พอถึงหน้าร้อนทีไร คงไม่มีอาหารไทยเมนูไหน ที่ชวนอิ่มอร่อยคลายร้อนได้ดีเท่า “ข้าวแช่” ที่ถือว่าเป็นอาหารยอดนิยมประจำหน้าร้อน “ตระเวนกิน” เลยต้องขอไปเสาะหา ข้าวแช่มากินกำนัลปากท้องตัวเองสักหน่อย

มุมโต๊ะนั่งสบายๆ

แล้วเราก็ได้มาที่ร้านนี้ “หลายรส” ตั้งอยู่ตรง ซ.สุขุมวิท 49 ซึ่งที่นี่มีข้าวแช่ตำรับชาววังให้ได้ลิ้มลอง แถมยังมีให้กินตลอดทั้งปีด้วย อีกทั้งยังมีอาหารไทยชาววัง ตามแบบฉบับโบราณหลายหลากให้ได้เลือกอิ่มอร่อยกันมากมายกว่า 100 เมนู โดยเน้นคัดสรรแต่วัตถุดิบชั้นดีที่มีคุณภาพ มีความสดใหม่ นำมาปรุงแต่งอย่างพิถีพิถันเป็นเมนูอาหารไทยที่ชวนลิ้มรสมากมาย

 แน่นอนว่าเมื่อมาถึงที่ร้านนี้แล้ว เมนูแรกที่ต้องสั่งมากินกันให้ได้เลยก็คือ ข้าวแช่ชาววัง (230 บาท) ที่โดดเด่นด้วยสูตรต้นตำรับจากชาววัง โดยเป็นสูตรที่คุณแม่อุไร เกษมสุวรรณ ซึ่งเป็นคุณแม่ของพี่โด่ง พิมพร อิ่มประไพ เจ้าของร้าน ได้มีโอกาสเข้าไปคลุกคลีอยู่ในวัง และได้เรียนรู้เรื่องการทำอาหารต้นเครื่องของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ หรือ พระองค์ชายเล็ก ซึ่งคุณแม่เป็นน้องสาวของ หม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา ชายาของพระองค์ชายเล็ก

ข้าวแช่ชาววัง

และก็ได้นำเอาสูตรข้าวแช่ดั้งเดิม ที่ได้มาจากท่านแม่ของพระองค์ชายเล็ก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล มาทำข้าวแช่แบบต้นตำรับชาววังให้ได้ลิ้มรสกัน โดยข้าวแช่ของที่นี่ จะมีเครื่องเยอะถึง 6 อย่าง คือ พริกหยวกยัดไส้ พริกหยวกผ่าเอาพริกออก แล้วยัดด้วยไส้หมูผสมกุ้ง นำไปนึ่งจนสุก แล้วห่อด้วยไข่ฝอย กินแล้วรสชาติอร่อยกลมกล่อมลิ้น,

หัวหอมแดงทอด ทางร้านนำหัวหอมแดงมายัดไส้ปลาแห้งปรุงรสนำมาชุบแป้งทอด กินแล้วกรอบนอกนุ่มใน รสหวานกำลังดี, ลูกกะปิทอด ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของข้าวแช่ ทางร้านจะทำสดๆ ส่วนผสมได้แก่ ตะไคร้ หอมแดง กระชาย โขลกให้ละเอียดใส่ปลาแห้งป่นปรุงรส แล้วนำมาปั้นเป็นก้อนๆ ตากลมให้แห้งชุบไข่แล้วนำไปทอด กินแล้วเนื้อนุ่มอร่อยกลมกล่อมรสชาติถูกปาก

ปลายี่สนผัดหวาน เป็นเนื้อปลายี่สนต้มนำมาฉีกและโขลกให้ป่นผัดกับกะทิและน้ำตาล รสชาติหวานกำลังดีไม่เลี่ยน, หัวไชโป้วหวานผัดไข่ ผัดแบบแห้งนิดๆ รสหวานนุ่มละมุนลิ้น, เนื้อฝอยผัดหวาน ถ้าไม่กินเนื้อฝอยก็เปลี่ยนเป็นหมูฝอยแทนได้ เคี้ยวมันรสดีถูกปาก

ส่วนข้าวที่นี่ใช้ข้าวเก่ามาหุงแบบโบราณ พอข้าวเป็นไตเทน้ำออก แล้วนำไปขัดผ่านน้ำให้ยางออก และ นำไปนึ่งให้สุก ส่วนน้ำเป็นน้ำหอมอบควันเทียนใส่ดอกกระดังงาลนไฟ, ดอกมะลิ, ดอกชมนาด, กลีบดอกกุหลาบ อบค้างคืน 1 คืน และก็จะมีน้ำแข็งให้ด้วย

เวลากินจะต้องตักกับใส่ปากแล้วตักข้าวตามเข้าปาก ข้าวเป็นเม็ดเคี้ยวนุ่ม น้ำหอมอบควันเทียนหอมเย็นชื่นใจ กินแล้วอร่อยชุ่มชื่นใจมากๆ และยังมีผักสดแกะสลักสวยๆ อย่าง แตงกวา มะม่วง กระชาย ต้นหอม พริกชี้ฟ้า มาให้กินเคียงด้วย

ขนมจีนน้ำพริก

นอกจากข้าวแช่ชาววังแล้ว อย่างที่บอกที่นี่ยังมีอาหารไทยชาววังโบราณอื่นๆ ให้ได้ลองลิ้มกันด้วย ที่อยากแนะนำก็มี ขนมจีนน้ำพริก (130 บาท) จัดเสิร์ฟมาแบบเป็นชุด มีน้ำพริกที่ปรุงรสด้วยถั่วทองคั่วหอมๆ นำมาโขลกให้ละเอียดกับเนื้อกุ้งและปู ปรุงรสใส่กะทิคั้นสด เป็นน้ำพริกข้นๆ รสชาติเข้มข้นหอมหวานกลมกล่อมถูกปากดีจริง

กินคู่กับขนมจีนเส้นสดที่จัดมาแบบพอดีคำ และมีผักบุ้งฝอยลวก ถั่วพูลวก หัวปลีหั่นฝอย ใบผักบุ้งทอด พริกแห้งทอด กุ้งชุบแป้งทอด และไข่ต้ม ให้กินเคียงอร่อยเต็มอิ่ม

ข้าวราดน้ำพริกลงเรือ

และถ้าใครอยากกินข้าวขอนำเสนอ ข้าวราดน้ำพริกลงเรือ (100 บาท) เป็นข้าวสวยราดด้วยน้ำพริกกะปิ โรยหน้าด้วยปลาดุกฟู ไข่เค็มปั้นเป็นลูกเล็กๆ กระเทียมดองแกะกลีบ หมูหวาน ถ้าจะกินให้อร่อยแนะนำว่าต้องคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน กินแล้วถูกปากโดนใจ เคี้ยวข้าวเม็ดนุ่มชุ่มรสน้ำพริกกลมกล่อมเด็ดถึงใจ กินเคียงกับผักต่างๆ อย่าง มี แตงกวา มะเขือ ถั่วฝักยาว ผักบุ้ง เข้ากันดีจริง

ข้าวอบสับปะรด

 อีกหนึ่งเมนูข้าวที่ชวนกินคือ ข้าวอบสับปะรด (100 บาท) เป็นข้าวอบสับปะรดหน้าตาน่ากิน ทางร้านนำเนื้อไก่มาผัดกับพริกแกงแดงจนหอม แล้วใส่ข้าวสวยลงไป ใส่สับปะรดผัดปุงรสคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่มาในผลสับปะรดผ่าซีกที่นำไปย่างไฟให้กลิ่นหอมๆ ตกแต่งด้วยลูกเกด หมูแฮม ถั่วลันเตา กินแล้วได้รสสัมผัสของน้ำพริกแกงแดงรสเด็ดที่อร่อยเข้าถึงเนื้อไก่ แล้ว ได้กลิ่นหอมของสับปะรดอ่อนๆ เวลาเคี้ยวข้าวด้วย

โรตีแกงเขียวหวานไก่

 จากนั้นมาชิมเมนูนี้กันบ้าง โรตีแกงเขียวหวานไก่ (130 บาท) เป็นแกงเขียวหวานใส่เนื้อไก่ส่วนอก ใส่มะเขือพวง ใบโหระพา พริกชี้ฟ้า กินคู่กับโรตีทอดหนานุ่ม กินเข้ากันดีกับแกงเขียวหวานเข้มข้นรสกลมกล่อมถึงเครื่องแกงเผ็ดกำลังดี

หอยลายอบเนย

แล้วก็ต้องไม่พลาดเมนูนี้ หอยลายอบเนย (130 บาท) ทางร้านนำเนื้อหอยลายมาผัดกับรากผักชี กระเทียมพริกไทย ใส่เนย และเสิร์ฟมาในเตาขนมครก หอยลายเนื้อนุ่มชุ่มรสเนยกระเทียม กินกับขนมปังเนยกระเทียมกรอบนอกนุ่มในถูกปากโดนใจดีแท้

ข้าวเม่าเม็ดแมงลัก

ตบท้ายด้วยขนมหวานล้างปาก ข้าวเม่าเม็ดแมงลัก (30 บาท) เป็นเม็ดแมงลักใส่ในน้ำกะทิปรุงรสกับน้ำตาลมะพร้าวที่ทางร้านเคี่ยวเอง โรยด้วยข้าวเม่าลานคั่วจนกรอบ ใส่น้ำแข็ง และราดกะทิอีกที กินแล้ว เม็ดแมงลักลื่นคอ ข้าวเม่ากรุบกรอบ หอมหวานน้ำกะทิอร่อยชื่นใจจริงๆ

เมนูอาหารไทยเหล่านี้เป็นเพียงแค่เมนูเด็ดบางส่วนที่ชวนลิ้มรส แต่ถ้าหากใครได้มาร้าน “หลายรส” ที่ยังมีอาหารไทยขาววังอื่นๆ ที่ชวนชิมอีกมากหลาย อาทิ ปอเปี๊ยะกระเบื้อง (120 บาท) ข้าวตังหน้าตั้ง (90 บาท) ผัดไทยกุ้ง (100 บาท) แกงเลียงกุ้งสด (150 บาท) แกงส้มชะอมกุ้ง (180 บาท) ฯลฯ

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

คุณ"ตระเวนกิน"

สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ