Bloggang.com : haiku :

เสพงานศิลป์ ๑๑๓

ภาพจากเวบ deviantart.com


	"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ บางสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย ในงานศิลปของฉัน ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี

Romance - Yuhki Kuramoto

"'โขน' มรดกเลอค่าที่ 'คนไทย' ไม่ควรพลาดชม!!”

“โขน” เป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยที่มีความสง่างาม อลังการและอ่อนช้อย ทั้งยังมีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จากหลักฐาน “จดหมายเหตุลาลูแบร์” เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสใน “สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช” ได้มีการกล่าวถึงการแสดงโขนว่า เป็นการเต้นออกท่าทาง ประกอบกับเสียงซอและเครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ ผู้แสดงจะสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าตนเองและถืออาวุธ “โขน” ถือเป็นจุดศูนย์รวมของศาสตร์และศิลป์หลากหลายแขนงเช่น วรรณกรรม, วรรณศิลป์, นาฏศิลป์, คีตศิลป์, หัตถศิลป์

และนี่ก็นับเป็นโอกาศดีที่โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง เฉลิมฉลอง ๘๑ ปี มูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง จึงจับมือร่วมกับ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เชิญชมสุดยอดแห่งศิลปะการแสดงชั้นสูง โขน~ศาลาเฉลิมกรุง ชุด“หนุมาน” รอบพิเศษ โดยได้รับเกียรติจาก คณะทูตานุทูต เข้าชมการแสดงโขน ศุกร์ที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ รอบ ๑๙.๓o น. ณ โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง เชื่อได้ว่างานนี้ต่างชาติที่มีโอกาศได้ชมต้องตะลึง!! ทั้งหมดนี้เพื่อเป็นการเพื่อเผยแพร่นาฏศิลป์ชั้นสูงของไทยสู่สายตาประชาคมโลก ให้ได้สัมผัสกลิ่นอายของนาฏยกรรมไทย ซึ่งกำกับการแสดงโดย ศุภชัย จันทร์สุวรรณ์ ศิลปินแห่งชาติ ให้เป็นผู้ถ่ายทอดผ่านการแสดงอันวิจิตรงดงามตระการตา พร้อมด้วยเทคนิคพิเศษที่นำมาผสมผสานจนเป็นการแสดงที่วิจิตรงดงามอลังการหาชมยากยิ่ง

และเพื่อเป็นการมอบเความสุขให้แก่ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาเยือน สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวการแสดงโขนในครั้งนี้จึงมีคำบรรยายภาษาอังกฤษประกอบตลอดการแสดง โดยมีการดำเนินเรื่องราวสั้นกระชับ ด้วยการพากย์-เจรจาและเพลงหน้าพาทย์แบบโบราณ พร้อมด้วยเทคนิคพิเศษเพื่อการแสดงในโอกาสนี้โดยเฉพาะ โดยมุ่งเน้นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของโขน แต่ยังคงรักษาอัตลักษณ์เดิมไว้อย่างครบถ้วน !!

ย้อนกลับไปในอดีต การแสดง โขน~ศาลาเฉลิมกรุง เริ่มเปิดการแสดงมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๘ จัดแสดงมาอย่างต่อเนื่อง ณ โรงมหรสพหลวง ศาลาเฉลิมกรุง โดยการคัดเลือกผู้แสดงซึ่งเป็นนักเรียน นักศึกษาจากหลากหลายสถาบันชั้นนำกว่า ๑oo คน ที่มีความสามารถทางด้านนาฏศิลป์โขน เข้ามาฝึกฝนทางด้านนาฏศิลป์ชั้นสูง ภายใต้การฝึกซ้อมของ คณะครูและผู้เชี่ยวชาญจาก วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์

ซึ่งการแสดงรอบปกติจัดแสดงทุกวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ (โปรโมชั่นพิเศษ…ชมฟรี! สำหรับเด็กอายุไม่เกิน ๑๒ ปี /นักเรียน-นักศึกษา แสดงบัตรประจำตัวรับส่วนลดราคาพิเศษ ๒oo บาท, ผู้สูงอายุ ๖๕ ปีขึ้นไปแสดงบัตรประจำตัวประชาชนรับส่วนลดราคาพิเศษ ๒oo บาท, ผู้สูงอายุ ๖o - ๖๔ ปี แสดงบัตรประจำตัวประชาชนรับส่วนลด ๕o% ของราคาบัตร ) จำหน่ายบัตรแล้วที่ศาลาเฉลิมกรุง โทร.o-๒๒๒๔-๔๔๙๙ และไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือ thaiticketmajor.com โทร.o-๒๒๖๒-๓๔๕๖

นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจในการสืบสานวัฒนธรรมที่คนไทยไม่ควรพลาดชม!!สักครั้งในชีวิต

ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com
muangthai.com

"HOPE”

“ทำไมผมถึงทำงานศิลปะหรือ…สำหรับผมมันคือพลังหรือแรงผลักดัน เป็นความอยากเป็นแรงปรารถนาที่อยู่ภายในตัวเราทุกคนน่ะ” เฮนรี่ ลามี คือชายหนุ่มที่กำลังได้รับการกล่าวขาน และเป็นจิตรกรที่น่าจับตาที่สุดในชั่วโมงนี้ ที่สำคัญเขากำลังจะนำสายตาสุนทรียศิลป์อันเฉียบคมของเขามาสู่กรุงเทพฯ ด้วยการเปิดตัวนิทรรศการที่น่าตื่นเต้นครั้งแรกในเมืองไทยที่ชื่อ ‘ความหวัง’

นิทรรศการ ‘ความหวัง’ เกิดจากการถักทอ ผสมผสานความงามที่เรียบง่าย และความมากชีวตชีวาของประเทศไทยเข้าด้วยกัน ทั้งหมดถูกจับมารวมกันและถ่ายทอดออกมาทางใบหน้าหรือภาพพอร์ตเทรต จากรูปเคารพศักดิ์ศิทธิ์ บุคคลที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย สู่ภาพแบบโปสการ์ดที่เราเห็นกันทุกวี่วัน ระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนในกรุงเทพฯ แต่เฮนรี่กลับสามารถสรรค์สร้างผลงานของตัวเองได้อย่างน่าทึ่ง โดยผสานความช่างคิด ความซุกซน เข้ากับไหวพริบอันชาญ

ด้วยอาวุธคู่ใจอย่างเกรียงและเพลงแร็ปฝรั่งเศส เฮนรี่ ลามี กำลังปฏิบัติภาระกิจสื่อภาพที่เขาอยากถ่ายทอดออกมา ราวกับนักพยากรณ์ ที่พินิจพิจารณาหยิบเรื่องราวรอบตัวมาถ่ายทอด ใช่แค่ว่าทำความเข้าใจกับมัน หากแต่เป็นการมองอย่างลึกซึ้งมากกว่า

สีสันของเขาเฉียบคม เร่าร้อน และฉับไว เฉกเช่นอารมณ์ของเขา จากสีขาวขุ่นมัว และสีเทาที่เป็นปื้นๆ แบบพิกเซลของภาพ ‘Through the Pixels of Cognition’ และ ‘Somdet Phra Sangkharat’ ไปสู่สีเหลืองที่กลายเป็นเฉดสีฟ้า ชมพู และแดง ของ ‘From the Horse to the Spikes’, ‘Palette Knife’ และ ‘Pae Arak’ ลามีจับภาพ ณ ขณะนั้นเอาไว้ แล้วแสดงความรู้สึกผ่านออกมาทางดวงหน้า ซึ่งเป็นหน้าต่างอารมณ์ของเราทุกคน เป็นการสเก็ตช์เราให้เข้าไปอยู่ในโลกของเขา โฉมหน้าหลายหลาก เขาพาเราเดินทางท่องเข้าไปในโลกของเราเองและในมุมของเราเอง และภาพอย่าง ‘Supreme Phra Phikanet’ และ ‘Oh My Buddha’ ก็เป็นการสืบค้นลงไปในเรื่องของศาสนาหรือจิตวิญญาณ

นิทรรศการ : ความหวัง
ศิลปิน : เฮนรี่ ลามี
วันที่ : ๒๕ มิถุนายน – ๓o สิงหาคม ๒๕๕๗ ณ Modern Gallery ศูนย์การค้า O.P. Garden
และ ๒๕ มิถุนายน – ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ณ โรงแรม Sofitel So Bangkok
สถานที่ : Modern Gallery ศูนย์การค้า O.P. Garden และ โรงแรม Sofitel So Bangkok
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ : o๒-๒๓๘-๖๔๔๙
อีเมล : nawintanan@gmail.com

ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com

"จินตนาการ สืบสาน วรรณกรรมไทยกับอินทัช ปีที่ ๖”

โครงการที่กระตุ้นให้เยาวชนไทยร่วมรณรงค์ ส่งเสริม และสืบสานตัวละครต่าง ๆ ในวรรณกรรมไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านบทประพันธ์ในรูปแบบของร้อยแก้ว ร้อยกรอง โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ผนวกกับจินตนาการของตนเองหลังจากได้อ่านบทวรรณกรรมนั้น ๆ ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพวาดตัวละครตามจินตนาการของตนเอง ซึ่งตลอด ๔ ปีที่ผ่านมามีเยาวชนส่งผลงานเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น ๗,๑๐๖ ผลงาน

และในปีที่ ๕ นี้เป็นปีมหามงคลแห่งการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา ซึ่งตลอดระยะเวลาแห่งการครองราชย์พระองค์ท่านทรงเป็นผู้ให้ที่แท้จริง ทรงทุ่มเทพระวรกายในการทรงงานหนัก เพื่อพสกนิกรของพระองค์ ดังจะเห็นได้จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่าง ๆ เพื่อให้ปวงชนชาวไทยได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขใต้ร่มพระบารมี

ดังนั้น เพื่อเป็นการร่วมเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน ระลึกถึงพระราชกรณียกิจ และพระปรีชาสามารถในด้านต่าง ๆ ทางอินทัชจึงได้จัดทำโครงการต่อเนื่อง โดยส่งเสริมให้เยาวชนอ่านหนังสือพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือวรรณกรรมไทยอื่น ๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการให้ทั้งในมุมของผู้ให้และผู้รับ แล้วถ่ายทอดสิ่งที่อ่านเป็นภาพวาดในหัวข้อ “ ความสุขจากการให้ ” เพราะนอกจากความรู้ที่เยาวชนได้รับจากการอ่านวรรณกรรมไทยแล้ว ยังสามารถนำข้อคิดที่ได้ไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตได้อีกด้วย

คลิกดูกติกาและรายละเอียดได้ที่นี่ เฟซบุค Intouchwanakam

ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค Intouchwanakam
เฟซบุค intouchstation

"Tik Shiro’s DNA”

กลับมาอีกครั้งกับการแสดงนิทรรศการเดี่ยวของศิลปิน นักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงมากความสามารถ ในบทบาทของผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะกับนิทรรศการ “Tik Shiro’s DNA” โดย มนัสวิน นันทเสน หรือ ติ๊ก ชีโร่

ด้วยแนวความคิดเกี่ยวกับการทำงานศิลปะทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลา (Art everyday) ผสมผสานกับการนำผลงานจิตรกรรมและวาดเส้นชิ้นเล็ก ๆ แบบงานเขียนที่ระลึกของเพื่อนศิลปินที่เขาได้พบปะปฏิสัมพันธ์ มาสร้างสรรค์เป็นงานศิลปะแบบปะติดชิ้นใหม่ที่มีความหมายลึกซึ้งมากยิ่งไปกว่าเดิม พร้อมด้วยการสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมชุดใหม่ และผลงานจิตรกรรมที่มีเศษเส้นผมของ ติ๊ก ชีโร่ ปะปนอยู่ในชิ้นงานในฐานะตัวแทนแห่งรหัสพันธุกรรม (DNA)

พิธีเปิดนิทรรศการมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.๓o น.

นิทรรศการ : “Tik Shiro’s DNA”
ศิลปิน : มนัสวิน นันทเสน (ติ๊ก ชีโร่)
วันที่ : ๗ สิงหาคม – ๑๔ กันยายน ๒๕๕๗
สถานที่ : อาร์เดลเธิร์ดเพลส แกลเลอรี (สุขุมวิท ๕๕ ทองหล่อซอย ๑o)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล โทร : o๒-๔๒๒-๒o๙๒
เว็บไซต์: //www.ardelgallery.com

ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com

"นิทรรศการศิลปะ ‘Mother Value of the Adorable Person’”

เดอะ เซ้นส์ ปิ่นเกล้า ร่วมกับมหาวิทยาลัยศิลปากรและสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ขอเชิญชม โครงการนิทรรศการศิลปะจากงานวิจัยศิลปกรรมศาสตร์ และงานสร้างสรรค์เชิงวิชาการเรื่อง ‘แม่คุณค่าของบุคคลที่รัก’ โดยศิลปินและนักวิจัย: นางสาวลูกปลิว จันทร์พุดซา

ลูกปลิว จันทร์พุดซา ศิลปินระดับรางวัลกล่าวถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานว่า เพราะความรักของแม่ที่มีต่อลูกนั้นเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ไพศาลสายสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างแม่และลูกเกิดการสืบทอดวัฒนธรรมในการดำเนินชีวิตที่งดงามและสมบูรณ์จากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่เกิดจนตายและสืบทอดไปโดยไม่ขาดสายเผื่อแผ่ออกสู่โลกกว้างจนกลายเป็นความรักที่มีค่ามากเกินกว่าความรักระหว่างแม่กับลูกแต่เป็นความรักของแม่แด่คนทั้งโลก

แต่ท่ามกลางความเจริญก้าวหน้าของโลกยุคปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในด้านต่างๆของสังคมไทยเป็นอย่างมากสายสัมพันธ์อันใกล้ชิดในครอบครัวซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดโดยเฉพาะระหว่างแม่กับลูกมีอันต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เคยยึดถือบุพการีเป็นบุคคลที่เคารพบูชาเป็นที่พึ่งทางใจกลับให้คุณค่ายกย่องบุคคลที่มีชื่อเสียงมีความรู้หรือความล้ำสมัยของระบบการสื่อสารที่รวดเร็วฉับไวของอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ทำให้ความรักความอบอุ่นและสายใยระหว่างแม่และลูกก็เป็นอันต้องขาดหายไป

ด้วยด้วยเหตุนี้ตนเองจึงต้องการแสดงคุณค่าของบุคคลที่รักมิติของเวลารักแท้ที่เป็นอมตะบริสุทธิ์ และยั่งยืนจินตนาการผ่านรูปทรงสามมิติมีการสื่อสารผ่านประสบการณ์ร่วมกันโดยมีตัวกลางคือภาษาทางประติมากรรมด้วยเหตุผลที่ว่างานประติมากรรมมักจะเข้าถึงผู้ชมได้มากกว่าศิลปะแขนงอื่นเพราะศักยภาพของงานประติมากรรมนั้นกว้างขวางสามารถติดตั้งได้ทุกหนทุกแห่งทั้งในอาคารและนอกอาคารป่าเขาลำเนาไพรเพราะฉะนั้นการที่จะนำศิลปกรรมเข้าไปร่วมกับวิถีชีวิตของมนุษย์ประติมากรรมจึงเป็นประเภทของงานศิลปะที่เหมาะสมที่สุดที่จะนำมาสร้างสรรค์ผลงานไม่ว่าจะเป็นการสร้างเพื่อรำลึกหรือสร้างเพื่อชื่นชมสุนทรียะเจตนาของศิลปินต้องการใช้รูปแบบประติมากรรมแทนความเป็นแม่เพื่อให้ผู้ชมแทนความเป็นลูกเข้าไปมีส่วนร่วมภายในผลงานจำลองพื้นที่บรรยากาศเวลาให้เกิดปฏิสัมพันธ์ร่วมกันทางความรู้สึกความคิดและจินตนาการร่วมกันเป็นเป้าหมายของการจัดนิทรรศการซึ่งศิลปินหวังว่าผลงานประติมากรรมจะช่วยสร้างสุนทรียะให้กับคนในสังคมและเป็นสื่อกลางในการสร้างสายสายสัมพันธ์อันดีระหว่างระหว่างบุคคลที่รักและช่วยปลูกจิตสำนึกให้แก่คนในสังคมได้รำลึกนึกถึงพระคุณของบุพการีและหวนคิดถึงคุณค่าที่แท้จริงของมนุษย์ในนิทรรศการ“แม่คุณค่าของบุคคลที่รัก”

โอกาสพิเศษ!!!! เชิญร่วมพบศิลปินในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.oo น.ณ บริเวณลานกิจกรรม ชั้น G เดอะ เซ้นส์ ปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี กรุงเทพฯโดยได้รับเกียรติจาก ศาสตรเมธีนนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการศิลปะ ‘Mother Value of the Adorable Person - แม่คุณค่าของบุคคลที่รัก’ ที่ลานนิทรรศการ เดอะ เซ้นส์ ปิ่นเกล้าพร้อมทั้งจะมีการแสดงการร้องเพลงกล่อมลูกพื้นถิ่นโคราช โดยแม่ลูกชิ้น อักษรพรมราช

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทร.o๒-๔๓๔-๑๖๘๑ หรือเยี่ยมชม เฟซบุค thesensebkk

ภาพและข้อมูลจากเวบ
บล็อกคุณเมืองสีเขียว

"พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จัดอบรมกระดาษมหัศจรรย์”

ระหว่างวันที่ ๕-๖ กรกฎาคม พิพิธภัณฑ์เกษตร เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัดงานตลาดนัดเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้แนวคิด "เกษตรมิติใหม่" โดยมีกิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจ อาทิ การจัดอบรม "กระดาษมหัศจรรย์" ศิลป์จากกระดาษ Thai Paper Art เอาใจคนรุ่นใหม่ที่รักงานศิลปะ นอกจากนั้นเปิดอบรมเชิงปฏิบัติการ ๔ วิชา ได้แก่ น้ำมันเหลืองแก้ปวดเมื่อย ปุ๋ยมัชฌิมา อาหารเป็ด และเทคนิคการขยายพันธุ์พืช

ตามที่ พกฉ. ได้เปิดอบรมเรื่อง “กระดาษมหัศจรรย์” วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ฯ ๑ จำนวน ๔o ที่นั่ง แบ่งเป็นรับสมัครทางเว็บไซต์ ๒o ที่นั่ง และลงทะเบียนที่หน้าห้องอบรม ๒o ที่นั่ง นั้น ได้มีผู้สนใจเข้าร่วมอบรมเรื่อง “กระดาษมหัศจรรย์” เป็นจำนวนมาก พกฉ. จึงได้ขยายจำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้นและได้ปรับย้ายห้องอบรม เป็นอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ๒ ห้องพระคุณพ่อ ๑ เพื่อรองรับจำนวนผู้ที่เข้าร่วมอบรม ให้มากขึ้น

ขณะนี้กิจกรรม “กระดาษมหัศจรรย์” การสำรองที่นั่งทางเว็บไซต์ เหลือจำนวนที่นั่งอีกเพียง ๑๑ ที่นั่ง เท่านั้น!! สำหรับผู้ที่สมัครผ่านทางเว็บไซต์ กรุณานำบัตรประชาชนมายืนยัน พร้อมรับบัตรประจำตัวผู้เรียน ณ จุดลงทะเบียน อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ๒ ห้องพระคุณพ่อ ๑ ตั้งแต่เวลา ๑๒.oo – ๑๒.๓o น. หากเกินเวลาจะถือว่าท่านสละสิทธิ์

++สำหรับจำนวนที่นั่งอีก ๔o ที่นั่ง ผู้ที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ ให้มาลงทะเบียนหน้าห้องฝึกอบรมอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ๒ ห้องพระคุณพ่อ ๑ ในวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๑๒.๓o – ๑๓.oo น. รับจำนวนจำกัด

***อนึ่งการเรียนรู้ครั้งนี้ นั่งเรียนและฝึกหัดบนพื้น (ไม่ใช้โต๊ะเก้าอี้) กรุณาแต่งกายให้เหมาะสม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.o-๒๕๒๙-๒๒๑๒-๑๓, o๘-๗๓๕๙-๗๑๗๑ //www.wisdomking.or.th เฟซบุ๊ก แฟนคลับพิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ หรือไลนก์อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ wisdomkingfan

ภาพและข้อมูลจากเวบ
ryt9.com
เฟซบุค Thaipaperart
เฟซบุคแฟนคลับพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ

"ประกวดศิลปกรรม "นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต" ครั้งที่ ๒๖”

กลุ่มบริษัทโตชิบา ประเทศไทย ขอเชิญส่งผลงานเข้าประกวดศิลปกรรม "นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต" ครั้งที่ ๒๖ ประจำปี ๒๕๕๗ เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างสรรค์ศิลปะทุกระดับอย่า่งต่อเนื่อง และนำไปสู่การพัฒนาศิลปะของไทยให้ก้าวหน้า กว้างขวางออกไปในทุกท้องที่ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการ "นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต" ในการจัดประกวดครั้งนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจาก กรมศิลปากร พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติหอศิลป ถนนเจ้าฟ้า หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลป์ยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี

๑. หัวข้อของการประกวด

กำหนดแนวเรื่องตาคำขวัญของบริษัทโตชิบา ที่ว่า “นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” โดยเปิดโอกาสให้ผู้ส่งผลงานได้ใช้จินตนาการอย่างกว้างขวางตามความคิดสร้าง สรรค์อิสระ เพื่อชี้นำจรรโลกคุณภาพชีวิต และสังคม โดยไม่จำเป็นต้องมีความเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์โตชิบาแต่อย่างใด

๒. ประเภทศิลปกรรม

งานสร้างสรรค์ด้านทัศนศิลป์ อันได้แก่

๒.๑ ระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา ได้แก่ ภาพเขียน ภาพพิมพ์ และ วาดเส้น
๒.๒ ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้แก่ งานจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ สื่อผสม และอื่น ๆ

๓. ผู้ส่งผลงานเข้าประกวด

ผู้ส่งผลงานจะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย และมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย จึงมีสิทธิส่งผลงานที่ทำขึ้นด้วยฝีมือ และความคิดของตนเข้าประกวด ผลงานนั้นจะต้องไม่เคยนำออกแสดง และประกวด ณ ที่ใดมาก่อน

๓.๑ ระดับอนุบาลและประถมศึกษาตอนต้น (ป.๑ – ป.๓)
๓.๒ ระดับประถมศึกษาตอนปลาย (ป.๔ – ป.๖)
๓.๓ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.๑ – ม.๓)
๓.๔ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.๔ – ม.๖)
๓.๕ ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป

๔. การส่งผลงานเข้าประกวด

๔.๑ ระดับอุนบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา ส่งผลงานได้ไม่จำกัดจำนวน ขนาดความกว้างและขนาดความยาวไม่ต่ำกว่า ๑๕×๒๒ นิ้ว และไม่เกิน ๒๒×๓o นิ้ว ทั้งนี้ไม่รวมกรอบหรือฐาน ผู้ส่งจะต้องแจ้งชื่อ นามสกุล อายุ ชั้นเรียน และโรงรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในปัจจุบัน พร้อมการลงนามรับรองจากอาจารย์ใหญ่หรือผู้อำนวยการ พร้อมด้วยสำเนาบัตรประชาชน (รับรองสำเนาถูกต้อง) ๑ ฉบับ ส่งผลงานได้ที่ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เลขที่ ๒o๑ ถนนวิภาวดีรังสิต จตุจักร กรุงเทพฯ ๑o๙oo โทร. o๒-๕๑๑-๗๙๙๙ ไม่เว้นวันหยุดราชการ อาจส่งด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ กำหนดวันสุดท้ายของการส่งผลงาน พิจารณาจากการประทับตราไปรษณีย์ต้นทางเป็นสำคัญ

๔.๒ ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป ส่งผลงานสร้างสรรค์ด้านทัศนศิลป์ ได้ไม่เกิน ๒ ชิ้น ไม่จำกัดเทคนิค โดยส่งผลงานศิลปกรรมทุกประเภทมีขนาด กว้าง ยาว สูง แต่ละด้านไม่เกิน ๒ เมตร (ไม่รวมกรอบและฐาน) ผู้ส่งจะต้องแจ้งชื่อ นามสกุล ที่อยู่ และรายละเอียดอื่นๆ ลงในแบบพิมพ์ที่กำหนดให้ พร้อมด้วยสำเนาบัตรประชาชน (รับรองสำเนาถูกต้อง ๑ ฉบับ) ผลงานที่ส่งต้องอยู่ในสภาพเรียบร้อยเหมาะสมที่จะติดตั้ง สำหรับงานประติมากรรมและงานที่มีการติดตั้งพิเศษ ผู้ส่งจะต้องมาดูแลการติดตั้งด้วยตัวเอง ผลงานที่ได้รับรางวัล บริษัทฯ จะนำไปจัดแสดงศิลปสัญจร ยังต่างจังหวัดด้วย

ศิลปินสามารถส่งผลงานที่ได้ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด และศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวัง สนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม

คณะจัดงานจะระมัดระวังรักษาผลงานที่เข้าประกวดอย่างดีที่สุด แต่จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่เกิดความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วยเหตุสุดวิสัย

๕. กำหนดการดำเนินงาน

การส่งงาน ๑๕ – ๓๑ กรกฏาคม ๒๕๕๗
- บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด
ถนนวิภาวดี รังสิต โทร. o๒-๕๑๑-๗๑o-๑๒

๑ – ๕ สิงหาคม ๒๕๕๗
- ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติฯ
มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ (ในเวลา ๑o.oo – ๑๖.oo น.)
จังหวัดนครปฐม โทร. o๓๔-๒๗๓-๓o๑ และ o๘๕-o๘๗-๙๓๙๗

๑๕ – ๓๑ กรกฏาคม ๒๕๕๗
- หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
จังหวัดเชียงใหม่ โทร. o๕๓-๒๑๘-๒๘o

การตัดสิน ๙ สิงหาคม ๒๕๕๗
การประกาศผล ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗
การมอบรางวัลและพิธีเปิดนิทรรศการ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
สถานที่จัดนิทรรศาการ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า

หมายเหตุ : ประติมากรรมทุกชิ้น ให้ส่งที่ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม

๖. รางวัลเกียรติคุณ
โล่รางวัลเกียรติคุณพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

๖.๑ ระดับอนุบาลและประถมศึกษา (ป.๑ – ป.๓)
รางวัลยอดเยี่ยม ๑ รางวัล เงินรางวัล ๕,ooo บาท
รางวัลดีเด่น ๑o รางวัล เงินรางวัล ๓,ooo บาท
รางวัลพิเศษ ๑o รางวัล (รางวัลผลิตภัณฑ์ โตชิบา)

๖.๒ ระดับประถมศึกษาตอนปลาย (ป.๔ – ป.๖)
รางวัลยอดเยี่ยม ๑ รางวัล เงินรางวัล ๕,ooo บาท
รางวัลดีเด่น ๑o รางวัล เงินรางวัล ๔,ooo บาท
รางวัลพิเศษ ๑o รางวัล (รางวัลผลิตภัณฑ์ โตชิบา)

๖.๓ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.๑ – ม.๓)
รางวัลยอดเยี่ยม ๑ รางวัล เงินรางวัล ๕,ooo บาท
รางวัลดีเด่น ๑o รางวัล เงินรางวัล ๔,ooo บาท
รางวัลพิเศษ ๑o รางวัล (รางวัลผลิตภัณฑ์ โตชิบา)

๖.๔ มัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.๔ – ม.๖ และอาชีวศึกษา)
รางวัลยอดเยี่ยม ๑ รางวัล เงินรางวัล ๕,ooo บาท
รางวัลดีเด่น ๑o รางวัล เงินรางวัล ๔,ooo บาท
รางวัลพิเศษ ๑o รางวัล (รางวัลผลิตภัณฑ์ โตชิบา)

๖.๕ ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป
รางวัลยอดเยี่ยม ๑ รางวัล เงินรางวัล ๑oo,ooo บาท
รางวัลดีเด่น ๑o รางวัล เงินรางวัล ๓o,ooo บาท
รางวัลพิเศษ ๑o รางวัล (รางวัลผลิตภัณฑ์ โตชิบา)

ผลงานของผู้ส่งเข้าประกวดมีสิทธิ์ได้รับรางวัลสูงสุดรางวัลเดียวเท่านั้น

หมายเหตุ

๑. รางวัลทุกระดับไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือโอนให้ผู้อื่น บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของรางวัล ระยะเวลาและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
๒. สำหรับระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไปที่ได้รับรางวัลมูลค่า ๑,ooo บาทขึ้นไป จะต้องชำระภาษี ณ ที่จ่าย ๕ %

๗. คณะกรรมการ

คณะกรรมการคัดเลือก และตัดสินระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา
ประธานกรรมการ : อ.ธงชัย รักปทุม (ศิลปินแห่งชาติ)
กรรมการ : อ.เทพศิริ สุขโสภา, อ.สมวงศ์ ทัพพรัตน์, อ.สังคม ทองมี, อ.ดร.ผดุง พรมมูล
และ อ.สมศักดิ์ รักษ์สุวรรณ
เลขานุการ : คุณวัยวัฒน์ งามสิงห์

คณะกรรมการคัดเลือก และตัดสินระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป
ประธานกรรมการ : ศาสตราจารย์กิตติคุณกำจร สุนทรพงษ์ศรี
กรรมการ : ศาสตรเมธีนนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน (ศิลปินแห่งชาติ), ศาสตราจารย์เกียรติคุณ
อิทธิพล ตั้งโฉลก (ศิลปินแห่งชาติ), ศาสตราจารย์พิษณุ ศุภนิมิตร,
ศาสตราจารย์ปรีชา เถาทอง (ศิลปินแห่งชาติ), อาจารย์สมศักดิ์ เชาว์ธาดาพงศ์,
อาจาย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ (ศิลปินแห่งชาติ),ศาสตราจารย์วิโชค มุกดามณี
(ศิลปินแห่งชาติ), ศาสตราจารย์ถาวร โกอุดมวิทย์, ผู้อำนวยการหอศิลป์
มหาวิทยาลัยศิลปากร
เลขานุการ : อ.วีรเดช พนมวัน ณ อยุธยา

ผลการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่ยุติและอุทธรณ์ไม่ได้

๘. กรรมสิทธิ์ของงานที่ได้รับรางวัล

ผลงานที่ได้รับรางวัลจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกลุ่มบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด โดยสะสมไว้เป็นสมบัติของบริษัทฯ และติดตั้งไว้อย่างสมเกียรติ (ยกเว้นรางวัลพิเศษในระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป จะจัดคืนให้ศิลปินภายหลังการจัดแสดงนิทรรศการ)

๙. การรับงานคืน

๑. ผลงานที่ไม่ได้รับคัดเลือกแสดง
๑.๑ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร ๑๓ – ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๗
วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม (เว้นวันหยุดราชการ)
๑.๒ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ๒o สิงหาคม – ๓o กันยายน ๒๕๕๗ (เว้นวันหยุดราชการ)

๒. ผลงานรางวัลพิเศษและผลงานร่วมแสดงระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป
รับงานคืนได้ในเวลา ๙.oo – ๑๖.oo น. ในวันทำการ ณ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด
หากไม่มารับคืนภายในเวลาที่กำหนดให้ถือว่า เจ้าของผลงานสละสิทธิ์ความเป็นเจ้าของผลงานนั้น ซึ่งคณะกรรมการจะดำเนินการตามที่เห็นสมควรต่อไป เช่น อาจจะนำงานบางส่วนหรือทั้งหมด มอบให้แก่ส่วนราชการ โรงเรียน หรือองค์กรสาธารณกุศลอื่น เป็นต้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

- หอศิลป์สนามจันทร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร (พระราชวังสนามจันทร์) โทร. o๓๔-๒๗๓-๓o๑
//www.art-center.su.ac.th และ เฟซบุค Art Center ม.ศิลปากร
- ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร. o๒-๕๑๑-๗๗๑o-๑๒

ดาวน์โหลดใบสมัครพร้อมรายละเอียด

ภาพและข้อมูลจากเวบ
finearts.cmu.ac.th
cmuartcenter.blogspot.com

"นิทรรศการกลุ่มศิลปินรุ่นเยาว์เชียงราย”

นิทรรศการกลุ่มศิลปินรุ่นเยาว์เชียงราย
๗ มิถุนายน - ๗ กรกฏาคม ๒๕๕๗
เปิดนิทรรศการ วันเสาร์ที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๗
เวลา ๑๘.oo น.
ประธานในพิธี โดย คุณ ไตรภพ ลิมปพัทธ์
ณ ขัวศิลปะ เชียงราย

ศิลปิน: กนกกร หมื่นโฮ้ง, กอบพงษ์ ขันพงษ์, กอล์ฟ บุญมา, จุฑามาส บุญเจริญ, เชาวน์วุฒิ แซ่คู, ฐิติวรดา วงศ์ขัติย์, ณัฐกรณ์ ชาติเชื้อ, ณัฐพล เจียงจรัสนนท์, ณัฐพันธ์ ยอดรักษ์, ดิษณ์กร สุทธอมรรัชกนกสุวรรณสม, ทนง มั่นเหมาะ, ทิตย์นภา อารีย์, ธีรราช ราวิชัย, นคินทร์ นุกิจอนันต์, นพณัฐ ศรีวิชัย, นฤมล อุ่นเรือน,นวพล ปูธิปิน, นิพนธ์ ใจนนท์ถี, บุญเกิด ทาบุญเบ็ง, ปรัชญ์ พิณสาร, ไปรยา ปวงรังสี, พุทธรักษ์ ดาษดา, ภาณุพงษ์ จันเขียว, เมษา โยนาแว่น, รุ่งโรจน์ แสนลือ, วิษณุ ธรรมสอน, ศิริชัย เชียงแรง, ศุภชัย ยี่สุ่นศรี, สราวุฒิ คำมูลชัย, สุทธิเกียติ ใสสอาด, สุทธินันท์ กรมเหลี่ยมสาระ, เสกสรร มะโนวัง, อนุชา ตาเมืองมูล, อภิสิทธิ์ มณีธร, อรัญ ปัญญาทิพย์, อร่าม ถานันดร์, สมศักดิ์ ดวงวรรณา

นิทรรศการจะจัดแสดงระหว่างวันที่ ๗ มิถุนายน - ๗ กรกฏาคม ๒๕๕๗ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา ๑o.oo-๑๙.oo น. (ไม่มีค่าเข้าชม)

ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com
เฟซบุคนิทรรศการ

"โครงการศิลปะ Art for All”

ณ ห้องดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร น.ส.จันทร์สุดา รักษ์พลเมือง รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยถึงการจัดโครงการค่ายศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ “Art for All : ก้าวข้ามขีดจำกัด” ว่า กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับมูลนิธิศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ และหน่วยงานเครือข่าย จัดโครงการดังกล่าว ระหว่างวันที่ ๑o-๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ณ อาราญาน่า ภูพิมาน รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดนครราชสีมา เพื่อนำมิติวัฒนธรรมมาใช้ในกระบวนการพัฒนาเด็กและเยาวชนทั้งที่พิการและไม่พิการ ให้สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง สามารถสร้างสรรค์ผลงานอันเกิดคุณค่าทางสุนทรียะไปพร้อม ๆ กับการพัฒนาทักษะ เชิงศิลปะ ซึ่งโครงการดังกล่าว เป็นหนึ่งในแนวทางการขับเคลื่อนแผนที่นำทาง (โรดแม็พ) เดินหน้าประเทศไทยด้วยมิติทางวัฒนธรรมของกระทรวงวัฒนธรรม ตามเจตนารมณ์ของฝ่ายสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า การจัดค่ายในครั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้เชิญผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนมาเข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย ศิลปิน ครูผู้สอนศิลปะ เด็กพิการ เยาวชนพิการที่มีความสามารถทางศิลปะ และเจ้าหน้าที่ประสานงาน จากประเทศบรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม จำนวน ๔o คน ซึ่งการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ร่วมค่ายทั้งไทยและต่างชาติจะเป็นโอกาสอันดี ที่จะได้แลกเปลี่ยนศิลปะและวัฒนธรรมของกันและกัน รวมทั้งจะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ในการใช้ชีวิตร่วมกันบนความหลากหลายทางวัฒนธรรมในภูมิภาคอาเซียน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี ๕๘ ต่อไป

ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ประธานมูลนิธิศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ กล่าวว่า สำหรับหัวข้อในปีนี้คือ การก้าวข้ามขีดจำกัด นั้น จะปลูกฝังให้เด็กเยาวชนพิการก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง เช่น คนตาบอดเมื่อได้ร่วมกิจกรรมการต่อแถวปิดตาแล้ว สามารถนำพาเพื่อน ๆ ไปสู่จุดหมายปลายทางที่วางไว้ได้ เป็นต้น แสดงว่าเยาวชนคนตาบอดสามารถก้าวข้ามขีดจำกัด ในการมองเห็นได้ นอกจากนี้ หลังจากที่ได้นำเยาวชนไปเข้าค่ายในปีที่ผ่าน ๆ มา จะเห็นแววว่าเด็กบางคนสามารถก้าวมาเป็นศิลปินได้ ทั้งนักจิตกรวาดภาพด้วยปากและเท้าบางคนเป็นนักร้องนักแสดงได้ แต่คนเหล่านี้ไม่มีโอกาสได้พัฒนาตนเองต่อหลังจากจบการเข้าค่าย ดังนั้น ทางมูลนิธิฯ และเครือข่ายที่สนับสนุนจึงสานต่อด้วยการสร้างหมู่บ้าน Art for All ขึ้นที่มีนบุรี เพื่อเป็นหมู่บ้านศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ในการสานต่อความฝันของเยาวชนเหล่านี้ได้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาสร้างเสร็จภายในเวลา ๓ ปีอีกด้วย

ภาพและข้อมูลจากเวบ
artforall.or.th
banmuang.co.th

นิทรรศการ "การออกแบบบริการขนส่งมวลชน"

ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ทีซีดีซี) ศูนย์กลางการเรียนรู้ และแหล่งค้นคว้าข้อมูลด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ มุ่งมั่นจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ และกระตุ้นให้คนไทยตระหนักถึงคุณค่าของงานออกแบบ ขอเชิญชมนิทรรศการ “การออกแบบบริการขนส่งมวลชน” เรียนรู้กระบวนการคิดการออกแบบงานบริการ (service design) และชมตัวอย่างผลงานการออกแบบบริการของนักศึกษาจาก ๕ มหาวิทยาลัยชั้นนำ ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี โดยนำหลักการสำคัญที่ได้จากกรณีศึกษาของรถไฟความเร็วสูงนำไปประยุกต์และต่อยอดเป็นงานออกแบบบริการสำหรับบริการขนส่งมวลชน เพื่อสร้างประสบการณ์สุดประทับใจตลอดการเดินทาง

…เพราะงานบริการหาใช่รอยยิ้มพร้อมการบริการด้วยหัวใจเพียงอย่างเดียว แต่คือกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงสร้างทั้งระบบโดยคำนึงถึงผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง…ร่วมทำความรู้จักและสัมผัสกับผลผลึกต่อยอดของ

ศาสตร์แห่ง “การออกแบบบริการ” ได้ในนิทรรศการ “การออกแบบบริการขนส่งมวลชน” จัดแสดงตั้งแต่วันที่ ๑๒ มิถุนายน – ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑o.๓o – ๒๑.oo น. (ปิดวันจันทร์) ณ บริเวณโถงล็อบบี้ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ชั้น ๖ ดิ เอ็มโพเรียม ช็อปปิ้ง คอมเพล็กซ์เข้าชมฟรี! สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ o๒- ๖๖๔- ๘๔๔๘ ต่อ ๒๑๓, ๒๑๔ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ tcdc.or.th

ภาพและข้อมูลจากเวบ
fineart-magazine.com

"ริชมอนด์ ลากเส้น เล่นสี กับน้องน้ำใจ”

โรงแรมริชมอนด์ขอเชิญชวนเยาวชนอายุตั้งแต่ ๓-๑๖ ปี และผู้ที่สนใจ เข้าร่วมประกวดวาดภาพในหัวข้อ “ลดใช้พลังงานเพื่อโลกของเรา” ชิงทุนการศึกษา และรางวัลมูลค่ากว่า ๒o,ooo บาท ตัดสินรางวัลจาก จินตนาการ ทักษะการใช้สี และ ความสมบูรณ์ของภาพ ใช้หลักฐานการประกวด ได้แก่ ๑. รูปถ่ายผู้สมัครสีขนาดโปสการ์ด ๒. สำเนาบัตรนักเรียน/บัตรประชาชน ๓. ใบสมัคร ๔. ค่าสมัคร ๗oo บาท

โดยรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายสมทบทุนให้กับโครงการริชมอนด์ ปันน้ำใจ สร้างอาคารเรียนหลังใหม่ สู่เด็กชาวดอย ที่โรงเรียนบ้านขุนกลาง ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ส่งหลักฐานการประกวดก่อนวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ผู้ที่สนใจสามารถขอรายละเอียดและรับใบสมัครได้ที่ richmondhotel-resort.com หรือโทร o๒-๘๓๑-๘๘๕o ฝ่ายประชาสัมพันธ์และกิจกรรม โรงแรมริชมอนด์ ถนนรัตนาธิเบศร์ นนทบุรี

ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค MEAAward
bangkokbiznews.com

"เซรามิก และภาพวาดสีน้ำ แบ่งปันมุมมองความรัก ของ ๒ ศิลปิน”

ณ จุดหนึ่งที่ห้วงเวลาของคนสองคนมาทับซ้อนกัน เป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งปันมุมมองแห่งความรัก และร่วมกันสร้างสื่อบางสิ่งบางอย่างเพื่อสื่อสารและแบ่งปันประสบการณ์แห่งความรักเหล่านั้นสู่ห้วงเวลาของผู้คนอื่น ๆ เหมือนกับวงน้ำที่ไปสะกิดให้เกิด แง่คิด แรงบันดาลใจ ความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาและจัดการกับความรักที่พวกเขามีในเวลาที่เหมาะสมก่อนที่มันจะสายเกินไป

ผลงานเซรามิกของ พรพรรณ สุทัศน์ บอกเล่าถึงการที่คนเราเมื่อรักสิ่งใดแล้วก็มักเอาใจไปผูกกับสิ่งนั้น ยิ่งรักมากก็ยิ่งผูกแน่นมาก ถึงจะสูญเสียสิ่งนั้นไปแล้วก็ยังติดกับความรักนั้น นานวันเข้ากลับกลายเป็นดั่งการกักขังตนเองไว้กับความรู้สึกเหล่านั้น สุดท้ายแล้วมันก็อยู่ที่เราเลือกว่าจะมีความสุขอยู่ในกรงงามที่สร้างขึ้นมาหรือจะปล่อยใจให้โบยบินอีกครั้ง

ขณะที่ผลงานภาพวาดสีน้ำของ นาวิน ตันธนะเดชา ได้รับแรงบันดาลใจจากการได้สัมผัสดอกไม้ทำให้นึกถึงความอบอุ่นจากความรักระหว่างคนใกล้ชิด ซึ่งเป็นสิ่งสวยงามและคอยเตือนใจให้ดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ ดังเช่นพันธุ์ไม้ที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี จะเจริญเติบโตและเบิกบานอย่างงดงาม

นิทรรศการ แบ่งปัน เวลา รัก (Share Time Love) โดย พรพรรณ สุทัศน์ และนาวิน ตันธนะเดชา จะเปิดให้ชมระหว่างวันที่ ๙ - ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ณ ห้องนิทรรศการชั้น ๑ หอศิลป์จามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ขอเชิญผู้สนใจร่วมงานเปิดนิทรรศการ วันที่ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.oo น. โดยมี คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช เป็นประธานเปิดนิทรรศการ

ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th

“นอกในสายตา” (OUT OF SIGHT)

นิทรรศการ : “นอกในสายตา” (OUT OF SIGHT)
ศิลปิน : กลุ่ม OUT OF SIGHT
อริยะ กิตติเจริญวิวัฒน์ ,สุรพงษ์ สมสุข ,มล.บุศยมาศ นันทวัน
วุฒิ เชาว์ศิลป์ ,ยุทธนา นิ่มเกตุ ,ตฤณ กิตติการอำพล
ชัชวาล อ่ำสมคิด ,แดง บัวเสน ,พัดชา แก้วทองตาล
สุรชัย ดอนประสี ,ทรงศักดิ์ นามโพธิ์ ,ไทรเติ้ล เงาะอาศัย
วฤทธิ์ ไพศาลจิรศักดิ์
ลักษณะงาน : จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ สื่อผสม
ระยะเวลาที่จัดแสดง : ๓o กรกฎาคม ๒๕๕๗ - ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๗
ห้องนิทรรศการ : ห้องนิทรรศการชั้น ๑ ห้อง ๑

แนวความคิด

มีในก็ต้องมีนอก ทั้งสองคำเป็นคำที่อยู่คู่กันเป็นคติและปรัชญาให้กับมนุษย์ได้ฉุกคิดพิจารณาในสาระความหมายของมัน มนุษย์นำเอาสิ่งที่แฝงเล้นจากคำทั้งสองคำมาใช้ในการดำเนินชีวิตให้บรรลุในสิ่งที่มุ่งหวัง เพื่อผลสัมฤทธิ์ทางกายทางใจของตนเอง และนำมาซึ่งการผจญภัยสร้างความตื่นเต้นให้กับชีวิตของช่วงระยะเวลาหนึ่ง

มนุษย์ได้พยายามสร้างสรรค์สิ่งที่เหนือการคาดหมาย และมีความคิดผุดแผรกแปลกออกมาอยู่เสมอ ทั้งในอดีตและปัจจุบันเพื่อประโยชน์ในการดำเนินชีวิต มนุษย์ได้ใช้ความร้อนจากดวงอาทิตย์สร้างพลังงาน มนุษย์สร้างเปลวไฟประกอบอาหาร มนุษย์สร้างพลังงานแสงสว่าง เพื่อทดแทนแสงในความมืด มนุษย์คิดค้นยาเพื่อยืดอายุขัย มนุษย์ใช้คลื่นในอากาศเพื่อติดต่อสื่อสารสร้างสังคมการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งหลายทั้งมวลที่มนุษย์ได้รังสรรค์ขึ้นล้วนแล้วคาดไม่ถึง คิดไม่ถึง ไม่มีสิ้นสุด ไม่มีสิ่งไหนที่มนุษย์ทำไม่ได้ และหรือมาหยุดความคิดของมนุษย์ ความคิดของมนุษย์เป็นสาระทางสัจธรรม คือ คิดสิ่งหนึ่งขึ้นแต่แล้วก็คิดสิ่งหนึ่งขึ้นอีกอย่างน่าเหลือเชื่อเป็น วัฏจักรของความคิด มนุษย์จึงเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์บนโลกใบนี้

“นอกในสายตา” จึงเป็นวัฏจักรทางความคิดที่โดดเด่นในคติและปรัชญาที่อยู่ในคำทั้งสองคำ (นอก-ใน) นอกในสายตาเป็นชื่อนิทรรศการที่เปี่ยมไปด้วยศิลปิน อาจารย์ ที่มีอุดมการณ์แนวคิดและปรัชญาที่แฝงอยู่ในผลงานสร้างสรรค์ที่มีมุมมองกับผลงานศิลปะและกระบวนการสร้างผลงานให้เป็นที่ยอมรับ เกิดมุมมองทางความคิด เทคนิคและรูปแบบการนำเสนอผลงานให้กับแวดวงด้านศิลปะ

“นอกในสายตา” จึงเป็นวิสัยทัศน์จากการทำงานสร้างสรรค์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวมที่มุ่งเน้นมุมมองบางสิ่งที่หลายคนนึกไม่ถึง ไม่คาดคิด หรือเคยเจอเคยสัมผัส ด้วยความมุ่งมั่น ความอดทน ความวิริยะอุตสาหะ ความเพียร โดยเฉพาะความแยบยลทางความคิดที่เป็นอัตลักษณ์ ซึ่งจะเป็นแบบอย่างให้กับผู้สนใจและรักงานสร้างสรรค์ได้ชื่นชม

ผลงานที่ใช้ในนิทรรศการเป็นผลงานที่บ่งบอกถึงทัศนคติ ความเชื่อที่แสดงออกถึงอัตลักษณ์ของบุคคลของการสร้างสรรค์ด้วยผลงานประติมากรรม ภาพพิมพ์ จิตรกรรม จำนวน ๖o ชิ้น

ภาพและข้อมูลจากเวบ
chamchuriartgallery.blogspot.com

"แฟชั่นเอาท์เลทสไตล์เกาหลีแห่งแรกในภาคเหนือ”

ชาวเจียงใหม่ได้ช้อปกันแบบม่วนอกม่วนใจ๋ ไม่ต้องไปไกลถึงเกาหลี ที่ Super K Outlet แฟชั่นเอาท์เลทสไตล์เกาหลีแห่งแรกในภาคเหนือ ที่ชั้น ๔ เซ็นทรัล แอร์พอร์ต เชียงใหม่

ซุปเปอร์ เค เอาท์เลท (SUPER K OUTLET) เป็นแฟชั่นเอาท์เลทสำหรับทุกเพศทุกวัย เอาใจผู้ที่ชื่นชอบการแต่งกายสไตล์เกาหลีทั้งชาย-หญิง โดยยกโกดังเสื้อผ้าหลากหลายแบรนด์ดังจากประเทศเกาหลีสำหรับทุกเพศทุกวัยให้ชาวเชียงใหม่ได้ช็อปกันจุใจ อย่างกับไปเดินที่เกาหลีเองเลย!! บนพื้นที่กว่า ๑,ooo ตร.ม. ราคาลดสูงสุดถึง ๙o% เริ่มต้นเพียง ๕o บาท มีแฟชั่นหลากหลายสไตล์ ให้คุณมาสนุกกับการแต่งตัว หลายรูปแบบ หรือจะครีเอทสไตล์ใหม่ ๆ ในแบบที่เป็นตัวคุณ ด้วยสินค้าระดับคุณภาพในราคาที่ไม่แพง ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ผ้าพันคอ แว่นตา มาช้อปได้ที่ Super K Outlet แฟชั่นเอาท์เลทมอลล์แห่งแรกในภาคเหนือ ชั้น ๔ เซ็นทรัล แอร์พอร์ต เชียงใหม่

ช้อปสนุกสบายกระเป๋า สไตล์ ซุปเปอร์ เค แหล่งรวมเสื้อผ้า แบรนด์ดังระดับแนวหน้าจากเกาหลี ท่านสามารถแวะเวียนไปทั้ง ๒o สาขา ใกล้บ้านท่าน

ซุปเปอร์ เค เอาท์เลท มอล
๑. รามคำแหง ซอย ๕๕
๒. โกดังตลาดใหม่ปัฐวิกรณ์ สุขาภิบาล
๓. เซ็นทรัล แอร์พอร์ต เชียงใหม่ ชั้น ๔
๔. สวนนงนุช พัทยา

ซุปเปอร์ เค คอลเล็คชั่น
๕. ซีคอน บางแค ชั้น ๑
๖. เซ็นทรัล พระราม ๙ ชั้น ๒
๗. เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ชั้น G
๘. เซ็นทรัล รามอินทรา ชั้น ๑
๙. เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ชั้น ๓
๑o. เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น G
๑๑. เซ็นทรัล ชลบุรี ชั้น ๑
๑๒. เซ็นทรัล อุดรธานี ชั้น ๑
๑๓. เซ็นทรัล ลำปาง ชั้น ๑
๑๔. เซ็นทรัล เชียงราย ชั้น ๒
๑๕. เซ็นทรัล หาดใหญ่ ชั้น ๑
๑๖. เทสโก้โลตัส ลาดพร้าว-พหลโยธิน ชั้น ๓
๑๗. เทสโก้ โลตัส ศรีนครินทร์ ชั้น ๑
๑๘. สุพรีม คอมเพลกซ์ ชั้น ๑
๑๙. เดอะทรี ปทุมธานี ชั้น ๒
๒o. ที-สแควร์ ตั้งฮั่วเส็ง ชั้น ๑

ผู้ประสานงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ งาน SUPER K
คุณภคิน กมลทิพย์ มือถือ o๘๔-๑๑๕-๕๘๘๘
คุณนิตยา จำรัสประเสริฐ มือถือ o๙๑-๕๒๗-๘๔๔o
คุณวัชลิดา ผ่องแผ้ว มือถือ o๘๓-o๖๔-๑o๗๙

ภาพและข้อมูลจาก คุณจันทรธณี พิสิทธิพร (ปู)

บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor

Create Date : 30 มิถุนายน 2557

0 comments

Last Update : 30 มิถุนายน 2557 23:06:58 น.

Counter : 4265 Pageviews.