองจูเหียบองค์น้องไว้เป็นตัวประกัน แล้วหลบหนีออกนอกวัง แต่ไม่ทันการณ์เสียแล้ว บรรดาขันทีถูกฆ่าตาย ไม่รู้หมดวังหรือเปล่า ตั๋งโต๊ะเข้ามาช่วยเหลือฮ่องเต้และหองจูเหียบได้ทันท่วงที ทำให้ตั๋งโต๊ะกลายเป็นผู้กุมอำนาจในราชสำนัก ตอนนี้อำนาจเปลี่ยนมือไปแล้วนะ ในชั่วพริบตาเดียว ทำไม จึงกล่าวว่า โฮจิ๋นเป็นผู้จุดชนวนระเบิด แค่ราชสำนักก็อ่อนแอลงมาก ๆ แล้ว ขันทีเรืองอำนาจตัวปัญหาใหญ่ แต่ดันสั่งการให้ตั๋งโต๊ะเข้าเมือง ตั๋งโต๊ะนี่ทั้งเลวและบ้าอำนาจ ไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น ยึดอำนาจในราชสำนักทั้งหมดมาเป็นของตน ตอนนี้หมดสิ้นอำนาจเก่า ไม่ว่าตระกูลฮองเฮาหรือขันที เหลือแต่ตั๋งโต๊ะแต่เพียงผู้เดียว มิมีใครแม้แต่ผู้เดียวที่จะมาคานอำนาจได้ ลูกแม่นม พระนารายณ์
บุคคลสำคัญในรัชสมัยนี้ คงจะได้แก่ ลูกแม่นมสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เจ้าพระยาโกษาเหล็ก เจ้าพระยาโกษาปาน และพระเพทราชากับคุณแช่ม ทั้งสี่เป็นลูกพ่อเดียวกันแต่ต่างแม่ เป็นลูกหลานของขุนนางมอญ พระยาเกียรติ พระยารามผู้ที่เคยช่วยพระนเรศวรในการกอบกู้เอกราชของชาติมาแล้ว เจ้าพระยาโกษาเหล็ก และพระเพทราชาเกิดรุ่นเดียวกับสมเด็จ พระนารายณ์มหาราชจึงสนิทสนมกันเป็นพิเศษและได้รับความไว้วางใจให้ทำงาน ได้รับตำแหน่งใหญ่โต เจ้าพระยาโกษาเหล็กเป็นทหารเอกแต่ภายหลังต้องตายด้วยไปขัดใจกับเจ้าพระยาวิชเยนทร์ และโดนฟ้องว่ารับสินบนจากบรรดาพ่อค้า หรือคอร์รัปชั่นเงินที่หลวงควรจะได้ ส่วนพระเพทราชาได้แย่งชิงราชบัลลังก์และสถาปนาตนเป็นกษัตริย์ราชวงศ์บ้านพลูหลวง เจ้าพระยาโกษาเหล็กและเจ้าพระยาโกษาปาน มีแม่ที่เป็นแม่นมหรือพระนมชั้นเอกของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้รับสถาปนาให้เป็นพระองค์เจ้าบัวหรือเจ้าแม่วัดดุสิต ทั้งคู่ซื่อสัตย์จงรักภักดี ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติมากมาย เจ้าพระยาโกษาเหล็กเป็นแม่ทัพเอกทำศึกกับพม่า เจ้าพระยาโกษาปานเป็นทูตไปประเทศฝรั่งเศส เป็นคนเฉลียวฉลาด สนใจด้านภาษาและวิชาการสมัยใหม่ ผู้ใกล้ชิดล้วนแล้วแต่อันตราย พระเพทราชาเป็นลูกของแม่นม ที่เป็นภรรยาคนที่สองชื่อเปรม ได้รับสถาปนาให้เป็นท้าวศรีสัจจา พระเพทราชาเป็นเพื่อนสนิทของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และได้รับความไว้วางใจให้เลี้ยงดูพระราชโอรสลับที่เกิดจากนางเชลยชื่อนายเดื่อหรือขุนหลวงสรศักดิ์หรือพระเจ้าเสือ ได้ตำแหน่งเป็นจางวางเจ้ากรมช้าง ร่ำลือกันว่า มีความสามารถในการบังคับช้างหรือม้าได้เก่งราวกับมีพลังวิเศษ จึงได้รับอนุญาตให้ขี่ม้าทรงสีแดงที่เป็นม้าพยศ ทหารเป่าแตรสังข์เพราะหลงคิดว่าเป็นสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้ากรมคชบาล ซึ่งเป็นหน่วยรบที่สำคัญมากในสมัยนั้น คุณแช่มเป็นสาวสวยทรงเสน่ห์เป็นพระสนมของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของพระเพทราชา นามท้าวศรีจุฬาลักษณ์ เป็นสตรีที่มีผู้แอบนินทาว่ามักมากในกามคุณ ชอบรักษากับหมอฝรั่ง เคยเป็นแผลไปรักษากับหมอฝรั่งหลายครั้งไม่หาย พอรักษากับหมอไทยครั้งเดียวก็หาย ท้าวศรีจุฬาลักษณ์มีเรื่องชู้สาวกับเจ้าฟ้าน้อยจนทำให้เจ้าฟ้าน้อยโดนเฆี่ยนตีอย่างทารุณจนร่างกายพิการ วันที่เกิดเหตุเพราะท้าวศรีจุฬาลักษณ์แอบเอาพระภูษาของท่านไปซ่อน แต่เจ้าฟ้าน้อยไม่รู้ จึงไปทูลฟ้องสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ความลับจึงเปิดเผย ท้าวศรีจุฬาลักษณ์โดนลงโทษให้เสือกิน บังเอิญเสือไม่หิว จึงรอดชีวิตได้ แต่นางกลับด่าทอสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระเพทราชาพี่ชายแท้ ๆ จึงจับโยนไปให้เสือกินอีกครั้ง พระปีย์
พระปีย์ ชายหนุ่มที่เกือบจะก้าวสู่การเป็นกษัตริย์ในฐานะพระราชโอรสบุญธรรม และสมเด็จพระนารายณ์มหาราชหวังจะให้ครองราชย์สืบแทน โดยประวัติเป็นเพียงบุตรชายขุนไกรสิทธิศักดิ์ที่นำทารกมาเข้าเฝ้ารับเสด็จ ณ ชนบทชานเมืองลพบุรี
เด็กน้อยร้องไห้ให้สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงอุ้มทำให้พระองค์ทรงเอ็นดูและรับเป็นพระราชโอรสบุญธรรม พระปีย์เป็นคนสุดท้ายที่ได้เฝ้าพระนารายณ์ เพราะพระเพทราชาและพระเจ้าเสือฆ่าพระปีย์จนเสียงร้องของพระปีย์ทำให้สมเด็จพระนารายณ์มหาราชสวรรคตด้วยประโยคว่า “ทูลกระหม่อมแก้วช่วยด้วย” และสมเด็จพระนารายณ์มหาราชตกพระทัยตรัสว่า “ใครทำอะไรอ้ายเตี้ยของข้า” และสวรรคตในที่สุด |
สมาชิกหมายเลข 4665919
![]() ![]() ![]() ![]() ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |