All Blog
พลัที่สร้างได้
12/1/2544
 
ทุกอย่างคือพลัง
           ไม่ว่าเราจะประสบเคราะห์กรรมหรือมีโชควิ่งเข้ามาหา ให้คิดว่ามันเป็นประสบการณ์ เป็นบทเรียน เป็นแรงจูงใจที่จะนำไปสู่ชีวิตที่ดีกว่า
           ยามที่มีศัตรู อาจรู้สึกหดหู่ เศร้าสร้อย ที่มีคนเกลียดชังและหาเรื่องทำร้ายจิตใจ ทำลายเกียรติยศชื่อเสียง  เราต้องตั้งหลัก อย่ายอมแพ้ คิดว่า ชีวิตเหมือนละคร นางเอกอย่างเราจะยอมแพ้นางอิจฉาได้อย่างไร แล้วแปรเปลี่ยนความคิดที่อับเฉาให้กลายเป็นพลัง พร้อมที่จะสู้ เพื่อจะได้เป็นนางเอกในหนังที่ Happy Ending มีจุดจบที่สวยงาม
           ยามที่โชคดี ได้รับเกียรติยศชื่อเสียง อำนาจ ลาภยศ สรรเสริญ ให้มองผู้ที่สูงกว่า ดีกว่า ให้คิดว่าเหนือฟ้าย่อมมีฟ้า เหนือซาละเปาย่อมมีจุดแดง เหนือจุดแดงย่อมมีขี้แมลงวัน เราคงไม่ใช่จุดสูงสุด มีอะไรให้ทำอีกมากมาย มีหลายสิ่งที่จะทำได้อีก  อย่างน้อยทำเพื่อตัวเอง ถ้าทำทุกอย่างที่ตนต้องการแล้ว ลองทำให้คนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นสามี ลูก พ่อ แม่ เพื่อน ญาติ  ถ้าทำให้ครบทุกคนแล้ว ให้คิดทำเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ชดใช้สิ่งที่ได้รับจากสังคม  ทำอะไรฟรี ๆ ให้ใครก็ได้ หาเรื่องทำ ให้หมดไปวันๆ ทำตัวให้ยุ่งกับงาน เราก็จะมีความสุข มีพลังที่จะอยู่สู้ชีวิต
           มีอะไรอีกตั้งมากมายในโลกนี้ที่ยังไม่รู้ ที่ต้องเรียนรู้ และต้องทำ การหาความหมายให้ชีวิต ด้วยการให้ทุกอย่างรอบตัวเป็นพลังที่ทำให้เราอยากอยู่ในโลกอย่างมีความหมายต่อไป
 
 



Create Date : 11 มกราคม 2566
Last Update : 11 มกราคม 2566 10:00:12 น.
Counter : 630 Pageviews.

0 comment
อย่าแหยม
611129 อ๊ะ อ๊ะ อย่าแหยมเชียวนะ
Do not let anyone violate privacy rights by DrPK
เรื่องราวของการโดนละเมิดสิทธิส่วนตัวมีมานาน แต่ด้วยวิสัยคนไทยที่ใจดี ไม่อยากเป็นเรื่องเป็นราว มักยอม ๆ กันไป หนักนิดเบาหน่อยให้อดทน ยิ่งเป็นเพื่อนบ้าน แล้วไม่มีเงินมากพอจะย้ายออกไป ได้แต่ทนและทน
อย่าให้ใครมาละเมิดสิทธิส่วนตัว เป็นคำที่เกิดขึ้นมาไม่นานมานี้ เมื่อกระแสสังคมแรงและแรงขึ้น
ป้าทุบรถเป็นกรณีแรกที่โหมกระหน่ำพร้อมคำถามตามมามากมายว่า ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ภายหลังมีบางคนที่ต้องทนกับความมักง่ายเอาแต่ได้ของคนอื่นที่มาละเมิดสิทธิส่วนตน ช่วยกันแก้ตัวแทน บอกว่าป้าอดทนมานานนับสิบปี ทั้งฟ้องร้องทุกหน่วยงานแต่หาความคืบหน้าเจอไม่
ศาลได้พิพากษาแล้วว่าคนที่จอดรถขวางประตูโดนโทษ 15 วันแต่รอลงอาญา 1 ปี ทำให้เรื่องราวของการป้องกันการละเมิดสิทธิส่วนตนเป็นประเด็นใหญ่ที่ต้องจับตามอง
อีกกรณีหนึ่ง บ้านตรงข้ามจอดรถหน้าเขตบ้านตนเอง แต่เพื่อนบ้านเอารถออกจากบ้านตัวเองไม่ได้ แรก ๆ คุยกันรู้เรื่อง แต่นิสัยเอาแต่ได้ไม่คิดจะเอารถเข้าไปจอดในรั้วบ้าน ทำให้อดทนต่อไปไม่ไหว แจ้งตำรวจ คนนั้นเลยโดนปรับไป 1,000 บาท ยังดี ที่ไม่ได้ทะเลาะวิวาทขั้นรุนแรง
ถ้าแจ้งแต่ละครั้ง ๆ ละ 1,000 บาท เขาบอกถ้าเกิน 3 ครั้งจะโดนโทษทางอาญา
เรื่องการป้องกันการละเมิดสิทธิส่วนตนและการไม่ไปล่วงละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นที่จะเกิดขึ้นตามมาอีกมาก โดยเฉพาะในสังคมเมืองที่แออัดยัดเยียดเช่นนี้
ความอดทนแต่เดิมคงหมดไป มีแต่คนหัวหมอมากขึ้น การอยู่ร่วมกันฉันท์ญาติมิตรจะจางหายไปเรื่อย ๆ
 



Create Date : 02 มกราคม 2566
Last Update : 2 มกราคม 2566 8:25:29 น.
Counter : 725 Pageviews.

0 comment
ผลัดแผ่นดินกรุงศรี เล่ม1
อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความพูดว่า "https://www.ookbee.com b... ผลัดแผ่นดินกรุงศรี เล่ม 1 1 ราชวงศ์อู่ทอง ราชวงศ์สุพรรณภูมิ Ookbee กรุงศรีอยุธยา อดีต เมืองหลวงของชาติ ไทย ยาวนาน 417ปี ที่รุ่งเรืองมากในอษาค เนย์ คนรุ่นหลังใคร่ เรียนรู้ การผลัดแผ่น ดินที่ปกครองได้ต่อ เนื่อง... n"



Create Date : 03 ตุลาคม 2565
Last Update : 3 ตุลาคม 2565 9:04:40 น.
Counter : 608 Pageviews.

0 comment
‘เมื่อความเศร้ามาเปิดหน้าต่างจ๊ะเอ๋ด้วย
เมื่อความเศร้ามาเปิดหน้าต่างจ๊ะเอ๋ด้วย
ดร.พรรณี  เกษกมล
            โดยธรรมชาติคนเราย่อมทุกข์มากกว่าสุข จึงเป็นปกติมากที่เราจะเห็นคนบ่นว่ากลุ้มใจ เบื่อ เซ็ง แล้วน้อยคนนักที่จะหัวเราะเริงร่าได้อย่างสบายใจ หลายวันหลายคืน พอทำท่าจะอารมณ์ดีขึ้นมาสักหน่อย เอาอีกแล้วมีเรื่องมากวนใจให้บูดได้อีก
            ถ้าเราเริ่มต้นคิดว่า นี่คืออารมณ์ รู้เท่าทันมัน การที่มันมาหาเรา มันเข้ามาทักทาย ถ้าเราทักทายตอบ ยิ้มแย้มตอบรับ มันจะจากจรไปได้รวดเร็วมากขึ้น
            คนที่สุขมากกว่าทุกข์เป็นคนที่จัดการกับอารมณ์ของตนได้เป็นอย่างดี ต้องนับว่าเป็นยอดคน เป็นคนที่รู้ว่า เมื่อเห็นกองขี้หมาจะไม่เข้าไปเหยียบให้เหม็นขี้หมาติดฝ่าเท้า คนสติดี ๆ ที่ไหน จะไปเดินเหยียบกองขี้หมา เช่นกัน คนดีที่ไหนจะรับความทุกข์เข้ามาหาตัวให้เสียอารมณ์ไปเปล่า ๆ ปลี้ ๆ
            ถึงแม้สิ่งที่เรียกว่าทุกข์นั้นมักจะจรเข้ามาหาบ่อยครั้งเหลือเกิน แต่ถ้ารู้จักวิธีที่จะจัดการกับมัน ก็ไม่ยากจนเกินไปที่จะไล่มันไปให้พ้นเส้นทาง เมื่อทำบ่อยครั้งเข้า จะคิดว่าง่ายเสียด้วยซ้ำที่จะไม่ปล่อยให้มันมาจ๊ะเอ๋กับเราได้
            คนที่ทนจนชินจะคิดว่า มันธรรมดานะ ถ้าไม่ทุกข์สิเรื่องแปลก บางคนหาคำขวัญปลอบใจตนเอง บอกว่า มันคืออุปสรรคที่ผ่านเข้ามาทดสอบความสามารถของเรา คนเก่งจะเอาชนะความทุกข์ได้ไม่ยากเย็นจนเกินไปนัก บางคนบอกปล่อยให้ทุกข์แค่นาทีเดียวก็มากเกินพอแล้ว
            ความทุกข์มักจะเปิดหน้าต่างมาจ๊ะเอ๋บ่อยเหลือเกิน ถ้ามันผ่านมา แล้วกอง ๆ ไว้ข้างตัว ไม่เอามาสุมในอก หรือโยนทิ้งเสียให้ไกลหูไกลตา มักจะโล่งอก อยากจะจ๊ะเอ๋บ่อยแค่ไหน ก็ช่างหัวมันเถอะ เราก็จ๊ะเอ๋ตอบด้วยอัธยาศัยอันดี คงจบเรื่อง
            ส่วนคนที่เปิดหน้าต่างครั้งไร ความทุกข์เข้ามาจ๊ะเอ๋ด้วยทุกครั้ง และรับมันเข้ามาเต็มอก ไม่ยอมปล่อยหรือโยนทิ้งแม้สักครั้งเดียว เก็บไว้ตามลำพัง ไม่ผ่อนคลาย ปล่อยวาง หรือระบายออก  ไม่ยอมบอกใครแม้คนที่ใกล้ชิดที่สุด มันรู้ตัวว่าคนนี้แหละที่สมควรจะมาจ๊ะเอ๋ได้บ่อยครั้งเท่าที่จะทำได้
            คนที่ปล่อยให้ทุกข์กองอยู่ในตัว สุมอยู่ในอกมาก ๆ และบ่อยครั้ง ความทุกข์นั้นจะสะสมจนกลายเป็นความเศร้า จากเศร้าน้อย ๆ นาน ๆ ครั้ง เผลอแป๊บเดียวมันจู่โจมเข้าไปถึงหัวจิตหัวใจไปซะแล้ว ไม่ว่าจะคิดอะไร กลายเป็นเรื่องเศร้าลงท้ายได้ทุกที จากคนที่เคยคิดบวกมองโลกในแง่ดีกลายเป็นคนคิดลบมองโลกในแง่ร้ายไปเสียทุกเรื่องสิน่ะ
            จากความเศร้าทำให้เราตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า จากที่นาน ๆ ครั้งมันจะมาจ๊ะเอ๋ กลายเป็นมันจ๊ะเอ๋เราได้ทุกลมหายใจทีเดียว
            แล้วมันเป็นอย่างไรล่ะ ถ้าฉันอยากจะซึมเศร้าบ้าง มันเป็นอะไรนักหรือ ฉันเห็นใคร ๆ ก็ซึมเศร้ากันทั้งนั้นแหละ ถ้าคิดเช่นนี้ คงอยู่บ้านไม่ได้แล้วล่ะ
            คนที่ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าจะไม่รู้ตัว  รู้แต่ว่าจิตใจห่อเหี่ยว อ่อนแอ ท้อแท้ หมดหวัง หมดกำลังใจ  ถ้าไม่รู้ตัวปล่อยให้อาการซึมเศร้าเพิ่มมากขึ้น อาจนำไปสู่การฆ่า
ตัวตายได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ๆ ทีเดียว
            ข่าวคราวที่ประโคมกันได้บ่อย ๆ เกี่ยวกับการฆ่าตัวตายนั้น ร้อยทั้งร้อยเกิดจากคนนั้นอยู่ในภาวะซึมเศร้านาน ๆ แล้วคนใกล้ชิดไม่พาไปบำบัดรักษา ไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ ที่จะช่วยให้หลุดพ้นจากวังวนแห่งการคิดซ้ำ ๆ ว่า เขาเป็นคนไร้ค่า ไม่มีใครต้องการเขาแม้สักคนเดียว
            ถ้าไม่ปรับพฤติกรรม ไม่เปลี่ยนวิธีคิด ไม่จัดการกับสารเคมีที่แปลกปลอมเข้าร่างกาย คงยากนักที่จะถอยห่างจากมันได้ คงถึงเวลาที่จะต้องออกนอกบ้านแล้วไปหาหมอซะแล้ว หมอจริง ๆ ตามโรงพยาบาล ไม่ใช่หมอดู หมอเจ้าเข้าทรงนะ
            แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาไปหาหมอแล้ว คำตอบอยู่ในสิ่งที่เราคิด  เราจะรู้ได้ว่าเศร้าหรือยัง เศร้ามากน้อยเพียงใด
            เมื่อไหร่ที่คิดเกี่ยวกับตนเองและสิ่งแวดล้อมรอบตัวว่าไม่ดี เลวร้าย เราเป็นคนโชคร้าย  ตั้งแต่เกิดมามีแต่ความยากลำบาก  มีความคิดความเชื่อเกี่ยวกับตัวเองในทางไม่ดี  ความคิดไม่มีเหตุผล  คิดว่าตนเป็นคนไม่มีอนาคต  โลกโหดร้ายต่อเรามากเกินไปแล้ว  อนาคตมืดมน  สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นดูจะเลวร้ายไปเสียทุกเรื่อง 
            ถ้าคิดเช่นนี้ซ้ำ ๆ บ่อย ๆ มากเกินไป รีบแจ้นไปโรงพยาบาลได้เลยนะจะบอกให้
            ความคิดเช่นนี้จะทำลายตัวเราและจิตใจของเรา  เพราะจะมองว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเลวร้ายและแปลความหมายทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทางไม่ดี  คิดว่าทุกอย่างรอบตัวล้วนแต่เป็นภาระและอุปสรรค
            การตรวจสอบให้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกเหนือจากสิ่งที่อยู่ในความคิด เพราะบางคน
อาจเข้าข้างตนเอง หรือไม่ยอมรับในความเป็นจริงที่เกิดขึ้น การตรวจสอบว่าตนมีภาวะซึมเศร้าหรือไม่  ให้พิจารณาจากการเปลี่ยนแปลงใน 4 ด้านต่อไปนี้  และพิจารณาว่ามีอาการมากน้อยเพียงใด 
            แบบแผนพฤติกรรม    อยากร้องตะโกนโดยไม่มีสาเหตุแน่ชัด  ไม่อยากอยู่กับครอบครัวและเพื่อนฝูง   ไม่ใส่ใจเสื้อผ้าที่สวมใส่   ไม่ใส่ใจว่าห้องนอนสะอาดเพียงพอหรือไม่   ไม่เจริญอาหาร  ไม่อยากมีสัมพันธ์ทางเพศกับคู่สมรส  รู้สึกอึดอัดคับข้องใจโดยไม่มีสาเหตุแน่ชัด 
            อารมณ์หรือความรู้สึก  อารมณ์เปลี่ยนแปลงเร็วมาก (จากต่ำสุดไปหาตื่นเต้นสุดขีด)  รู้สึกแย่มาก ๆ    รู้สึกโกรธหรือรำคาญง่าย   รู้สึกกลัว  รู้สึกเหมือนกับว่าทุกอย่างต้องใช้ความพยายามมากเหลือเกิน 
            แบบแผนการคิด  หาสมาธิยากในการทำงานที่ต้องใช้ความคิด   เปลี่ยนความคิดอย่างรวดเร็วจากเรื่องหนึ่งไปอีกเรื่องหนึ่ง  มีความคิดในทางไม่ดีในเรื่องต่อไปนี้ :  ฉันคิดว่าฉันน่าจะดูดีกว่านี้   ฉันไม่สามารถทำอะไรที่ถูกต้องได้   ไม่มีใครชอบฉัน  ฉันเกลียดสิ่งที่ฉันเป็นอยู่   ไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงได้   ไม่มีใครรู้สึกอะไรถ้าฉันตาย  ฉันเกลียดชีวิตฉัน  ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโง่
            อาการทางกาย  มีปัญหาเรื่องการย่อยอาหาร  ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ  รู้สึกไม่ค่อยดีหรือไม่ค่อยสบายตัว  ร่างกายหนักอึ้ง   สีหน้าเรียบเฉย
 
            ถ้าแค่เริ่มต้นเศร้า ก่อนเข้าสู่ภาวะซึมเศร้า ลองทำสิ่งต่อไปนี้ดูไหม อาจจะดีขึ้นก็ได้นะ อย่าปล่อยให้เรื้อรัง จำเอาไว้ ไม่เช่นนั้นอาจสายเกินแก้
            การเพิ่มกำลังใจให้ตนเองหรือรู้จักเอาชนะความเศร้าจะช่วยให้เรามีกำลังใจ  และมีจิตใจที่เข้มแข็ง  พร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ
            วิธีที่คุ้นเคยมากที่สุด  คือ การหาธรรมะยึดเป็นหลักประจำใจ   การอ่านหนังสือธรรมะก่อนนอน การทำสมาธิ การไปวัดทำบุญทำทาน  การเรียนรู้หลักโลกธรรม รู้เท่าทัน  คิดว่าไม่มีทุกข์ตลอดกาล   คนเราเดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์   เราก็จะมีกำลังใจต่อสู้ให้ผ่านทุกข์ครั้งนี้ไปได้
            การเอาชนะความเศร้า ต้องพยายามให้ใจของเราปรับเปลี่ยนแนวคิด   ให้คิดแต่เรื่องที่จะทำให้เรามีความสุข  มีกำลังใจที่จะต่อสู้  สมัยนี้หนังสือประเภทเสริมสร้างกำลังใจ  วิธีเอาชนะทุกข์   ก้าวไปข้างหน้า  มีมากมาย  ลองหามาอ่านบ้าง  จะได้รู้วิธีสร้างเป้าหมายใหม่ให้กับตนเอง  ทำให้เรามีความคิดที่จะทำโน่นทำนี่   ให้มีความคิดที่ดีที่จะต่อสู้ชีวิตและนำชีวิตไปสู่ความก้าวหน้ารุ่งเรือง
            สิ่งที่จะต้องทำ คือ ให้ความรู้สึกว่าตนคือผู้แพ้  ทำไมโลกจึงโหดร้ายกับเราหมดสิ้นไปจากใจให้ได้  ความรู้สึกว่าตนสูญเสียซ้ำแล้วซ้ำเล่าต้องลดน้อยลง  ต้องเร่งสร้างความภาคภูมิใจในตนเอง  เลิกนิสัยการพึ่งพาผู้อื่น 
            การหัดคิดแต่สิ่งที่เป็นปัจจุบัน  ที่นี่และเดี๋ยวนี้  ไม่คิดถึงอดีตที่ผ่านมาแล้ว  ไม่นึกถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง  ฝึกการคิดแบบมีเหตุผล  เลิกความเชื่อที่งมงายไร้สาระ 
            ตัวอย่างความคิดที่ไร้เหตุผล เช่น  ฉันจะสุขก็ต่อเมื่อทุกคนรักฉัน   คนที่ดีพร้อมทุกอย่างเท่านั้นจึงจะเป็นคนที่มีคุณค่า  แท้ที่จริงคนทุกคนเหมือนกันหมดมีทั้งดีเลวปะปนกัน   ไม่จำเป็นต้องคิดว่าเราต้องทำดีที่สุด  พลาดไม่ได้  
            ท้ายนี้คนที่ปล่อยให้ความเศร้ามาจ๊ะเอ๋บ่อย ๆ และรับเข้ามาไว้กับตัว ขอให้ปรับพฤติกรรม เปลี่ยนวิธีคิด ให้เป็นคนที่มีอารมณ์แจ่มใส มีความสุขบ่อยครั้งกว่าความทุกข์  จำไว้ว่าถ้าวันนี้อารมณ์ไม่ดีหนึ่งครั้ง พรุ่งนี้จะอารมณ์ไม่ดีสองครั้ง  และจำนวนครั้งจะเพิ่มขึ้นทุกวัน  จนกลายเป็นคนที่อารมณ์ไม่ดีได้ตลอดเวลา  แล้วตัวเราเองจะไม่มีความสุข
            อย่าปล่อยให้ความเศร้ามาจ๊ะเอ๋บ่อย ๆ และรับเข้ามาไว้กับตัวนะจ๊ะ
 



Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2565
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2565 15:24:07 น.
Counter : 826 Pageviews.

0 comment
การพึ่งพาตนเอง
การพึ่งพาตนเองของเด็กและผู้เฒ่า



Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2565
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2565 9:47:38 น.
Counter : 1020 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments