All Blog
ความคิดของผู้แพ้
ความคิดของผู้แพ้ คือ ยอมรับโชคชะตาโดยไม่คิดต่อสู้ดิ้นรน อาจเป็นเพราะเคยได้รับการสั่งสอนมาผิด ๆ อยู่ในแวดวงที่คอยด่าทอหรือประนามหยามเหยียดมาตลอดชีวิตว่า ไม่ได้เรื่อง ไม่เอาไหนมาแต่ไหนแต่ไร เขาจึงฝังหัวว่า คนอื่นดีเลิศ ส่วนตนนั้นมันกระจอกงอกง่อย
         บางคนได้แต่โทษโชควาสนาแต่ชาติปางก่อนว่าทำบุญมาน้อย จึงเกิดมาอาภัพอับโชคเช่นนี้ ไม่ว่าทำอะไรไม่เคยสำเร็จสักอย่าง มีแต่หายนะเท่านั้นที่จรมาเยี่ยมเยือนตลอดเวลา
         เรื่องของความคิดเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก ความคิดสามารถกำหนดพฤติกรรมและอนาคตได้ เขาบอกว่า ใครคิดเช่นไรย่อมได้เช่นนั้น เมื่อรู้เช่นนี้ ทำไม เขาจึงไม่คิดแต่ทางที่ดีและทำในสิ่งที่จะให้มีแต่ความสุขเล่า
         บางคนไม่รู้สักนิดว่า คนเราสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีคิดที่เคยชินมานานให้คิดในอีกมุมมองหนึ่งได้ แล้วถ้าเขารู้ล่ะ เขาจะยอมเปลี่ยนแปลงวิธีคิดให้ดีกว่าเดิมได้ไหม
         ถ้าเขารู้ว่า แค่เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตจะกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือได้แบบไม่ยากเย็นอะไรเลย และพฤติกรรมที่แย่ ๆ ที่เคยทำเป็นกิจวัตรจะแปรเปลี่ยนตามไปด้วย ถ้าเขารู้เช่นนี้ เขาจะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตนเองเลยกระนั้นหรือ สงสัยนัก
 



Create Date : 17 มีนาคม 2566
Last Update : 17 มีนาคม 2566 14:08:25 น.
Counter : 233 Pageviews.

0 comment
คิดอย่างผู่ชนะ
            ทุกคนอยากเป็นผู้ชนะ แล้วชัยชนะที่ยิ่งใหญ่คือการชนะตนเอง วิธีที่จะเป็นผู้ชนะที่แท้จริงไม่ได้ยากเย็น ถ้ารู้จักปรับวิธีคิด เปลี่ยนวิธีทำ ใช้ชีวิตอย่างมีหลักการ มอบสิ่งดีงามใส่สมอง ยืนยันว่า ตนคือผู้ชนะ  ไม่ใช่ผู้แพ้ แล้วชีวิตต่อไปที่เหลือจะมีแต่ความสุขและความเจริญก้าวหน้า ไม่หงอยเหงาเศร้าซึมอีกต่อไป
 



Create Date : 17 มีนาคม 2566
Last Update : 17 มีนาคม 2566 14:04:32 น.
Counter : 502 Pageviews.

0 comment
หลงเวลาดีกว่าหลงอำนาจ
๓. หลงเวลาดีกว่าหลงอำนาจ
            เส้นแบ่งเวลากรีนนิชจะเป็นตัวกำหนดเวลาโลก ว่าประเทศใดควรมีเวลาใด สิ่งที่กำหนดคือแสงอาทิตย์ในยามเช้า ใช้เวลาเดียวกันกำหนดเวลามาตรฐานโลก เพื่อให้ผู้คนได้รู้ว่า ณ จุดเวลาหนึ่ง แต่ละที่จะเป็นเวลาใด  ไม่มีทางเป็นไปได้ที่ทุกแห่งจะมีเวลาเดียวกัน เช่นกันกับไม่มีทางที่ทุกคนจะได้รับอะไรจากโลกเท่าเทียมกัน
เมื่อเดินทางไกล ต้องปรับตัวให้เข้ากับเวลาใหม่แต่ละที่ให้ได้ เพราะแต่ละแห่งจะใช้เวลาท้องถิ่นแตกต่างกัน การเดินทางจากไทยไปยังอเมริกาเป็นการเดินทางย้อนเวลา เช่น บินจากไทย ๑๗.๓๐ น. ตอนเย็นวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๔๙  จะถึงลอสแอลเจลิสหรือที่คนไทยชอบเรียกย่อว่าแอลเอ เวลา ๒๐.๓๐ น. วันที่ ๓ เมษายน เช่นกัน ถ้านับจำนวนชั่วโมงที่เพิ่มขึ้นจะได้เพียง ๓ ชั่วโมงเท่านั้น แต่ที่จริงถ้าใช้นาฬิกาเรือนเดิมไม่เปลี่ยนตามเวลาท้องถิ่น เราจะรู้ว่าใช้เวลาถึง ๑๗ ชั่วโมง
            คนที่เดินทางด้วยสายการบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก  ออกจากประเทศไทยห้าโมงเย็น ควรจะเป็นเวลากลางคืนท้องฟ้ามืดมิด  แต่นี่ถ้าเปิดหน้าต่างบังแสงดูจะเห็นท้องฟ้าสว่างจ้าตลอดการเดินทาง นั่นคือเราเดินทางตอนกลางวันแทนที่จะเป็นกลางคืน คนไทยรวมทั้งคนต่างชาติอื่นนอนหลับกันเป็นส่วนมากเพราะมันคือเวลานอนของพวกเรา
            พอมาถึงสนามบินลอสแอลเจลิสเป็นเวลา ๒๐.๓๐ น. ทำธุระตรวจคนเข้าเมือง และนั่งรถยนต์มาถึงเมืองซานดิเอโกเวลา ๒๒.๓๐ น. มันคือเวลานอนของเราอีกแล้วหรือ ทั้งที่เรานอนมาตลอดทางเกือบ ๑๗ ชั่วโมง  ปกติคนนอนกันอย่างมากแค่ ๘ ชั่วโมง แต่นี่เรานอนแล้วนอนอีกเพราะไม่รู้จะทำอะไร นอกจากนอนกับกิน พอมาถึงที่ต้องนอนอีกแล้ว แต่ถ้าเราไม่ยอมนอน เราจะปรับตัวเข้ากับเวลาที่นี่ในวันต่อไปไม่ได้  ร่างกายสับสนเพราะหลงเวลา นักเดินทางจึงต้องเก่งในเรื่องปรับร่างกายให้เข้ากับเวลาในท้องถิ่นให้ได้เร็วที่สุด บางคนพอเดินทางกลับไทยหลงเวลากันอีกแล้ว หลายคนใช้เวลาปรับร่างกายให้เข้าที่หลายวัน  การเดินทางไกลจึงต้องเผื่อเวลาให้ร่างกายปรับสมดุลในตัวของมันด้วย 
ความสับสนเรื่องเวลานี้บางทีเป็นอันตรายต่อร่างกายเพียงชั่วครู่ชั่วยาม แต่คนที่หลงยึดติดกับอำนาจ ตำแหน่งหน้าที่ คิดว่ามันคือของจริงที่จะอยู่กับเราชั่วยั้งยืนยงอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต โดยเฉพาะคนที่ผ่านตำแหน่งใหญ่โตมีอำนาจชี้เป็นชี้ตายได้ หลงยึดติดว่ามันคือตัวกู ของกู เหมือนท่านพุทธทาสภิกขุใช้เป็นคำสอน ยึดติดในอำนาจ เกียรติยศที่ได้รับมา พอถึงวันเกษียณอายุราชการ ทำใจยอมรับไม่ได้ คนที่เคยกราบไหว้บูชาเอาของขวัญมาให้ไม่ขาดสายกลับหดหายไป มาเจอหน้าเขาพยายามหลบเลี่ยง บางคนซ้ำร้ายเจอการด่าทอ เหยียดหยามทำให้เจ็บช้ำน้ำใจไม่กล้ากลับไปที่ทำงานเดิมอีกเลย สิ่งที่สำคัญ คือ การปรับตัวให้ได้กับสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรา ต้องตระหนักในความเป็นจริ



Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2566
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2566 9:11:44 น.
Counter : 525 Pageviews.

0 comment
660128 คิด ๆๆ แต่สิ่งดี
660128 คิด ๆๆ แต่สิ่งดี
อย่าคิดสิ่งที่ทำร้ายและทำลายตัวเอง
อย่าคิดซ้ำ ๆ  ซาก ๆ
มีอะไรให้ทำตั้งมากมาย
Ω**********
ไม่มีใครดีกับคนที่ร้ายต่อตน 
ไม่มีใครดีต่อคนที่ไม่มีประโยชน์ร่วมกัน
จึงควรที่จะรู้จักให้และทำดีกับผู้อื่นก่อน
จึงจะได้รับมิตรภาพและน้ำใจจากผู้อื่น
Ω**********
ที่ไหน ๆ ก็ไม่ใช่ของเรา ตำแหน่งใด ๆ ก็ไม่จีรัง
Ω**********
ชีวิตมี 3 อย่าง สุข ทุกข์ เฉย ๆ
เมื่อเกิดอารมณ์ใดให้รู้เท่าทัน
ว่าทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
Ω**********
ของสองสิ่ง  ถ้าไม่เท่ากัน
ต้องน้อยกว่าหรือมากกว่า
ไม่มีใครได้ทุกสิ่งเท่ากันจากทุกคนทุกเรื่อง
จึงไม่ต้องคิดเล็กคิดน้อยให้ปวดหัว
Ω**********
วันพุธที่ 10 มกราคม 2544
อิงเกณฑ์หรืออิงกลุ่ม
เราจะเลือกให้ชีวิตมีมาตรฐานตามเกณฑ์ใด
อิงเกณฑ์หรืออิงกลุ่ม 
            ถ้าเลือกอิงกลุ่ม เราจะทำตามใจพรรคพวก ตามใจคนที่อยู่ด้วย  เราอาจอยู่อย่างเป็นสุขกับคนระดับเดียวกัน แต่ไม่มีวันที่จะก้าวไปสู่สังคมโลก สังคมระดับชนชั้นที่ดีกว่า  เราจะพอใจกับความสุขเล็ก ๆ
น้อย ๆ ที่เพื่อนมีให้แก่กัน พอใจที่จะอยู่ไปวัน ๆ กับสิ่งที่มีอยู่ เพื่อนเฮไหนเฮด้วย  ทำอะไรทำด้วย คุณภาพมาตรฐานชีวิตเทียบในกลุ่มได้ ก็มีความสุข
ถ้าเลือกอิงเกณฑ์   ไม่ว่าเราจะอยู่กับใคร ที่ไหน อย่างไร เกณฑ์
คุณภาพที่จะตัดสินอยู่ที่สิ่งที่ควรทำ อยู่ที่เกณฑ์มาตรฐานของสังคม ไม่ใช่ผู้คนที่อยู่รอบตน  คนอายุรุ่นเดียวกันไปถึงไหนแล้ว คนที่เรียนจบมาเหมือนกันเขาได้ตำแหน่งอะไร เราจะต้องก้าวให้ทัดเทียม เป้าหมายชีวิตอยู่ที่ควรทำอะไร ควรได้อะไร เป้าหมายอาจสูงกว่าผู้คนที่รายล้อมรอบตัว  เราต้องมีชีวิตที่ดีกว่า สูงกว่า สมบูรณ์กว่าคนส่วนมาก ต้องเป็นระดับต้น ๆ  ต้องยกระดับสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมให้สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ  ต้องไม่เอาตัวไปพัวพัน สนิทสนมผูกพันกับใครเป็นพิเศษ  ทำในสิ่งที่คิดว่าควรทำและทำอะไรได้  แม้ว่าอาจต้องใช้ความพยายามมากกว่าใครอีกหลายคน
 



Create Date : 28 มกราคม 2566
Last Update : 28 มกราคม 2566 9:06:48 น.
Counter : 522 Pageviews.

0 comment
660128 ต้องอยู่ให้ได้ทั้งคนดี เลว
660128 must be good, bad.
In society, there are both good people. Bad people We have to live with the good guys. You have
to get through the crises of each stage of your life, adventure with enemies, get beaten by enemies, and get through. We must assume that we are skilled. Increase self-esteem
To teach to be good, but too good can be dangerous, because you can't stand the bad guys. We can't stand the friction of the wicked, as if we were weak. Being too good can make us unhappy, but living with the bad guys by heart is not miserable and not as bad as it is to assume that we are good people.
Choosing to hook up with only good people, seeking perfect people is impossible because everyone has a mix of good and bad. Even ourselves, who are struck by the idea of perfection, sublime sri. Listen to the enemy gossiping about how horrible it is to gossip. That we're so bad? What is done with one intention unexpectedly
morphs into another. So we should have at least one close friend. If it's a friend, the better the big. When talking, it feels fun. If there's some small disagreement. The feeling of having each other strengthens the fight against the wicked.
Who's going to be good, bad, but who's heads it? Don't make enemies unnecessarily because it's going to get worse that we can't take it for granted.



Create Date : 28 มกราคม 2566
Last Update : 28 มกราคม 2566 8:47:35 น.
Counter : 405 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments