Group Blog All Blog
|
จอมพลกุมอำนาจการปกครอง
จอมพลกุมอำนาจการปกครอง
จอมพลแปลก พิบูลสงครามครองอำนาจยาวนาน ท้ายสุดพ่ายแพ้แก่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จอมพลแปลก ต้องลี้ภัยไปอยู่ที่ญี่ปุ่นและเสียชีวิตที่นั่น ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ ได้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ประชาชาติ “The Nation” ด้วยพระองค์เล็งเห็นว่า ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยนั้นสื่อสารมวลชนจะเข้ามามีอิทธิพล และช่วยให้ประชาชนเข้าใจเรื่องประชาธิปไตยมากขึ้น อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและถนนราชดำเนินได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์อีกครั้ง ในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 โดยผู้นำประเทศ นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ “จอมพลถนอม กิตติขจร” ทายาททางการเมืองสายทหารที่สืบทอดอำนาจต่อจากจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จอมพลถนอม กิตติขจรใช้อำนาจทางสภาผู้แทนราษฎร จนกลุ่มนิสิตนักศึกษาเรียกร้องขอประชาธิปไตยคืน ความไม่สงบเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รัฐบาลได้ใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามอย่างรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จอมพลถนอม กิตติขจรต้องหนีไปต่างประเทศและกลับเข้ามาเมืองไทยอีกครั้งวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 วันนี้กลุ่มนิสิตนักศึกษาได้ออกมาประท้วงขับไล่จอมพลถนอม กิตติขจรอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนำไปสู่การทำรัฐประหารสายทหาร นำโดยพลเรือเอกสงัด ชะลออยู่ และปราบปราบกลุ่มนิสิตนักศึกษาด้วยอาวุธร้ายแรง นี่เป็นจุดเริ่มต้นการปกครองระบอบเผด็จการด้วยอำนาจทหารอีกครั้งหนึ่ง ที่น่าสงสัย อำนาจทหารจะอยู่กับประเทศไปอีกนานแค่ไหนกันนะ นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย 2475 จนถึงวันนี้ 2568 คงต้องยอมรับว่า ไม่เคยมีคำว่า “ประชาธิปไตย” อย่างแท้จริงในสังคมไทย ทุกอย่างเป็นเพียงภาพลวงตาซึ่งดูเสมือนจะใช่ ทั้งที่ประกาศโต้ง ๆ ว่าประเทศปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยแต่แท้จริงแล้วมันไม่ใช่ ผู้ที่กุมอำนาจแท้จริงกลับเป็นทหารที่ผลัดกันสืบอำนาจต่อทอดกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า นับได้จนถึงทุกวันนี้ ทหารและอีกหลาย ๆ คนบ่นว่า มองนักการเมืองสิ แต่ละคน มันน่าที่จะให้ทหารยึดอำนาจมั้ยล่ะ ต่างจิตต่างใจนะ นักการเมืองบางคน ที่เป็นฝ่ายค้าน เอาแต่ด่ากับด่า คงคิดว่า เป็นฝ่ายค้านมีหน้าที่ต้องด่า ใช้คำ มุสาแท้ ๆ คำหยาบ ส่อเสียด ตามมาเป็นพรวน เอามันส์เข้าว่า พอกลับมาเป็นฝ่ายรัฐบาล เปลี่ยนได้เหมือนจิ้งจก หรือความหมายของคำว่า “อนุสาวรีย์” จะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ คือเป็นเพียงสิ่งที่สร้างไว้ เป็นที่ระลึกถึงบุคคลหรือเหตุการณ์สำคัญ ความหมายของคำว่า “ประชาธิปไตย” คือ ระบอบการปกครองที่ถือมติปวงชนเป็นใหญ่ การถือเสียงข้างมากเป็นใหญ่ โดยนัยของความหมายนี้ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คือ สิ่งที่เตือนใจให้คนไทยรุ่นหลังได้ระลึกว่า มีคนกลุ่มหนึ่งพยายามทำให้ประชาชนได้เป็นใหญ่ในแผ่นดินแล้ว ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 เท่านั้น มันไม่ได้เป็นข้อสัญญาว่า สิ่งที่พยายามทำนั้น ได้ก่อกำเนิดขึ้นและจะดำรงคงอยู่ตลอดไป ประชาธิปไตยฤาจะเป็นเพียงอนุสาวรีย์
ประชาธิปไตยฤาจะเป็นเพียงอนุสาวรีย์ พระยากัลยาณไมตรี หรือ ดร.ฟรานซิส บี แซร์ ขณะอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ได้รับเชิญให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการต่างประเทศของพระเจ้าแผ่นดินสยาม ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และกลายมาเป็นผู้ที่มีส่วนร่างรัฐธรรมนูญ ในปี พ.ศ. 2467 ก่อนยุคที่จะมีการเปลี่ยน แปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 พระยากัลยาณไมตรีได้ร่างรัฐธรรมนูญไว้ 12 มาตรา เรียกว่า “Outline of Preliminary Draft” โดยเสนอให้มีตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ข้อเสนอนี้ได้ตกไปเพราะกรมพระยาดำรงราชานุภาพไม่เห็นด้วย เมื่อรัชกาลที่ 7 ไม่รับข้อเสนอนี้ พระยากัลยาณไมตรีจึงต้องขอย้ายตัวเองไปประจำที่ฟิลิปปินส์ แต่ได้มามีส่วนร่วมมือกับขบวนการเสรีไทยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงแม้ว่ารัชกาลที่ 7 จะทรงมีพระราชดำริที่จะให้ไทยได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยเช่นอารยประเทศ ถึงกับให้พระยากัลยาณไมตรีร่างรัฐธรรมนูญแล้วก็ตาม แต่ยังไม่เกิดผลในทางปฏิบัติ เพราะขัดแย้งกันด้วยแนวคิดบางประเด็นที่ผลประโยชน์อันจะเกิดแก่ประชาชนยังไม่ลงตัว คณะราษฎร หัวก้าวหน้านักเรียนนอก กลุ่มหัวก้าวหน้านักเรียนนอกจึงได้ก่อการปฏิวัติขอเปลี่ยนแปลงการปกครองเสียเอง ซึ่งเรียกตัวเองว่า “คณะราษฎร” นำโดยจอมพล ป. พิบูลสงคราม หรือแปลก ขีตตะสังคะ ชาวจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นเพียงลูกชาวสวนที่มีฐานะปานกลาง แต่สามารถเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองครั้งนี้ได้เป็นผลสำเร็จ นับว่าเป็นสิ่งที่เกินการคาดคิด เพราะอำนาจแต่เดิมนั้นจะมีอยู่เฉพาะเจ้านาย คนไทยทั่วไปคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่คุ้นชินมาโดยตลอด ไม่คิดว่าคนธรรมดาจะขึ้นมามีอำนาจได้ คณะราษฎรประกอบด้วยบุคคลหลายฝ่าย อาทิเช่น พันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา พันโทพระประสาสน์พิทยายุทธ พันเอกพระยาทรงสุรเดช พันเอกพระยาฤทธิ์อัคเนย์ หลวงประดิษฐ์มนูธรรม พันตรีหลวงพิบูลสงคราม ได้ก่อการครั้งสำคัญในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 การก่อการครั้งนี้ใหญ่ยิ่งและรุนแรง มีทั้งผู้ที่เห็นด้วย ชื่นชม และคัดค้าน ด่าทอเสียหายรุนแรง จวบจนถึงทุกวันนี้ หลังจากนั้นเพียงปีเดียวได้เกิดกบฏบวรเดช นำโดย “พลเอกพระ วรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช” เพื่อยึดอำนาจคืนให้แก่ “เจ้านาย” แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ พันตรีหลวงพิบูลสงครามปราบกบฏจนราบคาบ และถือโอกาสปราบผู้ที่ไม่เห็นด้วยในคราวเดียวกันนี้เสียเลย รัชกาลที่ 7 โปรดเกล้า ฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญเพื่อแสดงว่าประเทศได้เข้าสู่ระบอบการปกครองแบบใหม่ โดยเปลี่ยนแปลงจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475 ปัจจุบันเรานับวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปีว่าเป็น “วันรัฐธรรมนูญ” รัชกาลที่ 8 ทรงแต่งตั้งพันตรีหลวงพิบูลสงครามนายกรัฐมนตรีให้เป็น “จอมพลแปลก พิบูลสงคราม” และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยลัทธิชาตินิยมเริ่มต้นเปลี่ยนชื่อประเทศจาก “สยาม” เป็น “ประเทศไทย” ใช้คำขวัญ “เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย” ใช้สัญลักษณ์ “ตราไก่” ที่เป็นปีเกิดของตนเอง ผู้ที่เป็นแม่งานในการรณรงค์สร้างความรักชาติ คือ “พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ” เรียกชื่องานในครั้งนี้ว่า “ปลูกต้นรักชาติ” ด้วยบทละครประวัติศาสตร์ บทเพลงปลุกใจ ผลงานละคร เช่น เลือดสุพรรณ เจ้าหญิงแสนหวี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลได้เข้าข้างฝ่ายญี่ปุ่น ซึ่งเป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงคราม ทั้งจอมพลแปลกพิบูลสงคราม และพลตรี หลวงวิจิตรวาทการต้องโดนคดีและโดนจำขังในฐานะอาชญากรสงคราม ผู้ที่ช่วยให้ทั้ง 2 รอดพ้นจากคุก คือ หลวงประดิษฐ์มนูธรรม ศาลฎีกาได้พิพากษาให้พระราชบัญญัติอาชญากรเป็นโมฆะ คณะราษฎรเมื่อยึดอำนาจได้เบ็ดเสร็จแล้วกลับเกิดปัญหาภายในขึ้นมา เพราะความคิดที่แตกแยกออกเป็น 2 ขั้ว ระหว่างขั้วอำนาจของพันตรีหลวงพิบูลสงครามผู้กุมอำนาจทางทหาร กับหลวงประดิษฐ์มนูธรรมผู้เสนอเค้าโครงเศรษฐกิจ เสนอให้มีการปฏิรูปที่ดินและจัดระบบสหกรณ์ แน่นอนว่า อำนาจทางทหารในเมืองไทยย่อมมีอำนาจสูงสุดเสมอ ไม่ว่าจะเป็นยุคใดสมัยใด หลวงประดิษฐ์มนูธรรมจึงได้รับข้อกล่าวหาอันร้ายแรงว่าเป็นคอมมิวนิสต์ และเป็นผู้พ่ายแพ้ในกบฏวังหลวงต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ #Ratchadamdam Historical Road #พรรณีเกษกมล
Ratchadamdam Historical Road
Ratchadamnoen Road is the most magnificent road in the era of King Rama V. And it is probably the most magnificent until the present day, because there is no other road in the center of the capital that is so wide. There are up to 10 lanes, not counting the newly built roads around the city. When he talked about Rattanakosin Island. Most people will think of Ratchadamnoen Road first. Because it is the political street where people demand the right to be Thai citizens in democratic governance the most. Next is the road around Ratchaprasong, near the Makhwan Bridge. Bridge through the sky and in front of the Government House. The starting point is a political street. Ratchadamnoen Road began as a political street on October 14. Later, it was called "Maha Vipyok Day". This is the first time that all the people have gathered to use Ratchadamnoen Road as a platform for struggle for democracy. In this era, the initiators were students who came together to use their youth in the university fence to fight against state power. As a result of the fighting, 71 people were killed and 158 were injured. Three years later, on October 6, 1976. There is a reunion of the power of the students. The consequences are the same. There were deaths with clear evidence. But in fact, he is rumored to have more than 500 cases. There are dozens of cars carrying bodies out of the province to dump them. The news did not tell This news may be just a rumor or not a real news. The number of injured is also unknown, but 3,094 people are missing. It must have been a fugitive into the forest. I don't know which forests there are, but one forest that I do know is Khao Kho Phi. And some of them still live like normal people, but they do not ask for cancellation of their status as missing persons. Young people of that generation, who were progressives, participated in rallies against the state authorities. In the first period, October 14, 16, the participants were very happy. However, in 3 years, the first loser is much better. There was a military manipulator. Use the Red Bulls. Technical students, vocational, and strong mechanics Let's fight against the more fragile students. Who will lose? After the student lost to politics, he escaped arrest from the authorities. Flee into the open forest. Later, the authorities pardoned him, so he returned to live with ordinary Thais. Today, those who fled into the jungle and remain politically motivated are fighting against the illegitimate power in society. But in a different form. Very surprising. Some of them used to be student leaders against the military government. Nowadays, they have defected to the military government. He said that the river can still change direction. Let alone the mind, people have different opinions at a changing age. Many of the students of that era have risen to prominence in the political arena. Be big and Some of them get foreign scholarships. Continue to study for a Ph.D. Become a teacher both domestically and internationally, a spiritual leader.Some tried to explain the incident. In a completely different form from the government of that time, black and white. Tamil May 1992 After a long interval, Raj carried out the Pracha Historical Road.Sovereignty has been bloodied again, called "Tamil May". During 17 – 21 May 1992 52 people were killed, thousands injured and 69 missing. Most Thai people think that it will be all over the place. The rift recurs in the form of people of different colors and ideas. This time, there were no students as the mainstay, but it became an old man who must have marched in October 16 to revive the past again. This generation is the generation that likes to demand democracy. With political marches, some people say that this generation, the generation that likes to march and protest, is the product of the 1960 Buddhist education curriculum that emphasizes students to learn the story of the highest democracy and provides opportunities for student councils in schools. There is a large-scale social election. Many student presidents became the mainstay in the demand for democracy in the later society. Having the right to freedom in a democratic way, having the courage to present one's own opinions, is what the 1960 curriculum produced . There are no elections, no opportunities for free expression, and after many years , the people's differences in thinking have begun to divide in thought. Divide the lumps into two distinct colors. Many people analyze it, but people think differently, they don't believe the facts, they cling to what they hear, regardless of whether it is the result of the incitement of different power poles and trying to overthrow the other. With the exotic methods of that era, the methods of this era Using hate speech to slander opponents as bad nations, corruption, cheating on the country, and thinking of overthrowing institutions. Using the media to attack at any time, believe in it day and night, until the listener is psychedelic, fascinated, and deeply believes , over time, which color remains with that color, is it true that if you live long enough, you will know that you change your mind, fall in love with the other person, or hate the opponent? It is possible that the two colors fought fiercely and spicy. The villagers are still confused , and it is impossible to talk to people of different colors. There was news of killing each other in the drinking circle because of who the opponent would talk to. You have to make sure first whether you are a person of different colors if you speak to people of the same color. It was really good, the 2006 Revolutionary Army, Thai politics began to be messy and gloomy again due to the gathering of the Yellow Shirts against the Thaksin government. And then there was a coup d'état, which was also incredible. Many people think that the revolution would have been extinct a long time ago, but it has emerged again in an era when the country has made such progress.The red shirts rose up against the Abhisit government again. Recently, the government has changed from Prime Minister Thaksin Shinawatra to Suntaravej and Somchai Wongsawat. The change from the red shirt group to the color shirt group is not clearly visible. Most people think that the Yellow Shirts pushed Abhisit Vejjajiva to become the government, so they thought that it would be embarrassing to be born into a government. Ratchadamnoen Road on April 10, 2010, the road is still a road, but on the road, things have changed. There was a riot with different ideas of people living on the same land. There is blood in the land with Thai people killing Thai people themselves. I don't know who is who. Whoever did it, they will have to wait for the passage of time for a few more years. The reason for linking the story to start this book is just to reiterate that Thai people are Thai people. There is a Thai heart. The villagers do not hate each other and even kill each other brutally like this, and I would like to reiterate that the Thai nation is like life. Or maybe they have different opinions, it's normal. When it is hot, it will be cold, and when it is cold, it will be hot. We Thais probably don't hate each other to the bone. The kind that doesn't look black looks good to each other because it's against the habits of Thai people and Thainess . As the days go by. The Democracy Monument, the architecture in each part of the building has a meaning, such as the four wings, measured from the base with a height of 24 meters, the base has a radius of 24 meters, which means the 24th day, and the 75 cannons represent the year 1932 when the government was changed. The 6 images of the Buddha on the 6 sides of the gate tower represent the 6 principles: independence, inner peace, freedom, and equal rights. Economy and Education
#เมืองหลวงกรุงเทพมหานคร #พรรณีเกษกมล
เมืองหลวงกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงในปี พ.ศ. 2325 ชื่อเต็มของกรุงเทพมหานคร คือ "กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยะวิษณุกรรมประสิทธิ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองหลวงจากกรุงธนบุรีมาตั้งที่ตำบลบางกอก ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยเหตุผลแก่การปกป้องเมือง ถ้ากรุงธนบุรีและกรุงเทพมีประชากรตั้งถิ่นฐานเพิ่มขึ้น และถ้าขยายเมืองออกไปทั้งสองฝั่งแม่น้ำจะกลายเป็นเมืองอกแตก คือมีแม่น้ำไหลผ่านเมือง ทำให้ป้องกันข้าศึกได้ยาก อย่าลืมว่า ช่วงนั้นยังมีสงครามรบพุ่งกับพม่า การเลือกขยายเมืองในอนาคต ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยามีพื้นที่กว้างขวางกว่า อาณาจักรรัตนโกสินทร์ คือ อาณาจักรตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 เป็นราชอาณาจักรของประเทศไทย เริ่มตั้งแต่การย้ายเมืองหลวงจากฝั่งอาณาจักรธนบุรี มายังกรุงเทพมหานคร ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา พ.ศ. 2398 เปลี่ยนชื่อเป็น ราชอาณาจักรสยาม วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2482 เปลี่ยนชื่อจาก "สยาม" เป็น "ไทย" การประกาศใช้ชื่อ "ไทย" เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศรัฐนิยมเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2482 ที่ระบุว่าชื่อ "ไทย" จะเป็นชื่อเรียกแทนประชาชนและเชื้อชาติ กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น หมายถึง ประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 3 ซึ่งนับว่าเป็นระยะเชื่อมต่อระหว่างประวัติศาสตร์ไทยยุคเก่า มาสู่การปฏิรูป และพัฒนาประเทศ ตามแบบอารยธรรมตะวันตกในยุคปัจจุบัน พ.ศ. 2520 หรือ 5 ปีก่อนพระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ทางราชการได้กำหนดชื่อ "เกาะรัตนโกสินทร์" ขึ้น เพื่อกำหนดไว้เป็นเขตปรับปรุงปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ เพราะถือเป็นกรุงรัตนโกสินทร์ระยะแรก #จุดเริ่มต้นของกรุงเทพ #พรรณีเกษกมล
จุดเริ่มต้นของกรุงเทพ
เริ่มเล่าเรื่องราวของเกาะรัตนโกสินทร์อย่างจริงจัง พอเอ่ยปากเล่า เกาะรัตนโกสินทร์ หลายคนจะงุนงง ถ้าเอ่ยว่า แถว ๆ ถนนราชดำเนินไง อาจจะพอรู้จักว่า อ๋อ ที่เขาประท้วงกัน รุ่นดึกจะจดจำว่า ที่ประท้วงเดือนตุลา ผู้คนหลั่งไหลมาเต็มท้องถนน 14 ตุลา 16 และ 6 ตุลา 19 เกิดการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองครั้งใหญ่ หนุ่มสาวรุ่นใหม่อาจไม่รู้จัก ถ้าบอกสนามหลวง วัดพระแก้ว คงพอรู้จัก เมื่อมีรถไฟฟ้าวิ่งเฉียด ๆ มาแถวสนามไชย สามยอด ทำให้ถิ่นนี้คึกคักขึ้น ขอบเขตของเกาะรัตนโกสินทร์มีอาณาเขตไม่มากไม่น้อย เกาะรัตนโกสินทร์ นามนี้ทางราชการตั้งขึ้นในปี 2520 เพื่อกำหนดเป็นเขตปรับปรุงปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ ใช้เรียกพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานครบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา มีพื้นที่ประมาณ 4,142 ตารางกิโลเมตร โดยเริ่มจากแนวคูเมืองเดิมฝั่งตะวันออกของกรุงธนบุรีคือแนวคลองหลอดตั้งแต่ปากคลองตลาดจนออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เกาะรัตนโกสินทร์เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ในเขตพระนคร กรุงเทพ มหานคร ฝั่งตะวันตกติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนฝั่งตะวันออกติดกับคลองหลายสาย แต่เดิมเป็นที่อยู่ของชาวจีนในสมัยกรุงธนบุรี เกาะนี้เป็นที่ตั้งของพระบรมมหาราชวังกับศาลหลักเมืองกรุงเทพ มหานคร และสถานที่อื่นที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ทำไมจึงเรียก เกาะ รอบ ๆ อาณาบริเวณนี้ มีน้ำล้อมรอบ คูคลอง และแม่น้ำเจ้าพระยา การเลือกทำเลให้คล้ายกับกรุงศรีอยุธยา ที่มีแม่น้ำล้อมรอบ เพื่อป้องกันการรุกรานจากพม่า ตอนที่เริ่มสร้างเมือง ยังมีสงครามกับพม่าอยู่ เมื่อมีน้ำล้อมรอบทุกด้าน จึงเสมือนเกาะไงล่ะ คลองคูเมืองเดิมกับคลองรอบกรุง (คลองบางลำพู-คลองโอ่งอ่าง) แม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศเหนือ และแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศใต้ เกาะรัตนโกสินทร์ชั้นใน คือ บริเวณที่มีอาณาเขตล้อมรอบด้วยแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองคูเมืองเดิม (คลองหลอด) เคยเป็นส่วนหนึ่งของกรุงธนบุรีมาก่อน มีพื้นที่ประมาณ 1.647 ตารางกิโลเมตร (1,029 ไร่) ครอบคลุมท้องที่แขวงพระบรมมหาราชวังทั้งแขวง เกาะรัตนโกสินทร์ชั้นนอก คือ บริเวณที่มีอาณาเขตอยู่ระหว่างคลองคูเมืองเดิมกับคลองรอบกรุง (คลองบางลำพู-คลองโอ่งอ่าง) ล้อมรอบด้วยคลองคูเมืองเดิม แม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศเหนือ คลองรอบกรุง และแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศใต้ มีพื้นที่ประมาณ 2.495 ตารางกิโลเมตร (1,559 ไร่) ครอบคลุมท้องที่ส่วนใหญ่ของเขตพระนคร ได้แก่ แขวงชนะสงคราม แขวงบวรนิเวศ แขวงสำราญราษฎร์ แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ แขวงเสาชิงช้า แขวงวัดราชบพิธ แขวงตลาดยอด และแขวงวังบูรพาภิรมย์ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า พ.ศ. 2564 ในข้อ 5 นับรวมพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ในฝั่งพระนครเพิ่มในช่วงพื้นที่ที่อยู่ระหว่างคลองรอบกรุงกับคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 4.741 ตารางกิโลเมตร (2,963 ไร่) ครอบคลุมท้องที่เขตพระนครในแขวงที่เหลือ คือ แขวงบ้านพานถม แขวงบางขุนพรหม และแขวงวัดสามพระยา รวมทั้งเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายและเขตสัมพันธวงศ์ทั้งเขต เป็นพื้นที่ต่อเนื่องอีกด้วย ทำให้เกาะรัตนโกสินทร์มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 8.883 ตารางกิโลเมตร (5,552 ไร่) |
สมาชิกหมายเลข 4665919
![]() ![]() ![]() ![]() ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |