อยู่เมืองไทยช่างดีนัก ถือว่าเป็นเมืองแห่งสวรรค์ของนักกินก็ว่าได้ เพราะว่านอกจากจะมีร้านอาหารไทยแล้ว หากนึกอยากกินอาหารชาติอื่นๆ ขึ้นมา ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร อย่างถ้าหากใครนึกอยากกินอาหารญี่ปุ่นขึ้นมาสักมื้อ เอาแค่ว่าในกรุงเทพฯ ก็มีร้านอาหารญี่ปุ่นหลากหลายร้านให้เลือกไปลิ้มลองกับอาหารญี่ปุ่นรสชาติดีกันไม่ถูกเลยทีเดียว เรียกว่านักกินคนไหนชื่นชอบกินอาหารญี่ปุ่นแนวไหน ชอบร้านสไตล์ไหนก็เลือกไปกันได้ตามใจชอบ

       เหมือนที่ในมื้อนี้เมื่อ “ตระเวนกิน” อยากกินอาหารญี่ปุ่นเราก็ขอเลือกที่จะมาฝากท้องอิ่มอร่อยกับอาหารญี่ปุ่นกันที่ร้านนี้ “Nomiya Gastro Bar” (โนมิยะ แกสโตร บาร์) ตั้งอยู่ที่ซ.ทองหล่อ 23 นี่เอง เหตุผลที่เราเลือกมาที่นี่ก็เพราะว่า นอกจากจะมีอาหารญี่ปุ่นรสเลิศให้ลิ้มรสมากมายแล้ว บรรยากาศของร้านก็ชวนนั่ง

ซึ่งทางร้านตกแต่งร้านให้มีกลิ่นอายแบบฟิวเจอริสติค (Futuristic) ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นกึ่งบาร์ในนิวยอร์ค มีการออกแบบตกแต่งเน้นโทนสีขาว ดำ เทา และใช้เส้นสายรูปทรงเรขาคณิตอย่างลงตัวดูโมเดิร์นดีจริง

โต๊ะนั่งตรงเคาน์เตอร์ดูเชฟทำอาหารไปด้วย

ในส่วนของพื้นที่ชั้นล่างมีโต๊ะให้เลือกนั่งในมุมสบายๆ มีโต๊ะนั่งแบบเคาน์เตอร์ที่จะได้เห็นการปรุงอาหารของเชฟ และก็ยังมีส่วนของชั้นบน ที่มีเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่ให้บริการเครื่องดื่มแบบครบครัน และมีโต๊ะให้เลือกนั่งแบบรับลมธรรมชาติเย็นๆ แล้วก็ยังมีส่วนของห้องส่วนตัวให้บริการอีกด้วย

       สำหรับอาหารญี่ปุ่นของที่นี่ ทางร้านได้พิถีพิถันเรื่องการคัดสรรคุณภาพความสดใหม่ของวัตถุดิบชั้นดี ที่ต้องสด และส่งตรงจากทะเลญี่ปุ่น เพื่อนำมาคิดสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นหลากหลายเมนูที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีทั้งเมนูอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และสไตล์ฟิวชั่น (Fusion) ทั้งฟิวชั่นฝรั่งเศส ฟิวชั่นไทย เพื่อให้เข้าถูกปากคนไทย

SHIRAUO SALAD

เอาเป็นว่ามาดูกันดีกว่าว่าที่นี่จะมีเมนูจานเด่นอะไรที่ชวนชิมบ้าง ขอเริ่มด้วยเมนูเบาๆ เพื่อสุขภาพกันก่อน เมนูนี้มีชื่อว่า SHIRAUO SALAD (340 บาท++) เชฟนำปลาเงินมาคลุกแป้งทอดกรอบ และมีผักสลัดอย่าง กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค ผักคอส และมะเขือเทศ แครอท แตงกวา ใส่มายองเนส โรยหน้าสลัดด้วยไข่กุ้ง และมีน้ำสลัด 2 อย่าง คือน้ำสลัดหวานแบบเทอริยากิ และน้ำสลัดซีอิ้วญี่ปุ่นปรุงรส ให้เอามาราดคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน กินแล้วถูกปากผักสลัดสดกรอบ ปลาเงินเคี้ยวกรอบกรุบเข้ากับน้ำสลัดรสกลมกล่อมถูกลิ้น

เมนูSASHIMI สดๆ

เมนูถัดมาต้องไม่พลาดสั่ง SASHIMI ซึ่งที่นี่มีปลาดิบหลากหลายชนิดส่งตรงมาจากญี่ปุ่นให้ได้เลือกกินตามชอบใจ ที่เราสั่งมาชิม คือ นามาโฮตาเตะ (650 บาท++/ 3 ชิ้น) เป็นหอยเชลล์สดจากญี่ปุ่น กินแล้วเนื้อหอยเชลล์หวานสดโดนใจปากมากๆ และอาคามิ (450 บาท++/ 3 ชิ้น) เป็นเนื้อปลาทูน่าส่วนเนื้อแดง ชิมแล้วเนื้อหวานนุ่มชุ่มลิ้นละลายในปากไม่มีกลิ่นคาวเลย

UNI SUSHI และ IKURA SUSHI

กินซาซิมิแล้วก็ต้องมาชิมซูชิด้วย ซูชิของที่นี้อร่อยเน้นรสชาติของความเป็นญี่ปุ่น มีหลากหลายหน้าให้เลือกลิ้มลอง ที่อยากแนะนำก็มี UNI SUSHI (ชิ้นละ 340 บาท++) ซูชิไข่หอยเม่นคำโต กินแล้วข้าวปั้นอร่อยนุ่มละมุนลิ้นกับความหวานของไข่หอยเม่น อีกหนึ่งอย่าง คือ IKURA SUSHI (ชิ้นละ 150 บาท++) เป็นซูชิไข่กุ้งสีส้มสดใส เคี้ยวเข้าปากคำเคี้ยวข้าวเม็ดนุ่มเต็มปากเต็มคำกับไข่กุ้งเคี้ยวมันปาก

HOTATE LOVER

ถ้าใครชอบกินหอยเชลล์ นำเสนอเมนูนี้ HOTATE LOVER (650 บาท++ ) เป็นหอยเชลล์นำมากริลล์จนหอม จัดแต่ง 2 รสชาติในจานเดียว รสชาติแรกแต่งหน้าด้วยเนื้อปลาแซลมอนคลุกกับซอสไปซี่ โรยหน้าด้วยชีสและท็อปด้วยคาเวียร์ และอีกหน้าแต่งด้วยเนื้อปลาทูน่าคลุกกับซอสไปซี่ ท็อปด้วยเบคอนและโรยหน้าด้วยไข่กุ้ง ลองลิ้มทั้ง 2 อย่างถูกปากตรงที่เนื้อหอยเชลล์นุ่มสดหวานผสานรสชาติเข้ากับเนื้อปลาทูน่าและปลาแซลมอนนุ่มๆ ได้รสชาติซอสสไปซี่ออกเผ็ดลิ้นนิดๆ ถูกปากโดนใจดีแท้

UNAGI YO COMBU

และหากชื่นชอบกินปลาไหลต้องสั่งเมนูนี้ UNAGI YO COMBU (450 บาท++) เป็นปลาไหลจากญี่ปุ่นชิ้นใหญ่วางมาบนข้าวญี่ปุ่น แล้วห่อกับสาหร่ายแห้งนำไปอบก่อน แล้วนำมาย่างอีกครั้งทาด้วยน้ำซอสเทอริยากิ เสิร์ฟแบบย่างมาบนเตาถ่านร้อนๆ ได้กลิ่นความหอมของสาหร่ายและปลาไหลย่างเตะจมูกยั่วน้ำลาย ลิ้มรสแล้วยกนิ้วให้ในความอร่อยปลาไหลเนื้อนุ่มหวานซอสเทอริยากิรสกลมกล่อม ลงตัวเข้ากับข้าวญี่ปุ่นเม็ดนุ่ม หอมกรุ่นกลิ่นสาหร่ายอ่อนๆ

MAKAKI TSUBOYAKI

ต่อด้วยอีกหนึ่งเมนูย่างร้อนๆ อย่าง MAKAKI TSUBOYAKI (450 บาท++) เป็นหอยนางรมนำเข้ามาจากญี่ปุ่นตัวโต นำมาย่างกับสาเกและซีอิ้วสูตรพิเศษจากทางร้าน เสิร์ฟย่างมาบนเตาถ่านร้อนๆ กินแล้วสัมผัสได้ถึงเนื้อหอยนางรมนุ่มๆ ที่เคี้ยวแบบเต็มปากเต็มคำสัมผัสได้ถึงความสดหวาน ชุ่มรสชาติสาเกและซีอิ้วหอมๆ รสกมกล่อมถูกลิ้น

ลิ้นจี่ซัมเมอร์

กินเมนูหนักๆ ท้องไปหลายอย่าง แต่อย่างที่บอกว่าที่นี่มีเคาน์เตอร์บาร์ด้วย ซึ่งให้บริการเครื่องดื่มแบบครบครันมากมาย ทั้งแบบมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ อย่างที่เราสั่งมาดื่มคือม็อกเทลเป็นเครื่องดื่มเย็นๆ ชื่นใจอย่าง ลิ้นจี่ซัมเมอร์ (180 บาท++) เป็นเครื่องดื่มสีสวยไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ มีส่วนผสมของน้ำลิ้นจี่ โซดา น้ำเชื่อม น้ำมะนาว และใส่เนื้อลิ้นจี่ด้วย ดื่มแล้วหอมหวานน้ำลิ้นจี่สดชื่นดี

บรรยากาศห้องส่วนตัว

แม้ว่ามื้อนี้เราอิ่มท้องสุดๆ กับเมนูญี่ปุ่นอันหลากหลายแล้ว แต่ว่าในเมนูก็ยังมีอาหารญี่ปุ่นที่ชวนชิมอีกหลายรายการ อาทิ SAN KYO DAI (650 บาท++) TRIPLE ROLLS (650 บาท++) KANI MISO YAKI TO TARABA YAKI (320 บาท++) KAMAMESHI TABARA (ไซส์ใหญ่ 1,800 บาท++,ไซส์เล็ก 900 บาท++)

และอีกหลายหลากเมนูอาหารญี่ปุ่นเลิศรส ที่เห็นทีว่าคราวหน้าต้องหาโอกาสกลับมาชิมเมนูอื่นๆ อีกให้ได้ ซึ่งถ้าหากว่ามิตรรันักกินคนไหนชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น ขอบอกเลยว่าอาหารญี่ปุ่นของที่ร้าน “Nomiya Gastro Bar” ควรค่าแก่การมาลิ้มรสด้วยตัวเองจริงๆ

“Nomiya Gastro Bar” (โนมิยะ แกสโตร บาร์) ตั้งอยู่ที่ 9 ซ.ทองหล่อ 23 ถ.สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. การเดินทางจากถ.สุขุมวิท ตรงมาที่สุขุมวิท 55 (ซ.ทองหล่อ) และวิ่งตรงมาที่ซ. ทองหล่อ 23 เลี้ยวเข้ามาในซอยประมาณ 50 ม. จะเห็นโนมิยะ แกสโตร บาร์ ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ มีที่จอดรถให้บริการ เปิดจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.00 - 24.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 11.00 - 14.00 และ 17.00 - 24.00 โทร. 0-2712-9519 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Instagram: NOMIYA_GASTROBAR, www.facebook.com/nomiyagastrobar

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ