All Blog
สรุปหนังสือชุดรวม #บทความเขียนมือ #พรรณีเกษกมล
สรุปหนังสือชุดรวมบทความเขียนมือ
พรรณี เกษกมล
 
1.         ขำขัน ตลก ฮาเฮ ผู้เขียน ทิตา วันที่ 3 ตุลาคม 2564
ชีวิตที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ จะสร้างความสุขกายสบายใจ ช่วยให้บรรยากาศรอบตัวผ่อนคลาย ในหมู่เครือญาติ พี่น้อง ครอบครัว เพื่อนสนิท มิตรสหาย ให้มีแต่ความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน ทุกคนพลอยเบิกบานแจ่มใสกับเรื่องเล็ก ๆ ที่สร้างเสียงหัวเราะ
 
2.         สู่ความสำเร็จอย่างชาญฉลาด ผู้เขียน พัทธดนย์ เกษกมล 25-1-2565
ปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จอย่างชาญฉลาด เพียงแค่รู้เทคนิค วิธีการ know how & growth mindset วิ่งตามกระแสโซเชียลให้ทัน innovation ในยุคที่โลกกระพือปีก Self – educated เพื่อก้าวตามให้ทัน สื่อที่อยู่แค่ปลายนิ้วมีมากมายเกินต้องการ ขอแค่อยากรู้อยากเห็นเป็นนิสัย รู้สิ่งดี ๆ นำมาปรับใช้ให้เหมาะกับตนเอง จะให้แน่ ต้องคิดผลิตความรู้ใหม่เป็นของตนเองให้ได้ จึงจะก้าวสู่ความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
 
 
3.         กบก้าวกระโดด จากกะลาครอบ พรรณี เกษกมล 15/1/2567
75 วิถีแห่งการคิด พิชิตปัญหาและอุปสรรค เพื่อก้าวข้ามขวากหนาม
วนเวียนกับกรอบคิดเดิม จะมีวันหลุดพ้นรึ ลองเปลี่ยนมุมมองคิด จะมองเห็นโลกกว้าง ฟ้าใสสว่าง
รู้จักและรักตนเองก่อนอื่น มองเห็นคุณค่าและศักดิ์ศรี ศักยภาพที่เติมเต็มได้ สร้างแรงบันดาลใจให้ใฝ่รู้ ก้าวไปข้างหน้า นิสัยเดิมแย่ ๆ ไม่ต้องพะเน้าพะนอให้คงอยู่ เปลี่ยนใหม่เป็นคนใหม่ ที่พร้อมก้าวตามโลก รุ่นใหม่รู้อะไร ฝืนบังคับตนให้รู้เท่าทัน มีวิธีที่จะก้าวข้ามขวากหนามแล้วล่ะ
 
4.         เขียนบันทึก ปลุกพลังที่ซ่อนเร้น พรรณี เกษกมล 27/8/2567
การเขียนบันทึก เริ่มจางหายไปจากชีวิต เมื่อมีอายุมากขึ้น ไม่มีงานประจำทำ และโลกก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยี การมีมือถือ คอมพิวเตอร์ ที่ใช้นิ้วในการพิมพ์ กดแป้นพิมพ์ แทนการใช้ปากกา ดินสอ ส่งผลให้เราลด ละเลิก การจดบันทึก ขีดเขียนลงกระดาษ สมุด
สิ่งที่หายตามไปด้วย คือ การใช้สมองประมวลผลความคิด ก่อนสั่งกล้ามเนื้อมัดเล็ก จับปากกาขีดเขียนให้สวยงาม
คนที่เลิกการเขียนนาน ๆ จะรู้ตัวเลยว่า ไม่สามารถขีดเขียนได้สวยงาม บังคับนิ้วได้ตามใจตน คงเหมือนฝึกเด็กเล็ก เด็กอนุบาลให้หัดเขียนนั่นเอง
            การเขียนสร้างพลังชีวิต เพราะเป็นกระบวนการที่ช่วยให้เกิดการตระหนักถึงชีวิตและความคิดในแต่ละวัน
การเขียนบันทึกช่วยให้ติดตามและปรับปรุงตัวเอง และช่วยให้มีความรู้สึกดีต่อตัวเอง มีพลังใจในการดำเนินชีวิต
ลองเริ่มต้นเขียนบันทึกส่วนตัว สร้างพลังชีวิต ให้เป็นเรื่องสนุกและมีประโยชน์ ลองเริ่มต้นด้วยเรื่องที่คุณรู้สึกต้องการจะบันทึกไว้ และเริ่มเขียนเพื่อสร้างพลังใจให้กับชีวิต
5.         คิดคำคม วาดดอกไม้ ยามฟ้าสาง พรรณี เกษกมล 3/9/2567
เช้า ๆ ยามฟ้าสาง อากาศสดชื่นแจ่มใส ตื่นนอน ด้วยหลับเต็มอิ่ม
ให้สร้างความรู้สึกดี ๆ ใส่สมอง ร่างกายจะได้คึกคัก ออกกำลังกายยืดเหยียดบ้าง
ทำในสิ่งที่รัก กระตุ้นความคิดด้านบวก  ง่าย ๆ ด้วยการวาดรูปในไอแพด
คิดคำคมที่ผ่านมา ที่ให้แง่คิด จดใส่สมุดเล่มน้อย แค่นี้ก็โอเคแล้วมั้ง
ที่จะสร้างพลัง เติมเต็มให้ใจดวงน้อย ๆ ต่อสู้กับชีวิตในวันนี้ได้อย่างสบาย ๆ
แม้ฟ้าอาจหม่นหมองมัว เทาหม่น ๆ แต่ใจต้องมองฟ้าให้เป็นสีฟ้าให้ได้
 
6.         เวลาดี ๆ เพื่อชีวิตที่ดี พรรณี เกษกมล 15/9/2567
            ชีวิตที่ดีคืออะไร อาจต่างกันไปในแต่ละคน แต่ละความคิด อาจเป็นชีวิตที่สงบสุข ไม่มีภัยอันตรายใด ๆ มาแพ้วพาน หรือมีทรัพย์สินมากมาย เงินทองล้นฟ้า มีอำนาจวาสนาล้นเหลือ แต่จุดเริ่มต้น ไม่ต่างกันมากนัก ต้องเริ่มต้นที่ตัวของเรานั่นเอง
            ถ้าใจร้อนรนกระวนกระวาย อยากได้ใคร่ดีจนไม่มีเวลาตริตรอง
            ไม่เคยหยุดตั้งหลัก ตั้งคำถามที่สำคัญที่สุดว่า ชีวิตนี้ต้องการสิ่งใดกันแน่
แล้วถามใจตนว่าปลายฝันนั้น สุดสายป่านที่ปลายรุ้งอันไกลโพ้น มันอยู่ ณ หนแห่งใดกันแน่ จะไปด้วยวิถีและวิธีทางเช่นใด
มิเช่นนั้น คงฉกฉวยคว้าโอกาส หาเส้นทางเดินไม่พบเป็นแน่แท้ เวลาดี ๆ ที่ต้องค้นหาและไขว่คว้ามาครอบครอง ก่อนตั้งคำถาม มันคือจุดเริ่มต้นที่จะตอบว่า ชีวิตที่ดีของฉันนั้นเป็นเช่นใดกัน
 
7.         กล้าแกร่งบนความอ่อนละมุน พรรณี เกษกมล 22/10/2567
จงมั่นใจในตน พร้อมบุกตะลุยฝ่าด่านปัญหา อุปสรรค ด้วยความกล้าหาญ แกร่งกล้า ไม่ย่อท้อ ไม่บุ่มบ่าม ด้วยขาดสติสัมปชัญญะ แต่พร้อมด้วยเสน่ห์ ลีลาท่าทาง ที่ไม่คุกคามฝ่ายตรงข้าม มีความอ่อนละมุน อ่อนโยน สุภาพ ไม่คุกคาม ก้าวร้าว กระด้างกระเดื่อง
การกล้าหาญเชิงจริยธรรม การกล้าแสดงออก เปิดเผยสิ่งที่ควรทำ สิ่งที่ถูกต้อง ด้วยการเจรจาโต้ตอบ บอกกล่าว และแกร่งมากพอที่จะรับแรงกระแทก แรงตอบโต้ ด้วยความอ่อนละมุนนั้นเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน
 
8.         กล้าที่จะคิด ฉีกมุมมอง พรรณี เกษกมล 9/11/2567
ในโลกยุคข้อมูลข่าวสารที่สื่อสารอย่างรวดเร็วในกระแสโซเชียล การรับรู้เรื่องราวหรือฟังข่าวสารบ้านเมือง บ้างคิดคล้อยตาม เชื่อทันทีโดยไม่ลังเล บ้างคิดขัดแย้ง เชื่อไปได้อย่างไรกัน บ้างคิดตรงข้ามในอีกมุมมอง
การกล้าคิดและยอมรับว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดตามแต่ประสบการณ์ที่เรียนรู้มา เขาคิดเช่นนั้น เราคิดเช่นนี้ ถึงจะแปลกแตกต่างกัน ลองเปิดใจรับฟัง ขณะเดียวกันต้องกล้าที่จะแสดงความเห็นของตนออกมา เชื่อมั่นว่า เป็นความคิดที่ดี ม่จำเป็นต้องลอกเลียนแบบหรือทำตามความคิดคนอื่น โดยขาดการไตร่ตรอง พิจารณาก่อน
การกล้าที่จะคิด และกล้าแสดงออกเป็นหนทางหนึ่งที่จะสร้างนวตกรรม และก้าวมายืนอยู่แถวหน้าได้อย่างอาจหาญ ในมุมมองที่แปลกแตกต่างจากคนอื่น
 
9.         มหัศจรรย์ แห่ง ปาฏิหาริย์ พรรณี เกษกมล 28/11/2567
            สิ่งใดที่จะให้คำตอบว่า มหัศจรรย์ แห่ง ปาฏิหาริย์ คืออะไร เป็นจริงมากน้อยแค่ไหนนั้น ผู้ที่จะได้คำตอบที่ดีที่สุด คงได้แก่ เจ้าตัวผู้ตั้งคำถามนั่นแหละ
            สัจอธิษฐานที่มุ่งมั่นตั้งใจทำสิ่งที่ดีงามที่เหมาะเฉพาะตน ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล ภาวนา เจริญปัญญา แล้วทำอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง ด้วยใจมุ่งมั่น ย่อมเกิดมหัศจรรย์แห่งปาฏิหาริย์ ได้แน่นอน แม้จะทำเพียงแค่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น เข้าพรรษา ก็ตาม
สมองที่ทำงานทุกเช้าหลังตื่นนอน จะแจ่มใสสดชื่น ถ้าเพียรรับแต่สิ่งดีงามเข้าใส่ตัว ย่อมทำให้ฉลาดขึ้น แล้ววันนั้นทั้งวันจะพบเจอแต่สิ่งดีงาม นี่เป็นอีกมหัศจรรย์หนึ่ง คือฉลาดขึ้นและได้รับพร มีแต่สิ่งดี ๆ เข้าหาตัว
อีกปาฏิหาริย์หนึ่ง เมื่อบำเพ็ญบุญบารมีมากพอ ย่อมจะได้รับอานิสงส์ผลบุญที่จะเกิดขึ้นในชาตินี้ มีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้น อาจจะเป็นโชคลาภที่ไม่คาดฝันและจะเกิดขึ้นในจิตสุดท้ายก่อนจะจากโลกนี้ไป เพราะในสมองได้สั่งสมสิ่งดีงาม จึงคิดได้แต่เรื่องดี ๆ นั่นเอง
 
 
10.       เขียนบันทึกทุกเช้า สมองแจ่มใสได้ทั้งวัน พรรณี เกษกมล 6-3-2568
กิจวัตรประจำเช้า สำหรับผู้ตื่นยามฟ้าสาง สมองจะแจ่มใสเป็นที่สุด สิ่งที่คั่งค้างในสมอง คิดไม่ออก ตรองไม่ตกก่อนนอนคำตอบจะผุดออกมาแบบวิ่งไหลปรู๊ดปร๊าดได้เลย
มันเป็นสิ่งน่าฉงน ใช่ไหมล่ะ ปากกา สมุดสวยเขียนลื่นเตรียมพร้อมไว้เลย ความรู้ประสบการณ์ที่สั่งสมไว้ จัดเก็บเป็นระเบียบ แม้แต่ผู้ที่ต้องใช้สมองอย่างหนักในแต่ละวัน จะพบความมหัศจรรย์ของสมองว่า เอ๊ะ เรานี่ฉลาดขึ้นนะ ไม่ใช่แค่สมองแจ่มใสในวันนั้นเท่านั้น แต่จะฉลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ
ลองนะ หัดพรั่งพรูสิ่งที่มีในหัวออกมาเป็นตัวหนังสือ แต่คงต้องเพิ่มเติมความรู้ใส่สมองด้วยล่ะ ในระหว่างวัน วิธีง่าย ๆ ที่จะเพิ่มความฉลาดให้ตัวเอง
 
11.      คิดด้วยใจ ที่ไตร่ตรอง พรรณี เกษกมล 17-5-2568
วิธีการที่ง่ายที่สุด ที่ทำให้ฉลาด คือ การอ่านมาก ฟังมาก คิดโน่นนี่นั่นในสิ่งที่รับรู้มา การเขียนด้วยลายมือเพื่อกลั่นกรองว่าคิดอะไร เป็นวิธีการที่ตกตะกอนความคิด และเป็นวิธีการออกกำลังสมองที่ดีเยี่ยม
ความเชื่อมั่นในสิ่งหนึ่งจนเกิดพลังแรงกล้า และมีเจตจำนงจะทำให้ได้ เพื่อไปสู่ปลายฝัน คือ ทำให้สมองแข็งแรง
สมองสามารถยืดอายุขัยได้ ด้วยวิธีการง่าย ๆ คือ การออกกำลังสมอง ที่ทุกคนทำได้ ด้วยตนเองที่บ้าน ไม่ว่าอายุจะมากเพียงใด หรือเริ่มหย่อนสมรรถภาพมาแล้วสักระยะหนึ่ง ถ้าได้ฟื้นฟูสมรรถนะบ่อย ๆ เซลล์ปลายประสาทสมอง จะค่อย ๆ แผ่ขยายเส้นปลายประสาทได้
ตอนเช้ามืดสมองปลอดโปร่งแจ่มใส คิดออก ขีดเขียนได้อย่างดี
ทำไมต้องเขียนบันทึกด้วยลายมือ นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง สมองจะประมวลผลผ่านการขีดเขียนมากกว่าการกดแป้นพิมพ์ เมื่อทำซ้ำ ๆ
บ่อย ๆ จนเป็นกิจวัตร สมองจะจดจำว่า ต้องคิดและเขียนสิ่งที่ตกผลึกในสมอง นี่คือการออกกำลังสมอง บางคนบอกอีกว่า ให้อ่านออกเสียงดังในสิ่งที่เขียนด้วยซ้ำ สมองจะได้ทำงานคล่องแคล่วขึ้น
 
 
 
 
 
 
 



Create Date : 19 พฤษภาคม 2568
Last Update : 19 พฤษภาคม 2568 8:44:39 น.
Counter : 189 Pageviews.
0 comment
(โหวต blog นี้) 
#คิดด้วยใจที่ไตร่ตรอง #พรรณีเกษกมล
#คิดด้วยใจที่ไตร่ตรอง #พรรณีเกษกมล
   
เก่งเลข จำหลักแม่น เข้าใจ ประยุกต์ใช้แก้ปัญหาโจทย์ได้
เกิดขึ้น เมื่อเข้าใจสัจธรรมแห่งกาลเวลา คงไม่งอแงอยากยึดติด
เครียดแล้ว เมื่อร่างกายผิดปกติ ต้องเริ่มแก้ไขที่ใจด้วยนะ
เจรจา ตามข่าวการเมืองต่างประเทศบ้าง จะได้รู้เหนือรู้ใต้
เชื้อโรค ตัวร้ายที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ต้องระวังตัวให้ปลอดภัย
เด่นเกิน เชื่อคำโบราณไว้บ้าง ไม่มีใครอยากเห็นใครเด่นเกิน
เปรียบเทียบ ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน พรุ่งนี้ให้ดีกว่าวันนี้ เป็นพอ
เผชิญหน้า ลองสู้สักตั้งกับความกลัว แล้วจะรู้ว่า กลัวทำไมตั้งนาน
เพลี่ยงพล้ำ คนฝีมือสูสีสู้กัน รอดูตอนต่อไปเรื่อย ๆ ยากนักที่จะจบ
เรียนรู้ เมื่อโลกปั่นป่วน จำต้องรีบเร่งเรียนรู้เพื่อเอาตัวรอด
เล่นทอง อยากรวยด้วยทอง ต้องรู้ทันกาล ตอนใดควรซื้อขาย
เลี้ยงลูก เลี้ยงด้วยรัก อย่างเหมาะสมพอเหมาะพอดี
เลือกฟัง รู้จักที่จะเลือกฟัง เลือกรับสิ่งดีงามเข้าหาตัว
เศรษฐกิจ ไม่รู้ ให้ฟังกูรู ผู้รู้ถกเถียงอภิปราย แล้วคิดตาม
เหงาหงอย ทำตัวให้ยุ่ง ๆ หาโน่น หานี่ทำไปเรื่อย ๆ มีงานหายเหงา
เหยียบย่ำ อย่าตามกระทืบซ้ำให้ใครจมดิน หน้าคว่ำเลย
เอาคืน เมื่ออ่อนแอ อาจแพ้พ่าย แต่แข็งแกร่งยืนหยัดสู้ได้
แข็งแรง รู้หลักแล้วต้องทำให้เป็นกิจวัตร จะได้แข็งแรง
แซยิด ยังไงต้องเกิด แค่ทำใจยอมรับ เตรียมพร้อมให้ดี
แผลเก่า ล้างแค้นกันไป ขอเอาคืนกันบ้าง จะสิ้นสุดชาติไหน
แสงเทียน คนแก่ใกล้ตาย จะเกิดพลังเฮือกสุดท้ายทำที่คิด
โควิท โรคระบาด ตัวใครตัวมันนะพวก เอาตัวให้รอด
โชคป่ะ สิ่งใดบันดาลดลให้เกิด สิ่งที่ไม่เป็นตามคาด
โหดร้าย สงครามทำลายล้างผู้คนทั้งฝ่ายชนะ ฝ่ายแพ้
โอกาส ดวงดีจังหวะมา พร้อมรับโอกาสจรเต็มที่หรือยัง
ดวงดี คิดใหม่ ทำใหม่ พร้อมรับโชคใหญ่ที่จะเข้ามา
ดีเลว คิดได้เลือกได้ ทำดีมีแต่คนชม ทำเลวคนก่นด่า
ตรุษจีน หาความสุขแบบใหม่ นั่งรถไฟฟ้าฟรี รัฐบริการ
ต่อต้าน เมื่อโดนพี่เบิ้มรังแก ตัวเล็กไม่ยอมง่าย ๆ หรอก
ตอนนี้ เมื่อรู้มากเกิน ความคิดย่อมแตกต่างหลากหลาย
ต่อสู้ มานะ บากบั่น เพียรพยายาม สู้เต็มที่ ได้แน่
ตักตวง โชคใหญ่จรเข้ามา ไขว่คว้าให้ได้มาอย่างเต็มที่
ตามทัน โลกหมุนเร็ว วิ่งเร็วจี๋ มัวอยู่เฉย คงถอยหลังแล้ว
ชั่ววูบ ฝึกคุมโทสะ ติดเบรกอารมณ์รุนแรง หยุดตั้งหลัก
ก้าวตาม จะยืนนิ่งเฉย ไม่รู้ไม่ชี้ หรือพยายามวิ่งตามให้ทัน
กู้ภัย ช่วยได้ให้ช่วย ร่วมใจร่วมมือเต็มที่ ไม่ช่วยหุบปาก
ของฟรี หลายคนชอบของฟรี ที่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อน
ข้อห้าม ชีวิตมีข้อกำหนด ตามใจทุกเรื่องไม่ได้ อันตราย
คนเลว อย่าปล่อยคนเลวทำร้ายร่างกายและจิตใจของเรา
งานฝีมือ ผู้หญิงเก่ง ชำนาญงานบ้าน งานเรือน งานฝีมือ
จดจำ สื่อกระแสโซเชียลช่วยเก็บบันทึกสะสมผลงาน
จัดการ ทักษะความสามารถในการแก้ปัญหาให้เรียบร้อย
จำได้ จำภาพและตั้งใจฟัง ออกเสียงสิ่งที่จะจำ 3 ครั้ง
ชั้นเชิง ใช้เล่ห์เพทุบาย ลอบแทงข้างหลัง อันตรายมาก
ไฮเปอร์ คนคิดเร็ว สมาธิสั้น ชอบอะไรที่รวดเร็วทันใจฉับไว
กลับคำ ตวัดลิ้นพลิกคำ สูญสิ้นศรัทธาความน่าเชื่อถือได้
กล้าแกร่ง มากฝีมือ หากยอมถอย คงยากจะถึงเส้นชัย
สากล ภาษาสากลที่ใช้ได้ทั่วไป และทันสมัยอยู่เสมอ
สามคำ สร้างเสน่ห์ได้ง่าย ๆ สวัสดี ขอบคุณ ขอโทษ
สื่อสาร เลือกรูปแบบให้เหมาะกับคู่สนทนา เพื่อประโยชน์
สุมฟืน แบ่งแยกสองขั้ว ต่างความคิด ยิ่งยุยงยิ่งแตกแยก
หนุ่มสาว หนทางเต็มไปด้วยขวากหนาม แต่ต้องก้าวต่อ
หลอกล่อ เดินตามหมากที่วางไว้ เพลินไปเรื่อย จนหลงทาง
หลักฐาน ทำผิด พลั้งพลาด ระวังพยานหลักฐานเอาผิด
หลานรัก แก่เฒ่าเป็นปู่ย่าตายาย หลานตัวน้อยคือของขวัญ
หัวเก่า นิยมชมชอบของเก่าแก่ดั้งเดิมว่าดีเลิศประเสริฐศรี
หัวเราะ เสียงดังเฮฮาพูดคุยสนุกสนาน คิกคักตามมา
หัวหด ลุยเลย ตายเป็นตาย หรือตั้งหลักถอยก่อน
หายวับ พร้อมรับทำใจกันบ้าง คนข้าง ๆ อาจลาลับจากไป
ผลาญงบ พอเพียง พอประมาณ ใช่ใช้เต็มที่ ไม่ใช่เงินตน
ผ่อนคลาย เครียดมาก ให้รู้ตัว ตั้งสติ ทำจิตนิ่งสงบซะก่อน
พึ่งตน ศิลปะเลี้ยงลูกต้องสอนให้ช่วยเหลือตนเองให้ได้
ฟูแฟบ ธรรดาอารมณ์มีขึ้นมีลง มีฟูมีแฟบ ต้องรู้เท่าทัน
ภูมิปัญญา ถ่ายทอดบอกสิ่งที่รู้ นับเป็นธรรมทาน ได้บุญมาก
เที่ยวกัน หลังฝุ่นตลบ คนแก่นั่งรถไฟฟ้าฟรี สบายใจไปเลย
มาตรฐาน อยู่ในสังคมที่ยอมรับข้อกำหนดได้อย่างมีความสุข
มีงาน แก่เฒ่า อย่าอยู่นิ่งเฉย หางานอดิเรกสนุก ๆ ทำ
มีสิทธิ์ กฎหมายกำหนดสิทธิ์ให้คนรักกันถูกต้องชอบธรรม
ย่ามใจ บาปกรรมโผล่มาชาตินี้ไม่ทัน รอชดใช้ชาติหน้า
รวยได้ ทำผิดคิดมิชอบ ฉ้อราษฎร์บังหลวง ระวังติดคุก
ระเบียบ สร้างวินัยให้เกิดแก่ตน จนเป็นกิจวัตร จะเกิดผลดี
รับรู้ แต่ละวัยรับปัญหาต่างกัน และแก้ปัญหาต่างกันด้วย
ลุยเลย ทำทันที ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง เป็นสิ่งที่ควรฝึก
ลูกไก่ ตัวเล็กกระจ๋อยหรอย ไม่กล้าแม้แต่จะคิดต่อกร
ศรัทธา แรงจูงใจเต็มร้อย ความหวังเต็มเปี่ยม ชนะในที่สุด
ศักดิ์สูง ดูถูกดูหมิ่น เป็นอีกวิธีที่จะห้ามปรามคนมาทำร้าย
สปิริต แสดงออกอย่างชัดแจ้ง เพื่อรับผิดชอบผลการกระทำ
สร้างได้ สุขหรือทุกข์ ใครกำหนด ถ้าไม่ใช่ตัวของเรา
สร้างสรรค์ สมองแจ่มใส ปลอดโปร่ง แต่ละคน แต่ละวัยต่างกัน
สอบเลข เทคนิคที่ช่วยให้ทำคะแนนเลขคณิตได้ดีขึ้น
ก่อนสอบ ทำใจให้สบาย ผ่อนคลาย สมองจะได้แจ่มใส
ทำเฉย ทำผิดคิดมิชอบมั้ย ไม่รู้ แต่ควรกล่าวขอโทษ
ทำไร ทำตัวให้ยุ่ง ๆ มีงานให้ทำทุกวัน ไม่เหงาแน่
ทีนเอจ วัยแห่งการค้นหาเอกลักษณ์ประจำตนให้พบ
บันทึก การขีดเขียนสิ่งที่ตั้งใจทำ สิ่งที่ได้ทำ สุดยอดมาก
บ้านสวย จัดบ้านเป็นระเบียบ สะอาดเรียบร้อย สดใสได้
ปกปิด วันนี้ปิดมิด พรุ่งนี้ผลุบ ๆ โผล่ ๆ มะรืนรู้ทั้งเมือง
ประวัติศาสตร์ เกิดในอดีต ส่งผลถึงปัจจุบัน ส่งต่ออนาคต
ปรับตัว ล้มแล้วต้องลุก และจะไม่ล้มในที่เดิมซ้ำอีกครั้ง
ปั่นป่วน อำนาจล้นฟ้า แค่คิดแผลงๆ โลกวุ่นวายไปทั่ว
ปันผล เลือกวิธีให้เงินทำเงินที่ได้ผลลัพธ์สูง คำนวณด้วย
ตามพ่อ เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง จะจำฝังใจได้ดี
ตื่นเช้า เวลามากมายคิดโน่นทำนี่ได้มากมายสมองแจ่มใส
อายุ ก่อนสิ้นอายุขัย ทำประโยชน์สักนิดให้ลูกหลาน
อาลัย หนึ่งชีวิตอุทิศให้ศาสนา ทำประโยชน์แก่ปวงประชา
เดือดร้อน ภัยพิบัติรุนแรง อันตราย ทำให้ได้ ยอมรับผลที่เกิด
เจ็ดสิบ เกณฑ์กำหนดสุขภาพดีเมื่อมีอายุมากขึ้นแล้วทำได้
เดินเร็ว ออกกำลังเดินเร็วกลางแจ้ง ไม่ไหวให้เด็นเร็วสลับช้า
เป็นทาส ติดเหล้า ติดยา ติดบุหรี่ นับเป็นตกทาสสิ่งเสพติด
เส้นรอบวง ทุกชีวิต ทุกสิ่งหมุนวนย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นเสมอ
โทสะ สะสมเพิ่มพลังความรุนแรงมากขึ้น ๆ จงหยุดแต่น้อย
คนฉลาด สัญญาณแสดงว่าเป็นคนฉลาดจริง ลองทดสอบดู
จดจ่อ รู้มากย่อมดี ขอให้รู้จริง อย่างถูกต้อง ไม่มั่วไปเรื่อย
ด้อยค่า ทำตนสูงค่า ใช้คำที่มีเหตุผล งดเว้นดูหมิ่นดูแคลน
ดำขาว สีตรงข้ามต่างกันลิบ แต่ผสมกันได้นะเป็นสีเทา
ตามทัน อย่ามัวแต่งุ่มง่ามเงอะงะ งงงวย อะไรกันหว่า
ทรงแบด ทำตัวได้เลวสุดขั้ว หาดียากหน่อย คงต้องปรับตัว
ทองขึ้น เคยเห็นราคา 54,000 บาท 3,500 เหรียญ สูงจริง
ที่สุด ยากที่สุดที่จะได้ที่ดีสุด และเลวสุดในทุกเรื่อง
ธรรมเนียม เปลี่ยนร้านซื้อขายทองแท่ง ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
บุญ เลือกทำสิ่งดี ทำแล้วสบายใจ ไม่ระรานทุกผู้คน
ปุบปับ หนังสั้นบอก เผื่อตายแล้วฟื้น จะไม่ขอเป็นเหยื่อ
ฝีมือ มีดีต้องโชว์ อย่าเก็บงำ แอบซ่อน โชว์แล้วดีเอง
มาตรฐาน ทุกแห่งหนตำบล มีมาตรฐานกำหนดกฎเกณฑ์
มุสา โกหก เพ้อเจ้อ ส่อเสียด ด่าทอ ให้ร้าย ล้วนผิดศีล
ลุยเลย วิธีช่วยให้ทำทันที ด้วยการนับ 5 4 3 2 1 แล้วทำ
สองสี ผู้นำจีนต่างยุค จะแก้อดีตที่บอบช้ำได้หรือไม่
อุษาหะ ตั้งใจ อย่างมั่นใจเต็มร้อย เพื่อบากบั่นทำสิ่งที่คิด



Create Date : 17 พฤษภาคม 2568
Last Update : 17 พฤษภาคม 2568 13:17:20 น.
Counter : 213 Pageviews.
0 comment
(โหวต blog นี้) 
#ทำไมจึงไม่มีมาตรฐานเดียวทั่วโลก #พรรณีเกษกมล #มาตรฐาน
#พรรณีเกษกมล #มาตรฐาน
๑.  #ทำไมจึงไม่มีมาตรฐานเดียวทั่วโลก
ในโลกสมัยใหม่ การทำงานใด ๆ ต้องมีมาตรฐานคุณภาพ และตัวบ่งชี้เป็นตัวกำหนดผลการทำงาน  เกือบจะทุกอาชีพต้องโดนผลกระทบของแนวคิดนี้  แต่ต่างแห่ง ต่างถิ่น ต่างที่นี้  มาตรฐานแตกต่างกัน ใครเป็นผู้กำหนดมาตรฐาน 
เมืองไทย จะใช้หลักระยะทางเป็นกิโลเมตร 
อเมริกา ป้ายบอกระยะทางเป็นหลักไมล์  
เส้นทางที่ออกจากสนามบินลอสแอลเจลิสไปยังเมืองซานดิเอโกจะมีป้ายบอกชื่อถนน ระยะทางที่จะไปอีกแห่งหนึ่งเป็นตัวเลขหลักไมล์เป็นจำนวนเต็มและเลขเศษส่วน 
การบอกระยะทางด้วยเลขเศษส่วน ทำให้นึกไปว่า เด็กที่นี่ต้องเก่งเรื่องเลขเศษส่วนแน่นอน เพราะป้ายระยะทางเป็นเลขจำนวนเต็มกับเลขเศษส่วน เช่น ๑/๒  ๒/๓  ๓/๔ 
แรก ๆ ที่เห็น งงเล็กน้อยด้วยความไม่คุ้นว่ามันควรเป็นเท่าไร 
ตัวเลขไหนจะมากน้อยกว่ากัน ระหว่าง ๒/๓ กับ ๓/๔ 
นี่เป็นความคุ้นเคยที่ทำให้แต่ละคนเก่งในแต่ละเรื่องแตกต่างกัน 
ถ้าบ้านเมืองใช้อย่างไร คนในบ้านเมืองนั้นจะคุ้นเช่นนั้น 
เมืองไทยมีหลักกิโลเมตรบอกระยะทาง เสาสีขาวเล็ก ๆ ข้างถนน 
ใครที่เดินทางไปต่างจังหวัดมักใช้เสาบอกทางเป็นสิ่งบอกให้รู้ว่าเราเดินทางไกลแค่ไหนแล้ว และอีกนานเท่าไรจึงจะถึง  
ที่น่าเสียดายอีกอย่างของเส้นทางจากกรุงเทพไปชลบุรี  จะมีถนนลอยฟ้าอยู่ข้างบน  ถ้าใช้ตัวเลขที่ต้นเสาบอกระยะทางด้วย คงจะดีกว่าเป็นต้นเสาโล้น ๆ หรือมีตัวเลขอะไรไม่รู้ไม่มีความหมายอันใดที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สัญจรไปมา 
ตอนนี้ใต้ทางด่วน เริ่มมีตัวเลขบอกลำดับของต้นเสาบ้าง
การทักทายด้วยการ Shake hand ถ้าแปลตรงตัวคงบอกว่า ทำให้มือสั่น จับมือเขย่า ที่จริงเขาจับมือกันเขย่าเพื่อให้สั่นเล็กน้อยเป็นการแสดงการทักทาย เหมือนที่บ้านเราเขายกมือไหว้สวัสดีกัน และมีระดับที่แตกต่างเช่นกัน 
ถ้าไหว้ผู้ใหญ่ ต้องก้มศีรษะมากกว่าปกติ และยกมือสูงขึ้น ให้ปลายนิ้วชี้อยู่ระหว่างคิ้ว ฝรั่งก็เช่นกัน ถ้าสนิทสนมหรือรักใคร่กันมาก ๆ เขาต้องจับมือกันนาน ๆ และสั่นแรงขึ้น
สิ่งที่แตกต่างกันอีกอย่าง คือ การใช้สัญญาณไฟจราจรสำหรับคนเดินข้ามถนน บ้านเรามีไฟเขียว แดงเฉพาะให้คนดู ระยะหลังเริ่มเปลี่ยนเป็นรูปคนสีเขียวก้าวขาเดิน  
แต่ที่โน่น จะเห็นเป็นรูปฝ่ามือห้ามเดินสีส้ม  พอให้เดินจะเปลี่ยนเป็นรูปคนก้าวเท้าเดินสีขาว  
เล็ก ๆ น้อย ๆ หลายเรื่องที่แตกต่างกันไปในแต่ละเมืองที่ทำให้ต้องปรับตัวและเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองของเขาได้อย่างถูกต้อง  
แม้แต่ในไทย ถ้าไปต่างถิ่นต่างที่จำเป็นต้องเรียนรู้เช่นกัน  
นี่นับว่าเป็นความสำคัญเบื้องต้น ที่ต้องเข้าใจว่าสัญลักษณ์หรือมาตรฐานแต่ละที่เป็นเช่นไร จึงจะอยู่ได้อย่างเข้าใจซึ่งกันและกัน 
การปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่เปลี่ยนไปนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็น 
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมเมืองที่รับความเจริญของซีกโลกตะวันตกเข้ามาเต็ม ๆ และหลายคนพยายามวิ่งตามให้ทัน 




ทำไมนะ ผู้คนทั่วโลกจึงไม่กำหนดมาตรฐานเดียวกัน 
เพราะทุกคนต่างมีความเป็นตัวของตัวเอง มี EGO มากไงล่ะ
คงไม่มีใครยอมใคร
ยกเว้นมีผู้นำเผด็จการเช่นฉินซีฮ่องเต้ บังคับให้แผ่นดินจีนที่มาจาก 7 แคว้น ต้องยอมเปลี่ยนมาตรฐานต่าง ๆ เหมือนกันหมด ทั่วผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล ไม่ว่าจะเป็นการชั่งตวงวัด มีภาษากลางของทางการ และอื่น ๆ อีกมาก และนี่ทำให้จีนปัจจุบันกลายเป็นประเทศมหาอำนาจได้ 
มันคงเป็นเรื่องยากที่จะบังคับคนต่างชาติต่างภาษาให้คิดเหมือนกัน ทำเหมือนกัน ด้วยต่างมีรากเหง้าวัฒนธรรมที่ก่อตัวมาเนิ่นนาน

อย่างไรก็ตาม ความพยายามที่จะให้มีมาตรฐานที่ใกล้เคียงกัน เช่น เรื่องภาษาในการสื่อสาร ภาษาที่จำเป็นต้องเรียนรู้เพราะมีคนใช้มาก 
ภาษาที่ใช้สื่อสารมีมากกว่า 7,000 ภาษา แต่มีเพียง 12 ภาษา ที่คนเกินครึ่งโลก ใช้กันในยุคดิจิตอล หรือในศตวรรษที่ 21 ถ้าได้เรียนรู้จะเกิดประโยชน์ในการทำงาน
ภาษาที่มีคนใช้เยอะที่สุดในโลก ภาษาจีน ภาษาสเปน ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษ
ภาษาจีน 1.39 ล้านคน เป็นภาษาที่ใช้พูดสื่อสารมากที่สุด และถือได้ว่าเป็นภาษาที่ยากในการเรียนรู้ เนื่องจากโทนเสียง และภาษาเขียนมีความซับซ้อน 
ประเทศจีนคือหนึ่งในประเทศมหาอำนาจทางด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม การคาดการณ์ว่าภายในปี ค.ศ. 2050 จีนจะกลายเป็นประเทศผู้นำด้านเศรฐกิจที่อาจโค่นแชมป์ตลอดกาลอย่างอเมริกาก็เป็นได้
ภาษาสเปน มีใช้ 389 ล้านคน เป็นภาษาที่ใช้ครอบคลุมสามทวีป ได้แก่ อเมริกาใต้ ยุโรป และแอฟริกา และเป็นภาษาที่สองในอเมริกา ประมาณ 35 ล้านคน ใช้ภาษาสเปนในการสื่อสารแบบไม่เป็นทางการ 
ภาษาฝรั่งเศส มีใช้ 118 ล้านคน ฝรั่งเศสครองแชมป์อันดับ 7 ในด้านเศรษฐกิจโลกจากการจัดอันดับของธนาคารโลก ปี พ.ศ. 2560 คาดว่าภายในปี 2050 จะมีผู้ใช้ภาษาฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นกว่า 750 ล้านคน
ภาษาอังกฤษ 527 ล้านคน มีผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ไม่น้อยกว่า 1.5 พันล้านคน ทำให้ภาษาอังกฤษครองแชมป์ภาษาที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่ง ศตวรรษที่21 และเป็นภาษาราชการของ 3 ประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจโลกอย่าง สหรัฐอเมริกา แคนาดา และสหราชอาณาจักร

ภาษาอาหรับ 467 ล้านคน เป็นภาษาราชการในกลุ่ม 16 ประเทศของ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เช่น อิรัก คูเวต จอร์แดน อิสราเอล บาห์เรน ปาเลสไตน์ และ ซาอุดีอาระเบีย
ภาษาฮินดี 588 ล้านคน อินเดียเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดอันดับ 6 ของโลก คาดว่าจะเป็นอันดับที่ 2 ในอีก 30 ปีข้างหน้า 
ภาษาเบงกาลี 250 ล้านคน ประเทศบังคลาเทศ และรัฐเบงกอล ตะวันตกในประเทศอินเดีย



Create Date : 14 เมษายน 2568
Last Update : 14 เมษายน 2568 6:58:35 น.
Counter : 275 Pageviews.
0 comment
(โหวต blog นี้) 
#พรรณีเกษกมล #งานเขียนพรรณีเกษกมล
งานเขียนของสำนักพิมพ์ พรรณี เกษกมล

1. คิดอย่างผู้ชนะ พิมพ์ครั้งที่ 1 สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช พ.ศ. 2547
คิดอย่างผู้ชนะ พิมพ์ครั้งที่ พ.ศ. 2558
ชัยชนะอยู่ในกำมือ พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2560
ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่คือการชนะตนเอง จะเป็นผู้ชนะที่แท้จริงได้ ถ้ารู้จักปรับวิธีคิด เปลี่ยนวิธีทำ ใช้ชีวิตอย่างมีหลักการ มอบสิ่งดีงามใส่สมอง ยืนยันว่า ตนคือผู้ชนะไม่ใช่ผู้แพ้
สำหรับผู้ที่คิดว่าตนคือผู้แพ้ ไม่เคยมีโชค ไม่เคยประสบความสำเร็จในชีวิต และไม่เคยพบกับความสุข จะได้พบกับวิธีคิดแบบใหม่ที่จะทำให้เกิดชีวิตใหม่ขึ้นมาได้ และทำให้เราเป็นผู้ชนะตลอดกาล
ทุกคนอยากเป็นผู้ชนะ แล้วชัยชนะที่ยิ่งใหญ่คือการชนะตนเอง วิธีที่จะเป็นผู้ชนะที่แท้จริงไม่ได้ยากเย็น ถ้ารู้จักปรับวิธีคิด เปลี่ยนวิธีทำ ใช้ชีวิตอย่างมีหลักการ มอบสิ่งดีงามใส่สมอง ยืนยันว่า ตนคือผู้ชนะ  ไม่ใช่ผู้แพ้ แล้วชีวิตต่อไปที่เหลือจะมีแต่ความสุขและความเจริญก้าวหน้า ไม่หงอยเหงาเศร้าซึมอีกต่อไป

2. คิดอย่างคนมีกึ๋น พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2548
ก่อนจะก้าวต่อไป พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2558
ชีวิตก้าวกระโดด แค่รู้ใจตัวเอง พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2560
กึ๋นเป็นสิ่งสำคัญของร่างกาย ความคิดอย่างชาญฉลาดเป็นเรื่องสำคัญของคนที่จะประสบความสำเร็จ คนที่คิดเป็นเท่านั้นจึงจะก้าวไปอยู่แถวหน้าได้
วันนี้คุณคิดอะไรอยู่ในใจ คำตอบอยู่ที่นี่ คำทำนายทายทักที่เปิดดูได้ทุกเมื่อเชื่อวัน แล้วคุณจะรู้ความรู้สึกที่ซ่อนลึกอยู่ในใจ เพื่อที่จะได้ก้าวต่อไปอย่างคนที่มีกึ๋นมากกว่าที่จะก้าวเดินต่อไปอย่างมะงุมมะงาหราไร้ทิศทาง
ด้วยหลักการคิดแบบเซนที่จะทำให้ใจสงบและอยู่อย่างคนมีสติ  สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขภายใต้ความกดดันที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง เมื่อรู้2549จักตัวเอง รู้จักความคิดของตน จึงพร้อมจะก้าวต่อไปอย่างมีทิศทางและตรงจุดมากขึ้น

3. คิดอย่างผู้ยิ่งใหญ่ สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช พ.ศ. 2549
คนที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุดของเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ ไปถึงปลายฝันที่ต้องการ จำเป็นต้องมีแสงสว่างที่จะส่องไปถึงปลายอุโมงค์ การค้นหาวีรบุรุษประจำใจและรู้วิธีคิดที่จะก้าวไปตามรูปแบบของเขาไปสู่การเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่โลกต้องจารึกชื่อ เป็นส่วนหนึ่งที่จะก้าวต่อไปได้
ประวัติบุคคลสำคัญของโลกที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ทำคุณูปการต่อโลกจนต้องจดจำและสืบต่อเล่าเรื่องราวของผู้นั้นให้โลกได้รับรู้ รวมทั้งวิธีคิดที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนทั่วไป

4. คิดอย่างกุนซือ พ.ศ. 2550
คนฉลาดคือคนที่คิดเป็น และสามารถนำหลักการคิดมาใช้ได้อย่างอัตโนมัติ การเรียนรู้วิธีและหลักการคิดขั้นพื้นฐานและขั้นสูงพร้อมทั้งตัวอย่างแต่ละวิธีคิดจะช่วยให้เข้าใจและนำไปใช้อย่างถูกต้อง
การคิดมีหลักการ บางคนคิดได้เอง แต่บางคนไม่รู้วิธีคิด คนฉลาดจะรู้วิธีคิดจากวิชาที่เขาเคยเรียนมา แต่ถ้ารู้หลักการคิดโดยตรงจะช่วยให้ค้นพบหนทางไปสู่ความฉลาดได้รวดเร็วและตรงทางมากยิ่งขึ้น

5. จากชาดกสู่ไอที สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช พ.ศ. 2548
นิทานชาดกสมัยพุทธกาลที่ให้แง่คิดกับผู้คนในยุคไอทีและสามารถนำมาใช้ได้จริง เพราะผู้คนในทุกยุคทุกสมัยล้วนไม่แตกต่างกัน 
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ยุคไหน ด้วยความเป็นคนย่อมเหมือนเดิม ทั้งความคิดความอ่านการแก้ปัญหา กิเลสตัณหา ซ้ำรอยเดิมทุกชาติทุกภพ เมื่อรู้อดีตที่ผ่านมา ย่อมไม่ทำให้ซ้ำรอยเดิมในปลักเดิมที่น่าเบื่อ

6. นิทานยามเช้า สอนให้คิด พ.ศ. 2550
นิทานชวนฉงน พ.ศ. 2563
การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและวิถีชีวิตประชาธิปไตยด้วยนิทานมิติใหม่ที่สอนให้รู้จักคิดและตัดสินใจเลือกมากกว่านิทานที่สอนให้รู้ว่าเท่านั้น
เมื่อพ่อแม่ ครูอาจารย์ชอบใช้นิทานเป็นสื่อในการอบรมสั่งสอน ควรสอดแทรกวิธีการคิดให้เด็กด้วย เขาจะได้ฉลาดรู้จักคิดมากกว่าแค่จดจำเท่านั้น
การสอนให้คิดได้ คิดเป็น นับเป็นสมบัติที่มีค่ามาก เพราะจะช่วยให้ลูกหลานสามารถนำไปใช้ได้ตลอดชีวิตของเขาทีเดียว เมื่อเผชิญหน้ากับปัญหา เขาจะเรียนรู้ว่าทุกปัญหามีคำตอบ ที่จะแก้ไขและผ่านพ้นได้อย่างชาญฉลาด

7. ครุคทา สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช พ.ศ.2554
ครูทุกคนจำเป็นต้องรู้และใช้หลักการกระบวนการทางจิตวิทยาและการแนะแนวเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เติบโตเต็มตามศักยภาพของแต่ละบุคคล
ครุคทาคืออาวุธที่ครูจำเป็นต้องเรียนรู้และใช้อย่างเหมาะสมกับการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ความรู้เรื่องจิตวิทยาพัฒนาการของเด็กแต่ละช่วงวัย มาเป็นตัวเสริม
นอกจากครู แล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองที่อบรมเลี้ยงดูบุตรหลานย่อมเสมือนเป็นครูของเด็กเช่นกัน การเรียนรู้ที่ถูกวิธี จะพัฒนาเด็กได้เต็มที่

8. เป็นเรื่องต้องคิด พ.ศ. 2550
ทุกคนคงอยากจะรู้ว่า วิถีชีวิต วิธีการคิดของอเมริกันชนที่เห็นในภาพยนตร์แตกต่างจากชีวิตจริงเพียงใด และจะนำมาประยุกต์ใช้เป็นอุทาหรณ์สอนใจได้อย่างไร
ทำไมอเมริกาจึงได้ชื่อว่าเป็นประเทศมหาอำนาจ ผู้คนผ่านการฝึกอบรมเลี้ยงดูเช่นไร เป็นสิ่งน่าเรียนรู้

9. เป็นในสิ่งที่ควรเป็น พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2550
ค้นหาอาชีพให้เหมาะกับตัวเอง พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2560
อาชีพที่ชอบ ต้องเป็นอาชีพที่ใช่ด้วย พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2562
ก่อนจะตัดสินใจเลือกอาชีพใด ควรรู้จักข้อมูลของอาชีพที่จะเลือกอย่างละเอียด และตรวจสอบกับคุณลักษณะส่วนตนในทุกด้านว่าเหมาะเจาะมากน้อยเพียงใด
หลักการแนะแนวอาชีพที่สมบูรณ์ที่สุดที่ทุกคนจะได้รู้ว่าอาชีพใดเหมาะกับตัวเอง เพื่อที่จะได้มีความสุขและเจริญก้าวหน้าในชีวิตการทำงาน
สำหรับผู้เรียนที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในการเลือกคณะ/สาขาวิชาและอาชีพที่เหมาะกับตัวคุณที่คุณจะไม่ผิดหวังและเสียใจที่ได้ตัดสินใจไปไม่ต้องเป็นเด็กซิ่วให้เสียเวลาไปฟรี ๆ โดยเปล่าประโยชน์
การตัดสินใจเลือกอาชีพที่เหมาะกับตัวคุณที่ต้องอยู่และทำงานไปอีกนานแสนนานคงไม่ใช่แค่อาชีพที่อยู่ในกระแสนิยมเลือกตามใจพ่อแม่ หรือเพื่อนสนิทมิตรสหายแต่ต้องผ่านกระบวนการที่ถูกต้องตามหลักการแนะแนวอาชีพจึงจะประสบความสำเร็จและเจริญก้าวหน้าในชีวิต

10. ผลัดแผ่นดินกรุงศรี สำนักพิมพ์แสงดาว พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2552
ผลัดแผ่นดินกรุงศรี สำนักพิมพ์แสงดาว พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2561
เรื่องราวการครองราชย์ของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ในยุคที่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เป็นยุคที่เจริญสูงสุดยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย สิ่งที่น่าสนใจคือการเข้าสู่อำนาจ การแย่งชิง ผลัดเปลี่ยนอำนาจระหว่างราชวงศ์ต่าง ๆ การครองอำนาจ และการสืบทอดถ่ายเทอำนาจจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง
สีสันแห่งประวัติศาสตร์กรุงศรี ที่ไม่มีช่วงใดอีกแล้วที่จะตื่นตาตื่นใจเท่าตอนผลัดแผ่นดิน ซึ่งแต่ละราชวงศ์ที่ผลัดเปลี่ยนกันปกครองกรุงศรีสร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ แต่หลายราชวงศ์ ก็สร้างความเสียหายชนิดสิ้นชาติ นี่คือหนังสือที่จะทำให้ผู้อ่านพินิจประวัติศาสตร์รอบด้านหลายมุมมอง หลายเรื่องเป็นเรื่องราวที่ยังใช้เป็นข้อคิดและคติเตือนใจถึงเรื่องราวอำนาจได้อย่างถ่องแท้ 



Create Date : 22 มีนาคม 2568
Last Update : 22 มีนาคม 2568 4:03:37 น.
Counter : 197 Pageviews.
0 comment
(โหวต blog นี้) 
#คอมพิวเตอร์กับแนะแนวอาชีพ #พรรณีเกษกมล
#พรรณีเกษกมล
พรรณี เกษกมล “คอมพิวเตอร์กับแนะแนวอาชีพ”
สารพัฒนาหลักสูตร. 4 , 67 (มิถุนายน )
งานแนะแนวอาชีพในโรงเรียนมัธยมศึกษามุ่งหวังให้เด็กตัดสินใจเลือกแนวทางการศึกษาต่อและเลือกอาชีพที่ตนปรารถนา และสามารถมีความสุขความเจริญก้าวหน้าจากการประกอบอาชีพนั้นได้ แต่ครูแนะแนวต้องลำบากในการเก็บรวบรวมข้อมูลมากมาย ทั้งที่เกี่ยวกับตนเอง และอาชีพที่ต้องการศึกษา
ในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีผู้ริเริ่มทดลองนำเอาระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในงานแนะแนวอาชีพ ทั้งนี้เพราะผ็ให้คำปรึกษาหรือครูแนะแนวมีปัญหาในการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อใช้ในการแนะแนว หรือให้บริการคำปรึกษาเนื่องจากต้องเก็บรวบรวมข้อมูลหลายด้าน เช่น ความสามารถ ความถนัด ความสนใจ และสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องการเก็บรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ใช้เวลานานมาก และสิ่งพิมพ์มีคุณค่าจำกัดแต่เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเก็บรวบรวมขขข้อมูลไว้เป็นจำนวนมาก
การออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ครั้งนี้ช่วยครูแนะแนวให้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือนักเรียนสำรวจอาชีพ นักเรียนได้รับผลประโยชน์ คือ ระบบนี้ช่วยให้นักเรียนรู้จักตนเองและสำรวจตัวเลือกทางอาชีพ ได้รู้ศักยภาพของตนเอง และสามารถนำเอาคุณสมบัติเหล่านี้มาสัมพันธ์กับเป้าหมายทางอาชีพได้ ทำให้รู้แนวทางการศึกษาต่อ และรู้จักอาชีพที่จะเลือกได้มากขึ้น ให้โอกาสสำรวจแหล่งฝึกหัดงานภายหลังจากจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือสสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาที่เหมาะสมให้พิจารณาสำหรับครูแนะแนวได้รับประโยชน์ คือ นักเรียนจะมีความพร้อมสำหรับการแก้ปัญหา และการวางแผนดีขึ้นข้อมูลที่ได้จากระบบนี้ช่วยให้เข้าใจนักเรียนได้ดียิ่งขึ้น และจะไม่ปรากฏข้อมูลที่สลับซับซ้อนเกินความจำเป็น
 
 

 

โดย : นาง บุศรา รัชตะนาวิน, ripw klonglung prathumthanee 13180, วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2545



Create Date : 22 มีนาคม 2568
Last Update : 14 เมษายน 2568 6:59:51 น.
Counter : 216 Pageviews.
0 comment
(โหวต blog นี้) 
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments