Group Blog All Blog
|
640712 การทำโยเกิร์ตด้วยตัวเอง
640712 การทำโยเกิร์ตด้วยตัวเอง
ง่ายเกินคาดคิด ดู YouTube ง่ายกว่าฟังคนพูดบอก โยเกิร์ต (Yogurt) ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก ลดระดับน้ำตาล และคอเลสเตอรอลในเลือด ไขมันต่ำ ลดน้ำตาล หวานน้อยแต่อร่อยมาก สรุปที่ทำสำเร็จ เริ่มจากดูมา ต้มนม 1 ลิตรให้เดือด ทิ้งไว้ให้อุ่น 15 นาที ใส่หัวเชื้อจุลินทรีย์จากโยเกิร์ตที่ขาย แล้วเทใส่ถ้วยแก้ว วางในไมโครเวฟ 6-12 ชั่วโมง ควรทำประมาณ 5 – 6 โมงเย็น เช้ากินได้เลย หรือใส่ในตู้เย็น กินมื้อต่อไป โยเกิร์ตที่ทำแล้ว เขาบอกเห็บเป็นหัวเชื้อครั้งต่อไปได้ ถ้าเหลือ ยกเว้นคนที่บ้านกินหมด ต้องไปซื้อใหม่ นมสดเข้มข้น Dutch milk & Bulgaria ดูดีใช้ได้ ลองทำจากน้ำถั่วเหลืองชงเอง ออกเปรี้ยวนิดหน่อย แต่ดีสู้นมสดไม่ได้ 640712 การทำโยเกิร์ตด้วยตัวเอง
640712 การทำโยเกิร์ตด้วยตัวเอง
ง่ายเกินคาดคิด ดู YouTube ง่ายกว่าฟังคนพูดบอก โยเกิร์ต (Yogurt) ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก ลดระดับน้ำตาล และคอเลสเตอรอลในเลือด ไขมันต่ำ ลดน้ำตาล หวานน้อยแต่อร่อยมาก สรุปที่ทำสำเร็จ เริ่มจากดูมา ต้มนม 1 ลิตรให้เดือด ทิ้งไว้ให้อุ่น 15 นาที ใส่หัวเชื้อจุลินทรีย์จากโยเกิร์ตที่ขาย แล้วเทใส่ถ้วยแก้ว วางในไมโครเวฟ 6-12 ชั่วโมง ควรทำประมาณ 5 – 6 โมงเย็น เช้ากินได้เลย หรือใส่ในตู้เย็น กินมื้อต่อไป โยเกิร์ตที่ทำแล้ว เขาบอกเห็บเป็นหัวเชื้อครั้งต่อไปได้ ถ้าเหลือ ยกเว้นคนที่บ้านกินหมด ต้องไปซื้อใหม่ นมสดเข้มข้น Dutch milk & Bulgaria ดูดีใช้ได้ ลองทำจากน้ำถั่วเหลืองชงเอง ออกเปรี้ยวนิดหน่อย แต่ดีสู้นมสดไม่ได้ 640712 การทำผลงานวิชาการ-แนะแนว
640712 การทำผลงานวิชาการ-แนะแนว
ดร.พรรณี เกษกมล การทำรายงาน คงต้องใช้เวลาการทำพอสมควร ไม่ใช่คิดจะทำปุ๊บ สำเร็จดังใจภายในชั่วพริบตาเดียว อย่าคิดจ้างคนทำผลงาน อันตรายมาก เพราะผลที่ตามมา รุนแรงเกินคาดคิด เริ่มทำผลงาน อ่านให้มาก ค้นคว้าให้เยอะ สมัยนี้ การค้นคว้าง่ายมาก เพียงแค่เปิดเนต อ่านทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง จนตกผลึกว่า สิ่งที่อ่านนั้นจะมีประโยชน์ต่อสิ่งที่จะทำอย่างไร ด้วยวิธีการใด เน้นว่า ตรงกับงานที่จะทำจริง ๆ อ่านทฤษฎี หลักการจากหลายคน หลายแหล่ง แล้วประมวลให้ตรงกับสิ่งที่คิดจะทำ ต้องแม่น ต้องชัดเจนจริง ๆ อย่าลืมจดรายละเอียดของงานที่อ่าน ชื่อ-สกุลผู้เขียน เลขหน้า เตรียมพร้อมทำบรรณานุกรม เมื่อจับประเด็นได้ว่า จะทำอะไร อย่างไร ผลที่คาดว่าจะเกิดเป็นเช่นไร เขียนนิยาม กรอบความคิด ด้วยคำที่เป็นรูปธรรมที่สุด มองให้เห็นขั้นตอนของงานแต่ละขั้นตอน เริ่มบทที่ 1 เขียนโยงจากกว้างมาหาแคบ ตรงกับงานที่ทำ ภาพรวมของงานที่จะทำทั้งหมดต้องอยู่บทที่ 1 นิยามศัพท์นี่สำคัญที่สุด แต่ละคำที่ปรากฎเป็นตัวแปรทั้งหมด มองให้เห็นว่ามีความหมายใด และจะทำอะไร อย่างไร ผลที่เกิดขึ้นวัดด้วยเครื่องมือใด กรอบความคิดในการทำ อาจเขียนเป็นแผนผังประกอบว่า แต่ละขั้นตอนจะทำสิ่งใดก่อนหลัง เอาคำจากนิยามมาเขียน บทที่ 2 เรียบเรียงจากงานที่อ่านมาและตรงกับสิ่งที่จะทำเท่านั้น ไม่ต้องมากมาย มีเอกสารอ้างอิงปรากฏในบรรณานุกรม อย่านานเกิน 10 ปี ยกเว้นทฤษฎี หลักการที่สำคัญ และสรุปทุกหัวข้อว่า ประเด็นสำคัญที่จะนำมาใช้คืออะไร บทที่ 3 เป็นรายละเอียดของกลุ่มตัวอย่างที่จะศึกษา ที่จะเป็นตัวแทนของประชากร ถ้าสุ่มตัวอย่าง นิยมใช้วิธีการสุ่มอย่างง่ายด้วยการจับฉลาก simple random sampling ถ้าสุ่มแบบเจาะจง ต้องระบุเหตุผลประกอบด้วย เครื่องมือที่จะทำ ต้องมีกรอบความคิด จากบทที่ 1 และ 2 บอกวิธีหาคุณภาพ และผลที่ได้ ทำ blueprint และวิเคราะห์คุณภาพ แนะแนวไม่เน้นข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์เหมือนวิชาสามัญ มีเครื่องมือทางการแนะแนวมากมายที่จะวัดความก้าวหน้าของเด็ก บทที่ 4 รายงานผลด้วยตัวเลขในตาราง ส่วนรายละเอียดอยู่ในภาคผนวก บทที่ 5 นำมาจากบทที่ 1 เพิ่มด้วยอภิปรายผล เน้นว่าเอกสารที่นำมาอภิปรายต้องสอดคล้องกัน เน้นว่า ทำเหมือนกันแล้วผลเหมือนหรือต่างกัน เครื่องมือที่ใช้ควรคล้ายหรือเหมือนกัน ถ้าต่างกันในประเด็นใด ขอให้มีกำลังใจที่จะอ่านค้นคว้าให้มาก และมากจนพอเพียงที่จะทำผลงาน เพื่อผลตอบแทนที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่รู้จริง คนที่รู้จริงจะแม่นในความรู้และงานที่ทำ อธิบายได้ชัดเจนเป็นรูปธรรม มองเห็นว่า คนทำสมควรได้รับตำแหน่งทางวิชาการ สรุปบทความใน กลุ่ม ขีด ๆ เขียน ๆ
สรุปบทความใน กลุ่ม ขีด ๆ เขียน ๆ
เฮราคลีตุส (Heraclitus: 551 491 B.C.)
นักคิดจะค้นพบสัจธรรมแห่งชีวิต ว่าไม่มีสิ่งใดอยู่คงที่ได้ตลอดเวลา เฮราคลีตุส (Heraclitus: 551 – 491 B.C.) การเปลี่ยนแปลงเป็นสัจธรรมที่เกิดขึ้นแน่นอน ไม่มีใครหลีกหนีความจริงนี้ไปได้ เฮราคลีตุสถือกำเนิดในนครรัฐเอเฟซุส ซึ่งเป็นหนึ่งใน 12 รัฐที่สังกัดกลุ่มไอโอเนีย เฮราคลีตุสเกิดในตระกูลผู้ดีชั้นสูงเป็นเชื้อพระวงศ์ที่มีสิทธิ์ในการเป็นราชาแห่งนครรัฐบาซิเลอุส แต่ได้สละสิทธิ์ในราชบัลลังก์ให้แก่พระอนุชาแล้วปลีกตัวไปวิเวกเพื่อแสวงหาสัจธรรม ภายหลังได้ประกาศสัจธรรมที่ค้นพบ และกล่าวว่าปรัชญานี้แปลกใหม่และดีเด่นเหนือกว่าของผู้ใด ถึงขั้นที่ตำหนินักปราชญ์อื่น ๆ คำกล่าวที่ว่า การเรียนมากไม่ทำให้ใจพัฒนา มิเช่นนั้นมันคงจะขัดเกลาเฮเลียด ปิทากอรัส เซโนฟาเนสและเฮคาเตอุสไปแล้ว คำพูดเช่นนี้ก่อให้เกิดศัตรูและทำให้หลายคนเกลียดชัง การเป็นคนเก่งแต่ขาดเสน่ห์ หรือเชื่อมั่นในตนเองมากเกินไปจนถึงขั้นดูถูกผู้อื่นว่าด้อยกว่าตนอย่างเปิดเผย อาจสร้างความเกลียดชังจากผู้ที่โดนลบหลู่ได้ การอยู่อย่างพอดีจะทำให้เป็นที่รักของทุกผู้คนได้ เฮราคลีตุสเขียนตำราปรัชญาว่าด้วยธรรมชาติ เช่น อุปนิสัยของคนคือชะตาชีวิตของคนนั้น แพทย์ผ่าตัดคนไข้ซึ่งสร้างความเจ็บปวดแต่คนไข้ยังต้องยอมจ่ายเงินให้ การค้นพบความจริงต้องคิดสิ่งที่แตกต่างจากคนทั่วไป การเขียนหนังสือมักใช้คำคมและไม่อธิบายเพิ่มเติม ทำให้บางคนกล่าวว่า มันยากแก่การแปลความ การเขียนเช่นนี้เหมาะสำหรับชนชั้นปัญญาชนเท่านั้น ความเชื่อของเขาเน้นในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงหรืออนิจจัง การเปลี่ยนแปลงแนวคิดจากการค้นหาปฐมธาตุของโลกเป็นความเปลี่ยนแปลงมีจริงหรือไม่ เฮราคลีตุสเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นลักษณะที่แท้จริงของสรรพสิ่ง ทุกสิ่งเป็นอนิจจัง คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วดับไปเป็นธรรมดา เมื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น สิ่งนั้นจะแปรสภาพไปสู่อีกสภาพหนึ่งได้ เช่น จากเด็กเป็นผู้ใหญ่และกลายเป็นคนแก่ในที่สุด มนุษย์ไม่สามารถดำรงตนให้หนุ่มสาวได้ตลอดกาล ทุกสิ่งจึงต้องไหลเรื่อยไปตามกระแส ดุจสายน้ำที่ไหลไปแล้วไม่ไหลกลับ เช่นเดียวกับน้ำในแม่น้ำที่เรายืนอยู่ ย่อมไม่ใช่น้ำเดิมเพราะน้ำใหม่จะไหลมาแทนที่อยู่เสมอ โลกนี้จึงไม่มีอะไรคงที่ ไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้แน่นอนนอกจากการเปลี่ยนแปลง ในชีวิตจะมีสิ่งที่เกิดและอยู่กันเป็นคู่สลับกันไปมา ดั่งเช่น ร้อนคู่กับเย็น ตื่นคู่กับหลับ ในแต่ละคู่จะเปลี่ยนแปลงสลับกันไปสลับกันมา ทุกสิ่งต้องเปลี่ยนไป ไม่อาจอยู่ดังเดิมได้ตลอดกาล ผู้ฉลาดย่อมมองเห็นสัจธรรมของการเปลี่ยนแปลงนี้ การตอบคำถามเรื่องปฐมธาตุของโลกซึ่งเป็นปัญหาที่นักปราชญ์ทุกคนต้องค้นหาคำตอบ เฮราคลีตุสตอบว่าไฟคือปฐมธาตุ ไฟมีวิญญาณ ไฟเป็นพระเจ้าและสถิตอยู่ในทุกหนแห่ง พระเจ้าในนัยยะนี้เป็นกฎธรรมชาติตามสากล ซึ่งต่างจากเทพเจ้ากรีกที่มีตัวตน การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกเพราะไฟเป็นต้นเหตุทำให้เกิดทั้งสิ้น เฮราคลีตุส มีความเชื่อเรื่องอนิจจัง การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นสัจธรรมชีวิต ไม่มีอะไรที่คงที่ ดังนั้นการยึดมั่นถือมั่นว่าทุกสิ่งย่อมอยู่คงที่ สิ่งใดที่เป็นของเราย่อมเป็นของเราตลอดกาล จึงเป็นความเชื่อที่ผิดและจะนำความทุกข์มาสู่ผู้ที่เป็นเจ้าของความคิด นอกจากการเปลี่ยนแปลงที่ได้รู้ ยังค้นพบว่าสรรพสิ่งในโลกทุกอย่างย่อมอยู่เป็นคู่เสมอแต่จะสลับไปสลับมาเช่นนี้ตลอดกาล เมื่อธาเลสเชื่อว่าน้ำคือปฐมธาตุ เฮราคลีตุสได้คัดค้านว่าแท้จริงแล้วไฟต่างหากคือปฐมธาตุ ซึ่งที่จริงผิดทั้งสองคน ต่อมามีคนคิดว่า ดินกับลมก็เป็นปฐมธาตุ เราจึงมักจะได้ยินคำว่า ดิน น้ำ ลม ไฟ คือปฐมธาตุ แต่สิ่งที่ทำให้นักคิดยุคต่อมายกย่อง คือ ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพราะคนในยุคนั้นเชื่อว่าทุกสิ่งจะอยู่คงที่ คำคมของเฮราคลีตุสคือเราไม่อาจเดินลงไปในแม่น้ำสายเดียวกันได้เป็นครั้งที่สอง (You cannot step twice into the same river) เพราะน้ำในแม่น้ำจะไหลลงตลอดเวลา แม่น้ำตำแหน่งเดิมจึงไม่ใช่มวลน้ำเดิมเพราะน้ำได้เปลี่ยนไปจากเดิมแล้ว หลักการว่าด้วย กระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ได้นำมาอธิบายสรรพสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสสาร วัตถุ โลก จักรวาล และชีวิตมนุษย์ ทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่คงที่ถาวร คนเราจะคงอยู่ในรูปแบบหนึ่งในแต่ละช่วงตั้งแต่แรกเกิด เติบโตเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็แก่เฒ่าชราลงเสื่อมสภาพไป แม้แต่จิตวิญญาณของคนเราก็เปลี่ยนแปลงแตกต่างกันตามกาลเวลา หลักการว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงในตนเอง ทุกสิ่งจะเปลี่ยนแปลงไปสู่อีกสิ่งหนึ่งได้เมื่อมีตัวการที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จักรวาลจะดำรงคงอยู่ถึงแม้จะเปลี่ยนรูปแบบในแต่ละช่วงของกาลเวลาซึ่งจะเป็นกฎธรรมชาติสากล วิธีคิดจะมองเส้นแห่งการเปลี่ยนแปลง จากจุดเริ่มต้นไปหาจุดสุดท้ายแล้วมองสิ่งที่จะเกิดขึ้นตรงกลาง ฐานรากแห่งการคิดของคนที่หนึ่ง ย่อมก่อให้เกิดการคิดแตกยอดของคนต่อ ๆ ไป |
สมาชิกหมายเลข 4665919
![]() ![]() ![]() ![]() ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |