มื้อนี้ขอเอาใจคนรักซีฟู้ดกันอีกแล้ว โดยขอพากินซีฟู้ดสดๆ อร่อยลิ้นกันที่ห้องอาหารออร์คิด คาเฟ่ และซันเดย์ แจ๊สซี่ บรันช์ ณ โรงแรม เชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท, เอ ลักซ์ชูรี่ คอลเล็คชั่น โฮเท็ล กรุงเทพฯ ชวนผู้ที่รักอาหารซีฟู้ดเต็มอิ่มกับวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมส่งตรงมาจากสหรัฐอเมริกา โดยเชฟที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท, เอ ลักซ์ชูรี่ คอลเล็คชั่น โฮเท็ล กรุงเทพ

ได้เฟ้นหาวัตถุดิบซีฟู้ดที่ดีที่สุด สดใหม่ที่สุด และมากไปกว่านั้น นอกจากทุกคนจะได้กินซีฟู้ดชั้นเยี่ยมแล้ว ยังจะได้ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย เพราะวัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหารมาจากขั้นตอนการผลิตและการจัดหาอาหารทะเลอย่างยั่งยืน

       สำหรับไฮไลท์ของเทศกาลอาหารซีฟู้ดที่เพิ่มเข้ามาในบุฟเฟต์ที่ห้องอาหารออร์คิด คาเฟ่และซันเดย์ แจ๊สซี่ บรันช์ ได้แก่ ออยสเตอร์บาร์ ที่จะเสิร์ฟหอยนางรมหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น หอยนางรมแฮมเมอร์สเล่ย์ (Hammersley Inlet), หอยนางรมพิกเกอร์ริ่ง แพสเสจ (Pickering Passage), หอยนางรมคาล์มโคฟ (Calm Cove), และหอยนางรม คุมาโมโต (Kumamoto) นอกจากหอยนางรมทานสดๆ แล้ว

เชฟยังได้รังสรรเมนูที่ทำจากหอยนางรมอย่าง นิวออร์ลีนส์ออยสเตอร์ร็อกเกอะเฟลเลอร์ (New Orleans oysters Rockefeller) ที่มีถิ่นกำเนิดจากรัฐนิวออร์ลีนส์ สหรัฐอเมริกา เป็นการนำหอยนางรมมาอบกับผักโขม เบคอน และพาเมซานชีส และเทมปุระหอยนางรมเสิร์ฟพร้อมมายองเนส ฮอสแรดิช (tempura fried oysters with horseradish mayonnaise)

นอกจากเมนูต่างๆ ที่ทำมาจากหอยนางรมแล้ว เมนูอาหารว่างๆ อื่นๆ ได้แก่ เค้กปูพิกกี้โทเสิร์ฟพร้อมซัลซ่าข้าวโพดหวาน (peekytoe crab cakes served with sweet corn salsa) และปูหิมะอลาสก้านึ่งเสิร์ฟพร้อมเลม่อน (Alaskan snow crab with lemon) และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบซาซิมิ เชฟยังได้เตรียมปลาแซลมอนซ็อกอาย (sockeye salmon) หอยเชลล์อลาสก้า (Alaskan scallops) ฮาวายฮามาจิ (Hawaiian Hamachi) และอื่นๆ อีกมากมายไว้ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับรสชาติแท้ๆ และความสดของวัตถุดิบ

และยังจะได้ลิ้มลองกับ นิวอิงแลนด์ออยสเตอร์ชาวเดอร์ (New England oyster chowder) ซุปข้นหอยนางรม ลิงกวินี่ผัดกับหอยแมลงภู่เพนน์โคฟและปลาซาร์ดีนรมควัน (linguini with smoked Penn Cove mussels and smoked sardines) ราวีโอลีปูพิกกี้โทในชูปข้นปู (peekytoe crab ravioli with crab bisque)

ตบท้ายด้วยขนมหวานสัญชาติอเมริกันแท้ ไม่ว่าจะเป็นอลาสก้าออมเล็ตเซอร์ไพรส์ (Alaskan omelette surprise) ซึ่งเป็นเมอแรงค์เค้กไอศกรีม บลูเบอร์รี่พายเลื่องชื่อจากรัฐเมน สหรัฐอเมริกา และวอซิงตันนาไนโมมูส (Washington Nanaimo Mousse) มูสคัสตาร์ดช็อคโกแลต

       วัตถุดิบที่ใช้ใน American Seafood Extravaganza นั้นมาจากการผลิตหรือจัดหาอาหารทะเลอย่างยั่งยืน ซึ่งประกอบไปด้วย หอยนางรมชนิดต่างๆ ปลาค็อดอลาสก้าที่จับโดยกรรมวิธีธรรมชาติ ปลาแซลมอนซ็อกอายจากบริสตอล เบย์ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของอลาสก้า ปลากะพงโอพากาพาก้าจา และปลากระพงขาวอูคูจากฮาวาย ปูพิกกี้โทจากรัฐเมน สหรัฐอเมริกา และปูหะอลาสก้าสดหวาน

       คนที่หลงใหลซีฟู้ดพลาดไม่ได้กับเทศกาลอาหารซีฟู้ด “American Seafood Extravaganza” ทุกวันศุกร์และเสาร์ที่ห้องอาหารออร์คิดคาเฟ่ และทุกวันอาทิตย์ที่ซันเดย์ แจ๊สซี่ บรันช์ ตั้งแต่วันนี้ - 19 ก.ค. นี้ ห้องอาหารออร์คิด คาเฟ่ 1,950 บาท++/คนสำหรับผู้ใหญ่ (อาหารเท่านั้น) และ 1,000 บาท++/คนสำหรับเด็ก (อาหารเท่านั้น),

ซันเดย์ แจ๊สซี่ บรันช์ เด็กทารกอายุระหว่าง 0-2 ปี ไม่คิดค่าบริการ เด็กเล็กอายุระหว่าง 3-11 ปี 1,250 บาท++ เด็กโตอายุ 12 ปีขึ้นไป 2,500 บาท++ (อาหารเท่านั้น) ผู้ใหญ่อายุ 20 ปีขึ้นไป: 2,500 บาท++ (อาหารเท่านั้น) หรือ 3,700 บาท++ (อาหารและเครื่องดื่ม)

       สำหรับเวลาเปิดบริการเทศกาลอาหารซีฟู้ด “American Seafood Extravaganza” ที่ห้องอาหารออร์คิด คาเฟ่ วันศุกร์และวันเสาร์ เวลา 18.00 - 22.00 น. ซันเดย์ แจ๊สซี่ บรันช์: วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12.00 - 15.00 น. โทร. 0-2649-8355

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์                   

สิริสวัสดิ์ภมวารค่ะ