สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ เอาใจเหล่าสวีทเลิฟเวอร์ด้วย 9 เมนูของหวานจากคาเฟ่และร้านอาหารดังที่คิดค้นเมนูใหม่ล่าสุด และ Absolute Siam Menu (แอ๊บโซลูท สยาม เมนู) เมนูพิเศษที่รังสรรค์ความอร่อยที่แปลกและแตกต่างกว่าที่เคย พร้อมเสิร์ฟให้ลิ้มลองความอร่อยที่สยามเซ็นเตอร์

       เริ่มต้นความอร่อยแบบเบาๆ กันก่อนที่ชั้น 1 กับร้านแรก “Au Bon Pain” (โอ บอง แปง) คาเฟ่เบเกอรี่ชื่อดังที่มาพร้อมเมนูใหม่ล่าสุด Brioche (บริออช) ขนมปังเนื้อนุ่มสไตล์ฝรั่งเศสเลือกได้ 2 รสชาติ หวานลงตัวด้วย Strawberry Cream Cheese Brioche (สตรอเบอรี่ ครีมชีส บริออช) คัสตาร์ดชีสผสมกับสตรอเบอรี่ เพิ่มเติมรสชาติให้ลงตัวยิ่งขึ้นด้วยแครนเบอรี่อบแห้ง และลูกเกด หรือเลือกหวานซ่อนเปรี้ยวกับ Chocolate Lemon Brioche (ช็อคโกแลต เลมอน บริออช) สอดไส้ขนมปังเนื้อนุ่มด้วยเลมอนผสมครีมชีส ชูรสชาติให้โดดเด่นด้วยดาร์ค ช็อคโกแลตและน้ำตาลไอซ์ซิ่ง

เพิ่มความหวานกันต่อกับร้าน “Coffee Gallery” (คอฟฟี่ แกลเลอรี่) ฟู้ดคาเฟ่สุดเก๋ท่ามกลางบรรยากาศเปิดโล่งโปร่งสบายใจกลางชั้น 1 ที่มาพร้อมเมนูใหม่ล่าสุดแบบแพกคู่กับ Pancake Affogato (แพนเค้ก อาฟโฟกาโต) ความผสมผสานกันของแพนเค้กและไอศกรีมวนิลาที่เปลี่ยนความเข้มข้นของกาแฟเอสเปสโซให้กลายเป็นความหอมหวานได้อย่างลงตัว และ Mint Mania (มิ้นท์ มาเนีย) เครื่องดื่มปั่นกลิ่นมิ้นส์ มีให้เลือกสดชื่นถึง 3 รสชาติ ช็อกโก้บลูมิ้นส์ เฟรปเป้, ช็อกโก้กรีนมิ้นส์ เฟรปเป้ และ ช็อกโก้สตอร์เบอรี่มิ้นส์ เฟรปเป้ ท็อปด้วยวิปปิ้งครีมและช็อกโกแลตชิพเพิ่มความกรุบกรอบหอมมัน

มาต่อกันที่ร้าน “Cafe Marmalade in a garden” (คาเฟ่ มามาเลด อิน อะ การ์เด้น) ร้านอาหารไทยสไตล์เทรนดี้ฟู้ดบนชั้น 3 ตกแต่งในบรรยากาศอบอุ่นผ่อนคลายภายใต้คอนเซ็ปต์ Garden above Manhattan Apartment ก็ขอครีเอทเมนู ไอศกรีมกะทิทรงเครื่อง ไอศกรีมกะทิโบราณสูตรเฉพาะของทางร้าน เสิร์ฟขึ้นโต๊ะเป็นเมนู Absolute Siam พร้อมกับท้อปปิ้งชนิดเติมได้ไม่อั้นทั้ง ข้าวเหนียว ข้าวโพด ลูกชิด ถั่วลิสง ในถังสแตนเลสสุดเก๋ที่ใครได้ลิ้มลองเป็นต้องติดใจ

จากนั้นไปต่อกันที่ร้านแฟชั่นคาเฟ่สุดฮิตอย่าง “Greyhound Café” (เกรฮาวด์ คาเฟ่) อยู่บนชั้น 3 เช่นกัน นอกจากจะอิ่มอร่อยแบบมีสไตล์กับอาหารหลากหลายเมนูที่ขึ้นชื่อ ท่ามกลางบรรยากาศอินดัสเตรียลลุค เน้นโครงสร้างที่เป็นคอนกรีตเปลือย กระจก เหล็ก โอบล้อมด้วยสีเขียวของต้นไม้แล้ว มีเมนูของหวานที่ทุกโต๊ะต้องสั่งปิดท้ายเพราะเป็นเมนู Absolute Siam มีเฉพาะที่นี่ที่เดียว นั่นคือ Happy Toast (แฮปปี้ โทสต์) ขนมปังหั่นหนาทาเนยจนชุ่มก่อนปิ้งให้กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมดิปปิ้งหลากรส เลือกชิมได้แบบจุใจทั้ง นมข้นหวาน, สังขยาชาไทย, คอฟฟี่คาราเมล, ซีซอลท์คาราเมล และแยมผิวส้ม

 แล้วมากันที่ร้าน “On the Table” (ออน เดอะ เทเบิ้ล) เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่นที่ดึงเอาเอกลักษณ์ของโตเกียวคาเฟ่มาตกแต่งในบรรยากาศอบอุ่นสบายๆ เน้นอาหารสไตล์โฮมเมดที่นำอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและตะวันตกมาผสมผสานกัน ตั้งอยู่บนชั้น 4 ได้คิดค้นเมนูล่าสุดเช่นกันกับ Sweet Garden (สวีท การ์เด้น) ชีสเค้กนุ่มๆ ที่มีดอกคาเนชั่นและกลีบกุหลาบเคลือบน้ำตาลอยู่ด้านบน กินคู่กับพานาคอตต้าราดซอสโรสเบอรี่ ตัดความหวานด้วยไอศกรีมสตอเบอร์รี่เชอร์เบท จานนี้คนรักชีสไม่ควรพลาด

        และอีกหนึ่งร้านบนชั้น 4 ที่โดดเด่นตั้งแต่คอนเซ็ปต์ร้านไปจนถึงรูปลักษณ์หน้าตาของขนมหวาน “Let Them Eat Cake” (เล็ท เธ็ม อีท เค้ก) ซึ่งนำแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ขนมหวานจากวัฒนธรรมอาหารและแฟชั่นของฝรั่งเศสที่พัฒนาไม่สิ้นสุด มารังสรรค์เป็นขนมหวานด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศ นำเสนอ 2 เมนู Absolute Siam กับ Mille-Crepe Ispahan (มิลเครป อีสปาอ็อง) แป้งเครปเนื้อนุ่ม สอดไส้ครีมรสกุหลาบและเนื้อลิ้นจี่ ราดด้วยซอสราสเบอรี่ และ Mille-feuille Noisette (มิลเฟย นัวแซท) แป้งพายชั้นรีดและอบแบบเคลือบคาราเมล สอดไส้ด้วยครีมรสช็อกโกแลต นม วิปครีมรสเฮเซลนัท และถั่วเฮเซลนัทอบ

ต่อด้วยร้านนี้ “Melt Me” (เมลท์ มี) ร้านช็อกโกแลตสไตล์ฮอกไกโดแห่งแรกของเมืองไทย ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสดใหม่และส่วนผสมระดับคุณภาพ ตั้งอยู่บนชั้น 4 นอกจากนี้ยังมีไอศกรีมเจลาโตต้นตำรับอิตาเลี่ยนแท้ๆ ไขมันต่ำอีกกว่า 20 รสชาติที่สลับสับเปลี่ยนมาให้ได้เลือกชิม มาพร้อมเมนูใหม่ให้ได้ลิ้มลอง กับ Chocolate Toast (ช็อคโกแลต โทตส์) ขนมปังอบเนยหอมกรุ่น มาคู่กับไอศกรีมวนิลาและช็อคโกแลต ท็อปด้วยมาชเมลโล่และกล้วยหอม ราดด้วยช็อกโกแลตซอสเพิ่มความเข้มข้น Matcha Toast (มัทฉะ โทตส์) ขนมปังอบเนย เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมเจลาโตรสวนิลาและชาเขียวลูกใหญ่ เพิ่มความอร่อยด้วยถั่วแดงกวนและวิปครีม

        ตามมาด้วยร้าน “Le Waffle By Love to Eat” (เลอ วาฟเฟิล บาย เลิฟ ทู อีท) ร้านวาฟเฟิลสไตล์ใหม่แห่งเดียวในประเทศไทยที่ปฏิวัติรูปแบบการกินวาฟเฟิลที่มีแค่ไซรัปหรือไอศกรีมแบบเดิมๆ ด้วยการครีเอท เมนูวาฟเฟิลให้กินคู่กับอาหารคาว อาทิ กุ้งเมดิเตอร์เรเนียน ไก่พามิซาล หรือ ผักโขมอบชีส ส่วนเมนูของหวานก็สร้างสรรค์ได้อย่างแปลกใหม่

ล่าสุดสั่งตรงช็อกโกแลตจากประเทศเบลเยี่ยมมารังสรรค์เป็นเมนูใหม่เพื่อเอาใจช็อกโกแลตเลิฟเวอร์โดยเฉพาะ กับ Triple Chocolate Waffle (ทริปเปิล ช็อคโกแลต วาฟเฟิล) วาฟเฟิลช็อกโกแลตสดใหม่จากเตา ทานคู่ไอศครีมช็อกโกแลตและซอสช็อกโกแลตเข้มข้นสูตรพิเศษ

 ปิดท้ายด้วยร้านอาหารน้องใหม่ของ “Food Factory” บนชั้น 4 สยามเซ็นเตอร์กับ “Dak Galbi” (ทัค คาลบี้) ร้านอาหารเกาหลีเลื่องชื่อจากเมืองชุนชอน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากขณะนี้ นอกจากเมนู Dak Galbi ที่นำเนื้อสัตว์ต่างๆ หมักกับซอสสูตรลับเฉพาะ ผัดในกระทะใบโตกับผักสดนานาชนิด เส้นต๊อก ข้าวญี่ปุ่น เห็ดออรินจิ และมันฝรั่งให้สุก

ก่อนกินตามแบบต้นตำรับเกาหลีแท้ๆ ด้วยการนำมาห่อผักกาดแก้ว และ Bingsu (บิงซู) หรือน้ำแข็งใสเกล็ดหิมะ ก็ได้ใจสาวกเกาหลีไปอย่างท่วมท้นไม่แพ้กัน โดยมีให้เลือกอร่อยได้ถึง 3 รสชาติ ได้แก่ ผลไม้รวม, กล้วยหอมช็อกโก้ และชาเขียวถั่วแดง พากันมาลิ้มลอง Absolute Siam เมนูเอ็กซ์คลูซีฟและเมนูใหม่ล่าสุดจากคาเฟ่และร้านอาหารชื่อดัง ที่พร้อมเสิร์ฟให้ลิ้มลองความอร่อยเฉพาะที่ สยามเซ็นเตอร์กันได้

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สิริสวัสดิ์ภมวารค่ะ