|
วันนี้ได้นำธนบัตรราคาแพงที่สุดของธนบัตรไทยมาให้ชม
ธนบัตรส่วนใหญ่ของไทยสั่งพิมพ์จากบริษัทโทมัสเดอลารธ ประเทศอังกฤษ แต่มีธนบัตรอยู่รุ่นหนึ่ง สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งในครั้งนั้น เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2433 พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงศ์ รองอธิบดีกรมพระคลังมหาสมบัติ ทำความกราบบังคมทูลรัชกาลที่ 5 ขอสั่งพิมพ์กระดาษหลวงจากห้าง Giesecke & Devrient กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี จำหน่าย 3,951,500 ฉบับ คิดค่าจ้างเป็นเงิน 145,000 บาท
เดือนนี้มีวันสำคัญเกี่ยวกับการศึกษาของประเทศติดต่อกันถึงสองวัน
วันแรกคือวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2555 เป็นวันเด็กแห่งชาติ ส่วนวันครูแห่งชาติ ซึ่งกำหนดวันที่ 16 มกราคม 2555
เวลานี้เป็นที่ยอมรับกันว่าการศึกษาของไทยยังสู้กลุ่มประเทศอาเซียนบางประเทศไม่ได้ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษซึ่งจำเป็นมากที่จะต้องใช้ในอนาคต
ถึงกับกระทรวงศึกษาธิ การจะให้นักเรียนพูดภาษาอัง กฤษในชั้นเรียนอาทิตย์ละหนึ่งวัน
เรื่องการเรียนภาษาอังกฤษนี้ ความจริงเช่นโรงเรียนอัสสัมชัญ เซนต์คาเบรียล มาแตร์ วัฒนา เซนต์ฟรัง เซนต์โยเซฟ ฯลฯ และโรงเรียนฝรั่งนั้นได้สอบภาษาอังกฤษจนได้ผลดีมานานนับสิบ ๆ ปีหรือเกือบร้อยปีมาแล้ว
ผู้จบโรงเรียนเหล่านี้สามารถเขียนพูดภาษาอังกฤษได้ดี แถมยังมีภาษาฝรั่งเศสแถมให้สำหรับนักเรียนที่เรียนเก่ง
ตำราสอนภาษาไทย ภาษาอังกฤษของ ม.ฮีแลร์นั้น น่าที่กระทรวงศึกษาธิการนำมาศึกษาดู
แล้วขอความร่วมมือจากผู้บริหารโรงเรียนเหล่านี้มาเป็นแนวทางในการสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วไป อาจจะเกิดผลดีก็ได้ น่าจะพิจารณาศึกษาดู
วันนี้ได้นำธนบัตรราคาแพงที่สุดของธนบัตรไทยมาให้ชม
ธนบัตรส่วนใหญ่ของไทยสั่งพิมพ์จากบริษัทโทมัสเดอลารธ ประเทศอังกฤษ แต่มีธนบัตรอยู่รุ่นหนึ่ง สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งในครั้งนั้น เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2433 พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงศ์ รองอธิบดีกรมพระคลังมหาสมบัติ ทำความกราบบังคมทูลรัชกาลที่ 5 ขอสั่งพิมพ์กระดาษหลวงจากห้าง Giesecke & Devrient กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี จำหน่าย 3,951,500 ฉบับ คิดค่าจ้างเป็นเงิน 145,000 บาท
ธนบัตรที่สั่งพิมพ์ในครั้งนั้นมี 8 ชนิดราคา ได้แก่ 1 บาท 5 บาท 10 บาท 40 บาท 80 บาท 100 บาท 400 บาท และ 800 บาท แต่ละชนิดออกแบบลวดลายสวยงาม พิมพ์สอดสีทั้งสองด้าน ขนาดจะแตกต่างกันจากเล็กไปหาใหญ่ตามลำดับ
ด้านหน้าของธนบัตรทุกชนิดจะมีรูปตราแผ่นดิน มีอักษรและเลขราคารวม 6 ภาษาคือไทย อังกฤษ จีน มลายู ลาว และ เขมร
ด้านหลังธนบัตรได้ทำรูปช้างไอราพตสามเศียร หนุนพระเกี้ยวและตราแผ่นดินพิมพ์ไว้เฉพาะชนิดราคา 40 บาทขึ้นไป
ได้มีการเตรียมทำเงินกระดาษหลวงออกใช้ในวันที่ 1 เมษายน ร.ศ.112 (พ.ศ. 2436)
แต่ไม่ได้นำออกใช้โดยมีรายงานว่ายังไม่พร้อมที่จะนำเงินกระดาษหลวงออกใช้จึงให้ระงับไว้
นายนวรัตน์ เลขะกุล ว่าที่ไม่ได้นำเงินกระดาษหลวงออกใช้เพราะกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสปี ร.ศ.112 ทำให้ไทยต้องเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงให้ฝรั่งเศส และต้องเสียค่าปรับเป็นเงิน 3 ล้านฟรังซ์ทำให้ประชาชนไม่เชื่อว่าจะนำเงินกระดาษหลวงไปแลกเป็นเหรียญกษาปณ์เงินได้เพราะไทยต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนมาก
ธนบัตรรุ่นนี้จึงหายากมากและมีราคาแพงมาก ได้มีการนำธนบัตรทั้งสองราคา 40 บาท และ 400 บาท ออกประมูลขายเมื่อ เร็ว ๆ นี้ มีผู้ให้ราคาสูงถึงฉบับละ 1 ล้านบาท รวม 2 ฉบับ 2 ล้านบาท
พบกันวันอาทิตย์หน้า.
สมเจตน์ วัฒนาธร
credit : dailynews
Create Date : 16 มกราคม 2555 |
Last Update : 19 มิถุนายน 2555 0:26:09 น. |
|
0 comments
|
Counter : 4086 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Upper Midwest United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]
|
"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น" ขุ.ธ. 25/15/24 เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557
| | | |