All Blog
การคิดขั้นสูง
การคิดขั้นสูง
ทักษะการคิดขั้นสูงจะประกอบด้วยการคิดขั้นพื้นฐานหลาย ๆ แบบมาผสมผสานกัน ก่อให้เกิดแนวคิดหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยจะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มคิดเป็นระบบ ได้แก่ การนิยามเพื่อกำหนดให้แน่ชัดก่อน การผสม
ผสานรวมหลายเรื่องราวให้เกิดสิ่งใหม่ การจัดระบบช่วยให้สิ่งใหญ่เหลือเล็กลง การกำหนดเกณฑ์ทำให้สะดวกต่อการจัดการ การจัดโครงสร้างช่วยทำให้ทุกอย่างเป็นระเบียบ การหาแบบแผนทำให้เกิดหลักที่จะยึด การทำนายจะคาดการณ์แนวโน้มของอนาคต
กลุ่มพิสูจน์ข้อเท็จจริง ได้แก่ การหาความเชื่อพื้นฐานเพื่อรู้ที่มาที่ไป
การตั้งสมมติฐานเพื่อคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้น การพิสูจน์ให้รู้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น การทดสอบเพื่อยืนยันว่าสิ่งนี้ใช่แน่ การประเมินเพื่อวินิจฉัยตัดสินคุณค่า
กลุ่มสร้างสรรค์งานใหม่ ได้แก่ การวิเคราะห์เพื่อหาต้นตอสาเหตุที่สำคัญ การสังเคราะห์จะสร้างสิ่งใหม่จากสิ่งที่มีอยู่ การประยุกต์นำสิ่งที่รู้มาปรับใช้ในสิ่งใหม่ การวิพากษ์วิจารณ์อย่างมีวิจารณญาณ การสร้างทำให้เกิดสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม การสร้างสรรค์จะสร้างสวรรค์ได้จริง การคิดนอกกรอบจะเพิ่มมุมมองให้หลากหลาย
 



Create Date : 08 พฤศจิกายน 2566
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2566 14:53:16 น.
Counter : 258 Pageviews.

0 comment
การคิดขั้นพื้นฐาน
การคิดขั้นพื้นฐาน
การคิดโดยใช้ประสาทสัมผัส เริ่มต้นด้วยการรู้จักสังเกตสิ่งที่อยู่รอบตัวซึ่งเป็นพื้นฐานขั้นต้นในการเริ่มต้นทำงานของสมองในการคิด ต่อจากนั้นการระบุสิ่งที่สังเกตเห็นได้จะทำให้เกิดภาพที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมชัดเจน การสำรวจจะช่วยขยายขอบเขตของสิ่งที่รู้ให้กว้างไกลยิ่งขึ้น ช่วยสร้างวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ ที่เป็นไปได้แต่เพิ่มทางเลือกให้หลากหลาย
การจำแนกจะแยกแยะให้เหลือแต่สิ่งที่ต้องการ แต่บางประเด็นยังหาข้อสรุปไม่ได้จึงต้องตั้งคำถามเพื่อให้ได้คำตอบที่ต้องการและตรงประเด็นที่สุด
ถ้าตั้งคำถามไม่เป็นอาจได้คำตอบที่ไม่ตรงกับสิ่งที่ต้องการ คำตอบที่ใช่จึงมาจากคำถามที่ชอบเท่านั้น
การจัดลำดับทำให้เห็นสิ่งสำคัญมากน้อยต่างกัน ความจำเป็นเร่งด่วนขนาดไหน การรวบรวมข้อมูลจะทำให้เห็นภาพรวมของทุกสิ่งที่ต้องจัดการสะสางเพื่อให้ได้คำตอบในสิ่งที่ต้องการ แต่เมื่อมีสิ่งที่ต้องเลือก การเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละตัวเลือกแล้วพิจารณาอย่างถ้วนถี่จะทำให้ได้ตัวเลือกที่ดีที่สุด
การจัดหมวดหมู่ทำให้เห็นภาพทั้งหมดจากกองใหญ่ให้เข้ากลุ่มเข้าพวกทำให้จัดระบบระเบียบง่ายขึ้น เมื่อภาพที่เห็นจากประสาทสัมผัสทั้งห้าสำเร็จเรียบร้อยลงด้วยดีแล้วต่อไปจะใช้การคิดโดยใช้ความสามารถในการอ่านเขียน
การคิดงานใหม่ด้วยการค้นคว้าข้อมูลจำเป็นต้องให้เกียรติผู้คิดผู้เขียนคนเดิม การอ้างอิงนอกจากช่วยให้รู้แหล่งที่มาแล้วยังเป็นการแสดงถึงมารยาททางสังคมของนักวิชาการด้วย และควรจะรอบรู้ในศิลปะวิทยาการต่าง ๆ เท่าที่สติปัญญาจะนำพาไปเพื่อขยายขอบเขตแห่งความคิดให้กว้างไกล ซึ่งจะต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงนัยแห่งความหมายด้วยการตีความและแปลความอย่างถูกต้องเพื่อให้เข้าใจตรงกับสิ่งที่ควรเป็น
การเขียนที่ใช้ความสามารถในการร้อยรัดเชื่อมโยงสิ่งที่สัมพันธ์กันให้เป็นหนึ่งเดียว กลมกลืนกันไปจะทำให้ผลงานน่าอ่านและชวนติดตาม ด้วยการแต่งแต้มเติมสีสันให้มีรายละเอียดที่แปลกแตกต่างอย่างมีเสน่ห์ในลีลาเด่นเฉพาะตน แต่ทุกสิ่งนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของการใช้เหตุผลที่ถูกต้อง
ความสามารถอีกประการของการคิดเป็น คือ การสรุปความในทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาให้ง่ายต่อการจดจำและก้าวข้ามผ่านความคิดเดิมไปยังความคิดใหม่ให้ได้ด้วยการรู้จักการสรุปย่อสิ่งที่เรียนรู้ทำให้จดจำทุกอย่างได้ในเวลาอันรวดเร็ว
สุดท้ายและท้ายสุดของการฝึกคิดขั้นพื้นฐานแบบง่าย ๆ คือ ต้องรู้จักการสรุปอ้างอิงเพื่อช่วยให้เกิดการคาดคะเนในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่คาดว่าน่าจะเกิดอย่างมีหลักการและข้อมูลรองรับ เท่านี้คงไม่เกินความสามารถในการเริ่มฝึกคิดก่อนจะเป็นนักคิดตัวยงต่อไป
 



Create Date : 08 พฤศจิกายน 2566
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2566 14:45:29 น.
Counter : 220 Pageviews.

0 comment
คิดแบบคนทั่วไป หรือคิดแบบคนฉลาด

คิดแบบคนทั่วไป หรือคิดแบบคนฉลาด
เมื่อการคิดเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างบุคคล ทำให้คนฉลาดก็ได้ถ้ารู้จักใช้สมองในการคิด กับทำให้โง่ก็ได้เพราะไม่เคยใช้งานสมองเลยปล่อยให้อยู่สบาย ๆ โดยไม่ออกกำลังสมองบ้าง
การคิดเป็นกระบวนการทางสมองที่ทุกคนสร้างขึ้นมาได้ มันน่าสนใจที่จะทำให้ตัวเราหรือคนที่เรารู้จักมีความสามารถในการคิดมากขึ้น
การคิดมีระดับที่ต่างกัน บางคนแบ่งเป็น การคิดขั้นพื้นฐานและการคิดขั้นสูง การคิดขั้นพื้นฐานเป็นการคิดง่าย ๆ โดด ๆ ไม่ได้ผสมผสานหลักการคิดหลายหลักเข้าด้วยกัน เป็นการคิดโดยใช้ประสาทสัมผัสและการคิดโดยใช้การอ่านเขียน
การคิดขั้นสูงจะสร้างความคิดให้เฉียบคมด้วยการคิดอย่างเฉียบแหลม
ในที่นี้จะแบ่งกลุ่มความคิดขั้นสูงเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคิดเป็นระบบ กลุ่มพิสูจน์ข้อเท็จจริง และกลุ่มสร้างสรรค์งานใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องผ่านการคิดแบบง่าย ๆ และนำหลักการคิดแบบง่าย ๆ นี้มาผสมผสานกันจนเกิดการคิดในรูปใหม่ที่ลึกซึ้งมากกว่าเดิมและอาจจะมากกว่าคนอื่นอีกมากมาย ยิ่งถ้าฝึกปรืออย่างสม่ำเสมอจะกลายเป็นสุดยอดนักคิดได้อย่างไม่ยากเย็นอะไรนัก
 



Create Date : 08 พฤศจิกายน 2566
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2566 14:39:27 น.
Counter : 208 Pageviews.

0 comment
การคิดสำคัญกว่าการรู้
การคิดสำคัญกว่าการรู้
โดยธรรมดาสามัญสำนึก ทุกผู้คนรู้ว่าการคิดเป็นสิ่งปกติที่เกิดขึ้นในหัว
แต่ทำไม บางคนคิดออกคิดได้ บางคนคิดไม่ได้คิดไม่ออก
การคิดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ระดับความสามารถของการคิดที่เกิดขึ้นย่อมไม่เท่ากัน
ตัวอย่าง เรื่องของร่างกาย ใครออกกำลังกายมากจะแข็งแรงมาก
คนที่ใช้สมองมากจึงฉลาดมากได้เช่นกัน
การคิดทำให้ทำในสิ่งที่ดีมากกว่าคนอื่น ๆ ได้ จริงหรือไม่
บางคนตั้งข้อสงสัย บอกคนจบเกียรตินิยมทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง เพราะคนนั้นแค่รู้เท่าที่ครูอยากให้รู้ต่างหาก เขาได้คะแนนดีเพราะรู้ว่าครูต้องการคำตอบเช่นไร
ในสังคมที่สลับซับซ้อนและมีการแข่งขันสูงมาก การคิดได้มากกว่าคนอื่นเท่ากับก้าวไปได้ไกลกว่าอย่างน้อย 1 ก้าว
ถ้าไม่ชอบคิด หรือคิดไม่เป็นเท่ากับถอยหลังไปอีก 1 ก้าว
ทำไปทำมายิ่งเพิ่มจำนวนก้าวที่ห่างกันมากยิ่งขึ้น เพราะคนก้าวไปข้างหน้าวันละก้าว กับคนถอยหลังวันละก้าว จะเป็นอย่างไร
การคิดเป็นกระบวนการลึกลับที่แอบซ่อนอยู่ภายในจิตใจและสมองของคนเรา ทว่ามันกลับมีบทบาทสำคัญต่อการเรียนรู้
จะรู้ได้อย่างไรว่า ใครเป็นคนที่มีความคิด
ถึงแม้ความคิดเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ทว่ามันสามารถโผล่หน้ามาให้เห็นได้ด้วยพฤติกรรม การแสดงออกและการกระทำ
หลายครั้งที่เราแอบค่อนคนอื่นในใจว่า ทำอะไรโง่ ๆ ไม่รู้จักคิด แสดงว่า เรารู้ว่าคนคิดเป็นกับคนไม่คิดแตกต่างกัน
โดยทั่วไปคนเราจะคิดใน 2 รูปแบบ คือ
คิดเฉพาะในสิ่งที่เคยคิดและเคยรับรู้มาเท่านั้น ไม่เปิดใจกว้างยอมรับสิ่งใหม่ ๆ
คิดในสิ่งที่ผ่านเข้ามาใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเคยรู้จักมักคุ้นหรือไม่ก็ตาม ยินดีที่จะรับเข้ามาในสมองแล้วไตร่ตรองว่าจะนำมันมาใช้ได้อย่างไร เรียกว่าเปิดใจกว้างยอมรับสิ่งใหม่ ๆ
แล้วเราคิดแบบใดมากกว่ากัน
ผู้ที่คิดได้คิดเป็นจะแสดงออกด้วยการพูดการเขียน การใช้สัญลักษณ์ ท่าทาง ภาษาพูด เพื่อสื่อสารให้บุคคลอื่นได้รับรู้ความรู้สึกนึกคิดของตน
คนที่พูดออกมาทื่อ ๆ โผงผาง ไม่ขัดเกลาสำนวนให้ผู้ฟังรู้สึกดี แสดงว่าขาดความสามารถในการคิดด้านการใช้ภาษา
นักคิดนักเขียนนักพูดจะรู้จักเลือกสรรการใช้ภาษาสละสลวยในการแสดงความคิดเห็น
คนที่เรียนวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ได้ดีเป็นเพราะเขาสามารถในการคิดด้านสัญลักษณ์ การให้เหตุผล
ด้วยเหตุนี้จึงมีบางคนบอกว่าคนเก่งอาจจำแนกได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเก่งด้านใดนับเป็นคนเก่งได้ทั้งสิ้น และคนเก่งเหล่านี้ต่างเป็นคนที่มีความคิดในแต่ละด้านแต่ละแบบขึ้นอยู่กับความถนัดที่แต่ละคนมี
ในขณะที่คิด จะเกิดภาพพจน์ในการคิด เกิดภาษาและสัญลักษณ์ที่จะใช้เพื่ออธิบายสิ่งที่กำลังคิดให้ผู้อื่นเข้าใจ ภาพพจน์ในการคิดอาจเป็นรูปภาพในใจที่แสดงถึงวัตถุสิ่งของที่เป็นรูปธรรมและเป็นประสบการณ์ที่เคยรับรู้ในรูปของสิ่งที่เป็นนามธรรม
เรื่องของการคิด บางคนชอบคิดแต่ไม่ชอบทำ บางคนชอบคิดและทำในสิ่งที่คิด บางคนคิดแต่ไม่ได้นำสิ่งที่คิดมาใช้ให้เกิดประโยชน์ คิดเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย ๆ พอนานวันเข้าลืมในสิ่งคิดไปแล้ว บางคนพอคิดได้นึกออกจะรีบจดบันทึกทันทีในรูปของภาษา สัญลักษณ์ ภาพวาดเพื่อเตือนความจำ
คนที่กำลังหมกมุ่นครุ่นคิดถึงเรื่องใดเรื่องหนึ่งและต้องการค้นหาคำตอบ อาจไม่ได้คำตอบในทันทีทันใด ต่อเมื่อสมองปลอดโปร่งโล่งอุรา คำตอบจะพรั่งพรูออกมาในทันทีและเขาจะรีบจดบันทึกคำตอบนั้นไว้ในทันใดเช่นกัน
บางคนชอบทำโดยไม่คิด บางคนไม่คิดและไม่ทำ ประเภทไหนจะแย่ที่สุด ผู้บริหารบางคนแอบบ่นในใจที่มีลูกน้องชอบทำจังเลยแต่สิ่งที่ทำล้วน
แล้วแต่ก่อให้เกิดปัญหาที่ต้องตามล้างตามเช็ดอยู่ร่ำไป ครั้นจะห้ามปรามจะยิ่งสร้างความร้าวฉานมากขึ้น
ลูกน้องบางคนเป็นพวกเช้าชามเย็นชาม วัน ๆ ไม่ต้องทำอะไรให้มากความ แค่รับผิดชอบกิจวัตรประจำวันให้เรียบร้อยเป็นอันใช้ได้ ไม่ว่าประเภทไหนก็ตาม คำตอบคงจะชัดเจนอยู่แล้วในใจไม่ต้องพูดให้มากความ
คนฉลาดคือคนคิดเป็น
คนคิดเป็นคือคนที่รู้วิธีคิด
ทำอย่างไรจึงจะรู้วิธีคิด
ทำอย่างไรจึงจะคิดเป็น
ต้องเรียนรู้วิธีคิด
ต้องฝึกทักษะการคิด
 



Create Date : 08 พฤศจิกายน 2566
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2566 9:44:08 น.
Counter : 249 Pageviews.

0 comment
อยากก้าวไปยืนแถวหน้า ต้องคิดอย่างเฉียบคม

อยากก้าวไปยืนแถวหน้า ต้องคิดอย่างเฉียบคม
 
โลกที่มีการเปลี่ยนแปลง รูปแบบการเรียนรู้เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
แล้วโลกที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็วมากล่ะ เช่น ยุคที่ IT AI เข้ามาครองเมือง
มันจะเกิดอะไรขึ้น
ไม่ว่าจะก้าวกระโดดมากเพียงใด
คนฉลาดจะกุมชะตาบ้านเมืองเสมอ
สิ่งที่ทำให้คนฉลาดปราดเปรื่องเหนือใคร
คือใช้วิธีคิดขั้นสูง และนำมาสร้างสรรค์ได้
 
สมัยตักศิลาที่ใครอยากเรียนรู้วิชาใดต้องมาที่นี่เท่านั้น กลายเป็นใครอยากรู้อะไร รู้ได้ทุกที่ทุกเวลา มหัศจรรย์ไหมล่ะกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
เด็กรุ่นใหม่อาจจะไม่เคยได้ยินชื่อตักศิลาซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย
ตักศิลาเป็นมหาวิทยาลัยและเป็นศูนย์กลางของศิลปวิชาการ
ครูจะเลือกรับเฉพาะลูกศิษย์ที่ตนพึงพอใจเท่านั้น
ดีจัง ถ้าครูสมัยนี้มีสิทธิ์เลือกได้เช่นนี้ ทำให้กว่าจะได้เรียนรู้ ลูกศิษย์ต้องทำตัวให้ครูพึงพอใจมาก ๆ และจะรู้เฉพาะที่ครูอยากบอกอยากสอนเท่านั้น ครูจึงเป็นแหล่งความรู้ที่ดีที่สุด
เมื่อหนังสือเข้ามามีบทบาท ผู้ที่อ่านมากย่อมรู้มากถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าห้องเรียนมากนัก
เมื่อเทคโนโลยีทันสมัย ผู้คนสามารถไขว่คว้าหาความรู้ได้ในทุกที่ทุกเวลาแล้ว ความรู้กลายเป็นสิ่งหาง่ายยิ่งกว่าไปหาซื้ออาหารตามตลาดสดเสียอีก เพราะตลาดสดหายากและอยู่ไกล ส่วนปลายนิ้วแค่กดหา จะพรั่งพรูตามมาเป็นชุด ๆ ทีเดียว แต่ต้องเสียเงินเพื่อหาซื้อเครื่องที่ว่านี้ให้ได้เสียก่อนนะ เด็กรุ่นใหม่ร้องหาและส่วนใหญ่พ่อแม่ที่พอมีเงินจำต้องซื้อหาให้เกือบทุกคน
หากการรู้มากทำให้คนฉลาดได้แล้วไซร้ โลกนี้คงมีแต่คนฉลาด เดินไปที่ไหนมีแต่คนเก่งคนรู้เดินขวักไขว่เต็มถนนไปหมด ถามอะไรรู้ทุกเรื่องเพราะใช้ปลายนิ้วสัมผัส ที่จริงอยากเรียกว่าระบบลูบไล้ เพราะอาการที่ทำน่าจะลูบไล้มากกว่าสัมผัส แต่หลายคนร้องยี้คิดได้อย่างไรกันนี่ ฟังแล้วมันจั๊กจี้หัวใจพิกล
เมื่อมีสิ่งที่รู้ทุกเรื่องได้ทุกนาที แล้วให้คำตอบได้ทันที แทนที่จะไปห้องสมุด
ใครจะเป็นคนเก่ง คนที่รู้มาก คนที่ค้นหาคำตอบได้ทันที กระนั้นรึ
รู้ กับ คิด ต่างกันที่ตรงไหน
คนที่คิดได้ กับ คนที่รู้มาก ต่างกันหรือไม่
คนที่คิดเป็นคิดได้น่าจะเก่งกว่าคนที่แค่รู้หรือไม่
คนที่คิดได้มากกว่าคนอื่น คิดเป็น จะเพียงพอไหม
ถ้าอยากมีโอกาสไปยืนอยู่แถวหน้าอย่างสง่างามและยาวนาน คงต้องสร้างความคิดให้เฉียบคมและฉียบแหลมมากกว่าคนอื่น
 



Create Date : 08 พฤศจิกายน 2566
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2566 9:15:58 น.
Counter : 293 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments