เมื่อยามเกิดทุกข์ หาที่ยึดมั่น ให้ใจได้เกาะเกี่ยว
Find a mental dependency
สิ่งที่เคยทำ เมื่อคิดว่าตนไม่สบายใจ ลองทบทวนดูสักหน่อย และถามใจของตัวเองว่า ผลของมันเป็นเช่นไร น่าพอใจหรือไม่
ถ้าผลออกมาน่าพึงพอใจ ต่อไปจะทำซ้ำเดิมหรือไม่
ถ้าไม่พอใจล่ะ น่าจะทำได้ดีกว่านี้ แล้วคิดจะปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ หรือช่างหัวมัน ทำไปตามความเคยชินนั่นแหละ
เรามักเข้าวัดหรือขอพรไหว้พระยามทุกข์โศก และสวดมนต์ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ทั้งที่ปกติอาจไม่นึกถึง ทั้งนี้เพราะยามเศร้า เครียด จิตใจมักอ่อนแอตามไปด้วย เมื่อได้พึ่งพิงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมผ่อนคลายทำให้ใจสบายขึ้น
ที่จริงการทำจิตให้นิ่งที่สุดก่อนที่จะเผชิญหน้ารับปัญหาที่ก่อกวนจิตใจนั้นสำคัญมาก อย่าให้ใจอ่อนไหวพริ้วอย่างรวดเร็วจนเกินกว่าจะบังคับได้
คนที่เคยฝึกสมาธิ หรือคนที่เชื่อมั่นศรัทธาต่อสิ่งที่กำลังกราบไหว้นั้นอาจตั้งหลักตั้งสติได้เร็วขึ้น พลังจิตเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่มักให้ผลตามที่หวังได้
การทำสมาธิแบบ "อานาปานสติ" กำหนดลมหายใจเข้าออก ภาวนาตามลมหายใจ เมื่อจิตนิ่งไม่วอกแวกคิดเรื่องอื่น จิตก็มีความบริสุทธิ์
การขอพรต้องขออย่างมีสติ ให้รู้ว่าเราเคยทำดีมามากน้อยเพียงใดหรือผู้ที่เราจะขอพรให้นั้นเป็นเช่นไร เพราะกรรมของใครก็ของคนนั้น วิบากกรรมอาจช่วยไม่ได้
สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีมากมาย ถ้านึกไม่ออกยามฉุกเฉินให้ท่องพุทโธ ธัมโม สังโฆ หรือสวดมนต์บทที่ท่องได้
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตายของตนหรือคนใกล้ชิด พึงระลึกว่า อันความตายเป็นธรรมดาที่เกิดกับมนุษย์ทุกผู้คนแต่ขอให้จากไปอย่างสงบ หวังเจอพระนิพพาน
ยามเกิดทุกข์โศกไม่ว่าจากปัญหาใด ไม่ว่ารวดเร็วหรือร้อนแรงเพียงใด ขอให้ตั้งสติให้เร็วที่สุด จิตต้องนิ่งมากที่สุดและเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ค่อย ๆ ฝึกจะทำได้เอง