Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
จากวันครูถึงวันยุทธหัตถี ... 18 มกราคม เป็นวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช



วันนี้เป็นวันครู ขอรำลึกถึงครูบาอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทความรู้ ครูพักลักจำ และครูที่อยู่ในตำราอันช่วยให้มีสติและปัญญาพอเอาตัวรอดมาได้จนทุกวันนี้

มะรืนนี้เป็นวันที่ 18 มกราคม เป็นวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เรื่องนี้ต้องขยายความว่า นับแต่เมื่อสมเด็จพระนเรศวรทรงหลั่งน้ำลงบนแผ่นดินเมืองแครงเมื่อ พ.ศ. 2127 ประกาศอิสรภาพว่านับแต่นี้ กรุงศรีอยุธยากับกรุงหงสาวดีขาดไมตรีไม่เป็นทองแผ่นเดียวกันอีกต่อไป พม่าถือว่าเป็นการประกาศทึกทักข้างเดียว เท่ากับว่ากรุงศรีอยุธยาเป็นขบถ วันหนึ่งจะต้องยกทัพมากำราบให้หายกำเริบจงได้ ตอนนี้ปล่อยไปก่อน

เผอิญพม่าก็วุ่นวายกับการที่เมืองเล็กเมืองน้อยแตกแยกเอาอย่างอยุธยา ทั้งพม่าก็คร้ามเกรงเจ้าฟ้ารัชทายาทกรุงศรีอยุธยาเพราะเคยเห็นฝีมือกันอยู่ ครั้นเมื่อสมเด็จพระมหาธรรมราชา กษัตริย์พระนครศรีอยุธยาสวรรคต
สมเด็จพระนเรศวรขึ้นครองราชสมบัติเป็นสมเด็จพระสรรเพชญที่ 2 พม่าคิดว่าอยุธยาคงกำลังยุ่งกับการตั้งรัฐบาล ในปี 2133 สมเด็จพระเจ้ากรุงหงสาวดีนันทบุเรงนอง (พระราชโอรสพระเจ้าบุเรงนอง) จึงให้สมเด็จพระมหาอุปราชามังกะยอชวาซึ่งเคยเป็นเพื่อนเล่นรุ่นพี่กับสมเด็จพระนเรศวรครั้งไปเป็นตัวประกันที่พม่านำทัพเข้าไปตีกรุงศรีอยุธยา ให้รู้เสียบ้างว่าไผเป็นไผ

ทัพพม่าเข้ามาทางด่านพระเจดีย์สามองค์ 15 วันเท่านั้นก็บุกเข้ามาแวะกินโรตีสายไหมบังยีจนถึงชานเกาะอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรคิดแผนซ้อนแผนปิดล้อมจนพระยาพุกามแม่ทัพพม่าตายในที่รบ สมเด็จพระมหาอุปราชาเกือบถูกจับเป็นเชลย ดีที่ทหารพม่ามาช่วยทันจึงแตกซ่านกลับไป แต่ก็เสียหน้าไม่ใช่เล่น

ปี 2135 พญาลอ ขุนนางอาวุโสกราบทูลพระเจ้ากรุงหงสาวดีว่าอันกษัตริย์อยุธยาพระองค์นี้ดูเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหงสาวดีนัก ถ้าไม่ปราบให้ราบคาบอีกหน่อยคงยกทัพตามเข้ามาจนถึงหงสาวดี จึงขอให้ยกทัพใหญ่ไปปราบอีกหน และเพื่อเป็นการแก้หน้าล้างอายคราวก่อน หนนี้ต้องให้สมเด็จพระมหาอุปราชมังกะยอชวาคุมทัพไปใหม่เถิด อีตาพญาลอนี่จะหวังดีหรือประสงค์ร้ายก็ไม่รู้ แต่พระเจ้ากรุงหงสาวดีก็เห็นด้วย

แต่แรกสมเด็จพระมหาอุปราชทรงอิดเอื้อนว่าโหรทายว่าเคราะห์ร้ายไม่ควรเดินทาง แต่ครั้นถูกพระราชบิดาเสียดสีจนถึงว่างั้นก็จงไปหาผ้านุ่งผู้หญิงมาสวมเถอะจึงทรงฮึดสู้ นำทัพใหญ่บุกเข้าไปหมายจะตีกรุงศรีอยุธยาล้างอายอีกหน

ตรงนี้พงศาวดารไทยและพม่าบันทึกไว้ต่างกัน ของพม่าบอกว่าพระมหาอุปราชาเก่งกล้าสามารถจนยกทัพมาถึงทุ่งนานอกเกาะอยุธยาขนาดมองเห็นยอดเจดีย์วัด สมเด็จพระนเรศวรนำทัพออกไปต่อสู้ แต่พม่าหาว่าไทยเล่นไม่ซื่อใช้ปืนแอบยิงจนสมเด็จพระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์ต้องหามพระศพกลับไป เรียกว่าแพ้แต่ก็ไว้ลายว่าข้ามาเหยียบถึงชานกรุงแล้วนะเว้ย แล้วที่แพ้เพราะอีกฝ่ายเล่นนอกเกม หรืออาจมีชายชุดดำสวม
รอยยิงลงมาจากมุมสูงอะไรทำนองนั้น

พงศาวดารไทยระบุว่าสมเด็จพระนเรศวรเสด็จออกไปตั้งรับที่ตะพังตรุ ใกล้หนองสาหร่ายแถวชายแดน (ไม่รู้แน่ชัดว่าอยู่ตรงไหน) และกระทำยุทธหัตถีคือชนช้างกันที่นั่น สมเด็จพระนเรศวรถูกฟันจนหมวกบิ่นแต่ก็ได้ใช้ของ้าวฟันสมเด็จพระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์จนพม่าตกใจเตลิดกลับไป ตรงนี้ต้องชมว่าโหรพม่าทายแม่น ไม่รู้ว่าอีที. หรือโหรอะไร

ของไทยฟังดูน่าเชื่อถือกว่าเพราะโดยกลศึกแล้ว สมเด็จพระนเรศวรไม่น่าเสี่ยงปล่อยพม่ายกทัพใหญ่เข้ามาถึงชานกรุง และรอบกรุงก็ไม่มีทุ่งกว้างพอรบพุ่งตะลุมบอนกันได้ หลักฐานทางโบราณคดีพบว่าที่สุพรรณบุรีมีซากเจดีย์ครอบกระดูกไว้ น่าจะเป็นเจดีย์ที่ระลึกหลังทำยุทธหัตถี ทางการจึงสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ที่นั่นเรียกว่าดอนเจดีย์ ส่วนที่เมืองกาญจนบุรีแถวอำเภอพนมทวนก็พบโครงกระดูกฝังไว้ใต้ดิน ชาวเมืองกาญจน์จึงเชื่อว่าเป็นสนามยุทธหัตถี ทุกวันนี้ก็ยังเถียงกัน พม่าได้ทีจึงบอกว่าไม่ใช่ทั้งคู่ ที่จริงชนกันแถวที่น้ำท่วมมาก ๆ ใกล้กรุงนั่นแหละ

เรามีหลักฐานด้วยว่าวันทำยุทธหัตถีตรงกับวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง จุลศักราช 954 เคยคำนวณกันว่าเป็นวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2135 คือ มะรืนนี้เมื่อ 420 ปีมาแล้ว วันนี้จึงเป็นวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและวันกองทัพไทย แต่บัดนี้คำนวณใหม่แล้วว่าเป็นวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2135

ช้างพระคชาธารที่ทำยุทธหัตถีนั้นสมเด็จพระนเรศวรทรงสถาปนาเป็นเจ้าพระยาปราบหงสาวดี พระแสงของ้าวที่ฟันอุปราชพม่านั้นสถาปนาเป็นเจ้าพระยาแสนพลพ่าย หมวกนั้นให้เรียกว่าพระมาลาเบี่ยง จัดเป็นเครื่องราชูปโภคพระมหากษัตริย์สืบมาจนบัดนี้ แต่ไม่เห็นสถาปนาปืนสักกระบอกเป็นเจ้าพระยา ส่วนพระแสงปืนข้ามแม่น้ำสะโตงที่ทรงใช้ยิงแม่ทัพพม่านั้นเป็นคนละเหตุการณ์กันนับแต่นั้นมากรุงศรีอยุธยาว่างเว้นสงครามกับพม่านานถึง 175 ปี มีพระมหากษัตริย์อยุธยาครองราชย์ต่อมาถึง 15 พระองค์ แต่พอว่างจากการศึกภายนอก 175 ปีนั้นเราก็ทำศึกภายในแย่งอำนาจกันเองเป็นที่สนุกสนานแทบทุกปีจนเสียกรุงอีกหน

บทเรียนนี้ว่าไปแล้วก็เป็นครูเหมือนกันไม่ใช่หรือครับ.

credit : dailynews


Create Date : 16 มกราคม 2555
Last Update : 17 มกราคม 2555 2:25:46 น. 0 comments
Counter : 1114 Pageviews.

Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.