จะเน้นแต่สมาธิก็ไม่ได้ จะเน้นแต่ปัญญาก็ไม่ได้
การภาวนาน้้น ครูบาอาจารย์บางคน จะพูดว่า ไม่ต้องทำอะไรเลย
มันไม่มีตัวตนอยู่แล้ว ถ้าไปทำซิ ตัวตนจึงจะมี

ท่านพูดก็ถูกของท่านครับ แต่ไม่ถูกสำหรับคนอื่น
เพราะอะไร....

คนทั่ว ๆไปนั้น เนื่องจากจิตคุ้นชินกับตัณหาอยู่แล้ว คุ้นแบบไม่รู้ตัวด้วยว่า
จิตมีตัณหาเจือปนอยู่ แถมโมหะก็เกิดเกือบตลอดเวลาทีตื่นอยู่
ถ้าไม่ทำอะไรเลย จะไม่มีทางเกิดอาการของการไม่มีตัวตนได้เลย

คนทั่ว ๆ ไปจึงต้องเริ่มต้นที่สัมมาสมาธิก่อน ฝีกฝนเข้าไป ฝีกให้มาก ๆ
ฝีกบ่อยๆ ฝีกเสมอ ๆ อย่าเกียจคร้าน ตอนฝีกนี่ถีงแม้ว่าจะมีความจงใจ
ฝีกฝน เมื่อจงใจทำ ความมีตัวตนย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
แต่ถ้าไม่ฝีกเลย ก็จะกลับไปอยู่กับโมหะ อยู่กับตัณหา การพัฒนาจะไม่มี

ดังนั้น....จึงต้องเลือกการฝีกไว้ก่อน เพื่อสกัดกั้นโมหะ และ ตัณหา
เมื่อฝีกฝนไปสักระยะ จิตเริ่มมีความเคยชินกับการฝีกได้บ้างแล้ว
ตอนนี้แหละ นักภาวนาจะเกิดปัญญาในเบื้องต้นขึ้นได้
ปัญญาเบื้องต้นนี้ เกิดเพราะจิตเริ่มมีสัมมาสมาธิ แล้วไปเห็น
ไตรลักษณ์ของกิเลสได้อย่างจัง

เมื่อเกิดปัญญาในเบื้องต้นขึ้น ปัญญานี่แหละจะไปส่งเสริมให้สัมมาสมาธิตั้งมั่นขึ้นอีก
นิด แล้วเมื่อสัมมาสมาธิตั้งมั่นขึ้นอีกนิด ก็จะส่งเสริมให้เห็นไตรลักษณ์ของกิเลสได้มากขึ้น ได้บ่อยขึ้น เมื่อเห็นไตรลักษณ์ของกิเลสมากขึ้นอีก ก็จะส่งเสริมให้สัมมาสมาธิตั้งมั่นขึ้นไปอีก แล้วก็วนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ

จะเห็นว่า ถ้านักภาวนาจะมุ่งเน้นแต่ทำสมาธิอย่างเนียวแน่น
กดข่มไม่ปล่อยให้กิเลสเกิดขึ้นในจิตใจได้เลย
ปัญญาจะไม่เกิดขึ้น เพราะกิเลสไม่เกิดให้จิตเห็น
แต่ถ้านักภาวนาฝีกฝนสัมมาสมาธิ แล้วปล่อยให้กิเลสเกิดในจิต
ได้ดังทีได้อธิบายไว้ข้างบนแล้ว ปํญญาจะเกิดได้ จนขบวนการของ สัมมาสมาธิ >>>เอื้อให้เกิดปัญญา >>>> การเพิ่มขึ้นของสัมมาสมาธิ >>> เอื้อให้เกิดปัญญามากขึ้น มากขึ้น จนนักภาวนาเกิด *ญาณเห็นจิต* ได้

เมื่อนักภาวนาเกิด *ญาณเห็นจิต*ได้แล้ว ก็จะพบความจริงเองทีว่า
ถ้าไม่ทำอะไรเลย นั้นคือ ความไม่มีตัวตนจะแสดงออกมา
แต่ถ้าไปทำนั่นแหละ ความมีตัวตนจึงจะแสดงออกมา
อย่างทีครูบาอาจารย์ท่านนั้นได้พูดไว้

นี่คือ ขบวนการแห่งการพัฒนากำลังสัมมาสมาธิ พัฒนาปัญญาของจิต เพื่อความไม่ทุกข์

ไม่ใช่ทำแต่สมาธฺิ แต่ไม่เดินปัญญา หรือ มุ่งแต่ปัญญา แต่ไม่ทำสมาธิเลย

ซี่งสมาธิและปัญญา ต่างก็เกื้อหนุนซี่งกันและกันไปตามลำดับ จนถีงจุดหมายปลายทางแห่งการไม่ทุกข์



Create Date : 28 กันยายน 2557
Last Update : 28 กันยายน 2557 19:19:58 น.
Counter : 1935 Pageviews.

0 comments
ร่างกาย นาฬิกาสีชมพู
(5 ก.ค. 2568 14:08:12 น.)
ธรรมะวันนี้ ๓ ก.ค. ๒๕๖๘ **mp5**
(3 ก.ค. 2568 06:50:03 น.)
เกิดดับ นาฬิกาสีชมพู
(3 ก.ค. 2568 11:48:41 น.)
: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - วิชา ภูผา ชีวิต : กะว่าก๋า
(30 มิ.ย. 2568 05:01:21 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Namasikarn.BlogGang.com

นมสิการ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]

บทความทั้งหมด