อย่ามัวแต่ตั้งความหวัง เริ่มต้นทำสักที
อย่ามัวแต่ตั้งความหวัง เริ่มต้นทำสักที
มีอะไรให้ทำอีกตั้งมากมายในชีวิตนี้ มีอีกหลายสิ่งที่เราเคยคิดว่าควรจะทำ แต่ยังไม่ได้ทำสักครั้ง เราผัดวันประกันพรุ่งด้วยคิดว่า ยังมีเวลาเหลืออีกยาวนานนักในชีวิตนี้ หรือบางคนคิดว่าทำไมต้องทำ เมื่อคนอื่นได้ทำแล้ว มีเหตุผลมากมายที่เราให้แก่ตัวเอง เพียงเพราะว่าเราเกียจคร้าน เหลวไหล | |
หลายคนคิดว่าตนมาถึงจุดหมายปลายทางแห่งชีวิต
มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เพียบพร้อม
จึงไม่มีแรงจูงใจที่จะคิด จะทำสิ่งใหม่ ๆ
ความคิดเหล่านี้จะทำลายพลังที่มีอยู่ในตน
ให้น้อยลง เหือดหายไป หรือหมดไปจากใจของเรา
ถ้าไม่รู้จักที่จะเติมเชื้อเพลิงเพื่อเพิ่มพลังให้แก่ชีวิต
จงลุกขึ้นมาต่อสู้กับความเกียจคร้าน เหลวไหล ให้คิดว่ามีอะไรให้ทำอีกตั้งมากมายในชีวิตนี้ ถ้าไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร ให้หาสิ่งแปลกใหม่ที่ตนไม่เคยทำ ไปเที่ยวในที่ที่ไม่เคยไป อ่านหนังสือเล่มใหม่ ฟังเพลงของคนรุ่นใหม่ หรือหาเรื่องที่จะทำสิ่งใดก็ได้ที่ทำให้ชีวิตดูมีความหมายในสายตาของผู้อื่น หรือไม่ก็คิดว่าตนควรทำสิ่งใดเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินถิ่นเกิดของตัวเอง ชีวิตจะมีความหมายขึ้น และเราจะสนุกกับการมีชีวิตต่อไป
ลงมือทำจริงจังสักที
ความโดดเดี่ยวอ้างว้างช่วยให้ได้คิด
ความโดดเดี่ยวอ้างว้างช่วยให้ได้คิด
บางครั้งเราอาจรู้สึก หงอยเหงา เปล่าเปลี่ยว เดียวดาย แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางหมู่คน แต่บางครั้ง เราอาจรู้สึกสนุกสนาน แม้ว่าจะต้องอยู่ตามลำพัง | คนที่โดดเดี่ยวอ้างว้าง จะรู้สึกเสมือนโหวงเหวง ไม่มีใครสักคนอยู่ภายในจิตใจ จะหงอยเหงา เศร้าสร้อย เปล่าเปลี่ยว มีความรู้สึกลึก ๆ อยู่ในจิตใจว่า ไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียว ที่จะใส่ใจในความรู้สึกของเรา |
เราอยู่กับใครไม่ได้สักคนเชียวหรือ
ความรู้สึกโดดเดี่ยว ขมขื่นว่า ไม่มีใครอยู่เคียงข้าง
เราไม่ต้องการใคร และไม่มีใครต้องการเรา
อาจมีประโยชน์ต่อเราก็ได้ เพียงแต่คิดว่า
มันเป็นช่วงเวลาที่จะทำให้เราได้หยุดคิด
และมีโอกาสแก้ปัญหาที่ทับถมกันมานาน
คิดไตร่ตรองถึงรากเหง้าแห่งปัญหา
เหตุการณ์ต่าง ๆ จะคลายตัวออกมา คล้ายแก้ปมเชือก
จะได้ไม่ต้องฟังคำพูดของคนหลายคน
ไม่ต้องมีอารมณ์ฟุ้งซ่าน ไม่ต้องคิดและตัดสินใจตามคนอื่น
แต่จะมีเวลาตัดสินใจตามความคิดที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเรา
และจะทำให้รู้สึกว่าเราเข้มแข็งพอที่จะอยู่ในโลกนี้ตามลำพัง
เราสามารถอยู่คนเดียวได้ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งและแข็งแกร่ง
หยิบคุณค่าในตัวตนออกมาให้ได้รู้กัน
หยิบคุณค่าในตัวตนออกมาให้ได้รู้กัน
ความดีงามที่อยู่ภายในตน
ความรักต่อเพื่อนมนุษย์
ความจริงใจที่ให้กับคนรอบตัว
สิ่งต่าง ๆ อาจซ่อนเร้นอยู่ภายใน
ไม่เคยรับรู้ ไม่เคยได้นำออกมาใช้
สิ่งที่เป็นตัวตนที่แท้จริง ที่ต้องการค้นหา จะได้จากการมีสมาธิ การค้นหาความจริงภายในตน ค้นหาคุณค่าที่แท้จริงที่มีอยู่ ค้นหาความจริงว่า ตัวเราเกิดมาในโลกใบนี้เพื่ออะไร ศักยภาพที่มีอยู่มีมากน้อยเพียงใด สามารถทำคุณประโยชน์ให้แก่ใครได้บ้าง ให้แก่สังคมได้เพียงไร สามารถฝากฝังผลงานให้แก่คนรุ่นหลังได้หรือไม่
ความสับสนวุ่นวาย ภาระที่ต้องทำงานเป็นประจำทุกวัน อาจทำให้เราไขว้เขวได้ว่า เราต้องทำอะไรบ้าง บางคนใช้ชีวิตในงานแต่ละวันให้หมดไป จนไม่รู้ว่า เรามีคุณค่าในด้านใดบ้าง ได้แต่วุ่นวายกับงานประจำที่ทำให้เหน็ดเหนื่อยมากมาย หารู้ไม่ว่า แท้ที่จริงแล้วเราสามารถทำสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าที่ได้ทำในทุกวันนี้
การค้นหาคุณค่าที่มีอยู่ในตัวเรา และบอกได้ว่าตัวเรามีคุณค่ามากกว่าที่ได้ใช้ไป ถ้าสามารถนำศักยภาพที่มีอยู่ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ คุณค่าที่แท้จริงจะอยู่ที่ตรงนี้ จึงควรที่จะปฏิรูปตนเองเพื่อให้เกิดการค้นหาคุณค่าที่แท้จริงและรังสรรค์ผลงานให้อยู่คู่โลกต่อไป
ปาฏิหาริย์แห่งการคิด สร้างชีวิตใหม่
สิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในใจ เป็นสิ่งที่กำลังครุ่นคิดเพื่อหาคำตอบ เมื่อเริ่มไม่พอใจในวิถีชีวิตที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน อยากให้มีปาฏิหาริย์ที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ใครล่ะจะเป็นผู้ให้คำตอบที่ดีได้ บางคนพึ่งพาหมอดูทำนายทายทักโชคชะตาราศรี อาจเสียเงินทองมากมายเพียงเพื่อให้ได้คำตอบที่ยังค้างคาใจว่า เมื่อไหร่จะได้ดีสักที
มันไม่มีจริงหรอก ที่จะได้อะไรมาง่าย ๆ เช่นนั้น เพียงแค่รอซื้อเวลาเท่านั้นเองเหรอ แล้วจะปล่อยให้เวลาผ่านล่วงเลยไปแบบเปล่า ๆ ปลี้ ๆ ได้อย่างไรกัน
ไม่มีสิ่งใดได้มาฟรี โดยไม่ลงทุน ถ้าแม้นตัวเองยังไม่เคยทำบุญมาก่อน จะไปขอพรจากพระเจ้าคงยากนัก ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่อประสงค์สิ่งใด ควรขวนขวายกระวีกระวาดเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา ด้วยสติปัญญา กำลังความสามารถแห่งตน
ง่าย ๆ ด้วยการมองหามุมมองใหม่ ๆ เปิดโลกทัศน์ส่วนตนให้ขยายกว้างไกลออกไป คนที่เขาผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนและเรียนรู้วิธีปรับปรุงพัฒนาตนจากวิธีการเปลี่ยนมุมมองความคิด ซึ่งจะส่งผลให้พฤติกรรมเปลี่ยนตามไปได้ด้วย
วิชาจิตวิทยาสมัยใหม่ เน้นเรื่องการคิดบวก การมองโลกในแง่ดี ที่จะเสริมเพิ่มพลังให้มีเป้าหมายใหม่ในทิศทางที่พึงปรารถนา มากกว่าจะจมปลักในกรอบแนวคิดที่ทำมาชั่วนาตาปี แล้วไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นมาเลย
สิ่งที่เรียกว่าอิทธิปาฏิหาริย์ หรือความอัศจรรย์ใจ จะเกิดได้แน่นอน เพียงแค่เปลี่ยนความคิด ลองดูสักตั้ง ดีไหม ว่ามันเป็นไปได้จริง
หนังสือเล่มนี้คงจะช่วยให้แง่คิดดี ๆ ในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข สงบจิตใจได้เป็นแน่แท้ อย่างไรก็ตามหวังว่าหนังสือเล่มนี้คงมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย ในการปรับมุมมองและปรับพฤติกรรมให้ไปในทิศทางที่ดีขึ้น อันจะส่งผลให้ชีวิตก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็ว