ช่วงนี้ กทม อากาศดีจังเลยครับ ตอนเช้าอากาศเย็นๆ 8-9 โมงนี่ประมาณ 30 องศา ถือว่าสบายๆ ไม่ได้โคตรร้าย ถ้าไม่รวมแดดจัด ๆ แบบน่าหนาว มันน่าจะว้าปไปเขาใหญ่จังเลยครับ คงเย็นๆ สดชื่นน่าดู
นั่งชิลๆ อยู่ริมระเบียง E-mail ก็เด้งขึ้นมาในมือถือ "ทริปของคุณกำลังจะมาถึง" หือออออออ........????

พอเปิดมาดู อ้าวเฮ้ยยยยย ผมจองโรงแรมที่เขาใหญ่เอาไว้ แต่นานแล้วครับ 3-4 เดือนมาแล้วเลย เรียกว่าเกือบลืมไปแล้ว แถมราคาดีมากครับ เลยบอกข่าวดีแฟน เราไปเขาใหญ่กันเถอะ
แต่................. เขาใหญ่ใกล้นิดเดียว พวกผมก็ชิลเลย ตื่น 8 โมง อาบน้ำกินข้าว 9 โมงแฟนยังนั่งหนีบผมอยู่เลย ส่วนผมก็ทะยอยเอาลองขึ้นรถ แล้วมาเก็บของเล็ก ๆ น้อยๆ พวกสายชาร์ตมือถือ แว่นกันแดด ยงยา เกือบ 10 โมงถึงได้พร้อมประจำที่บนรถ เตรียมออกเดินทาง แต่....แต่อีกแล้ว.... แต่เราต้องแวะเติมน้ำมันก่อนครับ เพราะรถแฟนมีน้ำมันอยู่ 2/3 ถัง แฟนบอก "พอ ไม่ต้องห่วง" ไม่กล้าเสี่ยง เลยแวะเติมที่ ม. กรุงเทพ รังสิต ซะก่อนออกอยุธยา
ต้องบอกว่ารถเละมาก แฟนน่าจะไม่ได้ล้างรถมาเดือนกว่าแล้ว ส่วนรถผม...ล้างเรียบร้อย เติมน้ำมันเต็มถัง แต๊!!! .......แต่.....แต่รถผมดันมีปัญหากระทันหัน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขาขับรถกลับจากที่ทำงาน อยู่ๆ รถผมมีอาการ "วูบ" ขณะที่ผมกำลังขับอยู่เลนขวาสุดบนถนนวิภาวดี อาการวูบคืออะไร คืออยู่ๆ ผมเหยียบคันเร่งนิ่งๆ แต่กำลังรถเกิดหายไป คือหายไปเลยครับ หายไปพร้อมรอบเครื่อง อาการไม่ได้เหมือนถอนคันเร่ง หรือเกียร์ไม่เข้านะครับ แต่กำลังส่งมันหายไปเลย Reflect แรกที่ทำคือ กดคันเร่งซ้ำอีกครั้ง แต่มัน....อ้างว้างมากเลยครับ ไม่มีอะไรเลย ไม่มีเสียงเครื่อง ไม่มีรอบเครื่อง ไม่มีกำลังรถเหมือนเข้าเกียร์ N ใจหายว้าบเลยฮะทีนี้ ผมกำลังอยู่ขวาสุดด้วย กดคันเร่งซ้ำอีก 2 ครั้ง ก็ว่างเหมือนเดิม ตีไฟซ้ายเลยครับ แต่คันข้างๆ ดันขับตีคู่ ลนมาก กดไฟฉุกเฉินทันที รถก็กำลังช้าลงเรื่อยๆ เลยกดคันเร่งอีกครั้ง กำลังรถก็กลับมาพร้อมรอบเครื่อง นี่เป็นรอบที่ 2 ที่รถวูบ แต่ครั้งนี้เกิดนานมากครับ จนผมกลัวเลย และคิดว่ารถไม่พร้อมที่จะเกินทางต่างจังหวัดแน่นอน อันตรายมาก
กลับมาที่ทริปของเรา..... ความหรรษายังไม่จบครับ เพราะดันตรงกับวันที่คนเดินทางไปเลือกตั้ง เส้นสระบุรีติดสนั่น ติดจนผมหงุดหงิดอารมณ์ไม่ดีมากๆ เราเดินทาง 10 โมง เพิ่งเข้าเส้นเขาใหญ่ตอนบ่าย 3 ขึ้นไปเจอป้าย "เขาใหญ่ มาราธอน" พร้อม....รถติด
จีซัส ไครส!
จังหวะนั่นทำอะไรไม่ได้แล้วครับ นอกจาก.....เปิดกระจกแล้วโบกมือทักทายนักวิ่ง ไม่รู้โบกอิท่าไหน.....ผมขับเลยทางไปที่พัก - -'' หงุดหงิดมากกกกกกกกกกกกกกก แฟนนี่นั่งเงียบเลยครับ เพราะผมฟิวขาดหงุดหงิดหนักมาก
จนเกือบ 5 โมงเย็น......เราก็มาถึง คีรีมายา เขาใหญ่ ใช่ครับ....ผมเคยมาแล้ว แต่ประทับใจมากจนต้องมาอีก

ถึงก็ส่งแฟนพร้อมสัมพาระลงที่จุด Drop off แล้วเอารถไปจอด แล้วเปิดขวดน้ำล้างหน้าซะหนึ่งขวด Reset อารมณ์ หันมาอีกที ก็เจอกับรอยยิ้มเขินๆ ของพนักงานโรงแรมที่เรารถกอล์ฟมารอรับ ไปถึงล๊อปปี้ แฟนก็ลุกเลย บอกว่า Check-in เรียบร้อยแล้ว เร็วมากครับ ไม่ถึง 5 นาที เส็ดเลย ไม่ต้องรอให้หงุดหงิดอีก



ถึงห้องผมก็ไปนั่งเล่นมือถืออยู่ที่ระเบียงเงียบๆ รู้ตัวอีกที 5 โมง 15 ผมก็ลุกขึ้นมาโวยวายอีกรอบ เพราะนึกได้ว่าเรา Book ร้านอาหารไว้ 17.30 แต่แฟนยังแต่งหน้าอยู่ จนแฟนบอกว่า ใจเย็นๆ เราไม่แต่งหน้าแล้ว ไม่เปลี่ยนชุดแล้วก็ได้ เราไปร้านอาหารเลยโอเคไหม
พอเดินออกจากห้องมา ผมก็ได้กลิ่น....ป๊อบคอร์น มาจากฝั่งร้านอาหารของโรงแรม แฟนเลยชวนเดินไปดู ก็เจอกับ เธียร์เตอร์ที่จัดไว้อย่างน่ารักของทางโรงแรม บวกกับความยิ้มแย้มต้อนรับอย่างดี ชวนคุยสนุกสนานของพนักงาน ผมก็เย็นครับ เย็นพอจะเดินถ่ายรูปอยู่พักนึงแล้วออกไปร้านอาหาร





คือนี่มันบรรยากาศเขาใหญ่ในฝันเลยนะ ได้นอนดูหนังท่ามกลางอากาศเย็นๆ มีเบาะนุ่ม ๆ ผ้าห่มอุ่นๆ กับคนที่อยากนั่งข้างๆ
ผมจองร้าน ขุนเขาสเตชั่น เอาไว้ครับ ปกติจะต้องไปกิน Prime 19 แต่รอบนี้อยากลองเปลี่ยนดูบ้าง พยายามทำหัวโล่งๆ ปิดแอร์ เปิดกระจก ขับไปเรื่อยๆ เกือบ 10 กิโล

ไปถึงร้าน ร้านน่านั่งมากครับ พนักงานต้อนรับดีมากๆ อาหารอร่อย ดนตรีเพลง อากาศเย็น 24 องศา กับเบียร์สดในแก้วเย็นเจี๊ยบ.... เรียกว่า เบียร์เป็นแอลกอฮอล์อย่างเดียวที่ดับไฟได้ หมายถึงไฟที่หัวร้อนมาตลอดทั้งวันอ่ะนะครับ 555555

แฟนเลยถาม....มันเป็นวันแย่ๆ ของเธอหรอ ที่แฟนเก่าเทอแต่งงาน อือหือ.....มันจี๊ดมากครับ 555555 เปล่า.....เปล่าซักหน่อย ไม่เกี่ยวกัน ^^
กลับมาจากทานข้าวก็ไปยืนดูหนังอยู่แป็บนึงครับ เพราะที่นั่งเต็ม เลยซื้อป๊อบคอร์นกลับไปนั่งกินที่ระเบียงห้องแทน เปิดตู้มาเจอแก้วไวน์ แต่ไม่มีไวน์ เป๊บซี่ก็ดูจะแก้ขัดได้ 555555

จำได้ว่านี่มุกเดิมเลยฮะ เมื่อ2 ปีที่แล้วก็เทเป๊บซี่แบบนี้แหละ ก็เปิดเพลงเบาๆ นั่งคุยกัน ดูการแสดงโดรนของโรงแรมจากระเบียงห้อง เพิ่งรู้ว่าจริงๆ คนที่อยู่ด้วยกันทุกวันก็มีเรื่องที่ไม่ได้คุยกันเหมือนกัน คุยกันอยู่พักใหญ่ แฟนก็เดินมาบอกว่า น้ำอุ่นเต็มอ่างแล้ว
งั้น....ขอตัวก่อนนะครับ ^^''

ขนาดจัดเบียร์ไป 2 เหยือก เพราะอะไรไม่รู้ผมเกิดอาการตาค้าง สมองค้าง รู้สึกเหมือนขับรถอยู่ตลอดเวลา น่าจะเพราะเครียดจากการขับรถมาติดหนักๆ ผมนอนไม่หลับเลยทั้งคืน....โปรดฟังอีกครั้ง....ทั้งคืน !!! พอฟ้าเริ่มสว่าง 6 โมงครึ่ง ผมเลยออกไปเดินรับอากาศเย็นๆ ตอนเช้า อากาศสดชื่นมากครับ สดชื่นจนเหมือนเป็นอีกโลกนึงเลย


เพิ่งรู้ว่าการตื่นเช้ามันดีแบบนี้นี่เอง 55555 ปกติตื่นทีห้องอาหารแทบปิด นั่งๆ คิดอะไรอยู่ซักพัก ก็เหมือนตัวมารเข้าสิง รู้สึกว่า...... หรือเราจะยังไม่กลับ กทม ดี ขับรถมาหนักหน่วงขนาดนี้ นี่ยังแทบไม่ได้ใช้เวลาที่เขาใหญ่เลย 7 โมงครึ่ง แฟนคงตื่นมาไม่เจอ เลยโทรตาม บอกว่า นึกว่า เค้ามาแต่งงานที่นี่แล้วเทอแอบเดินไปหาเค้า โว๊ะ! แบบนี้ก็ได้ด้วย
ก็อาบน้ำอาบท่า แฟนก็แต่งหน้าทำผม แต่งตัวสวยๆ จะออกไปกินอาหารเช้า กับถ่ายรูป มื้อเช้าผมก็มีอาการเหมือนเดิมฮะ เบื่ออาหาร ชวนกินอะไรก็ไม่อยากกิน แสดงว่าเปลี่ยนที่กินอาหารยังไม่ช่วยอะไร
ขานั่งรถกอล์ฟกลับมาที่ห้อง ผมเลยลองชวนแฟนอยู่ต่ออีกคืนนึง แฟนถามคำแรกเลยว่า "พูดจิงดิ จะลางานหรอ พูดจิงหรอ" เพราะปกติผมเป็นคนลางานยากมากๆ คือจะไม่ยอมลาเลย เลยบอกเค้าว่า จิง ขี้เกียจ อยากเกเรดูซักครั้ง แต่เราจะย้ายโรงแรมนะ ถึงจะชอบคีรีมายามากแค่ไหนก็ตาม
11 โมงเลย Checkout ออกจากคีรีมายา แล้วไปถ่ายรูปที่สวนดอกไม้ของโรงแรม

ซึ่งเอาจริงๆ มันก็ไม่ค่อยสวยแล้วอ่ะนะครับ น่าจะเหมาะกับช่วงเย็นๆ แดดอ่อนๆ ลมเย็นๆ มีเบียร์ขาย แล้วนั่งชิลๆ ดูไฟ ดูการแสดงโครนน่าจะ work กว่า ผมเลยพาแฟนขับรถย้ายโรงแรมไปที่ที่อยากลองไปมานานแล้ว ติดแค่....แพง 555555555 คือมันเกินเหตุครับ ขนาดห้องกับเตียงควีน ไม่น่าราคานี้
อาหารกลางวันเลยลองซักหน่อย ลองมากินที่ห้องอาหาร The Fable feast ที่ Hotel Labaris

การบริการที่ห้องอาหารดีเยี่ยมมากครับ ไม่ได้หรูหราจนรู้สึกเกร็ง แต่ดูสุภาพและเป็นกันเองมากๆ

คิดว่าห้องอาหารโรงแรมแบบนี้ไม่น่ามีคนมาทานเยอะ เพราะส่วนใหญ่น่าจะออกไปทานข้างนอกกัน แต่ที่ไหนได้ เต็มเหมือนกัน



ลอง Signature steak มาซัก 250g ซึ่งมันอร่อยมากกกกก ซอสมีให้เลือกเยอะมาก ๆ แฟนดูเอาอกเอาใจ หั่นให้พร้อมบอกว่า เรารู้ว่าเทอชอบกินกับเกลือ แหม่.........


แต่ที่สุดของที่สุดผมก็เป็นคนไทย และเอ็นจอยกับน้ำจิ้มแจ่วมากครับ 5555555
แล้วก็มาที่มุมมหาชน จริงๆ Labaris ได้ไม่น่าประทับใจน้อยไปกว่าคีรีมายาเลยนะครับ แต่ด้วยสไตล์แล้ว ผมไม่ได้ชอบนอนเขาใหญ่ด้วยสไตล์นอร์ดิกเท่าไหร่ แต่ชอบแบบธรรมชาติๆ มองไปเห็นน้ำ เห็นเขา ไอเย็นๆ มาจากธรรมชาติ ที่มองไปแล้วไกลสุดลูกหูลูกตาแบบคีรีมายามากกว่า

ลาบาริสมันสวยแบบดินแดนในเทพนิยาย เป็นการแสดงงานศิลปะมากกว่า ถ้าแนวนี้ผมชอบให้มันอยู่ที่หัวหินครับ 555555

และ.....และความซวยก็เกิดขึ้นจริงๆ เมื่อผมเกิดปิดประตูรถทับหัวชาร์ตมือถือหักคามือ ในขณะที่มือถือมีแบตแค่ 40% และที่ซวยซ้อซ้อนคือ....กล้องที่พาไปด้วยก็แบตขึ้นสีแดง เพราะแฟนเปิด Wifi transfer รูปแล้วลืมปิด ไม่ต้องถามเลยว่าจะหงุดหงิดไหม หงุดหงิดมากครับ - -'' แต่ก็สยบความหงุดหงิดด้วยการนอนบนเตียงนุ่มๆ ไป 2 ชั่วโมง ตื่นมามีความคิดว่าจะไปแช่น้ำในสระ แต่แฟนบอกว่า ดูก่อนตรีภพ....เจ้าลองเอามือจุ่มน้ำดูก่อนว่ามันเย็นมากไหม


ผลคือ......แม่งโคตรเย็นนนนน..... อวสารการลงสระ สรุปคือกลับมาสั่ง room service ที่ห้อง พร้อมเปิด Hellbound ดูจนดึซะงั้น
เช้ามาผมก็คอพับคออ่อน ง่วงยาแก้แพ้ที่กินไปแล้วดันนอนดึกอีก ประกอบกับหนาวๆ ร้อนๆ แดดจัด ๆ มาเมื่อวาน ผมรู้สึกลมหายใจอุ่นๆ น้ำมูกก็ไหล ไอๆ มีเสมหะขึ้นมา แล้วปวดหัวปวดตา เลยออกไปหาต้มจืดเต้าหู้กินตอนเช้า อ้อ.....เราไม่ได้ซื้ออาหารเช้าของโรงแรมครับ เพราะแพง......นี่น่าสงสารมาก มันปลายเดือนแล้ว T_T แล้วผมก็กลับนอนเล่นต่อที่ห้ออง ส่วนแฟนก็ออกไปถ่ายรูปเล่น
ก่อนจะบ๊ายบายเขาใหญ่ตั้งแต่ก่อนเที่ยง เพราะกลัวว่าจะทำถนนหรือรถติดหนักเหมือนขามาอีก ซึ่งขากลับเป็นวันจันทร์ใช่ไหมครับ แล้วผมก็มีงาน แต่ไม่่ยอมไปทำงาน ทำให้ต้องโทรศัพท์ พิมพ์เมลล์ ส่งไลน์ตลอดทาง ด้วยแบตที่เหลือ 10% แฟนเลยอาสาขับรถให้จะได้ไม่อันตราย แต่โชคดีรถไม่ติดเลยครับ ทำให้เราถึง กทม ไวมากมีเวลานั่งทำงานต่อ
จบไปสำหรับทริปเขาใหญ่ ที่หนาวแค่ไหนก็อบอุ่นหัวใจเหลือเกิน ก็บอสอันน่ารักเอาอกเอาใจ ดูแลอย่างดี

ขอบคุณที่ไปด้วยกัน แบบนี้....ไว้จะพาไปเที่ยวอีกนะครับ
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2564 |
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2564 17:03:17 น. |
|
25 comments
|
Counter : 1052 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณnonnoiGiwGiw, คุณหอมกร, คุณเริงฤดีนะ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณThe Kop Civil, คุณtoor36, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณชีริว, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณtuk-tuk@korat, คุณSertPhoto, คุณสองแผ่นดิน, คุณกะว่าก๋า, คุณmultiple, คุณกิ่งฟ้า, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณKavanich96, คุณkae+aoe, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณlovereason, คุณไวน์กับสายน้ำ |
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 30 พฤศจิกายน 2564 เวลา:12:58:25 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 30 พฤศจิกายน 2564 เวลา:13:03:51 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 30 พฤศจิกายน 2564 เวลา:14:03:40 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 30 พฤศจิกายน 2564 เวลา:14:43:53 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 30 พฤศจิกายน 2564 เวลา:17:59:25 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 30 พฤศจิกายน 2564 เวลา:18:14:34 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 30 พฤศจิกายน 2564 เวลา:21:06:38 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 ธันวาคม 2564 เวลา:10:52:22 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 1 ธันวาคม 2564 เวลา:13:54:37 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 1 ธันวาคม 2564 เวลา:22:19:42 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 2 ธันวาคม 2564 เวลา:2:02:03 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 2 ธันวาคม 2564 เวลา:5:55:41 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 ธันวาคม 2564 เวลา:5:58:01 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 2 ธันวาคม 2564 เวลา:22:03:57 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 2 ธันวาคม 2564 เวลา:22:31:06 น. |
|
|
|
โดย: lovereason วันที่: 3 ธันวาคม 2564 เวลา:1:09:19 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 ธันวาคม 2564 เวลา:16:46:59 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 3 ธันวาคม 2564 เวลา:20:39:34 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 3 ธันวาคม 2564 เวลา:21:40:03 น. |
|
|
|
|
|
 |
|