❤ SukiYaki - สุกียากี้กระทะร้อนสไตล์ญี่ปุ่น ❤
เมนูกินล้อมวง เป็นการกระชับสัมพันธ์ุภาพของสมาชิกในครอบครัว หม้อไฟสุดโปรดของทุกคนในบ้าน อีกทั้งมิตรสหายของเราด้วยจ้า
สุกียากี้ฉบับญี่ปุ่น
สุกียากี้ญี่ปุ่น เมนูหม้อร้อนที่ทำทานในครอบครัวบ่อยมาก เฉลี่ยเดือนละครั้งน่าจะได้ โดยเฉพาะสุกียากี้น้ำดำแบบนี้สมาชิกที่บ้านชอบมาก ดูจะไม่ปลื้มชาบูชนิดน้ำใสแล้ว
หน้าตาวัตถุดิบในการปรุงน้ำซุปสุกียากี้ในแบบฉบับของญี่ปุ่นก็ตามนี้นะค่ะ ปลาโอแห้งสำหรับทำดาชิ - โชหยุ - สาเกหวาน (มิริน) สาเกญี่ปุ่น น้ำตาลกรวด
สุกียากี้แบบญี่ปุ่น (Japanese SukiYaki) ส่วนประกอบ 1. เนื้อปลาโออบแห้ง 100 กรัม (หาซื้อได้ตามซุปเปอร์ หรือห้างแมคโคร) คัทสึโอะบูชิ (Katsuo bushi) เนื้อปลาโอสไลด์แผ่นบางเฉียบ (ตามภาพ) นำไปอบรมควันจนแห้งสนิท นำมาปรุงเป็นน้ำซุปปรุงอาหารชนิดต่าง ๆ
2. สาหร่ายคอมบุ ไม่มีสาหร่ายคอมบุ ใช้เห็ดหอมแห้งแทนได้ 3. เหล้าสาเก (สาเกญี่ปุ่น)4. เหล้าหวาน (มิริน) Mirin หรือ เหล้าเชอรี่5. น้ำตาลทรายแดง (น้ำตาลทรายโอทึ้ง)6. ซีอิ้วญี่ปุ่น โชหยุ ยี่ห้อ (Kikoman) วิธีปรุงน้ำซุปนำน้ำเปล่า 1.5 ลิตร ใส่ในหม้อ ยกขึ้นตั้งเตาเปิดไฟแรงสุด ปิดฝาหม้อด้วย เมื่อน้ำเดือดแล้วนำเนื้อปลาโอแห้งใส่ลงไป ทิ้งไว้สักพักประมาณสองนาที ใช้กระชอนช้อนเนื้อปลาแห้งออกทิ้ง (เนื้อปลาโอใช้งานต่อไม่ได้แล้วน๊ะ) ปรุงรสด้วย โชหยุ, เหล้าสาเก, เหล้าหวาน (มิริน) น้ำตาลทรายแดง ปรุงน้ำซุปให้ออกรสหวานนำเค็ม โดยรสเค็มจากโชหยุ
หมายเหตุ - ส่วนผสมน้ำซุปนี้ ยังใช้เป็นน้ำซุปตุ๋นหัวปลาซ๊าลม่อน ยังใช้เป็นน้ำซุปราเมงชนิดต่าง ๆ โดยไม่ต้องต้มกระดูกสัตว์ได้อีกด้วย หากไม่มีปลาโอแห้ง (คัททสึโอะบูชิ) ใช้เนื้อปลาแห้งของไทยตัวเล็ก ๆ หรือ ปลาหมึกแห้งชนิดเนื้อหนา(ทำแกงจืด) แทนเนื้อปลาโอแห้งก็ได้
ส่วนใหญ่ใช้เนื้อส่วนสันใน เนื้อใบพาย เนื้อส่วนสันคอวัว เนื้อ(วัว) ส่วนต่าง ๆ เหล่านี้มีความนิ่ม และเนื้อกรอบแบบที่เห็นนี้
จิ้มจุ่มอีกอย่างที่ขาดไม่ได้สำหรับหม้อไฟร้อนแบบนี้ กุ้งสดกรอบ ๆ สาว ๆ ปลื้มกุ้งกรอบของพรานทะเลมากกว่ากุ้งสดตามท้องตลาด
อยากทานอะไรใส่ไป ลูกชิ้นชนิดต่าง ๆ ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลาอีกทั้ง กุ้ง หอย ปู และ ปลา(ทุกชนิด) ชอบอะไรก็ว่ากันไป
ผักสุกี้หลัก ๆ อาทิ หอมใหญ่ - ปวยเล้ง - ต้นหอมญี่ปุ่น ต้นกระเทียมญี่ปุ่น - ผักกวางตุ้งไต้หวัน - ผักกาดหางหงษ์
น้ำจิ้มสุกี้มีให้เลือกตามที่ชอบสองแบบ ซีอิ๊วหวาน ๆ เค็ม ๆ ในแบบญี่ปุ่น และน้ำจิ้มสุกี้แบบกวางตุ้ง ส่วนผสมระหว่างเต้าหู้ยี๊และซอสพริกศรีราชา
ส่วนผสมเพิ่มรสชาติให้กับน้ำจิ้มแบบญี่ปุ่น หัวไชเท้าขูดฝอย ต้นหอมซอย หากคุณโหยหาความแซบ ๆ ก็ต้องมีพริกขี้หนูรสเจ็บแบบไทย และน้ำมะนาว
น้ำจิ้มเทปันยากิ (ปรุงรสชาติแซ่บแบบไทย) Teppanyaki Sauce (สูตร 1)
สูตรโดยคุณบีบี๊ห์@BeebihSociety
ส่วนประกอบ 1. น้ำสะอาด 200 กรัม 2. เนื้อปลาโอแห้ง 50 กรัม 3. ซีอิ้วญี่ปุ่น (โชหยุ) 120 กรัม 4. เหล้าหวาน (มิริน) 120 กรัม 5. น้ำตาลโอทึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ 6. น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ หรือ น้ำตาลมะพร้าว 7. ขิงแก่หั่นแว่น 4 ชิ้น 8. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ หรือแป้งมันฮ่องกง 9. น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับผสมแป้ง)
วิธีทำ ก่อนอื่นต้องทำดาชิ (ซุปปลา) โดยเทน้ำสะอาดใส่หม้อยกขึ้นตั้งไฟแรงปานกลาง รอให้น้ำเดือดใส่เนื้อปลาแห้งลงไป รอให้น้ำเดือดอีกครั้งก็ให้แช่ปลาแห้งในหม้อ แช่ต่ออีกประมาณ 2-3 นาที แล้วช้อนออกทิ้ง จากนั้นน้ำน้ำซุปปลาโอที่ได้นี้ มาปรุงทำเป็นซอสเทปันยากิ / เทอริยากิ ต่อด้วยวิธีการทำตามนี้นะค่ะ 1. นำส่วนผสมทั้งหมดข้างต้นใส่หม้อน้ำซุป (ยกเว้นแป้งข้าวโพด) เปิดไฟกลางๆ เมื่อซอสเดือดจึงใส่ขิงแก่หั่นแว่น ใส่เหล้าหวาน (มิริน) ใส่น้ำตาลทั้งสองชนิด (น้ำตาลปีบให้รสชาติแบบไทย) รอให้ซอสเดือดอีกครั้ง หรี่ไฟอ่อน เคี่ยวจนซอสข้น
2. นำแป้งข้าวโพดหรือแป้งมันฮ่องกงใส่ในถ้วย ผสมน้ำเปล่า คนผสมให้เข้ากัน ค่อย ๆ รินแป้งใส่ไปในน้ำซอส เทแล้วต้องคนเร็ว ๆ อย่าให้แป้งจับตัวเป็นก้อน คนจากก้นหม้อขึ้นมาไม่เช่นนั้นแป้งนอนก้น ใส่แป้งเพื่อให้ซอสมีความข้นเหนียว เมื่อนำไปราดลงบนอาหารชนิดต่าง ๆ ซอสจะไม่เหลวและไหลไปกองที่ก้นจาน
3. นำเนื้อสัตว์ปิ้งย่างต่างๆ เรียงในจาน ราดซอสเทปันยากิ ยกเสิร์ฟพร้อมผักย่าง
TeppanyakiSauce (สูตร 2)
สูตรโดยคุณบีบี๊ห์@BeebihSociety
ส่วนประกอบ 1. น้ำสะอาด 1/4 ถ้วยตวง 2. ซีอิ้วญี่ปุ่น 1/2 ถ้วยตวง 3. เหล้าหวาน (มิริน) 1/2 ถ้วยตวง 4. เหล้าสาเกปรุงอาหาร 1 ช้อนชา 5. น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ (น้ำตาลโอทึ้ง) 6. ขิงแก่สดหั่น 3-5 แว่น
หมายเหตุ * น้ำสะอาด (ฉันใช้น้ำซุปปลา โดยนำเนื้อปลาแห้งมาต้มให้เดือด) * น้ำตาลทรายแดง (ฉันใส่น้ำตาลโอทึ้ง) * ปรุงเสร็จกรองด้วยกระชอนก่อนเพื่อให้ได้น้ำซุปที่ใสมาก
* ทำดาชิ (น้ำซุปปลา) โดยเทน้ำเปล่าใส่ในหม้อ ยกขึ้นตั้งเตาไฟปานกลาง เมื่อน้ำเดือดใส่เนื้อปลาแห้ง ปล่อยทิ้งให้เดือดสักสองนาทีแล้วช้อนออกทิ้ง
* นำน้ำซุปปลาที่ได้ตั้งเตาไฟปานกลาง เมื่อส่วนผสมเดือดจึงใส่ขิงหั่นแว่นลงไป ใส่เหล้าหวาน(มิริน) น้ำตาลทราย (ฉันใส่น้ำตาลสองชนิด น้ำตาลทรายแดง 2 ชต.) น้ำตาลมะพร้าว 2 ชต. (ให้ได้รสชาติแบบไทย)ใส่ส่วนผสมครบถ้วนแล้วเคี่ยวต่อ เพื่อให้น้ำซอสมีความเข้มข้น เปิดไฟอ่อน ๆไม่เช่นนั้นจะเดือดล้นออกนอกหม้อ
* เมื่อได้ซอสที่เข้มข้นพักให้เย็น(ใช้งานไม่หมดควรใส่ภาชนะที่ผ่านการอบฆ่าเชื้อ) นำเก็บเข้าตู้เย็นเพื่อให้เก็บได้นาน ควรตักน้ำซอสด้วยช้อนแห้ง ๆเพื่อคงคุณภาพ
จัดเตรียมหม้อต้มให้พร้อม....เตรียมลุย
ชอบเนื้อสัตว์แบบใดก็ว่ากันไป
หัวหอมใหญ่ให้ความหวาน ทำให้น้ำซุปหอมด้วย
ตักใส่ถ้วย พร้อมรับประทาน
ชอบเนื้อสัตว์ชนิดใดก็ว่ากันไป ลูกชิ้นชนิดต่าง ๆ ตัวฉันเองชอบทานฮ่อยจ๊อไก่(ซีพี) เอาใส่เข้าไปด้วย
เนื้อ เนื้อ เนื้อ พวกเด็กน้อยชอบทานเนื้อ(วัว) มากมาย
จำได้ว่าสมัยก่อนตอนทำหม้อไฟชนิดนี้ ยังไม่เป็นที่รู้จักของชาวไทยมากนัก ฉันโพสกระทู้ในพันทิพ(ห้องก้นคริว) เป็นที่ฮือฮามาก เพราะในช่วงสมัยนั้น ร้านสุกี้ร้านดังในบ้านเราเขาก็ทำสุกี้ชาบูชนิดน้ำใส ไม่มีน้ำข้นสีคล้ำแบบนี้
ทุกวันนี้มีหลายร้านที่เสิร์ฟสุกี้ชาบูน้ำดำแบบนี้ (แบบฉบับของชาวญีปุ่น) ซึ่งร้านดังในเมืองไทยก็ทำออกมาให้ผู้คนได้ชิมกันแล้ว แต่ฉันไม่เคยกิน เพราะตั้งแต่มีสูตรน้ำจิ้มสุกี้ชาบูทั้งสองชนิดเป็นสมบัติส่วนตัว เป็นของตัวเอง ร้านดัง ๆ หรือร้านสุกี้ร้านใดก็ตาม ไม่เคยได้กินเงินฉันอีกเลย ภูมิใจมากมาย
Create Date : 16 เมษายน 2553 |
|
6 comments |
Last Update : 4 มีนาคม 2561 20:14:05 น. |
Counter : 10753 Pageviews. |
|
|
|