"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2558
 
27 เมษายน 2558
 
All Blogs
 

‘Summer Street’ ซีฟู้ดปิ้งย่างริมทาง อร่อยสไตล์สุดแนว

 

‘Summer Street’ ซีฟู้ดปิ้งย่างริมทาง  อร่อยสไตล์สุดแนว
หุ้นส่วนธุรกิจ ทั้ง 3 คน

‘Summer Street’ ซีฟู้ดปิ้งย่างริมทาง  อร่อยสไตล์สุดแนว ‘Summer Street’ ซีฟู้ดปิ้งย่างริมทาง  อร่อยสไตล์สุดแนว

 

ถ้าใครเป็นสาวก Social Media ตัวยง น่าจะเคยเห็นรูป หรือข้อมูลการรีวิวของร้านซีฟู้ดปิ้งย่าง Summer Street อยู่บ้าง รวมไปถึงตามเว็บบอร์ดรีวิวอาหารต่างๆ

ถึงแม้จะเปิดให้บริการไม่นาน แต่ Summer Street มาแรงกว่าที่คิด เมื่อลูกค้ากลุ่มแรกมากิน แล้วติดใจในความสดของวัตถุดิบ บวกกับสไตล์ในการตกแต่งร้านที่มีเอกลักษณ์ ก็พากันถ่ายรูปแชร์ข้อมูลลงใน Social Media และเว็บบอร์ดต่างๆ

       ท้ายที่สุด ก็ถูกแชร์ต่อกันไปเรื่อยๆ ท้าทายให้นักชิมทั้งหลาย มาลองมาสดและอร่อย ของร้านซีฟู้ดปิ้งย่างน้องใหม่ ย่านซอยอารีย์ 2 ถนนพหลโยธินแห่งนี้

Summer Street เกิดจากหุ้นส่วนทางธุรกิจ 3 คน คือ “วี-ประเสริฐ คุรุปรีชารักษ์” และเพื่อนอีก 2 คน “ออย” และ “ก้าบ” ทั้งหมดอยู่ในสายงานเดียวกัน คือ เป็นดีไซเนอร์ นอกจากงานประจำแล้ว ทั้ง 3 คน ยังเปิดบริษัทดีไซน์ร่วมกันอีกด้วย อยู่ที่ซอยอารีย์ 2

       วี เล่าถึงที่มา และการมองหาโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติม จากงานประจำ และบริษัทออกแบบที่ทำอยู่ มาสู่สายงานที่ไม่มีความถนัด อย่างการเปิดร้านอาหาร

“ไอเดียในการเปิดร้านอาหาร เกิดจากแรงบันดาลใจตอนที่ไปญี่ปุ่น ซึ่งเขาจะมีร้านปิ้งย่างอยู่ริมถนนเยอะมาก เรียกว่าปิ้งย่างสไตล์สึคายะ โดยมากจะเป็นร้านข้างทางง่ายๆ Open Air มีเตาแก๊ส กับวัตถุดิบมาให้ ลูกค้าก็ปิ้งกินไป จิบเบียร์ไป เป็นการให้ลูกค้าปิ้งด้วยตัวเอง อีกอย่างเพราะบ้านเมืองเขาอากาศดีด้วย ร้านประเภทนี้จึงได้รับความนิยมมาก

พอดีกับที่ร้านส้มตำที่เปิดขายอยู่ข้างออฟฟิศ ในซอยอารีย์ 2 ที่เปิดขายมานาน เขาจะเลิกกิจการ พื้นที่เช่าในส่วนนี้ ซึ่งเป็นพื้นที่ข้างทางของถนนซอย (อารีย์2) ที่เป็นถนนส่วนบุคคลจึงว่างลง หากเราไม่เอาไว้ อีกไม่นานก็คงมีคนมาเช่าต่อเพื่อทำร้านอาหารข้างทาง ซึ่งในซอยนี้ก็มีอยู่หลายร้าน เลยตัดสินใจลงทุนร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน เปิดร้านซีฟู้ดปิ้งย่าง ให้ลูกค้าปิ้งกินเองในสไคตล์สึคายะแบบญี่ปุ่นขึ้น ในชื่อ Summer Street”

       ร้านอาหารปิ้งย่าง ไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือเรื่องแปลกในไทย เพราะร้านอาหารสไตล์นี้เกิดขึ้นนานแล้ว แถมยังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งแบบร้านขึ้นห้าง ราคาสูง และร้านหมูกระทะริมถนนที่มีราคาย่อมเยา แต่โดยมาก มักจะโฟกัสไปที่เรื่องของเนื้อเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ วัว สารพัดรูปแบบ และอาจจะมีซีฟู้ดเป็นส่วนประกอบ

ในขณะที่ร้าน Summer Street มีคอนเซ็ปต์ของร้านที่ชัดเจนตั้งแต่แรก ว่าจะขายเฉพาะซีฟู้ด ซึ่งประกอบไปด้วยกุ้งก้ามกราม ปลาหมึก หอยแมลงภู่ หอยเชลล์ หอยหวาน และหอยแครง เลือกใช้น้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติจัดจ้าน ในแบบที่ถูกปากคนไทย

       เมื่อคอนเซปต์ในเรื่องเมนูอาหารชัดแล้ว อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน และเป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างความแตกต่าง และสร้างเอกลักษณ์ให้กับร้านอาหารน้องใหม่ คือ เรื่องของการตกแต่งร้าน ซึ่งต้องยอมรับว่า กลายเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสนใจไม่น้อย

       “ในส่วนของตัวร้าน พวกเราเลือกที่จะนำโครงรถเก่าของน้ำอัดลมแบรนด์เอส ที่มีลักษณะเป็นตู้ และเคลื่อนที่ได้อยู่แล้ว มาดัดแปลงใหม่ทั้งหมด เรียกว่าสร้างขึ้นมาใหม่เลยก็ว่าได้จากโครงรถแบบเดิมๆ เพื่อให้ตรงกับความต้องการ และคอนเซ็ปต์ของร้าน

       ภายในรถ จะถูกสร้างให้สามารถประกอบอาหารได้จริง มีซิงค์สำหรับล้างจาน และบาร์เครื่องดื่มทางด้านหน้าของตัวรถ สำหรับลูกค้าที่อยากกินแค่เบียร์ เครื่องดื่ม หรือสั่งเป็น A La Carte ก็จะมีที่นั่งเป็นเก้าอี้แบบสตูลอยู่ 5 ที่ทางด้านหน้า และอีก 3 ที่ทางด้านข้าง จะมีพนักงาน 1 คน ยืนประจำอยู่ที่บาร์เพื่อเสิร์ฟเครื่องดื่มโดยเฉพาะ

       บอกได้เลยว่า การลงทุนในจุดนี้มีราคาสูง เพราะออกแบบตามที่อยากได้ และทำกันเองทุกอย่าง เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้มันเป็นพื้นที่เช่า เราคงไม่สามารถตั้งร้านได้อย่างถาวรอยู่แล้ว ดังนั้นก็จะไม่ลงโครงสร้างอะไรที่มันถาวร หากเกิดอะไรขึ้นมา จะได้สามารถเคลื่อนย้ายได้เลยทันที รื้อถอนได้ง่าย โครงสร้างเบาเพราะไม่ได้ก่ออิฐติดกับพื้นที่

       อีกทั้งโครงสร้างของร้านค้า สามารถนำมาทำเป็นร้านค้าเคลื่อนที่ได้เลย สามารถขับเป็นรถบนท้องถนนได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องมีการใช้ทะเบียนของรถพ่วง แต่เราไม่ได้ใช้เคลื่อนที่ จอดขายประจำอยู่ตรงซอยอารีย์ 2”

       อย่างที่บอกว่า หุ้นส่วนทั้ง 3 คน ของ Summer Street ต่างก็เป็นดีไซเนอร์ มีความสามารถทางด้านการออกแบบอยู่แล้ว จึงเลือกที่จะออกแบบ ดีไซน์คอนเซ็ปต์ธุรกิจทุกอย่างขึ้นมาเอง ตั้งแต่การนำโครงรถเก่า มาดัดแปลงจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมไปถึงเรื่องของคอนเซ็ปต์ในการให้บริการอีกด้วย

       ออย ผู้หญิงคนเดียวของกลุ่ม เล่าว่า ตัวเธอเองนั้น พอจะมีประสบการณ์อยู่บ้าง จากการที่ทางบ้านทำค้าขาย ทำให้มองออกว่า การเปิดร้านอาหารไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่จุกจิกอยู่มาก ดังนั้น คอนเซ็ปต์ต่างๆ ของร้าน จึงต้องมีความชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น การทำงานจะได้ง่าย และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

       “ถึงแม้ร้านของเราจะเป็นร้านริมทาง แต่เราก็พิถีพิถันกับรายละเอียดในทุกจุด ด้วยความที่เป็นผู้หญิง และมีอาชีพหลักเป็นนักออกแบบ เมื่อจะเปิดร้านอาหารทั้งที ก็อยากให้ดูดีในทุกรายละเอียด เพื่อให้ลูกค้าเห็นถึงความตั้งใจ

       อย่างเรื่องภาชนะที่ใช้ภายในร้าน หลายๆคนอาจจะเลือกใช้เป็นจานพลาสติก หรือเมลามีนที่ตกแล้วไม่แตก แต่เราเลือกที่จะใช้ จานเซรามิค ที่ตกแล้วแตก ซึ่งตั้งแต่เปิดร้านมาก็ตกแตกไปแล้วหลายใบ แถมยังมีต้นทุนที่สูงกว่าค่อนข้างเยอะ

       แต่เรามองว่า จานเซรามิค มันดูดีกว่า และจะส่งผลถึงความรู้สึกของลูกค้าด้วย ให้เขาเห็นว่าเราเลือกใช้แต่ของคุณภาพดี ตั้งแต่ตัววัตถุดิบ ไปจนถึงอุปกรณ์ต่างๆในร้าน

       เรื่องของเมนูอาหาร เราตั้งใจไว้แต่แรกแล้ว ว่าจะมีแต่ซีฟู้ดเท่านั้น เพื่อให้เข้ากับสโลแกนของร้านที่เป็น Charcoal Grill Seafood อีกทั้งอาหารซีฟู้ดมันไม่มีไขมัน เหมือนพวกเนื้อหมู ที่จะส่งผลให้เกิดควันจากการปิ้งมากกว่า อาจจะรบกวนเพื่อนบ้านเราได้   

อีกทั้งลูกค้าบางคนเป็นมุสลิมไม่กินเนื้อหมู หรือบางคนไม่กินเนื้อวัว ซีฟู้ดจะเป็นอะไรที่กินได้ทุกคน แต่เราก็จะขอความร่วมมือจากลูกค้า ว่าอย่านำอาหารอย่างอื่นจากข้างนอกเข้ามาแจม เพราะเคยเจอเหมือนกัน บางคนแอบซื้อไส้กรอก ซื้อเบคอนเข้ามาปิ้ง

       ส่วนเรื่องของน้ำจิ้ม เราก็ลงมือปรุงสูตรเอง เริ่มต้นจากรสชาติที่เราชอบ กินแล้วคิดว่ามันอร่อย เราเป็นคนต่างจังหวัด จะชอบกินรสชาติเผ็ด เปรี้ยว ไม่กินเค็มเลย แต่ช่วงแรกลูกค้าก็ทักว่ารสชาติน้ำจิ้มยังไม่โดนนะ อยากให้เค็มขึ้นกว่านี้ เราก็รับฟังเสียงของลูกค้าที่โดยมากเป็นคนกรุงเทพฯ ว่าเขาชอบกินรสชาติแบบไหน แล้วก็ค่อยๆปรับ จนถูกปากลูกค้าส่วนใหญ่

       หรือแม้แต่เรื่องของอย่างโต๊ะอาหาร ถ้าลองสังเกตดีๆจะเห็นว่า โต๊ะที่เราเลือกใช้จะมีขนาดค่อนข้างเตี้ยกว่าโต๊ะตามร้านอาหารทั่วไป รวมถึงความสูงของเตาที่เลือกใช้ เพื่อให้ลูกค้าปิ้งย่างอาหารได้ในมุมที่สะดวกขึ้น และไม่บังระดับสายตา เวลาพูดคุยกันกับเพื่อนร่วมโต๊ะ และให้ความรู้สึกที่สบายมากกว่า”

       ในขณะที่ก้าบ หุ้นส่วนคนที่ 3 ที่มีส่วนสำคัญในการออกแบบ ดัดแปลงโครงสร้างของตัวร้านค้านั้น พื้นเพเดิมเป็นคนสมุทรสงคราม ทำให้เกิดความได้เปรียบ ในการเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบ และยังบริหารจัดการในเรื่องของการส่งวัตถุดิบสดๆได้เกือบทุกวัน กลายเป็นจุดเด่นของร้านซีฟู้ดปิ้งย่างริมถนน ในย่านอารีย์แห่งนี้

       “จุดแรกเลยที่ลูกค้าสะดุดตา คือ การตกแต่งร้านของเรา ที่ดูเป็นสไตล์แบบฝรั่ง แต่สิ่งที่ทำให้ลูกค้ากลับมากินร้านเราอีก คือ ความสดของวัตถุดิบ ยอมรับว่าราคาอาจจะไม่ได้ถูกมาก เพราะเรามีค่าขนส่งเกือบทุกวัน แต่ลูกค้าก็รับได้ เพราะเราเลือกใช้แต่วัตถุดิบคุณภาพดี ถ้าเกิดลูกค้าเจอว่าไม่สด สามารถเอามาเปลี่ยนได้เลยทันที ในส่วนของน้ำจิ้มก็ไม่ใส่ผงชูรส แต่ใช้มะนาวเป็นหลัก

เราจะจัดชุดซีฟู้ดปิ้งย่างเป็น 3 ไซส์ S M L ไซส์ S 399 บาท เหมาะสำหรับกิน 2 คน ไซส์กลาง 599 บาท เหมาะสำหรับกิน 2-3 คน ส่วนไซส์ L 999 เหมาะสำหรับกินกัน 4 คนขึ้นไป ทุกชุดจะมีอาหารเหมือนกันหมด แตกต่างกันที่ปริมาณ ซึ่งชุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็นชุดกลาง

       สำหรับผลตอบรับ ต้องบอกว่าดีกว่าที่พวกเราคาดไว้มาก ถึงแม้ช่วงที่ผ่านมาจะเป็นหน้าฝน ลูกค้าก็เหมือนเตรียมใจมาแล้ว ว่าอาจจะเจอฝนตกได้ตลอดเวลา เพราะมันเป็นร้านแบบเปิด ถึงแม้เราจะมีพลาสติกใสคลุมให้เวลาที่ฝนตก แต่ยังไงก็มีเปียกบ้างอยู่ดี บางครั้งตกหนักๆก็น้ำท่วม ลูกค้าก็นั่งยกขาขึ้น แล้วกินกันต่อ

       เหมือนกับลูกค้าเขาเตรียมใจเอาไว้แล้ว ว่าถ้ามากินจะต้องเจอกับอะไรบ้าง บางครั้งรอคิวนาน เพราะเราตั้งโต๊ะได้แค่ 8-10 โต๊ะเท่านั้น ก็อาจจะไปเดินเล่นแถวนี้ก่อน หรือบางครั้งมาก็เจอฝนตก น้ำท่วมซอย มีคนเดินผ่านไปผ่านมาอยู่ตลอด แต่มันก็กลายเป็นคาแรคเตอร์ของร้าน Summer Street ไปแล้ว”

       ถึงจะเป็นร้านแบบ Open Air ติดริมถนน แต่พวกเขาก็พยายามอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเช่าที่จอดรถ และห้องน้ำ ไว้ที่ตึกยศวดี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวร้าน

       สำหรับที่จอดรถจะเสียค่าบริการชั่วโมงละ 20 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงเลยสำหรับย่านกลางเมืองอย่างซอยอารีย์ ลูกค้าเองก็ยินดีที่จะเสียเงินในจุดนี้ แลกกับความสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าจอดรถไว้แล้วจะโดนล็อกล้อ ส่วนห้องน้ำสามารถใช้บริการได้ฟรี แต่ต้องเดินมาขอกุญแจจากพนักงานก่อน

       วี ขยายความต่อไปว่า กลุ่มเป้าหมายของ Summer Street มีหลากหลาย ตั้งแต่เด็กวัยรุ่น คนทำงานตอนต้น ไปจนถึงคนรุ่นป้า เพราะอาหารซีฟู้ด ถูกปากคนไทยทุกวัยอยู่แล้ว

“ร้านจะเปิดให้บริการวันจันทร์-เสาร์ เวลา 16.00-22.00 ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ จะเริ่มขายตั้งแต่ 17.00-23.00 ตั้งแต่เปิดร้านมา คนก็เต็มทุกโต๊ะเกือบทุกวัน ถ้าเป็นช่วงวันเสาร์ลูกค้าจะต้องรอคิวนานหน่อย การตลาดที่เราใช้มีเพียงแค่ทาง Facebook และ Instagram เท่านั้น"

       ต้องขอบคุณลูกค้าทุกคนมาก ที่มากินแล้วติดใจ ก็จะช่วยอัพรูป เช็คอิน จนร้าน Summer Street ถูกแชร์ต่อใน Social Media เยอะ และยังช่วยแนะนำแบบปากต่อปาก ทำให้ร้านเป็นที่รู้จักได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

       ทุกคนจะรู้ดีกว่า ช่วงหน้าฝนมันเป็นช่วงปราบเซียนของคนค้าขายที่เป็นร้าน Open Air เป็นช่วงที่ยอดขายตกที่สุดแล้ว แต่พวกเราจงใจเลือกที่จะเปิดร้านในช่วงหน้าฝน เพื่อทดลองตลาด แต่ลูกค้าของเราก็สู้ไม่ถอย บางคนถึงกับเตรียมใส่เสื้อกันฝน มากัน 2 คน เพื่อนั่งกินเบียร์อยู่ตรงหน้าบาร์ ทำให้พวกเราประทับใจมาก

       การทดลองตลาดในช่วงหน้าฝนนี้ เพื่อเตรียมรับมือ เตรียมความพร้อมสำหรับช่วงหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึง ด้วยความที่เป็นมือใหม่ในธุรกิจนี้ ก็ต้องเรียนรู้จากลูกค้าไปเรื่อยๆ ซึ่งในช่วงหน้าหนาว น่าจะได้เห็นการตกแต่งร้านที่เปลี่ยนไปตามฤดู สร้างความสนุกให้แก่ลูกค้าไปเรื่อยๆ ด้วยความที่เป็นดีไซน์เนอร์ เรื่องของการออกแบบ พวกเราไม่ทิ้งลายอยู่แล้ว

       ส่วนเรื่องการขายแฟรนไชส์นั้น ยอมรับว่ามีคนติดต่อเข้ามาตลอด แต่เราไม่พร้อมที่จะขายแฟรนไชส์ เพราะกลัวว่าจะคุมในเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบไม่ได้

       การขยายธุรกิจในส่วนของร้านอาหารในอนาคต อาจจะเป็นเรื่องของการสร้างแบรนด์ใหม่ๆ เลือกใช้คอนเซ็ปต์ของร้านอีกแบบหนึ่งไปเลย จะไม่มายุ่งกับ Summer Street ซึ่งมีคอนเซ็ปต์ของการเป็น Street Food อย่างชัดเจน”

ความสำเร็จของ Summer Street คือ ความสำเร็จของร้านอาหารข้างทาง ที่เกิดจากการดีไซน์รูปแบบของธุรกิจที่ชัดเจน สร้างความประทับใจให้แก่ผู้บริโภค และความโดดเด่นให้แก่ธุรกิจได้อย่างลงตัว

@@@ข้อมูลโดย “นิตยสาร SMEs PLUS”@@@

 

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ    

 




 

Create Date : 27 เมษายน 2558
0 comments
Last Update : 27 เมษายน 2558 6:49:01 น.
Counter : 1695 Pageviews.


sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.