มื้อกลางวันบุฟเฟต์ราคา 790 บาท++ และในมื้อค่ำบุฟเฟต์ราคา 890 บาท++ โดยจะมีเมนูให้ลูกค้าเลือกสั่งได้ตามชอบ (เมนูจะแตกต่างกันในมื้อกลางวันและมื้อค่ำ) และพนักงานจะมาเสิร์ฟความอร่อยให้ถึงโต๊ะ ซึ่งที่นั่งของห้องอาหารก็จะมีทั้งในโซนห้องโถงกลาง โซนซูชิบาร์ และห้องส่วนตัวสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

ซาชิมิสดๆ

ซาชิมิ หรือเมนูปลาดิบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปลาแซลมอนสดๆ เนื้อสีส้ม ที่สั่งตรงมาจากนอร์เวย์ และปลาชนิดอื่นๆ ที่สั่งนำเข้าจากต่างประเทศแบบสดๆ อาทิ ปลาซาบะ ปลาไท้ ปลากะพง หมึกยักษ์ ปูอัด และไข่กุ้ง ซึ่งซาชิมิแต่ละอย่างก็เนื้อแน่นนุ่มสดหวานมากๆ จิ้มโชยุผสมวาซาบินิดหน่อยเพิ่มความอร่อยให้มากขึ้น

       ส่วนของซูชิหน้าต่างๆ ก็มีให้เลือกอร่อยมากมาย อย่างเช่น California Maki ที่มีไส้เป็นปูนิ่มชุบแป้งทอด และอะโวคาโด ส่วน California Salmon Maki ไส้ในก็จะเป็นหนังปลาแซลมอน ปรุงรสด้วยสไปซี่ซอส อะโวคาโดและหน่อไม้ฝรั่ง ส่วนด้านนอกคลุกกับไข่กุ้งเคี้ยวกรุบ Philly Maki เป็นซูชิโรลที่ด้านในเป็นไส้ครีมชีสและแซลมอน

ซูชิหน้าต่างๆ

ถัดมาลองชิมเมนูเทปันยากิ ที่ต้องแนะนำเป็น Kaisen Tepanyaki หรือ ซีฟูดเทปันยากิ ที่เลือกใช้ซีฟูดสดๆ ทั้งกุ้งตัวใหญ่ หมึกสด หอยเชลล์ และแซลมอน นำมาทอดบนกระทะร้อนแค่พอสุก เสิร์ฟพร้อมกับเห็ดเข็มทอง ถั่วลันเตา เห็ดออรินจิ และหน่อไม้ฝรั่ง ซีฟู้ดเนื้อแน่นสดหวานกำลังอร่อย กินคู่กับซอสที่เสิร์ฟมาให้เลือกทั้งซอสเทปันยากิ มายองเนส และต้อนหอมและหัวไชเท้าซอย

ซีฟูดเทปันยากิ

 แล้วหันมาลองชิม Buta Teriyaki หรือหมูย่างซอสเทริยากิ ที่จะใช้เนื้อหมูมาสไลด์เป็นชิ้นบางๆ ก่อนจะนำไปย่างบนไฟที่ร้อนพอประมาณ ทาด้วยซอสเทริยากิหวานๆ กลมกล่อมให้ซอสเข้าไปในเนื้อ เสิร์ฟคู่กับสลัดผักสด ตัวหมูเทริยากิเนื้อนุ่มหวานซอสอร่อยดี เข้ากันกับสลัดผักสดที่มีผักให้กินเคียงกันหลายชนิด

       แถมให้อีกเมนู Special Tartar ที่จะใช้เนื้อแซลมอนสด และเนื้อทูน่าสด มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ คลุกเคล้ากับน้ำยำแบบไทยๆ เสิร์ฟคู่กับสาหร่ายทอดและมันหวานทอด เมนูนี้เรียกว่าเป็นเมนูฟิวชั่น ผสมผสานระหว่างอาหารญี่ปุ่นกับอาหารไทยได้อย่างลงตัว เพราะเนื้อปลาสดๆ หวานๆ เข้ากันกับน้ำยำรสจัดจ้านดีมากๆ

หมูย่างซอสเทริยากิ

 นอกจากที่ลองชิมไปแล้ว ในเมนูบุฟเฟต์ทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น ก็ยังมีเมนูอร่อยๆ ให้เลือกชิมอีกหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชาบู ชาบู ไข่ตุ๋นแบบญี่ปุ่นเนื้อเนียน ทาโกะยากิ ซุปหัวปลาแซลมอน มิโสะซุป แกงกะหรี่ไก่ เทมปุระ ยากิโซบะ อุด้ง เป็นต้น

       อิ่มจากของคาวแล้วก็มาต่อที่ของหวาน ที่อยากจะแนะนำให้ลองชิม Zenzai เป็นไอศกรีมรสชาเขียว ซึ่งเป็นไอศกรีมโฮมเมด ราดด้วยน้ำเต้าหู้ เสิร์ฟคู่กับแป้งโมจิและถั่วแดงบด รสชาติไอศกรีมได้รสชาเขียวแท้ๆ กินกับน้ำเต้าหู้หวานๆ มันๆ มีถั่วแดงบดและแป้งโมจิมาเพิ่มความอร่อยด้วย

Special Tartar

หรือจะลองชิมของหวานอื่นๆ ก็มีให้เลือกทั้งไอศกรีมโฮมเมด ที่มีรสชาเขียว รสคาราเมล และรสงาดำ หรือจะเป็นพุดดิ้งชาเขียว พุดดิ้งคาราเมลคัสตาร์ด ก็อร่อยชื่นใจไม่แพ้กัน

       ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มที่รวมอยู่ในบุฟเฟต์ มีทั้งชาเขียวร้อน-เย็น น้ำอัดลมต่างๆ แล้วก็ยังมีม็อกเทลอร่อยๆ เป็นเวลคัมดริ้งก์อีกด้วย

       มื้อนี้กินไปหลายเมนูตั้งแต่ของคาวถึงของหวาน เรียกว่าอิ่มหนำสำราญเต็มกระเพาะ ซึ่งหากใครอยากอิ่มอร่อยแบบจัดเต็มเหมือน “ตระเวนกิน” ก็ต้องแวะมาชิมกันเองที่ห้องอาหารญี่ปุ่น “ทาคูมิ” ที่สำคัญ ตั้งแต่ตอนนี้ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2557 จะมีโปรโมชั่นพิเศษ มา 4 จ่าย 3 ในช่วงมื้อค่ำ เฉพาะวันจันทร์-พุธ อีกด้วย

Zenzai

ห้องอาหารญี่ปุ่น “ทาคูมิ” ตั้งอยู่ที่ชั้น G โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด ถนนรัชดาภิเษก ห้วยขวาง กทม. การเดินทางจากแยกลาดพร้าว ใช้ถนนลาดพร้าววิ่งตรงมาถึงแยกรัชดา-ลาดพร้าว แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก จากนั้นวิ่งตรงมาเรื่อยๆ จนผ่านแยกห้วยขวาง ให้ชิดซ้าย จะเห็นโรงแรมตั้งอยู่ทางขวามือ หรือจะใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงที่สถานีห้วยขวาง ทางออกที่ 2 เปิดบริการทุกวัน มื้อกลางวัน เวลา 11.30-14.30 น. มื้อค่ำ เวลา 18.00-22.30 น. โทร. 0-2694-2222 ต่อ 1560

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ