Group Blog All Blog
|
วิธีการฝึกทักษะการทำนาย
วิธีการฝึกทักษะการทำนาย • การทำนายที่ใช้เทคนิค Arrow Diagram การทำนายโดยการเขียนผังการไหลของงาน แล้วเลือกเส้นทางที่คิดว่าเป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ควรทำอะไรก่อนหลัง การมองเห็นทิศทางการทำงานที่อาจทำได้ในหลายรูปแบบเหมือนการรู้ว่าเส้นทางเดินที่จะไปสู่เป้าหมายที่ต้องการนั้นมีหลายเส้น แต่เราอาจเลือกเส้นทางที่เราคุ้นชินและคิดว่าเหมาะสมกับเรามากที่สุดแทนที่จะเลือกเส้นทางเดินตามอย่างเพื่อน ๆ เมื่อรู้เส้นทางเดินควรจะรู้ต่อไปด้วยว่า ควรเดินอย่างไรในจังหวะเวลาใดด้วย • การทำนายที่ใช้เทคนิค Process Decision Program Chart การทำนายโดยกำหนดขั้นตอนการไหลของงาน รู้กิจกรรมเริ่มต้น กิจกรรมปลายทาง ระดมความคิดว่าระหว่างทางนั้นน่าจะเกิดอะไรขึ้น เน้นกระบวนการที่เกิดขึ้นและการตัดสินใจในแต่ละช่วงของกระบวนการ การเขียนผังการทำงานแล้วมองให้ทะลุปรุโปร่งตลอดเส้นทางของการทำงานจะช่วยให้วางแผนการทำงานและการตัดสินใจที่เหมาะกับแต่ละขั้นตอนของกระบวนการ • การทำนายสถานการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น การทำนายในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นแต่คาดว่าน่าจะเป็นไปในทำนองนี้ โดยใช้ความรู้หรือประสบการณ์เดิมมาเป็นตัวทำนาย เช่น การทำนายลักษณะความสมดุลของสิ่งของสองสิ่งบนคาน ถ้าคาดเดาได้ว่าขนาดและปริมาณเท่านี้ควรจะมีน้ำหนักอย่างไร คนที่ชำนาญในสถิติ การคิดคำนวณอาจใช้ความรู้มากขึ้น เช่น การทำนายการขึ้นลงของหุ้น ทองคำ ด้วยข้อมูลเดิม แล้วใช้สถิติขั้นสูง เช่น Trend analysis หรือดูใน web หุ้น • การฝึกทำนายให้คิดถึงเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่คาดเดาว่าน่าจะเกิดโดยใช้ความรู้หรือเหตุผลมาประกอบการตัดสินใจ ไม่ใช่เพ้อเจ้อ ฝันเฟื่องหรือเลื่อนลอย คิดในสิ่งที่คาดว่าจะเป็นจริง เช่น อาจใช้คำถามต่อไปนี้กับตนเองบ่อย ๆ i. มีหนทางใดที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ii. มองการณ์ไกลต่อไปในอนาคตอันใกล้และไกล เรื่อง อยากมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างสุขสบาย
เรื่อง อยากมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างสุขสบาย
การหาแบบแผนจะเกี่ยวข้องกับรูปแบบที่ปฏิบัติเป็นประจำ เมื่อวันคืนผ่านไป หลายคนเริ่มนึกถึงวันเวลาแห่งความตายที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาหาตน พอพ้นวัยทำงาน กลายเป็นไร้เสียซึ่งจุดหมายในชีวิต บางคนงงว่าจะอยู่ไปทำไม อยู่เพื่อใคร และอยู่อย่างไร คนที่หาคำตอบไม่พบจะอยู่อย่างหงอยเหงา พาลทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิม จากเวลาที่เคยทำเป็นกิจวัตร นอนหัวค่ำตื่นแต่เช้าไปทำงาน กลายเป็นนอนไม่เป็นเวลา กินไม่เป็นเวลา วิถีชีวิตปรวนแปรไปในแต่ละวันไม่ซ้ำกัน ขึ้นอยู่กับอารมณ์และความรู้สึกในวันนั้น ส่วนคนที่หาเป้าหมายในชีวิตของตนพบ และคิดว่านี่คือเวลาทองของชีวิตที่มีทั้งอิสรภาพทางการเงินและอิสรภาพในการใช้ชีวิต พวกเขาจะไม่ใช้ชีวิตอย่างไร้เสียซึ่งจุดมุ่งหมายและทิศทางที่กำลังจะก้าวเดิน ไม่ว่าแต่ละคนจะมีเป้าหมายในชีวิตแตกต่างกันเพียงไร สิ่งหนึ่งที่พวกเขามีและจะยึดถือปฏิบัติคือการค้นพบแบบแผนในการดำเนินชีวิตของตนให้พบและจะยึดถือเป็นธงชัยในการปฏิบัติตามต่อไป บางคนค้นหานาฬิกาชีวิตและค้นพบแบบแผนในการดำเนินชีวิตเพื่อหวังให้มีชีวิตที่ยืนยาว อาจมีหลายตำรา แต่แบบแผนการใช้กิจวัตรประจำวันของสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขเป็นสิ่งน่าสนใจเหมือนกัน เวลาตื่นให้ตื่น เวลานอนให้นอน เวลากินให้กิน ทำทุกอย่างให้เป็นกิจวัตร ร่างกายจะรับรู้ว่าควรทำสิ่งใดในเวลาใด เวลาใดควรออกกำลัง และเวลาใดควรทำงาน อย่าคิดว่าเราแก่แล้ว มีเงินทองมากพอจะใช้จ่ายให้พอในแต่ละเดือนจากเงินบำนาญ จึงไม่ทำงาน ไม่คิดหางานทำแม้จะเป็นงานอดิเรกก็ตาม งานอิสระที่ทำแล้วเพลิดเพลินด้วยได้เงินด้วย เก็บประสบการณ์อันมีค่าบอกกล่าวเล่าเรื่องให้ลูกหลานได้ร่วมรับรู้ ให้คิดว่างานคือส่วนหนึ่งของชีวิตที่จะทำให้เพลิดเพลินและมีความสุข จึงจะช่วยให้เราได้อยู่อย่างมีเป้าหมายในทุกวันทุกคืน แต่ละคนจะมีแบบแผนในการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน แต่ต้องให้มีสัดส่วนของการกิน การนอนการพักผ่อน การออกกำลัง และการทำงานให้สมดุลกัน ทั้งนี้เพื่อให้มีชีวิตที่ยืนยาวและอยู่อย่างสุขสบาย ไม่เป็นภาระแก่ลูกหลานและผู้อยู่ใกล้ชิด เคยมีขำขันเรื่องหนึ่งแต่ไม่รู้ว่าจะขำออกกันหรือไม่ เรื่องนี้เล่าว่า ชายหนุ่มคนหนึ่งอายุ 28 เดินผ่านมาในสวนเห็นชายแก่คนหนึ่งท่าทางยังแข็งแรงอยู่ จึงเอ่ยถามว่า ลุงทำอย่างไรจึงแข็งแรงจัง ชายแก่ในสายตาของชายหนุ่มคนนี้ตอบว่า ผมไม่ได้ทำอะไรหรอกเอาแต่กินเหล้าสูบบุหรี่เที่ยวผับเที่ยวบาร์ไปวัน ๆ พรุ่งนี้จะไปฉลองอายุครบ 30 คุณจะไปกับผมไหมล่ะ บางคนมีเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยแทรกเข้ามา เรื่องของอารมณ์ ทำใจให้ผ่องแผ้วอยู่เสมอ มองโลกในแง่ดี ไม่ต้องครุ่นคิดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เขาบอกว่า มีเรื่องราวมากมายผ่านเข้ามาในชีวิต บางคนจดจำแต่อดีตที่แสนขมขื่น จำอยู่นั่นแหละ พลอยทำให้มีแต่เศร้าหมอง แต่มีบางคนบอกว่า บางเรื่องลืมไปหมดแล้ว บางเรื่องจำได้บ้างจำไม่ได้บ้าง เรื่องใดที่ควรจำให้จำ เรื่องใดที่ควรลืมให้ลืม แต่จะจำหรือจะลืมชั่งหัวมันเถอะ คิดแบบนี้อาจสบายใจขึ้นมาบ้างก็ได้ คงไม่มีใครที่อยากตายเร็ว หรือตายด้วยโรคภัยรุมเร้า ทุกคนอยากมีอายุยืน และอยากอยู่อย่างคนแข็งแรงจนแก่เฒ่า คงต้องเรียนรู้และยอมรับ ที่จะปฏิบัติตนในรูปแบบใหม่แล้ว 661109 อยากรวยต้องมีวิสัยทัศน์
661109 อยากรวยต้องมีวิสัยทัศน์
การมีวิสัยทัศน์ทำให้มองเห็นหรือคาดการณ์สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ สิ่งที่คิด สิ่งที่เห็นหรือรับรู้นี้จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ในอนาคต ซึ่งคงต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ผนวกกับการรวมสิ่งที่มีอยู่เข้าด้วยกัน การทำมาค้าขายจากแต่เดิมตั้งขายในร้านค้า ห้องแถว ขยับมาลงทุนเปิดร้านขายในห้างสรรพสินค้า ต่อมาขยับขยายเปิดสาขาขายไปทุกหนทุกแห่งที่มีผู้ต้องการลงทุนร่วมค้า ตอนนี้เริ่มขายบนโลกออนไลน์เพื่อขายให้คนทั่วไปที่เข้ามาเว็บของเรา ทำให้ลูกค้ามีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว บางคนขายโดยหาตัวแทนขายแล้วเพิ่มยอดขายไปเรื่อย ๆ ตามลำดับ หาเทคนิคเพิ่มกำไรให้กับตัวแทนขายในรุ่นแรก ๆ โดยผ่านยอดขายของตัวแทนรุ่นต่อมา การมองเห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นและเรียนรู้ร่วมไปกับคนรุ่นใหม่ทำให้เกิดการปรับตัวในทางที่ดี ในขณะที่บางกิจการต้องปิดตัวลงไปเพราะเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เข้ามาแทนที่ เช่น การขายฟิล์มถ่ายรูป การขายกล้องที่ใช้ฟิล์ม เพราะมีกล้องดิจิตอล ต่อไปแม้แต่กล้องดิจิตอลอาจต้องเปลี่ยนรูปแบบเพราะมือถือที่ทำได้เกือบทุกอย่างที่คนรุ่นใหม่ต้องการมาแทนที่อีกเช่นกัน การเขียนหนังสือเพื่อให้ติดตลาดยอดหนังสือขายดี คงต้องสำรวจแนวโน้มของตลาดหนังสือ ว่าคนรุ่นใหม่ชอบความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย อยากรวยในข้ามคืน เห็นเงินในพริบตา ไม่ใช่ต้องมาอดมื้อกินมื้อเพื่อเก็บออมเงินก้อนแรกไปลงทุน ยอมเสี่ยงดีกว่ายอมอด แม้แต่การตั้งชื่อหนังสือต้องให้เตะตาสะดุดใจเมื่อแรกเห็น ชื่อออกจะหวือหวา และใช้คำกริยามากกว่าคำนามที่ราบเรียบแบบสมัยก่อน การคิดขั้นสูง
การคิดขั้นสูง
ทักษะการคิดขั้นสูงจะประกอบด้วยการคิดขั้นพื้นฐานหลาย ๆ แบบมาผสมผสานกัน ก่อให้เกิดแนวคิดหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยจะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มคิดเป็นระบบ ได้แก่ การนิยามเพื่อกำหนดให้แน่ชัดก่อน การผสม ผสานรวมหลายเรื่องราวให้เกิดสิ่งใหม่ การจัดระบบช่วยให้สิ่งใหญ่เหลือเล็กลง การกำหนดเกณฑ์ทำให้สะดวกต่อการจัดการ การจัดโครงสร้างช่วยทำให้ทุกอย่างเป็นระเบียบ การหาแบบแผนทำให้เกิดหลักที่จะยึด การทำนายจะคาดการณ์แนวโน้มของอนาคต กลุ่มพิสูจน์ข้อเท็จจริง ได้แก่ การหาความเชื่อพื้นฐานเพื่อรู้ที่มาที่ไป การตั้งสมมติฐานเพื่อคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้น การพิสูจน์ให้รู้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น การทดสอบเพื่อยืนยันว่าสิ่งนี้ใช่แน่ การประเมินเพื่อวินิจฉัยตัดสินคุณค่า กลุ่มสร้างสรรค์งานใหม่ ได้แก่ การวิเคราะห์เพื่อหาต้นตอสาเหตุที่สำคัญ การสังเคราะห์จะสร้างสิ่งใหม่จากสิ่งที่มีอยู่ การประยุกต์นำสิ่งที่รู้มาปรับใช้ในสิ่งใหม่ การวิพากษ์วิจารณ์อย่างมีวิจารณญาณ การสร้างทำให้เกิดสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม การสร้างสรรค์จะสร้างสวรรค์ได้จริง การคิดนอกกรอบจะเพิ่มมุมมองให้หลากหลาย การคิดขั้นพื้นฐาน
การคิดขั้นพื้นฐาน
การคิดโดยใช้ประสาทสัมผัส เริ่มต้นด้วยการรู้จักสังเกตสิ่งที่อยู่รอบตัวซึ่งเป็นพื้นฐานขั้นต้นในการเริ่มต้นทำงานของสมองในการคิด ต่อจากนั้นการระบุสิ่งที่สังเกตเห็นได้จะทำให้เกิดภาพที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมชัดเจน การสำรวจจะช่วยขยายขอบเขตของสิ่งที่รู้ให้กว้างไกลยิ่งขึ้น ช่วยสร้างวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ ที่เป็นไปได้แต่เพิ่มทางเลือกให้หลากหลาย การจำแนกจะแยกแยะให้เหลือแต่สิ่งที่ต้องการ แต่บางประเด็นยังหาข้อสรุปไม่ได้จึงต้องตั้งคำถามเพื่อให้ได้คำตอบที่ต้องการและตรงประเด็นที่สุด ถ้าตั้งคำถามไม่เป็นอาจได้คำตอบที่ไม่ตรงกับสิ่งที่ต้องการ คำตอบที่ใช่จึงมาจากคำถามที่ชอบเท่านั้น การจัดลำดับทำให้เห็นสิ่งสำคัญมากน้อยต่างกัน ความจำเป็นเร่งด่วนขนาดไหน การรวบรวมข้อมูลจะทำให้เห็นภาพรวมของทุกสิ่งที่ต้องจัดการสะสางเพื่อให้ได้คำตอบในสิ่งที่ต้องการ แต่เมื่อมีสิ่งที่ต้องเลือก การเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละตัวเลือกแล้วพิจารณาอย่างถ้วนถี่จะทำให้ได้ตัวเลือกที่ดีที่สุด การจัดหมวดหมู่ทำให้เห็นภาพทั้งหมดจากกองใหญ่ให้เข้ากลุ่มเข้าพวกทำให้จัดระบบระเบียบง่ายขึ้น เมื่อภาพที่เห็นจากประสาทสัมผัสทั้งห้าสำเร็จเรียบร้อยลงด้วยดีแล้วต่อไปจะใช้การคิดโดยใช้ความสามารถในการอ่านเขียน การคิดงานใหม่ด้วยการค้นคว้าข้อมูลจำเป็นต้องให้เกียรติผู้คิดผู้เขียนคนเดิม การอ้างอิงนอกจากช่วยให้รู้แหล่งที่มาแล้วยังเป็นการแสดงถึงมารยาททางสังคมของนักวิชาการด้วย และควรจะรอบรู้ในศิลปะวิทยาการต่าง ๆ เท่าที่สติปัญญาจะนำพาไปเพื่อขยายขอบเขตแห่งความคิดให้กว้างไกล ซึ่งจะต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงนัยแห่งความหมายด้วยการตีความและแปลความอย่างถูกต้องเพื่อให้เข้าใจตรงกับสิ่งที่ควรเป็น การเขียนที่ใช้ความสามารถในการร้อยรัดเชื่อมโยงสิ่งที่สัมพันธ์กันให้เป็นหนึ่งเดียว กลมกลืนกันไปจะทำให้ผลงานน่าอ่านและชวนติดตาม ด้วยการแต่งแต้มเติมสีสันให้มีรายละเอียดที่แปลกแตกต่างอย่างมีเสน่ห์ในลีลาเด่นเฉพาะตน แต่ทุกสิ่งนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของการใช้เหตุผลที่ถูกต้อง ความสามารถอีกประการของการคิดเป็น คือ การสรุปความในทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาให้ง่ายต่อการจดจำและก้าวข้ามผ่านความคิดเดิมไปยังความคิดใหม่ให้ได้ด้วยการรู้จักการสรุปย่อสิ่งที่เรียนรู้ทำให้จดจำทุกอย่างได้ในเวลาอันรวดเร็ว สุดท้ายและท้ายสุดของการฝึกคิดขั้นพื้นฐานแบบง่าย ๆ คือ ต้องรู้จักการสรุปอ้างอิงเพื่อช่วยให้เกิดการคาดคะเนในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่คาดว่าน่าจะเกิดอย่างมีหลักการและข้อมูลรองรับ เท่านี้คงไม่เกินความสามารถในการเริ่มฝึกคิดก่อนจะเป็นนักคิดตัวยงต่อไป |
สมาชิกหมายเลข 4665919
![]() ![]() ![]() ![]() ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |