|
เรื่อง ขี้ ๆ 620210 เรื่องของ “ขี้” by DrPK พอพูดคำว่า “ขี้” หลายคนทำท่าหยะแหยงกันขึ้นมาทันที เพราะจะนึกสิ่งที่มีกลิ่นเหม็นที่ออกจากทวารหนัก คนเรานี่ก็แปลก ไม่ชอบพูดกันตรง ๆ หาว่า ไม่สุภาพ เช่นจะบอกว่าออกจากรูก้น ใครพูดคงโดนมองหน้า ถ้าพูดว่าปวดขี้ยิ่งแย่หนัก ต้องบอกขออนุญาตไปอุจจาระ ทั้งที่ระเบิดกำลังจะลงในนาทีนั้น นอกจากออกจากทวารหนัก อะไรที่ออกจากร่างกายแล้วมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์จะขึ้นต้นด้วยขี้กันทั้งนั้น เช่น ออกจากผิวหนังเรียกขี้ไคล ไม่ใช่ขี้ของใครแต่เป็นขี้ของเรานั่นเอง ออกจากหนังหัวเรียกขี้รังแค สองคำนี้แปลงสารเล็กน้อย ส่วนอวัยวะอื่นบอกตรง ๆ ไปเลยว่า ขี้หู ขี้ตา แล้วขี้จมูกคงยาวไปหน่อยเลยเหลือขี้มูกแทน ขี้ฟันมาจากฟันที่ไม่แปรง ขี้ลืมก็จำอะไรไม่ค่อยได้ พอสลับคำยิ่งไม่อยากทำ เช่น ฟันขี้ อุ๊ยไม่เอาแน่ ๆ ลืมขี้ล่ะยังพอทนถ้าเจอห้องส้วมที่เหม็น ๆ พอมีเหงื่อออกจากรักแร้ เราเรียกขี้เต่า สงสัยว่าขี้เต่าจริง ๆ คงเหม็นพิลึก บางคนชอบดมขี้เต่าคนอื่นบอกเป็นกลิ่นมีเสน่ห์ เป็นยังงั้นไปได้นิ งงไหมล่ะ คนที่ผิวหนังเป็นรอยด่างดวงสีขาว เรียกขี้กลาก ขี้เกลื้อน เกิดจากเป็นกลากเกลื้อน อุตส่าห์เติมขี้ให้มันอีกนิ พอออกจากวัสดุอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ร่างกายมนุษย์ เรายังคงเรียกขี้ หมายถึงเศษหรือกากที่เกิดขึ้น เช่น ขี้กบ ขี้เลื่อย มันไม่ใช่ขี้ของกบกับขี้ของเลื่อย แต่เป็นเศษของไม้ที่หลุดรอดออกมาจากทำไม้แผ่นใหญ่ให้ได้รูปทรงที่ต้องการ จากการใช้กบไสไม้ หรือใช้เลื่อยตัดไม้ให้แยกจากกัน อะไร ๆ ที่ไม่ดี ใช้ขี้ทั้งนั้น คนไม่ขยัน ไม่ทำงาน เราเรียกคนขี้เกียจ มาจากคำว่าเกียจคร้านนั่นแหละ ส่วนคนที่มักแบมืออยากได้ของ ๆ คนอื่น จะโดนเรียกว่าคนขี้ขอ ขี้หดตดหายหมายถึงคนขี้ขลาดขี้กลัว ไม่กล้าทำในสิ่งที่ควรทำ แต่บางคนกล้าบ้าบิ่นเกิน มองเห็นสิ่งอันตรายหรือเลวร้ายกลายเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วไปเสียนี่ จำไว้เลย ถ้ามีขี้นำหน้า แปลได้ว่า สิ่งนั้นต้องไม่ดีแน่ ๆ แล้วตัวของเราล่ะ กำลังเป็นขี้ขี้ของสังคมอยู่หรือเปล่า ที่ปล่อยสิ่งไม่ดีออกจากตัวเรา ทำลายและทำร้ายผู้อื่นและสังคมให้เลวร้ายและตกต่ำไปเรื่อย ๆ หรือไม่ ถ้าเป็นจงรู้สึกตัวแล้วเลิกเป็นขี้กันได้แล้วนะ จะบอกให้
|
Drpk.BlogGang.com
สมาชิกหมายเลข 4665919
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [ ?]
|
|