Group Blog All Blog
|
#ทำไมจึงไม่มีมาตรฐานเดียวทั่วโลก #พรรณีเกษกมล #มาตรฐาน
#พรรณีเกษกมล #มาตรฐาน
๑. #ทำไมจึงไม่มีมาตรฐานเดียวทั่วโลก ในโลกสมัยใหม่ การทำงานใด ๆ ต้องมีมาตรฐานคุณภาพ และตัวบ่งชี้เป็นตัวกำหนดผลการทำงาน เกือบจะทุกอาชีพต้องโดนผลกระทบของแนวคิดนี้ แต่ต่างแห่ง ต่างถิ่น ต่างที่นี้ มาตรฐานแตกต่างกัน ใครเป็นผู้กำหนดมาตรฐาน เมืองไทย จะใช้หลักระยะทางเป็นกิโลเมตร อเมริกา ป้ายบอกระยะทางเป็นหลักไมล์ เส้นทางที่ออกจากสนามบินลอสแอลเจลิสไปยังเมืองซานดิเอโกจะมีป้ายบอกชื่อถนน ระยะทางที่จะไปอีกแห่งหนึ่งเป็นตัวเลขหลักไมล์เป็นจำนวนเต็มและเลขเศษส่วน การบอกระยะทางด้วยเลขเศษส่วน ทำให้นึกไปว่า เด็กที่นี่ต้องเก่งเรื่องเลขเศษส่วนแน่นอน เพราะป้ายระยะทางเป็นเลขจำนวนเต็มกับเลขเศษส่วน เช่น ๑/๒ ๒/๓ ๓/๔ แรก ๆ ที่เห็น งงเล็กน้อยด้วยความไม่คุ้นว่ามันควรเป็นเท่าไร ตัวเลขไหนจะมากน้อยกว่ากัน ระหว่าง ๒/๓ กับ ๓/๔ นี่เป็นความคุ้นเคยที่ทำให้แต่ละคนเก่งในแต่ละเรื่องแตกต่างกัน ถ้าบ้านเมืองใช้อย่างไร คนในบ้านเมืองนั้นจะคุ้นเช่นนั้น เมืองไทยมีหลักกิโลเมตรบอกระยะทาง เสาสีขาวเล็ก ๆ ข้างถนน ใครที่เดินทางไปต่างจังหวัดมักใช้เสาบอกทางเป็นสิ่งบอกให้รู้ว่าเราเดินทางไกลแค่ไหนแล้ว และอีกนานเท่าไรจึงจะถึง ที่น่าเสียดายอีกอย่างของเส้นทางจากกรุงเทพไปชลบุรี จะมีถนนลอยฟ้าอยู่ข้างบน ถ้าใช้ตัวเลขที่ต้นเสาบอกระยะทางด้วย คงจะดีกว่าเป็นต้นเสาโล้น ๆ หรือมีตัวเลขอะไรไม่รู้ไม่มีความหมายอันใดที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สัญจรไปมา ตอนนี้ใต้ทางด่วน เริ่มมีตัวเลขบอกลำดับของต้นเสาบ้าง การทักทายด้วยการ Shake hand ถ้าแปลตรงตัวคงบอกว่า ทำให้มือสั่น จับมือเขย่า ที่จริงเขาจับมือกันเขย่าเพื่อให้สั่นเล็กน้อยเป็นการแสดงการทักทาย เหมือนที่บ้านเราเขายกมือไหว้สวัสดีกัน และมีระดับที่แตกต่างเช่นกัน ถ้าไหว้ผู้ใหญ่ ต้องก้มศีรษะมากกว่าปกติ และยกมือสูงขึ้น ให้ปลายนิ้วชี้อยู่ระหว่างคิ้ว ฝรั่งก็เช่นกัน ถ้าสนิทสนมหรือรักใคร่กันมาก ๆ เขาต้องจับมือกันนาน ๆ และสั่นแรงขึ้น สิ่งที่แตกต่างกันอีกอย่าง คือ การใช้สัญญาณไฟจราจรสำหรับคนเดินข้ามถนน บ้านเรามีไฟเขียว แดงเฉพาะให้คนดู ระยะหลังเริ่มเปลี่ยนเป็นรูปคนสีเขียวก้าวขาเดิน แต่ที่โน่น จะเห็นเป็นรูปฝ่ามือห้ามเดินสีส้ม พอให้เดินจะเปลี่ยนเป็นรูปคนก้าวเท้าเดินสีขาว เล็ก ๆ น้อย ๆ หลายเรื่องที่แตกต่างกันไปในแต่ละเมืองที่ทำให้ต้องปรับตัวและเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองของเขาได้อย่างถูกต้อง แม้แต่ในไทย ถ้าไปต่างถิ่นต่างที่จำเป็นต้องเรียนรู้เช่นกัน นี่นับว่าเป็นความสำคัญเบื้องต้น ที่ต้องเข้าใจว่าสัญลักษณ์หรือมาตรฐานแต่ละที่เป็นเช่นไร จึงจะอยู่ได้อย่างเข้าใจซึ่งกันและกัน การปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่เปลี่ยนไปนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมเมืองที่รับความเจริญของซีกโลกตะวันตกเข้ามาเต็ม ๆ และหลายคนพยายามวิ่งตามให้ทัน ทำไมนะ ผู้คนทั่วโลกจึงไม่กำหนดมาตรฐานเดียวกัน เพราะทุกคนต่างมีความเป็นตัวของตัวเอง มี EGO มากไงล่ะ คงไม่มีใครยอมใคร ยกเว้นมีผู้นำเผด็จการเช่นฉินซีฮ่องเต้ บังคับให้แผ่นดินจีนที่มาจาก 7 แคว้น ต้องยอมเปลี่ยนมาตรฐานต่าง ๆ เหมือนกันหมด ทั่วผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล ไม่ว่าจะเป็นการชั่งตวงวัด มีภาษากลางของทางการ และอื่น ๆ อีกมาก และนี่ทำให้จีนปัจจุบันกลายเป็นประเทศมหาอำนาจได้ มันคงเป็นเรื่องยากที่จะบังคับคนต่างชาติต่างภาษาให้คิดเหมือนกัน ทำเหมือนกัน ด้วยต่างมีรากเหง้าวัฒนธรรมที่ก่อตัวมาเนิ่นนาน อย่างไรก็ตาม ความพยายามที่จะให้มีมาตรฐานที่ใกล้เคียงกัน เช่น เรื่องภาษาในการสื่อสาร ภาษาที่จำเป็นต้องเรียนรู้เพราะมีคนใช้มาก ภาษาที่ใช้สื่อสารมีมากกว่า 7,000 ภาษา แต่มีเพียง 12 ภาษา ที่คนเกินครึ่งโลก ใช้กันในยุคดิจิตอล หรือในศตวรรษที่ 21 ถ้าได้เรียนรู้จะเกิดประโยชน์ในการทำงาน ภาษาที่มีคนใช้เยอะที่สุดในโลก ภาษาจีน ภาษาสเปน ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน 1.39 ล้านคน เป็นภาษาที่ใช้พูดสื่อสารมากที่สุด และถือได้ว่าเป็นภาษาที่ยากในการเรียนรู้ เนื่องจากโทนเสียง และภาษาเขียนมีความซับซ้อน ประเทศจีนคือหนึ่งในประเทศมหาอำนาจทางด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม การคาดการณ์ว่าภายในปี ค.ศ. 2050 จีนจะกลายเป็นประเทศผู้นำด้านเศรฐกิจที่อาจโค่นแชมป์ตลอดกาลอย่างอเมริกาก็เป็นได้ ภาษาสเปน มีใช้ 389 ล้านคน เป็นภาษาที่ใช้ครอบคลุมสามทวีป ได้แก่ อเมริกาใต้ ยุโรป และแอฟริกา และเป็นภาษาที่สองในอเมริกา ประมาณ 35 ล้านคน ใช้ภาษาสเปนในการสื่อสารแบบไม่เป็นทางการ ภาษาฝรั่งเศส มีใช้ 118 ล้านคน ฝรั่งเศสครองแชมป์อันดับ 7 ในด้านเศรษฐกิจโลกจากการจัดอันดับของธนาคารโลก ปี พ.ศ. 2560 คาดว่าภายในปี 2050 จะมีผู้ใช้ภาษาฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นกว่า 750 ล้านคน ภาษาอังกฤษ 527 ล้านคน มีผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ไม่น้อยกว่า 1.5 พันล้านคน ทำให้ภาษาอังกฤษครองแชมป์ภาษาที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่ง ศตวรรษที่21 และเป็นภาษาราชการของ 3 ประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจโลกอย่าง สหรัฐอเมริกา แคนาดา และสหราชอาณาจักร ภาษาอาหรับ 467 ล้านคน เป็นภาษาราชการในกลุ่ม 16 ประเทศของ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เช่น อิรัก คูเวต จอร์แดน อิสราเอล บาห์เรน ปาเลสไตน์ และ ซาอุดีอาระเบีย ภาษาฮินดี 588 ล้านคน อินเดียเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดอันดับ 6 ของโลก คาดว่าจะเป็นอันดับที่ 2 ในอีก 30 ปีข้างหน้า ภาษาเบงกาลี 250 ล้านคน ประเทศบังคลาเทศ และรัฐเบงกอล ตะวันตกในประเทศอินเดีย #พรรณีเกษกมล #งานเขียนพรรณีเกษกมล
งานเขียนของสำนักพิมพ์ พรรณี เกษกมล
1. คิดอย่างผู้ชนะ พิมพ์ครั้งที่ 1 สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช พ.ศ. 2547 คิดอย่างผู้ชนะ พิมพ์ครั้งที่ พ.ศ. 2558 ชัยชนะอยู่ในกำมือ พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2560 ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่คือการชนะตนเอง จะเป็นผู้ชนะที่แท้จริงได้ ถ้ารู้จักปรับวิธีคิด เปลี่ยนวิธีทำ ใช้ชีวิตอย่างมีหลักการ มอบสิ่งดีงามใส่สมอง ยืนยันว่า ตนคือผู้ชนะไม่ใช่ผู้แพ้ สำหรับผู้ที่คิดว่าตนคือผู้แพ้ ไม่เคยมีโชค ไม่เคยประสบความสำเร็จในชีวิต และไม่เคยพบกับความสุข จะได้พบกับวิธีคิดแบบใหม่ที่จะทำให้เกิดชีวิตใหม่ขึ้นมาได้ และทำให้เราเป็นผู้ชนะตลอดกาล ทุกคนอยากเป็นผู้ชนะ แล้วชัยชนะที่ยิ่งใหญ่คือการชนะตนเอง วิธีที่จะเป็นผู้ชนะที่แท้จริงไม่ได้ยากเย็น ถ้ารู้จักปรับวิธีคิด เปลี่ยนวิธีทำ ใช้ชีวิตอย่างมีหลักการ มอบสิ่งดีงามใส่สมอง ยืนยันว่า ตนคือผู้ชนะ ไม่ใช่ผู้แพ้ แล้วชีวิตต่อไปที่เหลือจะมีแต่ความสุขและความเจริญก้าวหน้า ไม่หงอยเหงาเศร้าซึมอีกต่อไป 2. คิดอย่างคนมีกึ๋น พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2548 ก่อนจะก้าวต่อไป พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2558 ชีวิตก้าวกระโดด แค่รู้ใจตัวเอง พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2560 กึ๋นเป็นสิ่งสำคัญของร่างกาย ความคิดอย่างชาญฉลาดเป็นเรื่องสำคัญของคนที่จะประสบความสำเร็จ คนที่คิดเป็นเท่านั้นจึงจะก้าวไปอยู่แถวหน้าได้ วันนี้คุณคิดอะไรอยู่ในใจ คำตอบอยู่ที่นี่ คำทำนายทายทักที่เปิดดูได้ทุกเมื่อเชื่อวัน แล้วคุณจะรู้ความรู้สึกที่ซ่อนลึกอยู่ในใจ เพื่อที่จะได้ก้าวต่อไปอย่างคนที่มีกึ๋นมากกว่าที่จะก้าวเดินต่อไปอย่างมะงุมมะงาหราไร้ทิศทาง ด้วยหลักการคิดแบบเซนที่จะทำให้ใจสงบและอยู่อย่างคนมีสติ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขภายใต้ความกดดันที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง เมื่อรู้2549จักตัวเอง รู้จักความคิดของตน จึงพร้อมจะก้าวต่อไปอย่างมีทิศทางและตรงจุดมากขึ้น 3. คิดอย่างผู้ยิ่งใหญ่ สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช พ.ศ. 2549 คนที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุดของเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ ไปถึงปลายฝันที่ต้องการ จำเป็นต้องมีแสงสว่างที่จะส่องไปถึงปลายอุโมงค์ การค้นหาวีรบุรุษประจำใจและรู้วิธีคิดที่จะก้าวไปตามรูปแบบของเขาไปสู่การเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่โลกต้องจารึกชื่อ เป็นส่วนหนึ่งที่จะก้าวต่อไปได้ ประวัติบุคคลสำคัญของโลกที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ทำคุณูปการต่อโลกจนต้องจดจำและสืบต่อเล่าเรื่องราวของผู้นั้นให้โลกได้รับรู้ รวมทั้งวิธีคิดที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนทั่วไป 4. คิดอย่างกุนซือ พ.ศ. 2550 คนฉลาดคือคนที่คิดเป็น และสามารถนำหลักการคิดมาใช้ได้อย่างอัตโนมัติ การเรียนรู้วิธีและหลักการคิดขั้นพื้นฐานและขั้นสูงพร้อมทั้งตัวอย่างแต่ละวิธีคิดจะช่วยให้เข้าใจและนำไปใช้อย่างถูกต้อง การคิดมีหลักการ บางคนคิดได้เอง แต่บางคนไม่รู้วิธีคิด คนฉลาดจะรู้วิธีคิดจากวิชาที่เขาเคยเรียนมา แต่ถ้ารู้หลักการคิดโดยตรงจะช่วยให้ค้นพบหนทางไปสู่ความฉลาดได้รวดเร็วและตรงทางมากยิ่งขึ้น 5. จากชาดกสู่ไอที สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช พ.ศ. 2548 นิทานชาดกสมัยพุทธกาลที่ให้แง่คิดกับผู้คนในยุคไอทีและสามารถนำมาใช้ได้จริง เพราะผู้คนในทุกยุคทุกสมัยล้วนไม่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ยุคไหน ด้วยความเป็นคนย่อมเหมือนเดิม ทั้งความคิดความอ่านการแก้ปัญหา กิเลสตัณหา ซ้ำรอยเดิมทุกชาติทุกภพ เมื่อรู้อดีตที่ผ่านมา ย่อมไม่ทำให้ซ้ำรอยเดิมในปลักเดิมที่น่าเบื่อ 6. นิทานยามเช้า สอนให้คิด พ.ศ. 2550 นิทานชวนฉงน พ.ศ. 2563 การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและวิถีชีวิตประชาธิปไตยด้วยนิทานมิติใหม่ที่สอนให้รู้จักคิดและตัดสินใจเลือกมากกว่านิทานที่สอนให้รู้ว่าเท่านั้น เมื่อพ่อแม่ ครูอาจารย์ชอบใช้นิทานเป็นสื่อในการอบรมสั่งสอน ควรสอดแทรกวิธีการคิดให้เด็กด้วย เขาจะได้ฉลาดรู้จักคิดมากกว่าแค่จดจำเท่านั้น การสอนให้คิดได้ คิดเป็น นับเป็นสมบัติที่มีค่ามาก เพราะจะช่วยให้ลูกหลานสามารถนำไปใช้ได้ตลอดชีวิตของเขาทีเดียว เมื่อเผชิญหน้ากับปัญหา เขาจะเรียนรู้ว่าทุกปัญหามีคำตอบ ที่จะแก้ไขและผ่านพ้นได้อย่างชาญฉลาด 7. ครุคทา สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช พ.ศ.2554 ครูทุกคนจำเป็นต้องรู้และใช้หลักการกระบวนการทางจิตวิทยาและการแนะแนวเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เติบโตเต็มตามศักยภาพของแต่ละบุคคล ครุคทาคืออาวุธที่ครูจำเป็นต้องเรียนรู้และใช้อย่างเหมาะสมกับการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ความรู้เรื่องจิตวิทยาพัฒนาการของเด็กแต่ละช่วงวัย มาเป็นตัวเสริม นอกจากครู แล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองที่อบรมเลี้ยงดูบุตรหลานย่อมเสมือนเป็นครูของเด็กเช่นกัน การเรียนรู้ที่ถูกวิธี จะพัฒนาเด็กได้เต็มที่ 8. เป็นเรื่องต้องคิด พ.ศ. 2550 ทุกคนคงอยากจะรู้ว่า วิถีชีวิต วิธีการคิดของอเมริกันชนที่เห็นในภาพยนตร์แตกต่างจากชีวิตจริงเพียงใด และจะนำมาประยุกต์ใช้เป็นอุทาหรณ์สอนใจได้อย่างไร ทำไมอเมริกาจึงได้ชื่อว่าเป็นประเทศมหาอำนาจ ผู้คนผ่านการฝึกอบรมเลี้ยงดูเช่นไร เป็นสิ่งน่าเรียนรู้ 9. เป็นในสิ่งที่ควรเป็น พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2550 ค้นหาอาชีพให้เหมาะกับตัวเอง พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2560 อาชีพที่ชอบ ต้องเป็นอาชีพที่ใช่ด้วย พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2562 ก่อนจะตัดสินใจเลือกอาชีพใด ควรรู้จักข้อมูลของอาชีพที่จะเลือกอย่างละเอียด และตรวจสอบกับคุณลักษณะส่วนตนในทุกด้านว่าเหมาะเจาะมากน้อยเพียงใด หลักการแนะแนวอาชีพที่สมบูรณ์ที่สุดที่ทุกคนจะได้รู้ว่าอาชีพใดเหมาะกับตัวเอง เพื่อที่จะได้มีความสุขและเจริญก้าวหน้าในชีวิตการทำงาน สำหรับผู้เรียนที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในการเลือกคณะ/สาขาวิชาและอาชีพที่เหมาะกับตัวคุณที่คุณจะไม่ผิดหวังและเสียใจที่ได้ตัดสินใจไปไม่ต้องเป็นเด็กซิ่วให้เสียเวลาไปฟรี ๆ โดยเปล่าประโยชน์ การตัดสินใจเลือกอาชีพที่เหมาะกับตัวคุณที่ต้องอยู่และทำงานไปอีกนานแสนนานคงไม่ใช่แค่อาชีพที่อยู่ในกระแสนิยมเลือกตามใจพ่อแม่ หรือเพื่อนสนิทมิตรสหายแต่ต้องผ่านกระบวนการที่ถูกต้องตามหลักการแนะแนวอาชีพจึงจะประสบความสำเร็จและเจริญก้าวหน้าในชีวิต 10. ผลัดแผ่นดินกรุงศรี สำนักพิมพ์แสงดาว พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2552 ผลัดแผ่นดินกรุงศรี สำนักพิมพ์แสงดาว พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2561 เรื่องราวการครองราชย์ของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ในยุคที่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เป็นยุคที่เจริญสูงสุดยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย สิ่งที่น่าสนใจคือการเข้าสู่อำนาจ การแย่งชิง ผลัดเปลี่ยนอำนาจระหว่างราชวงศ์ต่าง ๆ การครองอำนาจ และการสืบทอดถ่ายเทอำนาจจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง สีสันแห่งประวัติศาสตร์กรุงศรี ที่ไม่มีช่วงใดอีกแล้วที่จะตื่นตาตื่นใจเท่าตอนผลัดแผ่นดิน ซึ่งแต่ละราชวงศ์ที่ผลัดเปลี่ยนกันปกครองกรุงศรีสร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ แต่หลายราชวงศ์ ก็สร้างความเสียหายชนิดสิ้นชาติ นี่คือหนังสือที่จะทำให้ผู้อ่านพินิจประวัติศาสตร์รอบด้านหลายมุมมอง หลายเรื่องเป็นเรื่องราวที่ยังใช้เป็นข้อคิดและคติเตือนใจถึงเรื่องราวอำนาจได้อย่างถ่องแท้ #คอมพิวเตอร์กับแนะแนวอาชีพ #พรรณีเกษกมล
#พรรณีเกษกมล
#พรรณีเกษกมล #งานเขียนพรรณีเกษกมล
#งานเขียนพรรณีเกษกมล #พรรณีเกษกมล
41. รวยได้ถ้าใจคลิก โดย ณิชา 18/06/2566 มีใครมั้ยนะที่ไม่อยากรวย คงหายากอยู่ แล้วคนที่อยากรวยล่ะ ได้ในสิ่งที่ตนปรารถนาทุกคนหรือไม่ ความมั่งคั่งในยุคที่เทคโนโลยีก้าวกระโดด ทำให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงคิดหาวิธีการไปสู่เป้าหมายที่วาดหวัง บางคนไปถึง หลายคนล้มไม่เป็นท่า ถ้าเพียงแค่มีใจอยากรวย จะรวยได้ไหม เป็นคำถามที่น่าสนใจ นอกจากรู้วิธีหาเงินบนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็วแล้ว สิ่งที่ต้องมีนอกจากใจแล้ว ยังต้องรู้วิธีกำหนดเป้าหมายชีวิต ลงมือทำอย่างจริงจัง ไม่มัวแต่ตั้งการ์ด คุยโม้ไปวัน ๆ หรือฝันเฟื่องเรื่อยเปื่อย และต้องฝึกนิสัยของคนที่จะทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จ สุดท้ายต้องมั่นใจในตนมากพอที่จะสาวเท้าก้าวตามฝัน จนบรรลุป้าหมายแห่งความมั่งคั่ง 42. รักแรกของเจ้าชายนอกบัลลังก์ 19/07/2566 โดยเฌอแตม รักแรกของใคร ๆ ย่อมเป็นรักที่ติดตราตรึงใจ และหวังจะให้เป็นรักเดียว แต่จะเป็นไปได้แค่ไหน เมื่อเป็นรักของเจ้าชายนอกบัลลังก์ที่ยังไม่รู้ชาติกำเนิด เป็นทหารมหาดเล็กที่อยู่ใต้อาณัติฝ่ายราชวงศ์ และต้องปราบกลุ่มกบฏฝ่ายตรงข้าม รักแรกกับลูกสาวพ่อกำนันที่อยู่คนละขั้วอำนาจ จะก้าวโลดอย่างสวยงาม หรือสะดุดหยุดลงขาดสะบั้นอย่างน่าใจหาย 43. สร้างความคิดให้เฉียบคม ด้วยการคิดอย่างเฉียบแหลม พรรณี เกษกมล 4/12/2566 การจะเป็นคนเหนือคน และยืนหยัดอยู่แถวหน้าได้ คงต้องมีหลักคิดและวิธีคิดที่เหนือกว่าผู้คนทั่วไป โลกที่มีการเปลี่ยนแปลง รูปแบบการเรียนรู้เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย แล้วโลกที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็วมากล่ะ เช่น ยุคที่ IT AI เข้ามาครองเมือง มันจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะก้าวกระโดดมากเพียงใด คนฉลาดจะกุมชะตาบ้านเมืองเสมอ สิ่งที่ทำให้คนฉลาดปราดเปรื่องเหนือใคร คือใช้วิธีคิดขั้นสูง และนำมาสร้างสรรค์ได้ 44. กบก้าวกระโดด จากกะลาครอบ พรรณี เกษกมล 15/1/2567 75 วิถีแห่งการคิด พิชิตปัญหาและอุปสรรค เพื่อก้าวข้ามขวากหนาม วนเวียนกับกรอบคิดเดิม จะมีวันหลุดพ้นรึ ลองเปลี่ยนมุมมองคิด จะมองเห็นโลกกว้าง ฟ้าใสสว่าง รู้จักและรักตนเองก่อนอื่น มองเห็นคุณค่าและศักดิ์ศรี ศักยภาพที่เติมเต็มได้ สร้างแรงบันดาลใจให้ใฝ่รู้ ก้าวไปข้างหน้า นิสัยเดิมแย่ ๆ ไม่ต้องพะเน้าพะนอให้คงอยู่ เปลี่ยนใหม่เป็นคนใหม่ ที่พร้อมก้าวตามโลก รุ่นใหม่รู้อะไร ฝืนบังคับตนให้รู้เท่าทัน มีวิธีที่จะก้าวข้ามขวากหนามแล้วล่ะ 45. อำนาจพลิกขั้ว มังกรผงาดฟ้า 1 พรรณี เกษกมล 4/3/2567 อำนาจเปลี่ยนมือ พลิกผืนฟ้า ผลัดแผ่นดินจีน เรียนรู้เรื่องราวแห่งอำนาจ ที่ไม่ได้จีรังยั่งยืน อำนาจที่ยิ่งใหญ่เป็นเจ้าชีวิต เหนือทุกผู้คนใต้หล้า ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่คับฟ้ามากล้นเพียงใด ในวันนี้ พรุ่งนี้อาจดับสูญสลาย หดหายมลายสิ้น การก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่และสืบทอดอำนาจส่งต่อให้ลูกหลาน ได้ครองบ้านครองเมือง เสพสุขมิรู้สิ้น จะได้นานสักเท่าใดไม่รู้ พอสิ้นวาสนาจำต้องส่งต่อให้กับคนที่มีอำนาจสูงส่งเหนือกว่าอย่างจำใจ บทเรียนจากจีน ประเทศที่ยิ่งใหญ่เรืองอำนาจ จากยุคเริ่มรวมตัวเป็นจักรวรรดิ มหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร จวบจนสิ้นอำนาจราชวงศ์ ฮ่องเต้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหนือแผ่นดิน หมดสิ้นไปจากผืนแผ่นดินจีน 46. อำนาจพลิกขั้ว มังกรผงาดฟ้า 2 พรรณี เกษกมล 23/4/2567 อำนาจที่ยิ่งใหญ่เป็นเจ้าชีวิต เหนือทุกผู้คนใต้หล้า ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตามแต่ผู้มีพละกำลังสูงสุดในขณะนั้น เมื่อไม่มีใครยอมใคร จึงมีฮ่องเต้หลายองค์พร้อมกัน แต่เมื่อมีผู้เก่งกาจจะรวบรวมจักรวรรดิยิ่งใหญ่ให้เป็นหนึ่งเดียวได้อีกครั้ง บทเรียนจากจีน ที่ยิ่งใหญ่เป็นมหาจักรวรรดิ แตกแยกเป็น ห้าราชวงศ์ หรือ 5 ชนเผ่า ได้แก่ ซงหนู เซียนเปย เจี๋ย ตี เชียง และแบ่งเป็น 16 แคว้น แล้วมารวมตัวกัน สู้รบจนเหลือราชวงศ์เหนือใต้ รวมแผ่นดินเป็นหนึ่งอีกครั้งในราชวงศ์สุย แล้วผงาดยิ่งใหญ่เป็นราชวงศ์ถัง แต่สิ้นสุดด้วยขันทีที่เป็นอำนาจแฝง 47. ศาสตร์และศิลป สุดยอดทักษะ ฝึกเรียนให้เก่ง พรรณี เกษกมล 29/6/2567 เรียนเก่งได้ ด้วยศาสตร์และศิลป สุดยอดทักษะ ฝึกเรียนให้เก่ง พรสวรรค์ที่มีมาแต่กำเนิด เป็นคนเรียนเก่งความจำแม่น โชคดีมาก หากเป็นคนธรรมดา ไม่เก่งเลอเลิศ แต่อยากเป็นคนเก่งล่ะ คงต้องพึ่งพรแสวงแล้ว พรแสวงช่วยเสริมให้เรียนเก่งมากขึ้น 48. ทองคำ ซื้อขาย ถือครอง พรรณี เกษกมล 3/8/2567 ทองคำนับเป็นสินทรัพย์ที่มั่นคงปลอดภัยสูง โดยเฉพาะในยามวิกฤติที่ไม่แน่นอน ด้วยอัตราเงินเฟ้อสูงเกิน ภาวะล่อแหลมที่ไม่แน่ว่าจะเกิดสงครามโลก ภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจ การซื้อขายทองคำเพื่อเก็งกำไร เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาทองเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ภายในวัน สัปดาห์หรือเดือน ถ้าราคาออกด้านข้าง การถือครองอาจเป็นวิถีทางที่ดี เก็บในตู้เซฟที่ปลอดภัยเพื่อส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลาน หรือเก็บไว้ใช้ยามแก่เฒ่าที่ราคาก้าวกระโดดขึ้นสูงกว่าที่เคยซื้อเก็บ การซื้อขาย ถือครองทองคำ แล้วแต่บุคคล ช่วงเวลาของราคาทอง คงต้องใช้วิจารณญาณเพื่อหากำไรจากทองที่ไม่มีดอกเบี้ยหรือปันผล #งานเขียนพรรณีเกษกมล
49. เขียนบันทึก ปลุกพลังที่ซ่อนเร้น #พรรณี เกษกมล 27/8/2567
การเขียนบันทึก เริ่มจางหายไปจากชีวิต เมื่อมีอายุมากขึ้น ไม่มีงานประจำทำ และโลกก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยี การมีมือถือ คอมพิวเตอร์ ที่ใช้นิ้วในการพิมพ์ กดแป้นพิมพ์ แทนการใช้ปากกา ดินสอ ส่งผลให้เราลด ละเลิก การจดบันทึก ขีดเขียนลงกระดาษ สมุด สิ่งที่หายตามไปด้วย คือ การใช้สมองประมวลผลความคิด ก่อนสั่งกล้ามเนื้อมัดเล็ก จับปากกาขีดเขียนให้สวยงาม คนที่เลิกการเขียนนาน ๆ จะรู้ตัวเลยว่า ไม่สามารถขีดเขียนได้สวยงาม บังคับนิ้วได้ตามใจตน คงเหมือนฝึกเด็กเล็ก เด็กอนุบาลให้หัดเขียนนั่นเอง การเขียนสร้างพลังชีวิต เพราะเป็นกระบวนการที่ช่วยให้เกิดการตระหนักถึงชีวิตและความคิดในแต่ละวัน การเขียนบันทึกช่วยให้ติดตามและปรับปรุงตัวเอง และช่วยให้มีความรู้สึกดีต่อตัวเอง มีพลังใจในการดำเนินชีวิต ลองเริ่มต้นเขียนบันทึกส่วนตัว สร้างพลังชีวิต ให้เป็นเรื่องสนุกและมีประโยชน์ ลองเริ่มต้นด้วยเรื่องที่คุณรู้สึกต้องการจะบันทึกไว้ และเริ่มเขียนเพื่อสร้างพลังใจให้กับชีวิต 50. คิดคำคม วาดดอกไม้ ยามฟ้าสาง พรรณี เกษกมล 3/9/2567 เช้า ๆ ยามฟ้าสาง อากาศสดชื่นแจ่มใส ตื่นนอน ด้วยหลับเต็มอิ่ม ให้สร้างความรู้สึกดี ๆ ใส่สมอง ร่างกายจะได้คึกคัก ออกกำลังกายยืดเหยียดบ้าง ทำในสิ่งที่รัก กระตุ้นความคิดด้านบวก ง่าย ๆ ด้วยการวาดรูปในไอแพด คิดคำคมที่ผ่านมา ที่ให้แง่คิด จดใส่สมุดเล่มน้อย แค่นี้ก็โอเคแล้วมั้ง ที่จะสร้างพลัง เติมเต็มให้ใจดวงน้อย ๆ ต่อสู้กับชีวิตในวันนี้ได้อย่างสบาย ๆ แม้ฟ้าอาจหม่นหมองมัว เทาหม่น ๆ แต่ใจต้องมองฟ้าให้เป็นสีฟ้าให้ได้ 51. เวลาดี ๆ เพื่อชีวิตที่ดี พรรณี เกษกมล 15/9/2567 ชีวิตที่ดีคืออะไร อาจต่างกันไปในแต่ละคน แต่ละความคิด อาจเป็นชีวิตที่สงบสุข ไม่มีภัยอันตรายใด ๆ มาแพ้วพาน หรือมีทรัพย์สินมากมาย เงินทองล้นฟ้า มีอำนาจวาสนาล้นเหลือ แต่จุดเริ่มต้น ไม่ต่างกันมากนัก ต้องเริ่มต้นที่ตัวของเรานั่นเอง ถ้าใจร้อนรนกระวนกระวาย อยากได้ใคร่ดีจนไม่มีเวลาตริตรอง ไม่เคยหยุดตั้งหลัก ตั้งคำถามที่สำคัญที่สุดว่า ชีวิตนี้ต้องการสิ่งใดกันแน่ แล้วถามใจตนว่าปลายฝันนั้น สุดสายป่านที่ปลายรุ้งอันไกลโพ้น มันอยู่ ณ หนแห่งใดกันแน่ จะไปด้วยวิถีและวิธีทางเช่นใด มิเช่นนั้น คงฉกฉวยคว้าโอกาส หาเส้นทางเดินไม่พบเป็นแน่แท้ เวลาดี ๆ ที่ต้องค้นหาและไขว่คว้ามาครอบครอง ก่อนตั้งคำถาม มันคือจุดเริ่มต้นที่จะตอบว่า ชีวิตที่ดีของฉันนั้นเป็นเช่นใดกัน 52. กล้าแกร่งบนความอ่อนละมุน พรรณี เกษกมล 22/10/2567 จงมั่นใจในตน พร้อมบุกตะลุยฝ่าด่านปัญหา อุปสรรค ด้วยความกล้าหาญ แกร่งกล้า ไม่ย่อท้อ ไม่บุ่มบ่าม ด้วยขาดสติสัมปชัญญะ แต่พร้อมด้วยเสน่ห์ ลีลาท่าทาง ที่ไม่คุกคามฝ่ายตรงข้าม มีความอ่อนละมุน อ่อนโยน สุภาพ ไม่คุกคาม ก้าวร้าว กระด้างกระเดื่อง การกล้าหาญเชิงจริยธรรม การกล้าแสดงออก เปิดเผยสิ่งที่ควรทำ สิ่งที่ถูกต้อง ด้วยการเจรจาโต้ตอบ บอกกล่าว และแกร่งมากพอที่จะรับแรงกระแทก แรงตอบโต้ ด้วยความอ่อนละมุนนั้นเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน 53. กล้าที่จะคิด ฉีกมุมมอง พรรณี เกษกมล 9/11/2567 ในโลกยุคข้อมูลข่าวสารที่สื่อสารอย่างรวดเร็วในกระแสโซเชียล การรับรู้เรื่องราวหรือฟังข่าวสารบ้านเมือง บ้างคิดคล้อยตาม เชื่อทันทีโดยไม่ลังเล บ้างคิดขัดแย้ง เชื่อไปได้อย่างไรกัน บ้างคิดตรงข้ามในอีกมุมมอง การกล้าคิดและยอมรับว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดตามแต่ประสบการณ์ที่เรียนรู้มา เขาคิดเช่นนั้น เราคิดเช่นนี้ ถึงจะแปลกแตกต่างกัน ลองเปิดใจรับฟัง ขณะเดียวกันต้องกล้าที่จะแสดงความเห็นของตนออกมา เชื่อมั่นว่า เป็นความคิดที่ดี ม่จำเป็นต้องลอกเลียนแบบหรือทำตามความคิดคนอื่น โดยขาดการไตร่ตรอง พิจารณาก่อน การกล้าที่จะคิด และกล้าแสดงออกเป็นหนทางหนึ่งที่จะสร้างนวตกรรม และก้าวมายืนอยู่แถวหน้าได้อย่างอาจหาญ ในมุมมองที่แปลกแตกต่างจากคนอื่น 54. มหัศจรรย์ แห่ง ปาฏิหาริย์ พรรณี เกษกมล 28/11/2567 สิ่งใดที่จะให้คำตอบว่า มหัศจรรย์ แห่ง ปาฏิหาริย์ คืออะไร เป็นจริงมากน้อยแค่ไหนนั้น ผู้ที่จะได้คำตอบที่ดีที่สุด คงได้แก่ เจ้าตัวผู้ตั้งคำถามนั่นแหละ สัจอธิษฐานที่มุ่งมั่นตั้งใจทำสิ่งที่ดีงามที่เหมาะเฉพาะตน ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล ภาวนา เจริญปัญญา แล้วทำอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง ด้วยใจมุ่งมั่น ย่อมเกิดมหัศจรรย์แห่งปาฏิหาริย์ ได้แน่นอน แม้จะทำเพียงแค่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น เข้าพรรษา ก็ตาม สมองที่ทำงานทุกเช้าหลังตื่นนอน จะแจ่มใสสดชื่น ถ้าเพียรรับแต่สิ่งดีงามเข้าใส่ตัว ย่อมทำให้ฉลาดขึ้น แล้ววันนั้นทั้งวันจะพบเจอแต่สิ่งดีงาม นี่เป็นอีกมหัศจรรย์หนึ่ง คือฉลาดขึ้นและได้รับพร มีแต่สิ่งดี ๆ เข้าหาตัว อีกปาฏิหาริย์หนึ่ง เมื่อบำเพ็ญบุญบารมีมากพอ ย่อมจะได้รับอานิสงส์ผลบุญที่จะเกิดขึ้นในชาตินี้ มีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้น อาจจะเป็นโชคลาภที่ไม่คาดฝันและจะเกิดขึ้นในจิตสุดท้ายก่อนจะจากโลกนี้ไป เพราะในสมองได้สั่งสมสิ่งดีงาม จึงคิดได้แต่เรื่องดี ๆ นั่นเอง |
สมาชิกหมายเลข 4665919
![]() ![]() ![]() ![]() ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |