Bloggang.com : Rain

▶ ยิ้มทั้งน้ำตา...

คล้อยหลังเพียงวันเดียวหลังเสร็จงาน ‘กตัญญูคู่ฟ้า มหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว 2555’ ซึ่งปีนี้จัดกันวันที่ 1-8 กุมภาพันธ์ ณ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง ถ.อาเนาะรู อ.เมือง จ.ปัตตานี พลันเสียง ‘ระเบิด’ ก็ดังกึกก้องกัมปนาทไปทั่วเมืองปัตตานี ณ บริเวณหน้าสำนักงานสาธารณสุข ถ.สฤษดิ์ ต.สะบารัง ในเขตอำเภอเมืองปัตตานี

เหตุเกิดเมื่อเวลา 08.05 นาฬิกาของวันนี้ 9 กุมภาพันธ์ 2555 ระเบิด ‘คาร์บอมบ์’ ครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 1 ราย คือ นายมานิต อุมา ข้าราชการบำนาญสารธารณสุข จ.ปัตตานี และบาดเจ็บอีก 8 ราย ในจำนวนนี้มีที่บาดเจ็บสาหัส 2 ราย คือ นายซูเฟียน ยูโซ๊ะ นายมะรอเซะ แวสอเฮาะ นอกจากนี้ แรงระเบิดยังทำให้กำแพงและตัวอาคารด้านหน้าสำนักงานสาธารณสุขสองชั้นได้รับความเสียหายอย่างหนัก รถยนต์ที่จอดข้างถนน และรถยนต์ชาวบ้านที่สัญจรไปมา รวมถึงรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายกว่า 10 คัน

ช่วงที่ผู้เขียนนั่งรถผ่านไปทางพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุ ยังคงมีความโกลาหลทั้งจากผู้คนที่แตกตื่น และรถราที่วิ่งกันขวักไขว่ในขณะที่ต้องเลี่ยงเส้นทางเกิดเหตุเพราะมีการปิดถนน เจ้าหน้าที่ต้องลำเลียงคนบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ด้วยเกรงว่าจะมีการวางระเบิดซ้ำ บนฟ้าก็มีเฮลิคอปเตอร์บินว่อนวนเวียนอยู่ไปมา

ย้อนกลับไปนึกภาพเมื่อค่ำคืนวันวานในงานสมโภชเจ้าแม่ฯ ความโกลาหลของผู้คนก็ปรากฏอยู่ แต่เป็นความโกลาหลภายใต้ ‘ความสุข’ ของผู้คนมากมาย ทั้งคนไทยเชื้อสายจีน พี่น้องไทยพุทธ และพี่น้องมลายูมุสลิม ที่ตั้งใจจูงลูกจูงหลานพากันเข้าไปชมบรรยากาศการแข่งขัน ‘เชิดสิงโตบนเสาดอกเหมย’ อย่างพร้อมเพรียงกัน

เสียงปรบมือ เสียงตะโกนร้องให้กำลังใจ ช่างแตกต่างกันยิ่งกับเสียง ‘ระเบิด’ ที่เกิดขึ้นในวันต่อมา

ผู้เขียนหยิบสมุดลงนามเยี่ยมชมงานนิทรรศการ ‘ปัตตานียิ้ม’ มาเปิดดูอีกครั้ง กิจกรรมซึ่งทีมผู้จัดและเครือข่ายมีการรวบรวมภาพถ่ายหลายร้อยภาพของช่างภาพทั้งในและนอกพื้นที่กว่า 20 ชีวิตมาร่วมจัดแสดงภายใต้สัญลักษณ์ของ ‘รอยยิ้ม’ ที่เป็นเสมือนการให้กำลังใจ การย้ำภาพความรักความผูกพันระหว่างคนต่างศาสนา และ ‘ความหวัง’ ของผู้คนที่ต้องเผชิญเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้หลายปีมานี้ พร้อมกับมีการดำเนินกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม การแสดง ดนตรี ฯลฯ พบบางข้อความจากบางผู้คนที่น่าสนใจ ด้วยสะท้อนภาพความรัก ความผูกพัน ที่เกิดขึ้นมากมาย

‘บังปลิว’ อาหมัด ตันหยงวารี ชาวมลายูมุสลิมหนึ่งในคณะทำงาน ‘ปัตตานียิ้ม’ ซึ่งนำทีมเยาวชนในพื้นที่นับสิบชีวิตทั้งจากยะลา ปัตตานี นราธิวาส มาช่วยงาน สะท้อนไว้อย่างน่าสนใจว่า วันที่ 1-8 ได้จัดนิทรรศการปัตตานียิ้ม หรือยิ้มปัตตานี ในงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ของชาวปัตตานี จะพุทธ มุสลิม จีน ก็มีความเป็นพี่น้องกัน สังเกตเห็นได้จากที่หลายๆ คนที่มาเที่ยวงานในครั้งนี้ มี ‘รอยยิ้ม’ ให้กันและกันอย่างมีความสุข ที่เปล่งออกมาจากใจอย่างลึกซึ้งมาก

“ผมเป็นคนนราธิวาส อยู่บ้านทอน ต.โคกเคียน เห็นแล้วก็มีความสุขไปด้วย ผมอยากได้รอยยิ้มซึ่งกันและกันบนพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ให้เหมือนคนปัตตานีที่ยิ้มแล้วมีความสุข แม้เหตุการณ์ที่ใครๆ เขาคิดว่า 3 จังหวัดเป็นพื้นที่น่ากลัว แต่เราเกิดและเติบโตที่นี่ เราจะต้องมีรอยยิ้มอยู่เสมอ”

ว่าที่ ร.ต.เลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เขียนบอกเล่าความรู้สึกว่า ได้เดินทางมาตรวจดูความเรียบร้อยของการจัดงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ปี 2555 และได้แวะมาดูการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับภาพถ่ายภายใต้แนวคิด ‘ยิ้มปัตตานี’ จึงขอชมเชยแนวคิดของการจัดงานของคณะทำงานทุกคน ที่ทำให้งานปีนี้มีบรรยากาศของความเป็นมิตร และทำให้จังหวัดปัตตานีน่าอยู่มากขึ้น จากรอยยิ้มที่สะท้อนมาจากภาพถ่ายของบุคคลหลากหลาย

“รวมทั้งยังได้รับรอยยิ้มจากคนที่มีจิตใจที่มองโลกในแง่ดี แวะมายิ้มในงานครั้งนี้ด้วย ขอให้ทุกๆ คนที่มาร่วมงานเจ้าแม่ฯ ปีนี้ แวะมาชมนิทรรศการภาพถ่าย ณ สถานที่แห่งนี้ทุกคน จงเป็นตัวแทนของจังหวัดในการนำเสนอ ‘ยิ้มปัตตานี’ ให้เป็นสัญลักษณ์ของงานปีนี้ด้วย”

สามารถ วราดิศัย อดีตนายอำเภอเมืองปัตตานี/รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เขียนว่า ปัตตานีอาจมีเหตุการณ์อยู่บ้าง แต่เราก็อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข คงไม่นานนัก วันที่คนปัตตานีทุกคนยิ้มเข้าหากัน ร่วมสร้างสรรค์สันติสุข ยิ้มปัตตานีของท่าน มีส่วนช่วยขับเคลื่อนภารกิจ...สันติสุข

“ขอชื่นชมภาพถ่ายปัตตานียิ้มทุกภาพ ดูภาพแต่ละภาพทำให้มีความสุข ปัตตานีไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ทุกคนยังมีรอยยิ้มต่อกันและกันเสมอ” ธิดา คีรีนารถ

“เป็นครั้งแรกที่มา ประทับใจมากค่ะ จากการที่ได้ดูภาพถ่าย รู้สึกดีว่าปัตตานีน่าอยู่จริงๆ ยิ้มปัตตานี ทุกคนที่นี่น่ารัก เป็นกันเองที่สุด...” นศ.มอ.ปัตตานี รหัส 53

“ผมนายอะหมาน หมัดอาดัม ได้มาเยี่ยมบูทนิทรรศการ เป็นการรวบรวมภาพที่หลากหลาย หลากวัฒนธรรม ซึ่งหาดูได้ยาก และคงไว้ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีการรวบรวมเพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี” อะหมาน หมัดอาดัม ผอ.ททท. สนง.นราธิวาส

“เมื่อฉันได้มาชมนิทรรศการที่ซุ้มนี้ ทำให้ฉันได้เห็นอะไรบางอย่าง มันเป็นภาพที่นำมาซึ่งความประทับใจอย่างมาก คือ ภาพชาวมุสลิมกับชาวพุทธเป็นเพื่อนกัน กอดคอกัน อย่างไม่ขัดแย้งกันทางศาสนา มีพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาที่เป็นประเพณีดีงาม ดิฉันจึงขอให้ทุกๆ ท่านไม่ว่าศาสนาใดๆ ก็ตาม ‘ขอให้รักกัน’ มากๆ บ้านเมืองจะได้สงบสุขยิ่งๆ ขึ้นไป” มิ้วค์ หมู และลูกหมู
สุดท้าย อุมมีสลาม นศ. มอ.ปัตตานี ให้ภาพสรุปอย่างชวนสะทกสะท้อนใจว่า “ขอบคุณที่ทำให้ปัตตานี...ยิ้ม แม้ในวันที่มีคราบน้ำตา ขอบคุณจากใจ”

ถึงวันนี้ วันที่ผู้คนมากมายยังคงพยายามที่จะสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ เพื่อร่วมกันนำภาพแห่งความรัก ความผูกพันครั้งในอดีตระหว่างคนต่างศาสนากลับคืนมา พยายามหาทางแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างยืดเยื้อมานานปีให้คลี่คลายลงไป พยายามสะท้อนว่า ‘ความรุนแรง’ มีแต่จะนำมาซึ่งความสูญเสียแก่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นชนชาติ เชื้อชาติ ศาสนาใด ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กหรือคนชราสูงวัย แต่ในที่สุดแล้วก็ยังคงมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ลงมือ ‘ก่อเหตุร้าย’ มุ่งประหัตประหารทำร้ายชีวิตผู้คนและทำลายทรัพย์สินไปมากมาย

ภายใต้สัญลักษณ์แห่ง ‘รอยยิ้ม’ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่ายังคงมี ‘คราบน้ำตา’ ปรากฏอยู่เคียงคู่กัน ตราบเท่าที่หัวใจผู้คนจำนวนหนึ่งยังไม่อินังขังขอบกับสิ่งที่ตนเองได้ลงมือกระทำ และนี่นับเป็น ‘ชะตากรรม’ ของคน ‘ชายแดนใต้’ ที่ยังคงต้องเผชิญอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

credit : siamrathnews

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2555
0 comments

Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2555 6:52:30 น.

Counter : 766 Pageviews.

Share
Tweet