เครียด ฉันก็เครียดคนเดียว ไม่ได้เกี่ยวกับใคร
เครียด ฉันก็เครียดคนเดียว ไม่ได้เกี่ยวกับใคร
ดร.พรรณี เกษกมล
สมมติมีเส้น 2 เส้น แทนเส้นความสามารถที่มีอยู่จริงของคนหนึ่ง กับอีกเส้นแทนเส้นงานที่ต้องรับผิดชอบ
ถ้าเส้นความสามารถสูงกว่าเส้นงานที่ต้องรับผิดชอบ เขาจะหงอยเพราะไม่ได้ทำในสิ่งที่เขาทำได้
ถ้าเส้นความสามารถต่ำกว่าเส้นงานที่ต้องรับผิดชอบ เขาจะเครียดเพราะไม่อาจทำให้งานสำเร็จได้
ถ้าเส้นความสามารถเท่ากับเส้นงานที่ต้องรับผิดชอบ เขาจะมีความสุขในงานที่ต้องทำ
นี่คือ หลักการสำคัญของหัวหน้าในการมอบหมายงานให้ลูกน้อง
ถ้าลูกน้องเครียด ให้เปลี่ยนงานที่ต้องทำให้ง่ายขึ้น
ถ้าลูกน้องหงอย ให้เปลี่ยนงานที่ต้องทำให้ยากขึ้น
ถ้าลูกน้องมีความสุขกับงานที่ทำ ให้เขาทำต่อไป
คนเป็นหัวหน้าอยากให้งานของตนเจริญก้าวหน้าต้องรู้จักใช้คนให้เหมาะกับงาน
สำหรับมนุษย์ทำงานทั้งหลาย เคยตรวจสอบตนเองไหมว่า เรารู้สึกเช่นไร หรือมีอารมณ์อะไรบ้าง เครียดกับงาน มีความสุขที่ได้ทำงาน เบื่อเซ็งกับงานซ้ำซาก
วิธีตรวจสอบที่ง่ายที่สุด ลองทำตารางหรือโน้ตย่ออารมณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันที่ผ่านมาด้วย แทนอารมณ์ดี แทนไม่มีอารมณ์หรือเฉย ๆ แทนอารมณ์ไม่ดี
สิ้นสุดวัน /สัปดาห์ /เดือน ลองนับดูสิว่า มีหน้าใดมากที่สุด
คนที่มีความสุขที่ได้ทำงาน ขอให้ทำงานนั้นต่อไป ถึงแม้ว่า งานนั้นอาจให้เงินน้อยไปหน่อย หรืออยากเปลี่ยนงาน ขอให้เลือกเอาที่คล้าย ๆ เดิม
คนรุ่นใหม่ที่รู้ว่าตนเบื่อเซ็งกับงานที่ซ้ำซาก ไม่ได้รับผลตอบแทนเป็นเงินหรือตำแหน่งที่ต้องการ พวกเขาจะลาออกทันที หาซื้อหนังสือปลุกปลอบให้กำลังใจและกล้าลุกมาสู้กับชีวิตที่จะได้เป็นนายของตัวเอง ถ้าล้มก็พยายามลุก ๆ จนกว่าจะหมดแรงไปข้างหนึ่ง
ส่วนคนที่น่าห่วงที่สุดคงเป็นพวกเครียดกับงาน เพราะความเครียดเป็นบ่อเกิดแห่งโรคยอดฮิตในสังคมทุกวันนี้ เขาบอกถ้าไม่ใช่โรคติดต่อส่วนใหญ่เกิดจากความเครียดทั้งสิ้น
โดยปกติเมื่อเราเครียดเราจะอารมณ์ไม่ดีไปพร้อม ๆ กัน เช่น เกิดความกลัวว่าจะทำให้งานดีตามที่ตั้งใจไม่ได้ ทำตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายไม่สำเร็จ จะเกิดความวิตกกังวล โกรธแค้นในทุกคนที่รายล้อมรอบตัวทั้งที่เขาเหล่านั้นไม่ใช่สาเหตุโดยตรง แล้วจะพูดจาไม่เข้าหูใครสักคน อารมณ์ไม่ดีเหล่านี้มักเกิดขึ้นพร้อมกับการไม่สบายทางกายและใจไปพร้อม ๆ กันและจะทำให้เราเครียดโดยไม่รู้ตัว นี่แหละคืออันตรายที่คืบคลานเข้ามา ทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว ทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อนสนิทมิตรสหายพลอยห่างเหินไปเพราะไม่อยากรับอารมณ์ที่มาพร้อมคำผรุสวาทด่าทอผู้อื่นที่ทำไม่ได้ดั่งใจ
ความเครียดในแต่ละคนอาจแตกต่างกัน บางคนหัวใจเต้นเร็ว กรามขบกัน ท้องไส้ปั่นป่วน ร่างกายเราจะมีปฏิกริยาตอบสนองต่อความเครียดที่เกิดขึ้นในสี่ด้าน คือ ความรู้สึกนึกคิด การเปลี่ยนแปลงทางกาย อารมณ์ และสติปัญญา
การรู้จักผ่อนคลายความเครียด คือ ต้องรู้สาเหตุที่ทำให้เราเครียด ต้องบรรยายเงื่อนไขหรือบอกสิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกขุ่นมัวนี้ออกมาให้ได้เสียก่อน จึงจะหาทางขจัดความเครียดได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าต้องทำงานที่เกินความสามารถของตนถึงแม้จะเงินเดือนมากมาย ตำแหน่งใหญ่โตสักแค่ไหน คงต้องยอมออกจากงานนั้นเถอะ รักชีวิตให้มากกว่า จะดีไหม
ไม่ใช่ว่าคนที่เครียดจะต้องแสดงออกแย่ ๆ เสมอไป บางคนอาจตอบสนองในทางที่ดีได้ เช่น เราอาจเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาแบบใหม่ ๆ คำถามที่น่าสนใจ คือ ทำไมบางคนเมื่อเจอความเครียดแล้วมีการแสดงออกในทางที่เหมาะสม แต่บางคนไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งนี้เพราะเมื่อคนเราเผชิญกับความเครียดจะมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาแตกต่างกัน
เมื่อเราเผชิญหน้ากับความเครียด จะมีการประเมินความเครียดในสามลักษณะคือ คิดว่าสิ่งที่เจอนั้นเป็นสถานการณ์ทางบวก ลบ หรือเป็นกลาง หรือคิดว่าสิ่งที่เรากำลังจะเผชิญนั้นเป็นอันตรายต่อเรา หรือข่มขู่เรา หรือคิดว่ามันกำลังท้าทายความสามารถของเรา
ถ้าเราเจอสถานการณ์แล้วประเมินว่ามันจะเป็นอันตรายต่อเรา มันจะทำร้ายเรา จะเกิดความสูญเสียความภาคภูมิใจในตนเอง คิดว่าตนเองเป็นคนไร้ค่า แต่ถ้าเราคิดว่าเหตุการณ์หรือบุคคลอื่นจะมาข่มขู่เรา เราจะประเมินว่าเหตุการณ์นั้นอาจเลวร้าย อาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่น่าพึงพอใจ จะทำให้เราเกิดความซึมเศร้า หรือเราอาจคิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้จะมีปัญหาแต่เราสามารถจัดการกับปัญหานั้นได้ เราอาจได้รับประโยชน์ บางทีอาจทำให้เกิดโอกาสใหม่ ๆ ขึ้นมา หรือทำให้เราได้อะไร ๆ ที่ดีขึ้นกว่าเดิม
การใช้ปัญญาหรือความรู้สึกนึกคิดที่จะแก้ปัญหาความเครียดของตน เราต้องเปลี่ยนความคิดจากการคิดว่ามันเป็นอันตราย มันข่มขู่เรา ให้เป็นสิ่งที่น่าท้าทาย เราสามารถใช้ความสามารถและทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ถ้าเราคิดว่ามันอันตรายต่อเรามากหรือข่มขู่เราอย่างร้ายแรง เราจะยิ่งเครียดมาก แต่ถ้าเราคิดว่าเราสามารถจัดการกับมันได้จะทำให้ความเครียดลดลง
ดังนั้นการแก้ปัญหาความเครียดหรือคิดไม่ให้เครียด เราต้องปรับเปลี่ยนความรู้สึกนึกคิดของเราให้ได้ว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นแม้ว่าจะมีอันตรายต่อเรา ข่มขู่เรา เราก็สามารถจัดการแก้ปัญหาได้ มันท้าทายความสามารถของเรา เราเป็นคนเก่งเราสามารถแก้ปัญหาได้ ถ้าเราคิดว่าเราทำได้เราจะทำได้ ถ้าเราคิดว่าเราจะชนะเราก็จะชนะมัน ความคิดที่ดี ความคิดที่สร้างสรรค์แปรเปลี่ยนสิ่งเลวร้ายให้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์แก่ตัวเรา บางทีพระเจ้าต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่เรา ให้เราได้เปลี่ยนวิถีชีวิต ความรู้สึกนึกคิด ถ้าเราคิดว่าสิ่งเลวร้ายในวันนี้จะทำให้เราได้สิ่งที่ดีกว่าเดิมในวันข้างหน้า เราก็จะมีกำลังใจต่อสู้ และไม่เครียด