จอมพลกุมอำนาจการปกครองจอมพลแปลก พิบูลสงครามครองอำนาจยาวนาน
ท้ายสุดพ่ายแพ้แก่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
จอมพลแปลก ต้องลี้ภัยไปอยู่ที่ญี่ปุ่นและเสียชีวิตที่นั่น
ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ ได้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ประชาชาติ “The Nation”
ด้วยพระองค์เล็งเห็นว่า ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยนั้นสื่อสารมวลชนจะเข้ามามีอิทธิพล และช่วยให้ประชาชนเข้าใจเรื่องประชาธิปไตยมากขึ้น
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและถนนราชดำเนินได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์อีกครั้ง ในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 โดยผู้นำประเทศ นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ “
จอมพลถนอม กิตติขจร” ทายาททางการเมืองสายทหารที่สืบทอดอำนาจต่อจากจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
จอมพลถนอม กิตติขจรใช้อำนาจทางสภาผู้แทนราษฎร จนกลุ่มนิสิตนักศึกษาเรียกร้องขอประชาธิปไตยคืน
ความไม่สงบเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รัฐบาลได้ใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามอย่างรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จอมพลถนอม กิตติขจรต้องหนีไปต่างประเทศและกลับเข้ามาเมืองไทยอีกครั้งวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519
วันนี้กลุ่มนิสิตนักศึกษาได้ออกมาประท้วงขับไล่จอมพลถนอม กิตติขจรอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนำไปสู่การทำรัฐประหารสายทหาร นำโดยพลเรือเอกสงัด ชะลออยู่ และปราบปราบกลุ่มนิสิตนักศึกษาด้วยอาวุธร้ายแรง
นี่เป็นจุดเริ่มต้นการปกครองระบอบเผด็จการด้วยอำนาจทหารอีกครั้งหนึ่ง
ที่น่าสงสัย อำนาจทหารจะอยู่กับประเทศไปอีกนานแค่ไหนกันนะ
นับตั้งแต่มีการ
เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย 2475 จนถึงวันนี้ 2568 คงต้องยอมรับว่า ไม่เคยมีคำว่า “ประชาธิปไตย” อย่างแท้จริงในสังคมไทย
ทุกอย่างเป็นเพียงภาพลวงตาซึ่งดูเสมือนจะใช่
ทั้งที่ประกาศโต้ง ๆ ว่าประเทศปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยแต่แท้จริงแล้วมันไม่ใช่
ผู้ที่กุมอำนาจแท้จริงกลับเป็นทหารที่ผลัดกันสืบอำนาจต่อทอดกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า นับได้จนถึงทุกวันนี้
ทหารและอีกหลาย ๆ คนบ่นว่า มองนักการเมืองสิ แต่ละคน มันน่าที่จะให้ทหารยึดอำนาจมั้ยล่ะ
ต่างจิตต่างใจนะ
นักการเมืองบางคน ที่เป็นฝ่ายค้าน เอาแต่ด่ากับด่า คงคิดว่า เป็นฝ่ายค้านมีหน้าที่ต้องด่า ใช้คำ มุสาแท้ ๆ คำหยาบ ส่อเสียด ตามมาเป็นพรวน เอามันส์เข้าว่า พอกลับมาเป็นฝ่ายรัฐบาล เปลี่ยนได้เหมือนจิ้งจก
หรือความหมายของคำว่า “อนุสาวรีย์” จะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ คือเป็นเพียงสิ่งที่สร้างไว้ เป็นที่ระลึกถึงบุคคลหรือเหตุการณ์สำคัญ
ความหมายของคำว่า “ประชาธิปไตย” คือ ระบอบการปกครองที่ถือมติปวงชนเป็นใหญ่ การถือเสียงข้างมากเป็นใหญ่
โดยนัยของความหมายนี้ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คือ สิ่งที่เตือนใจให้คนไทยรุ่นหลังได้ระลึกว่า มีคนกลุ่มหนึ่งพยายามทำให้ประชาชนได้เป็นใหญ่ในแผ่นดินแล้ว ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 เท่านั้น
มันไม่ได้เป็นข้อสัญญาว่า สิ่งที่พยายามทำนั้น ได้ก่อกำเนิดขึ้นและจะดำรงคงอยู่ตลอดไป