ปิ่นโตเถาเล็กเป็นคนที่ชอบชิมอาหารสลับสไตล์ไปมา บางครั้งก็ชอบไปนั่งอร่อยริมทางเหงื่อไหลไคลย้อย บางครั้งก็อยากนั่งเย็นๆ สบายๆ ผ่อนคลาย มีคนคอยบริการเอาอกเอาใจ
อีกทั้งช่วงปีสองปีมานี้มีร้านอาหารไทยอร่อยๆ บรรยากาศดีๆ ผุดขึ้นมาหลายแห่ง อย่ากระนั้นเลย อาทิตย์นี้ขอพาไปห้องอาหารไทยดูดีมีระดับ แต่อาหารนั้นรสชาติจัดจ้านเหลือหลายเหมือนกินที่บ้าน ใส่เครื่องไม่ยั้งเหมือนร้านอาหารไทยในต่างจังหวัด
ห้องอาหารแห่งนี้มีชื่อว่า "มิสสยาม" อยู่ที่ "โรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ กรุงเทพฯ ปากซอยเกษมสันต์ 1 ถนนพญาไท" ใกล้ๆ แค่นี้เอง โดยตัวโรงแรมจะอยู่ "ตรงเชิงสะพานหัวช้าง" ฝั่งด้านที่จะมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
หายากยิ่งที่จะเจอร้านดีๆ ในโรงแรมอย่างห้องอาหาร "มิสสยาม" ที่เสิร์ฟอาหารไทยตำรับไทยแท้ๆ รสจัดจ้าน เพื่อคนไทยโดยเฉพาะ ซึ่งชาวต่างชาติที่มาลิ้มลองก็จะได้สัมผัสอรรถรสของความเป็นไทยจริงแท้แน่นอน
โรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ กรุงเทพฯ เพิ่งเปิดมาได้ปีกว่า แต่ขอบอกว่ารสชาติอร่อยมาแรงแซงทางโค้ง เพราะได้เชฟไทยแท้แต่ชื่อเล่นเป็นสากล "เชฟบอมเบย์" ผู้มีอารมณ์ศิลปินสร้างสรรค์อาหารไทยที่คงความเป็นไทยดั้งเดิมได้ทุกกระเบียดนิ้ว ผสมผสานการจัดแต่งแบบไทยร่วมสมัย ดูดีมีระดับ
(บน) อาหารว่างสาวสยาม-แกงเผ็ดเนื้อพริกขี้หนู (ล่าง) ปลากระพงทอดราดพริกสามรส-น้ำพริกกะปิแกล้มด้วยใบกระเพราผัด ราดกะทิ
เมนูที่พิสูจน์ความเป็นไทยแท้ๆ ได้ดีคือ "น้ำพริกกะปิกับปลาทู"(180++) ตำรับโบราณที่ตำน้ำพริกกับเกลือ ไม่ใช้น้ำปลา ใช้กะปิเคยจากชุมพรที่เผาไฟแรงๆให้รสหายปร่า ใส่น้ำส้มเน่า ฟังชื่อดูไม่น่ากิน
แต่คือส้มเขียวหวานที่เก็บไว้นานๆ เพิ่มความเปรี้ยวหอมด้วยมะอึกฝานใส่มาไม่ยั้ง เติมมะนาวอีกหน่อย แกล้มด้วยปลาทูแม่กลองกับของอร่อยที่ไม่เหมือนใครคือ "ใบกะเพราผัดกับกะทิ" เคี้ยวพริกขี้หนูลูกโดดตามไปด้วย เล่นเอาเหงื่อซึมด้วยความอร่อยสะใจ มาแล้วห้ามพลาดเป็นอันขาด
อีกอย่างที่รสกลมกล่อมไทยแท้ ใครไม่กินเผ็ดรับรองติดใจ "หลนเนื้อปูกับปลาฟู" (180++) นับเป็นหลนที่หอมกะทิรสนุ่มนวลชวนกิน เพราะเชฟบอมเบย์ใช้กะทิคั้นจริงๆ คั้นมาข้นๆ แล้วนำมาตุ๋นไฟอ่อน ไม่ให้แตกมัน
นำไปแช่เย็นเก็บไว้ใช้ได้ตลอด ตำรับนี้เพิ่มความหอมของหลน ด้วยตะไคร้ทุบ ใส่ตอนจบเพียง 5 วินาที แล้วปิดไฟ ช้อนออกเพื่อไม่ให้กลิ่นแรงเกินไป
ต้องการความอลังการ หลากหลาย ให้สั่งสำรับ อาหารไทยชุด "ชบา" (650++) ที่มีสโลแกนว่า "อร่อยครบเครื่องครบครัน กับรสชาติ ต้ม ยำ ทำ แกง" ขอบอกว่าจัดเต็มละลานตาจริงๆ
ชุดนี้มีตั้งแต่ "หมี่กรอบทรงเครื่อง" เป็นชนิดเส้นกรอบๆ อย่างที่ผมชื่นชอบ ไม่ใช่หมี่กรอบเหนียวๆ คลุกเครื่องหอมๆ ใส่ผิวส้มซ่า อีกทั้งของว่างไทยโบราณอย่าง "ล่าเตียง" ไส้ไก่สับ ห่มด้วยตารางไข่ที่โรยจนสวย และ "ถุงทองไส้เม็ดบัว" มังสวิรัติ
ต่อด้วยกับข้าวจานหลักในชุดชบา มี "ต้มยำกุ้งแม่น้ำ" น้ำข้นที่รสจัดจ้านหอมหวานด้วยน้ำต้มซุปเปลือกกุ้ง "ส้มตำไทย" ใส่ถั่วกระจกเคลือบน้ำตาลตำใส่ลงไปด้วย กับ"ไก่ย่างขมิ้น" เนื้อสะโพกนุ่มๆ หมักกับกะทิ รากผักชี กระเทียม พริกไทย ยี่หร่า เม็ดผักชี เกลือ น้ำตาลปี๊บ
กินกับ "เส้นหมี่คลุกน้ำมันเจียว" และ "แกงมัสมั่นเนื้อ" ที่รสดีหอมมากจนยกนิ้วให้ เคล็ดลับอยู่ที่ต้องเคี่ยวกับถ่านราไฟให้ไฟอ่อนหน่อย และใส่ขิงตอนจบเพิ่มรสแหลม ให้ตัดความเผ็ดด้วย "ผัดเห็ดโคนหลวง ผัดวุ้นเส้นเนื้อปู ทอดมันปลา "ชิ้นเล็กๆ เท่าเหรียญ ปิดท้ายด้วย "กล้วยไข่เชื่อม" ราดกะทิ
มีอาหารไทยโบราณเมนูตามสั่งน่ากินอีกเพียบ เช่น "รวมอาหารว่างสาวสยาม" (290++) มี "ประทัดลมหรือเปาะเปี๊ยะกุ้ง เปาะเปี๊ยะปู สะเต๊ะสามอนงค์" เนื้อ หมู ไก่ และ "ค้างคาวเผือก" ที่ต้องนวดแป้งหมี่ตอนเผือกร้อนๆ หยอดกะทิ น้ำปูนใส ใส่เกลือ ตัวไส้ผัดในกระทะทอง ใส่กุ้งและมันกุ้งแม่น้ำเพิ่มความหอมมัน
อีกทั้ง "แกงเผ็ดเนื้อพริกขี้หนู" (360++) เครื่องแกงตำเอง ใส่ใบกะเพราสดเพิ่มความหอมร้อนแรง "ยำเนื้อย่างใส่องุ่น" (360++) ใช้เนื้อออสเตรเลียนุ่มๆ ย่างจนหอม เพิ่มกลิ่นก้านสะระแหน่อีกด้วย
"ปลากะพงทอดราดพริกสามรส" (750++) ซอสราดทำจากน้ำสับปะรดคั้นสดๆ มีเคล็ดลับจากอาม่าของเชฟ ที่ชุบแป้งมันกับแป้งข้าวโพดก่อนทอด
และของหวานขนมไทยๆ อย่างเช่น "ลูกชุบ สังขยาฟักทอง" ที่ต้องใช้ไข่เป็ดไล่ทุ่ง "ไอศกรีมกะทิสดโบราณ" (95++) มีเครื่องหลากหลายใส่ถ้วยให้เลือกใส่ตามใจชอบ ที่ผมชอบมากๆ คือขนุนเชื่อม
ใครมาช้อปปิ้งแถวสยามสแควร์ มาบุญครอง เชิญมาเปลี่ยนบรรยากาศชิมอาหารไทยรสร้อนแรงที่ห้องมิสสยาม รับรองว่าจะอร่อย หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
ห้องอาหารมิสสยาม (Miss Siam)
โรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ กรุงเทพฯ
ที่ตั้ง 400 ซอยเกษมสันต์ 1 เชิงสะพานหัวช้าง ถนนพญาไท ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทร.0-2217-0777
เปิดบริการ 10.30-22.30 น.ทุกวัน
แนะนำ น้ำพริกกะปิกับปลาทู หลนเนื้อปูกับปลาฟู อาหารไทยชุด "ชบา" รวมอาหารว่างสาวสยาม (ประทัดลมหรือเปาะเปี๊ยะกุ้ง เปาะเปี๊ยะปู สะเต๊ะสามอนงค์เนื้อ หมู ไก่ และค้างคาวเผือก) แกงเผ็ดเนื้อพริกขี้หนู ยำเนื้อย่างใส่องุ่น ปลากะพงทอดราดพริกสามรส ไอศกรีมกะทิสดโบราณ