Group Blog
 
<<
มกราคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
6 มกราคม 2557
 
All Blogs
 

อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. เข้าไปหาความตายเพราะกาม

เช้าวันหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงครองจีวร ถือบาตร เข้าไปบิณฑบาต ในเมืองสาวัตถี, พระพุทธองค์ ได้ทรงเห็นหมู่มนุษย์ในเมืองสาวัตถีเหล่านั้น ซึ่งกำลังข้องเกี่ยว ติดพัน อยู่กะกาม กำหนัดในกาม เมาหมกอยู่ในกาม เป็นอยู่โดยส่วนมาก, จึงทรงเปล่งพระอุทานนี้ ว่า :-

"สัตว์ทั้งหลาย ผู้มืดมนธ์เพราะอำนาจแห่งกาม ..
.. ถูกตัณหาเป็นดุจข่ายเครื่องดักสัตว์ปกคลุมไว้
.. ถูกเครื่องมุงคือตัณหาปิดบังไว้
.. ถูกหมู่มารซึ่งเป็นเหมือนพวกพ้องของผู้ประมาทจองจำตัวไว้

ย่อมไปสู่ชราและมรณะ เหมือนปลาเข้าไปสู่ปากแห่งเครื่องดัก หรือเหมือนลูกโคที่ยังดื่มนมเข้าไปหาแม่ ฉะนั้น"

ดังนี้ แล.
.
.
.
อุ. ขุ. ๒๕/๒๐๐/๑๕๐.



หมายเหตุ จขบ

ทำไม ผู้มืดมนเพราะอำนาจกามจึงไปสู่ ชรา และมรณะ ?

นี่คือคำถามสำหรับคนที่ไม่เข้าใจว่า พระองค์ท่านตรัสทำไม ในเมื่อทุกคนก็ต้องแก่และตายทั้งสิ้น แม้ปราศจากอำนาจกาม

และนี่คือสิ่งที่คนทั่วไปเข้าใจพุทธธรรมที่ถูกต้องไม่ได้ จากการไม่เข้าใจว่า พุทธธรรมเพ่งเอาเฉพาะจิต

อำนาจจากกาม .. นั้นเกิดจาก
จิตที่เต็มไปด้วยอวิชชา และอำนาจแห่งการปรุงแต่งรุนแรงที่สร้างวิญญาณขึ้นมาเมื่อเกิดผัสสะกับสิ่งคู่ของมัน
ตา กับ รูป
หู กับ เสียง
ฯลฯ

และเมื่อสติวิ่งมากำกับไม่ทันก็ปรุงต่อเป็น เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรา มรณะโสกะปริเทวะ .. ตามสายปฏิจจสมุปบาท

ดังนั้น คนที่ไม่รู้เรื่องหลักธรรม ปฏิจจสมุปบาท จึงย่อมไม่มีวันเข้าใจพระพุทธวจนะได้ถ่องแท้




 

Create Date : 06 มกราคม 2557
0 comments
Last Update : 6 มกราคม 2557 6:42:59 น.
Counter : 913 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.