ล้มแล้วไม่ลุกคงจมปลักอยู่เช่นนั้น
คนที่เคยล้มเหลว ผิดพลาดมาแล้วจมปลักอยู่กับอดีตที่แสนขมขื่นโดยไม่ยอมเรียนรู้จากความผิดพลาด ใช้ประโยชน์จากมันให้เป็นบทเรียนสอนใจ ติดยึดกับภาพความทรงจำเก่า ๆ ไม่เหลียวมองสิ่งรอบตนว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด ไม่ยอมอภัยให้ใครแม้แต่กับตนเอง จะพบแต่ความชอกช้ำระกำใจ มันช่วยไม่ได้จริงๆ ถ้าไม่เปลี่ยนวิธีคิด
การนั่งมองภาพเก่า ๆ แล้วโหยหากับอดีตที่เคยรุ่งโรจน์ แต่ปัจจุบันหามีไม่ แล้วไม่เพียรพยายามที่จะสร้างมันขึ้นมาใหม่อีกรอบ มองแต่ความสุขครั้งก่อน ไม่แสวงหาความสุขใหม่ ๆ ไม่กล้าเผชิญหน้าและยอมรับความจริงที่เข้ามา ปิดล้อมตัวเองด้วยกรงแห่งความคิดที่ซ้ำซาก ความคิดที่ทำร้ายและทำลายตนเองด้วยเรื่องที่เคยผิดพลาดมาแล้วแต่ครั้งเก่าก่อน
ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง
ยอมเจ็บปวดเพียงเล็กน้อย
ที่จะกรีดแผลเพื่อเอาเสี้ยนออก
จะได้ไม่ต้องเจ็บแปลบๆ ไปอีกนาน
จงกล้าที่จะเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ต่าง ๆ
ที่จะเข้ามาทุกรูปแบบ ทำใจให้พร้อม
ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย
ทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก
แก้ปัญหาทีละเปลาะ
ลืมอดีต แต่จงอยู่กับปัจจุบัน
ที่นี่และเดี๋ยวนี้ เท่านั้น
แล้วทุกเรื่องคงง่ายดายเกินคาด
เอาเสี้ยนออกได้ จะไม่เจ็บอีก
ผิดเป็นครูคือผิดหนึ่งได้แต่ไม่ผิดสอง
ผิดเป็นครูคือผิดหนึ่งได้แต่ไม่ผิดสอง
ไม่มีใคร
ไม่เคยทำผิด
แต่ความผิดที่ได้ทำในครั้งนี้
จะต้องเป็นบทเรียน
สอนใจในครั้งต่อไป
เกิดมาชาติหนึ่ง
ต้องผ่านร้อนผ่านหนาว
มีทั้งที่ทำผิดโดยเจตนา
และทำผิดโดยพลั้งเผลอ
หรือด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เมื่อทำผิดครั้งแรก จะรู้สึกหวาดหวั่น ไม่รู้ว่าจะเกิดผลอะไรตามมา ไม่รู้ว่าจะโดนลงโทษมากน้อยเพียงใด จะโดนจับได้หรือไม่ หรือจะเกิดเหตุร้ายใดแก่ตน
เมื่อทำผิดซ้ำสอง ความรู้สึกหวาดหวั่นจะลดลง ความหวาดกลัวจะหายไป เมื่อผิดซ้ำซากจะเคยชิน ไม่รู้สึกรู้สา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ทำไปเป็นความผิด
คนที่ทำผิดแล้วปล่อยให้ใจด้านจนชาชินไปกับสิ่งที่ตนทำผิดลงไป กลายเป็นความเคยชินจะไม่มีวันประสบความสำเร็จและก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำ เขาควรเรียนรู้ที่จะนำความผิดมาเป็นครู เป็นบทเรียนที่มีคุณค่า เพื่อเตือนใจว่าเขาไม่ควรทำผิดอีกต่างหาก
การสำนึกรู้ว่า สิ่งที่ทำไป ไม่ว่าเจตนาหรือไม่นั้น กลายเป็นสิ่งที่ผิดพลาด ไม่ควรกระทำ เกิดผลเสียหายร้ายแรงทั้งต่อตนและผู้อื่น บางครั้งยากแก่การแก้ไข สิ่งที่เราควรทำต่อไป คือ คิดว่า ผิดเป็นครู จะไม่ทำซ้ำอีก ไม่ว่าจะมีเหตุจำเป็นใด ๆ ที่ต้องทำ ก็จะแข็งขืน ไม่ยอมทำอีกต่อไป
ผิดซ้ำผิดซาก น่าเบื่อตาย
อย่างกให้มากเกินจนเอาไปไม่ได้
อย่างกให้มากเกินจนเอาไปไม่ได้
การยึดป้อมปราการไว้แต่เพียงผู้เดียว ไม่ยอมแบ่งปันให้ผู้อื่นได้ครอบครองหรือร่วมอาศัยด้วย ประโยชน์ที่จะได้รับมันจะยั่งยืนเพียงใด
ความละโมบ โลภมากที่คิดจะครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างไว้แต่เพียงผู้เดียว โดยไม่ยอมปล่อยวาง ละวางเสียบ้าง ไม่คิดจะแบ่งปันผลประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นเท่าที่สิทธิของเขาพึงได้รับ เอาแต่กอบโกยเข้าหาตัว ทั้งที่ไม่ใช่สิทธิของตน แต่ใช้วิธีการที่สกปรก ยักยอกเอามาเป็นของตนโดยไม่ชอบธรรม จะเกิดประโยชน์อันใดเล่าเพราะสิ่งใดที่ได้มาโดยไม่ถูกต้อง มันย่อมหายไปในที่สุด
ถ้าสามารถกอบโกยเอาสมบัติพัสถานทั้งหลายที่ปรารถนามาเป็นของตนได้จริง สั่งสมไว้ติดตัวมากมาย เมื่อตายไปจะเอาติดตัวไปได้หรือไม่ สุดท้ายต้องจำใจทิ้งไว้ให้คนอื่นครอบครองต่อไปอยู่ดี
จงรู้จักที่จะแบ่งปันสิทธิอันชอบธรรม
ผลประโยชน์ที่ผู้อื่นควรได้รับ
ให้แก่เขา อย่างที่เขาควรจะได้รับ
อย่าโลภและใช้วิธีสกปรก
เพื่อที่จะเอาส่วนของคนอื่นมาเป็นของตน
แบ่งปันกันคนละนิด ดีแน่
อย่ามัวแต่ตั้งความหวัง เริ่มต้นทำสักที
อย่ามัวแต่ตั้งความหวัง เริ่มต้นทำสักที
มีอะไรให้ทำอีกตั้งมากมายในชีวิตนี้ มีอีกหลายสิ่งที่เราเคยคิดว่าควรจะทำ แต่ยังไม่ได้ทำสักครั้ง เราผัดวันประกันพรุ่งด้วยคิดว่า ยังมีเวลาเหลืออีกยาวนานนักในชีวิตนี้ หรือบางคนคิดว่าทำไมต้องทำ เมื่อคนอื่นได้ทำแล้ว มีเหตุผลมากมายที่เราให้แก่ตัวเอง เพียงเพราะว่าเราเกียจคร้าน เหลวไหล | |
หลายคนคิดว่าตนมาถึงจุดหมายปลายทางแห่งชีวิต
มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เพียบพร้อม
จึงไม่มีแรงจูงใจที่จะคิด จะทำสิ่งใหม่ ๆ
ความคิดเหล่านี้จะทำลายพลังที่มีอยู่ในตน
ให้น้อยลง เหือดหายไป หรือหมดไปจากใจของเรา
ถ้าไม่รู้จักที่จะเติมเชื้อเพลิงเพื่อเพิ่มพลังให้แก่ชีวิต
จงลุกขึ้นมาต่อสู้กับความเกียจคร้าน เหลวไหล ให้คิดว่ามีอะไรให้ทำอีกตั้งมากมายในชีวิตนี้ ถ้าไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร ให้หาสิ่งแปลกใหม่ที่ตนไม่เคยทำ ไปเที่ยวในที่ที่ไม่เคยไป อ่านหนังสือเล่มใหม่ ฟังเพลงของคนรุ่นใหม่ หรือหาเรื่องที่จะทำสิ่งใดก็ได้ที่ทำให้ชีวิตดูมีความหมายในสายตาของผู้อื่น หรือไม่ก็คิดว่าตนควรทำสิ่งใดเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินถิ่นเกิดของตัวเอง ชีวิตจะมีความหมายขึ้น และเราจะสนุกกับการมีชีวิตต่อไป
ลงมือทำจริงจังสักที
ความโดดเดี่ยวอ้างว้างช่วยให้ได้คิด
ความโดดเดี่ยวอ้างว้างช่วยให้ได้คิด
บางครั้งเราอาจรู้สึก หงอยเหงา เปล่าเปลี่ยว เดียวดาย แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางหมู่คน แต่บางครั้ง เราอาจรู้สึกสนุกสนาน แม้ว่าจะต้องอยู่ตามลำพัง | คนที่โดดเดี่ยวอ้างว้าง จะรู้สึกเสมือนโหวงเหวง ไม่มีใครสักคนอยู่ภายในจิตใจ จะหงอยเหงา เศร้าสร้อย เปล่าเปลี่ยว มีความรู้สึกลึก ๆ อยู่ในจิตใจว่า ไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียว ที่จะใส่ใจในความรู้สึกของเรา |
เราอยู่กับใครไม่ได้สักคนเชียวหรือ
ความรู้สึกโดดเดี่ยว ขมขื่นว่า ไม่มีใครอยู่เคียงข้าง
เราไม่ต้องการใคร และไม่มีใครต้องการเรา
อาจมีประโยชน์ต่อเราก็ได้ เพียงแต่คิดว่า
มันเป็นช่วงเวลาที่จะทำให้เราได้หยุดคิด
และมีโอกาสแก้ปัญหาที่ทับถมกันมานาน
คิดไตร่ตรองถึงรากเหง้าแห่งปัญหา
เหตุการณ์ต่าง ๆ จะคลายตัวออกมา คล้ายแก้ปมเชือก
จะได้ไม่ต้องฟังคำพูดของคนหลายคน
ไม่ต้องมีอารมณ์ฟุ้งซ่าน ไม่ต้องคิดและตัดสินใจตามคนอื่น
แต่จะมีเวลาตัดสินใจตามความคิดที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเรา
และจะทำให้รู้สึกว่าเราเข้มแข็งพอที่จะอยู่ในโลกนี้ตามลำพัง
เราสามารถอยู่คนเดียวได้ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งและแข็งแกร่ง