happy memories
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
 
21 กุมภาพันธ์ 2557
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๘๔




ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto










นิทรรศการ "แม่โพสพ”


ความสงสารและเห็นใจต่อชาวนาไทยจำนวนไม่น้อยที่กำลังประสบความเดือดร้อน และบางรายถึงขั้นผูกคอตาย อันเนื่องผลกระทบจาก “โครงการรับจำนำข้าว” ของรัฐบาล ทำให้คนทำงานศิลปะ จำนวนหนึ่ง พยายามใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยเฉพาะ facebook ให้เป็นประโยชน์ เพื่อหายรายได้ไปช่วยชาวนาและสะท้อนให้คนทั่วไปได้เห็นถึงความสำคัญของข้าวและอาชีพชาวนาไปพร้อมกัน ผ่านผลงานศิลปะ


กลุ่มแรกใช้ชื่อหน้าเพจว่า “เพื่อนสีน้ำช่วยชาวนาไทย” ซึ่งหน้าเพจนี้เปิดโอกาสให้ศิลปินทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น ส่งภาพวาดเทคนิคสีน้ำของตนเองมาให้ผู้สนใจประมูลผ่านหน้าเพจ โดยกำหนดให้ศิลปินส่งภาพถ่ายของภาพวาดไปยัง กล่องข้อความของ อาจารย์นำชัย เฟซบุค namchai.saensupha และ อาจารย์เซฟ เฟซบุค safesuphawa


ระหว่างวันที่ ๘-๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่อทำการอัพโหลดขึ้นเพจ ให้ผู้สนใจประมูลภาพ ระหว่าง ๘ กุมภาพันธ์ - ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ซึ่งภาพวาดที่นำมาให้ประมูลมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ ๕oo -๑,ooo บาท และ ๒,ooo บาทเป็นต้นไป


จากนั้นการประมูลสิ้นสุดลงในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ และทางหน้าเพจจะทำการประกาศผลว่าใครจะได้ภาพที่ประมูลไปครอบครอง ในวันรุ่งขึ้น โดยเงินรายได้ทั้งหมดจากการประมูลภาพ จะถูกนำไปช่วยเหลือชาวนาไทยที่ประสบความเดือดร้อน ซึ่งกลุ่ม“เพื่อนสีน้ำช่วยชาวนาไทย” จะประสานขอรายชื่อชาวนา และนำส่งผ่าน "สมาคมชาวนาไทย"


กลุ่มที่สองคือใช้ชื่อหน้าเพจว่า “นิทรรศการแม่โพสพ” จัดโดย อุทยานการเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์แม่โพสพ ไม่ใช่กิจกรรมหารายได้ แต่เป็นกิจกรรมเชิญชวนให้ศิลปินส่งผลงานศิลปะไม่จำกัดเทคนิค ที่สะท้อนเกี่ยวกับเรื่องข้าวและวิถีชีวิตชาวนา มาจัดแสดงในหน้าเพจ ซึ่งขณะนี้ได้มีศิลปินและผู้สนใจทยอยส่งมาผลงานมาร่วมกิจกรรมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ


ดังนั้น ๒ หน้าเพจนี้ จึงเป็นทางเลือก สำหรับผู้ที่ประสงค์จะ “ช่วย” และ “ชม” ในห้วงเวลาที่หลาย ๆ คนพยายามหาหนทางเพื่อช่วยซับน้ำตากระดูกสันหลังของชาติ





"พระราชบิดา"
ศิลปิน: คุณวนนท์ รักศิริพงษ์
เทคนิค: สีน้ำ
ขนาดภาพ: ๒๔ x ๓๔ ซม.






"ภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๙"
ศิลปิน :คุณกิตติ พลศักดิ์ขวา
เทคนิค : สีน้ำมัน
ขนาด ๔๕ x ๖o ซ.ม พร้อมกรอบ
ราคาเริ่มประมูล : ๓,ooo บาท






"ในหลวงของปวงชนชาวไทย"
ศิลปิน : ดินหิน รักพงษ์อโศก
ขนาด : ๖๗X ๘๔ ซม. พร้อมกรอบ
เทคนิค+วัสดุ : ชาร์โคลแท่งบนกระดาษ
ราคาเริ่มประมูล : ๒,ooo บาท






"เราคือ ประชาชนของพระราชา"
ศิลปิน : ปิติมา นาคขำ
เทคนิค: สีน้ำ
ขนาดภาพ : ๓๘ x ๕๖ ซม.
ราคาเริ่มประมูล : ๒,ooo บาท






ศิลปิน : คุณพีระ โภคทวี
เทคนิค : สีน้ำ
ขนาดภาพ ๓๑ x ๔๑ ซม.
ราคาเริ่มต้นประมูล ๒,ooo บาท






"พระบุญญาบารมี"
ชื่อศิลปิน: อานนท์ แซ่แต้
เทคนิค: ปากกา+ทองคำเปลว
ขนาดภาพ : ๕๖ x ๗๖ ซม.
ราคาเริ่มต้น: ๒,ooo บาท






"ใต้ฟ้า"
ศิลปิน : คุณนำชัย แสนสุภา
เทคนิค: สีน้ำ
ขนาดภาพ : ๓o x ๔o ซม.
ราคาเริ่มประมูล : ๒,ooo บาท






"Chicks in shade"
ศิลปิน : ดิเรก กิ่งนอก
เทคนิค: สีน้ำ
ขนาดภาพ ๓๖ x ๕o ซม.
ราคาประมูลเริ่มต้น : ๒,ooo บาท






"ชาวนา"
ศิลปิน : อ.พรชัย บุญเกิด (มอบภาพโดย น้องพรีม ชนิกานต์ ตังกบดี)
เทคนิค : ลายเส้น
ขนาด : ๓๓ x ๔๒ ซม..
ราคาประมูลเริ่มต้น : ๑,ooo บาท






"ป่าสะท้อน"
ศิลปิน: ปัญญา ชาวเมืองนนท์
เทคนิค: สีน้ำ
ขนาด: ๓๕ x ๕๓ ซม.
ราคาเริ่มต้น: ๕oo บาท






"ลูกชาวนา"
ศิลปิน : คุณประภาส ชลศรานนท์
เทคนิค : สีน้ำ
ขนาดภาพ : a2
ราคาเริ่มประมูล : ๑,ooo บาท พร้อมกรอบ






"ควาย" เพื่อนแท้ชาวนาไทย
ศิลปิน ศุภวัฒน์ หิรัญธนวิวัฒน์
เทคนิค : สีน้ำ
ขนาดภาพ : ๒๘ x ๓๘ ซ.ม.
ราคาเริ่มประมูล ๒,ooo บาท






ศิลปิน : ชนม์เขต พรรณวิเชียร
เทคนิค : สีน้ำ
ขนาด : ๑๕ x ๑๒ นิ้ว
ราคาประมูลเริ่มต้น : ๒,ooo บาท






"ไม่ขาดเม็ด"
ศิลปิน : คุณนำชัย แสนสุภา
เทคนิค: สีน้ำ
ขนาดภาพ : ๓o x ๔o ซม.
ราคาเริ่มประมูล : ๒,ooo บาท






"เก็บตะวัน"
ศิลปิน : คุณกำพล ศรธนะรัตน์
เทคนิค : สีน้ำ
ขนาดภาพ ๕๕ x๓๕ ซม.
ราคาเริ่มต้นประมูล : ๕oo บาท






"Peonies "
ศิลปิน : อธิบ กสาบสัน
เทคนิค: สีน้ำ
ขนาดภาพ : ๓๑ x41cm ๔๑ ซม.
ราคาเริ่มประมูล : ๕oo บาท






"กุหลาบ"
ศิลปิน : มธุรา วิตยากร
เทคนิค : สีน้ำ
ขนาดภาพ ๑๑ x ๑๕ นิ้ว
ราคาเริ่มต้นประมูล : ๕oo บาท






"Luzern in love "
ศิลปิน : ดวงมณี พรหมลิขิตชัย
เทคนิค สีน้ำ กระดาษวอเตอร์ฟอร์ด ๑๙o แกรม
ขนาดภาพ ๕o X ๓o ซม.
ราคาเริ่มประมูล : ๕oo บาท






"Rose #2"
ศิลปิน : พรพรรณ ศรีธนาบุตร
เทคนิค: สีน้ำ
ขนาดภาพ: ๒๖ x ๓๖ cm
ราคาประมูลเริ่มต้น : ๒,ooo บาท



ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ เฟซบุคเพื่อนสีน้ำช่วยชาวนาไทย



ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th
เฟซบุค namchai.saensupha














"นิทรรศการศิลปะนิพนธ์ ครั้งที่ ๑๗”


โครงการนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะนิพนธ์ ครั้งที่ ๑๗ ปีการศึกษา ๒๕๕๖


ภาควิชาสาขาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม


โดยนิสิตชั้นปีสุดท้าย ภาควิชาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม


ณ หอศิลป์จำปาศรี อาคารสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม


ระหว่างช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗



ภาพและข้อมูลจากเวบ
fineart-magazine.com














“พับ เพียบ เรียบ ร้อย” เสกกระดาษให้หวนคิดถึง “งานดอกไม้สด” ของ วิริน เชาวนะ”


วิริน เชาวนะ เธอคนนี้นี่เองคือเจ้าของแบรนด์ “พับ เพียบ เรียบ ร้อย” ที่ผลงานถูกคัดเลือกให้มาร่วมจัดแสดงในนิทรรศการ POP by TCDCCONNECT ภายใต้แนวคิด Love Your Local ร่วมกับผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบจากกว่า ๓o แบรนด์ไทย ที่ล้วนมีแรงบันดาลใจแรกเริ่มมาจากแนวคิด ผลิตภัณฑ์ หรือวัสดุท้องถิ่น แล้วนำมาพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการออกแบบ






โดยผลงานของวิรินเป็นงานกระดาษที่นำศิลปหัตกรรมไทยอย่าง “งานดอกไม้สด” มาประยุกต์ให้เกิดความทันสมัยและน่าสนใจยิ่งขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนวัสดุจาก "ดอกไม้" มาเป็น “กระดาษ” พับเป็น “รูปทรงเรขาคณิต” และขึ้นรูปจนเกิดเป็นงานในรูปแบบใหม่ ที่ยังคงความเป็นไทยและความละเอียดประณีตอันเป็นคุณค่าดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน






จ้าของผลงานที่ถูกการันตีด้วยรางวัล Brand’s Gen 6 และเป็นบัณฑิตจบใหม่ จากรั้วศิลปากร เล่าถึงแรงบันดาลใจอันเป็นที่มาของผลงานไอเดียเก๋ๆของตนเองว่า


“โดยส่วนตัวเป็นคนชอบงานดอกไม้สดของไทย เช่น พานพุ่ม มาลัย เครื่องแขวน เป็นต้น และสิ่งที่ชอบอีกอย่างก็คือ งานกระดาษ จึงได้ไอเดียว่า จริง ๆ งานกระดาษก็สามารถนำมาพับและออกแบบเป็นงานดอกไม้ได้เช่นกัน โดยงานกระดาษสามารถทดแทนดอกไม้สดได้ด้วยรูปทรงเรขาคณิต เป็นงานดอกไม้รูปแบบใหม่ ที่มีความประณีตไม่แพ้ดอกไม้สด และสามารถเก็บเป็นที่ระลึกได้นาน






ในส่วนกระดาษที่เลือกมาทำผลงานส่วนใหญ่จะเป็นกระดาษวาดภาพสีชอล์ก กระดาษเคลือบมุก ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกเนื้อกระดาษที่ค่อนข้างหนาเพื่อจะได้ควบคุมรูปทรงได้ดี ตอนนี้งานส่วนใหญ่ของ พับเพียบเรียบร้อย จะเป็นงาน made to order ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นดีไซเนอร์ ผู้ที่ชื่นชอบงานดีไซน์ ผู้ที่มองหาของที่ระลึกในโอกาสต่าง ๆ โดยส่วนตัวคิดว่าการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับกระดาษธรรมดา มาเป็นงานที่มีคุณค่า และสามารถสร้างรายได้และอาชีพได้ และในอนาคต ‘พับเพียบเรียบร้อย’ จะขยายไลน์สินค้าไปสู่การพับกระดาษเป็นเครื่องประดับในเร็ว ๆ นี้”






ใครที่สนใจไปชมผลงานของเธอได้ใน นิทรรศการ POP by TCDCCONNECT ตอน Love Your Local วันนี้ -๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๗ เวลา ๑o.๓o - ๒๑.oo ณ โถงทางเข้าและห้องเวิร์กช็อป ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ(TCDC) ดิ เอมโพเรียม


ที่ยังจะทำให้ได้รู้จักผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์อื่น ๆ ที่การออกแบบมีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่า และคุณค่า อาทิ

"สบู่" จากเชียงใหม่ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติแท้ ๆ ปราศจากสารเคมี และออกไปขายถึงในยุโรป ทั้งที่กรุงปราก เฮลซิงกิ และลอนดอน

"เซรามิกดอยดินแดง" เครื่องปั้นดินเผาที่ใช้ดินพิเศษในท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย

Relief ผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนจากกระดาษใยกล้วย ผลิตจากภูมิปัญญาท้องถิ่น กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น

walk on the wild side ผ้าย้อมครามภูมิปัญญาไทยหัวใจวัยรุ่น

"บุญมี Mini Pounder" อุปกรณ์ตำน้ำพริกที่ผสมความเป็นไทยเข้ากับการใช้งานแบบโมเดิร์น จนได้รางวัล Demark 2013


ไปจนถึง ไอศกรีมโฮมเมดเพื่อสุขภาพน้ำตาลน้อยที่มีแนวคิดเพื่อสังคม “ฟาร์มสุข”



















ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th














"Patani Contemporary Arts Gallery”


ณ บ้านดำ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย ของศิลปินแห่งชาติ ถวัลย์ ดัชนี เมื่อหลายปีก่อน ART EYE VIEW ได้พบกับ เจะอับดุลเลาะ เจ๊ะสอเหาะ ศิลปินวัย ๒๘ ปี จากจังหวัดปัตตานี ณ ค่ายเยาวชนสร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมสมัย ซึ่งค่ายนี้ริเริ่มโดยถวัลย์และศิลปินแห่งชาติอีกคนคือ กมล ทัศนาญชลี และเมื่อสิ้นสุดลง นักศึกษาผู้เข้าร่วมส่วนหนึ่งจะถูกคัดเลือกให้ไปศึกษาดูงานต่อ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา


ในวันนั้น อาจารย์เจะ (ผศ. เจะอับดุลเลาะ วัย ๓๑ ปี ในปัจจุบัน) ติดตามไปทำหน้าพี่เลี้ยงในฐานะนักศึกษา รุ่นที่ ๑ และ ๒ ผู้เคยถูกคัดเลือกให้เข้าค่าย และเคยเดินทางไปศึกษาดูงานที่สหรัฐอเมริกาหลายครั้ง รวมถึงไปทำหน้าที่อาจารย์ สาขาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ที่ต้องติดตามลูกศิษย์จำนวนหลายคนไปร่วมเข้าค่าย






ณ จุดนั้น นอกจากทำให้รับทราบถึงมุมมองของศิลปินรุ่นใหม่ไฟแรงคนหนึ่งจากจังหวัดชายแดนใต้ ผู้ผ่านการต่อสู้และสร้างโอกาสให้กับตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อจะได้ยืนหยัดบนเส้นทางของคนทำงานศิลปะ เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน (พ่อประกอบอาชีพเป็นช่างต่อเรือกอและ แม่เป็นช่างเย็บปักถักร้อย)


ยังทำให้ได้รับทราบถึงความฝันในอีกมุมหนึ่งของเขา (อดีตนักเรียนกองทุนกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาดีเด่น ระดับประเทศ,ศิษย์เก่ารุ่นแรกของ สาขาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และปริญญาโท ภาควิชาศิลปะไทย คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ,เจ้าของรางวัลจากเวทีประกวดศิลปะหลายรางวัล โดยเฉพาะ รางวัลเหรียญทอง จิตรกรรมบัวหลวง ครั้งที่ ๒o) ที่อยากจะทำสิ่งดีๆให้งอกงามขึ้นบนแผ่นดินเกิดของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโอกาสด้านศิลปะของคนในพื้นที่ รวมไปถึงการหาที่ทางสำหรับการจัดแสดงงานที่เรียกว่า “หอศิลป์”






ต่อมาได้พบเขาอีกครั้งที่กรุงเทพฯ ในนิทรรศการแสดงเดี่ยวศิลปะของเขาชุด "รูปลักษณ์ของชาวมลายูท้องถิ่นปัตตานี" ที่ไม่เพียงจะมีผลงานศิลปะกว่า ๑oo ชิ้นมาให้ชม ท่ามกลางบรรยากาศของงานเปิดนิทรรศการที่มีอาหารอย่าง ข้าวยำ โรตี ชาชัก ฯลฯ ตลอดดนตรีมุสลิม และการแสดงที่สื่อถึงอัตลักษณ์ของบ้านเกิด


แต่เขายังได้ควักทุนส่วนตัวจำนวน ๖ แสนบาท อันเป็นจำนวนเงินที่เขาบอกว่าสามารถพาพ่อและแม่ไปแสวงบุญที่เมกกะได้ถึง ๒ รอบ มาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับขนงานและเหมาโบกี้รถไฟ นำนักศึกษากว่า ๔o ชีวิตมาร่วมงาน ด้วยต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกศิษย์ของตัวเองว่า เส้นทางศิลปะที่เลือกเดิน สามารถนำพาทุกคนไปสู่ความสุขและความสำเร็จได้ ดังที่เขาได้ค้บพบแล้ว และอยากจะสื่อสารไปถึงคนทั่วประเทศผ่านงานศิลปะว่า ท่ามกลางปัญหาที่กำลังร้อนระอุของชายแดนใต้ ยังมีความงามซ่อนอยู่






ก่อนจากกันในวันนั้นยังจำได้ดีถึงคำบอกเล่าของเขาที่ว่า มีความตั้งใจที่จะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายผลงานในนิทรรศการ ไปใช้สำหรับการก่อสร้างหอศิลป์และก่อตั้งมูลนิธิในนาม Contemporary Art In Pattani Foundation เพราะอยากจะมีพื้นที่แสดงงานศิลปะทั้งประเภทถาวรและหมุนเวียนของศิลปินในพื้นที่ ตลอดจนเป็นที่พำนักสนับสนุนให้เยาวชนสร้างงานศิลปะ และให้ทุนการศึกษา ซึ่งเขาได้ให้สถาปนิกออกแบบหอศิลป์ และทำการลงเสาเข็มไปเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังได้เตรียมนาข้าวและบ่อเลี้ยงปลาเอาไว้แล้วด้วย


“ผมว่าคนมาซื้องานผม เค้าได้บุญนะฮะ ผมได้ใช้เงินที่ได้มา ไปอย่างคุ้มค่ามากเลย ผมไม่ได้ใช้เพื่อตัวผมคนเดียว ผมให้ทุนเด็ก ซื้ออุปกรณ์ให้เด็ก พาไปโน่นพาไปนี่ ผมทำทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ เพราะผมคิดว่า เงินมันมาเร็วไปไว เหมือนเราไม่ได้ยึดติดกับตัวเงินตรงนั้นแล้ว แต่พยายามคิดว่า เราจะใช้ประโยชน์กับเงินเหล่านั้นยังไง” ส่วนหนึ่งของคำบอกเล่าของเขาในครั้งนั้น






เวลาผ่านไป ปัจจุบันอาจารย์เจะแต่งงานมีครอบครัว พร้อมกับมีลูกสาวที่น่ารัก ๑ คน และยังคงทำงานศิลปะและเป็นอาจารย์สอนศิลปะที่บ้านเกิด ล่าสุดสิ่งที่เขาเคยฝันไว้เริ่มเป็นจริงขึ้นมา Patani Contemporary Arts Gallery หอศิลป์ภายใต้การผลักดันของเขา เกิดขึ้นแล้ว ณ กลางเมืองปัตตานี บริเวณ ถ.หนองจิก ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี


“หอศิลป์แห่งนี้เกิดจากความตั้งใจของผมที่มีมาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษา เนื่องจากในปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ผมได้มีโอกาสได้ไปแสดงผลงานและศึกษาดูงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จากโอกาสที่ท่านอาจารย์กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ จัดกิจกรรมร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ผมซึ่งเป็นคนต่างจังหวัดที่ห่างไกลจากกรุงเทพฯ ยากที่จะได้มีโอกาสในการแสดงผลงานในหอศิลป์


ด้วยโอกาสดังกล่าว ที่ทำให้ผมได้เห็นโลกกว้างขึ้น เริ่มมีอุดมการณ์และเป้าหมายของตัวเองชัดเจนขึ้น บวกกับการได้เห็นวิถีชีวิตของอาจารย์กมล ที่อุทิศตนเสียสละแก่ส่วนรวม สร้างโอกาสและเปิดพื้นที่ให้กับคนที่ด้อยโอกาส จึงทำให้ผมอยากจะสร้างประโยชน์และเปิดพื้นที่ให้กับคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่สนใจทางด้านศิลปะ”






นอกจากนี้ปัตตานีไม่ได้มีหอศิลป์แค่ในตัวเมืองแห่งเดียวเท่านั้น แต่อาจารย์เจะยังผลักดันให้เกิดขึ้นอีกแห่งในตำบลซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา ณ บ้านดอนรัก ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทว่ายังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง


“ ยังอยู่ในช่วงกำลังดำเนินงานอยู่ จะประกอบด้วยห้องนิทรรศการหมุนเวียน ห้องนิทรรศการติดตั้งผลงานถาวร ซึ่งผมสะสมซื้อผลงานศิลปะเก็บไว้เรื่อย ๆ โดยเฉพาะผลงานของศิลปินในพื้นที่และห้องนิทรรศการแสดงผลงานที่เป็นศิลปะวัตถุบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของพื้นที่และข้าวของเครื่องใช้โบราณ”






ขณะที่หอศิลป์ ณ กลางเมืองปัตตานี จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ และนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะเนื่องในโอกาสเปิดหอศิลป์ ได้เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมมาตั้งแต่วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของอาจารย์เจะพอดี และจะจัดแสดงไปจนถึง วันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗


“หอศิลป์ในส่วนนี้จะเน้นทำกิจกรรมเป็นหลักเพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหวทางศิลปะทุกๆเดือน และจะมีนิทรรศการการหมุนเวียนทุกๆเดือน หลายคนตั้งคำถามกับสิ่งที่ผมทำว่าทำไปทำไม ทำไปเพื่ออะไรแล้วเอางบประมาณมาจากไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ผมไม่ค่อยอยากจะตอบเพราะเหตุผลมันจับต้องไม่ได้ มันเป็นความรู้สึกข้างใน ทำเพื่ออะไร เพื่อคนในพื้นที่โดยเฉพาะคนที่ถูกปล้นโอกาส ผมอยากสร้างโอกาสแก่คนเหล่านี้ ซึ่งผมนึกถึงตัวเองสมัยเรียนที่ไม่ค่อยมีโอกาสมาให้






หรือแม้กระทั่งตอนนี้ก็ตาม ผมสงสารคนต่างจังหวัดที่มักจะถูกมองข้ามโดยเฉพาะคนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนทำแล้วได้อะไรนั้นคงตอบยากมาก เพราะตัวชี้วัดของผมคือความสุข ซึ่งจับต้องไม่ได้แต่สัมผัสทางความรู้สึกได้ ในส่วนของงบประมาณที่นำมาดำเนินงานนั้น ผมไม่มีผมก็สร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง ถามว่าสร้างมายังไง คือ ผมไม่มีต้นทุนที่เงินทองเลย อย่าว่าแต่เงินที่จะมาทำหอศิลป์ เงินที่ผมเอามาใช้จ่ายค่าเล่าเรียนผมก็ยังไม่มี


แต่ผมสร้างมันขึ้นมาด้วยศิลปะผมมีต้นทุนทางศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ ผมก็ใช้มันให้ได้มาซึ่งเงินทอง เช่น เงินจากที่ผมได้รับรางวัลจากการประกวดศิลปกรรมในเวทีต่าง ๆ เงินจากผู้ใหญ่ใจดีมาซื้อผลงานของผมและแหล่งสำคัญคือเงินเดือนจากอาชีพ “เรือจ้าง” ในแต่ละเดือนของผม






ผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำในวันนี้อาจเป็นเรื่องเล็กน้อยในสายตาของคนปัจจุบัน โดยเฉพาะในสายตาของคนมีโอกาสอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ขาดโอกาสอย่างผม มันเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากครับ”


ท้ายนี้อาจารย์เจะจึงอยากจะชักชวนทุกคนให้หาโอกาสเดินทางไปเยี่ยมเยือน Patani Contemporary Arts Gallery ซึ่งถือได้ว่าเป็นการให้กำลังใจคนทำงานศิลปะในท้องที่ ๓ จังหวัดชายแดนใต้


“ดังเช่น ดร.นอร์เบิร์ท โรเพอช์ อาจารย์จากประเทศเยอรมนี อุตส่าห์ลงมาดูงานถึงที่จังหวัดปัตตานี ซึ่งเขาติดตามผลงานของผมมา ๔-๕ ปีมาแล้ว






และนับว่าเป็นกำลังที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนที่นี่ เพราะกำลังใจเป็นยาชูกำลังที่จะขับเคลื่อนอุดมการณ์ของชีวิตมนุษย์”


Patani Contemporary Arts Gallery บ้านเลขที่ ๙๑/๒๑ ถ.หนองจิก ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี (ในซอยโรงแรมปาร์ควิวรีสอร์ท) หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง...ขณะที่หอศิลป์ ณ กลางเมืองปัตตานี จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ และนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะเนื่องในโอกาสเปิดหอศิลป์ ได้เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมมาตั้งแต่วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของอาจารย์เจะพอดี และจะจัดแสดงไปจนถึง วันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗






“หอศิลป์ในส่วนนี้จะเน้นทำกิจกรรมเป็นหลักเพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหวทางศิลปะทุกๆเดือน และจะมีนิทรรศการการหมุนเวียนทุก ๆ เดือน หลายคนตั้งคำถามกับสิ่งที่ผมทำว่าทำไปทำไม ทำไปเพื่ออะไรแล้วเอางบประมาณมาจากไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ผมไม่ค่อยอยากจะตอบเพราะเหตุผลมันจับต้องไม่ได้ มันเป็นความรู้สึกข้างใน ทำเพื่ออะไร เพื่อคนในพื้นที่โดยเฉพาะคนที่ถูกปล้นโอกาส ผมอยากสร้างโอกาสแก่คนเหล่านี้ ซึ่งผมนึกถึงตัวเองสมัยเรียนที่ไม่ค่อยมีโอกาสมาให้


หรือแม้กระทั่งตอนนี้ก็ตาม ผมสงสารคนต่างจังหวัดที่มักจะถูกมองข้ามโดยเฉพาะคนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนทำแล้วได้อะไรนั้นคงตอบยากมาก เพราะตัวชี้วัดของผมคือความสุข ซึ่งจับต้องไม่ได้แต่สัมผัสทางความรู้สึกได้ ในส่วนของงบประมาณที่นำมาดำเนินงานนั้น ผมไม่มีผมก็สร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง ถามว่าสร้างมายังไง คือ ผมไม่มีต้นทุนที่เงินทองเลย อย่าว่าแต่เงินที่จะมาทำหอศิลป์ เงินที่ผมเอามาใช้จ่ายค่าเล่าเรียนผมก็ยังไม่มี






แต่ผมสร้างมันขึ้นมาด้วยศิลปะผมมีต้นทุนทางศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ ผมก็ใช้มันให้ได้มาซึ่งเงินทอง เช่น เงินจากที่ผมได้รับรางวัลจากการประกวดศิลปกรรมในเวทีต่าง ๆ เงินจากผู้ใหญ่ใจดีมาซื้อผลงานของผมและแหล่งสำคัญคือเงินเดือนจากอาชีพ “เรือจ้าง” ในแต่ละเดือนของผม ผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำในวันนี้อาจเป็นเรื่องเล็กน้อยในสายตาของคนปัจจุบัน โดยเฉพาะในสายตาของคนมีโอกาสอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ขาดโอกาสอย่างผม มันเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากครับ”


ท้ายนี้อาจารย์เจะจึงอยากจะชักชวนทุกคนให้หาโอกาสเดินทางไปเยี่ยมเยือน Patani Contemporary Arts Gallery ซึ่งถือได้ว่าเป็นการให้กำลังใจคนทำงานศิลปะในท้องที่ ๓ จังหวัดชายแดนใต้


“ดังเช่น ดร.นอร์เบิร์ท โรเพอช์ อาจารย์จากประเทศเยอรมนี อุตส่าห์ลงมาดูงานถึงที่จังหวัดปัตตานี ซึ่งเขาติดตามผลงานของผมมา ๔-๕ ปีมาแล้ว และนับว่าเป็นกำลังที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนที่นี่ เพราะกำลังใจเป็นยาชูกำลังที่จะขับเคลื่อนอุดมการณ์ของชีวิตมนุษย์”


Patani Contemporary Arts Gallery บ้านเลขที่ ๙๑/๒๑ ถ.หนองจิก ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี (ในซอยโรงแรมปาร์ควิวรีสอร์ท) หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง เฟซบุคแกลลอรี



ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th














"๔๕ ภาพถ่าย รางวัล IPA สัญจรมาให้ชมที่ประเทศไทย”


ใครยังไม่ได้ไปชม ๔๕ ภาพถ่ายของ ๔๕ ช่างภาพ ซึ่งชนะการประกวดจากเวที the International Photography Awards หรือ IPA ซึ่ง Susan Baraz(Co-Chair of the Lucie Awards และ Head of Judging for IPA) ทำหน้าที่คิวเรเตอร์คัดสรรมาให้ชม และถือเป็น Best Show ที่สัญจรไปจัดแสดงทั่วโลก


ART EYE VIEW เก็บภาพบรรยากาศบางส่วนมาฝาก ส่วนใครที่สนใจไปชม ยังมีเวลาไปจนถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ในนิทรรศการ the International Photography Awards [IPA] 2013 Best of Show ณ Rooftop Gallery ถ.สุขุมวิท ๕๕ (ทองหล่อ) ระหว่างซอย ๑๔ และ ๑๖


แกลเลอรี่เปิด วันอังคาร -วันศุกร์ เวลา ๑๒.oo-๑๙.oo น. และวันเสาร์- วันจันทร์ (โทรนัดที่เบอร์ o๘๗-๗o๕-๖๖๖๘)


ต้องออกแรงปีนบันไดขึ้นไปที่ชั้น ๔ ของอาคารซึ่งเป็นร้านแว่นท็อปเจริญ ก็จะพบแกลเลอรี่ซึ่งมีลักษณะเป็นห้องใต้หลังคาบริเวณดาดฟ้าของตัวตึก



















































ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th














"Great Artists Concert Series 2014 คอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติฯ”


กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับ BSO

จัดคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เชิญนักไวโอลินสาวดาวรุ่งชาวเกาหลี บรรเลงเดี่ยวกับวง BSO

วันอังคารที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๒o.oo น. ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย



คลาร่า-จูมิ คัง (Clara-Jumi Kang) ศิลปินเดี่ยวไวโอลินสาวชาวเกาหลี ดาวรุ่งที่กำลังมาแรงในระดับนานาชาติ เปิดการแสดงคอนเสิร์ตกับวง BSO เป็นครั้งแรก ในรายการ “CLARA KANG Plays MENDELSSOHN” นำเสนอบทประพันธ์ชิ้นเอกของสามนักแต่งเพลงผู้ยิ่งใหญ่ชาวเยอรมัน เริ่มรายการด้วย ออร์เคสตร้าสวีทหมายเลข ๒ ของบาค และไฮไลท์ของรายการคือไวโอลินคอนแชร์โต บันไดเสียง อีไมเนอร์ ประพันธ์โดย เฟริกซ์ เมนเดลโซห์น ปิดท้ายด้วยซิมโฟนีหมายเลข ๔ ของเบโธเฟ่น อำนวยเพลงโดย คาร์ลอส อิซการาย (Carlos Izcaray) ผู้อำนวยเพลงหนุ่มดาวรุ่งชาวเวเนซูเอล่า กำหนดแสดงในวันอังคารที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๒o.oo น. ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย






นับเป็นคอนเสิร์ตที่น่าฟังและท้าทายมากอีกรายการหนึ่งที่แฟนเพลงจะได้ฟัง “คลาร่า คัง” ศิลปินรุ่นไหม่ซึ่งกำลังเป็นที่กล่าวขวัญในวงการ เดี่ยวไวโอลินคอนแชร์โตของเมนเดลโซห์น ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานที่มีชื่อที่สุดในบรรดาเพลงเดี่ยวไวโอลินกับวงออร์เคสตร้าทั้งหลาย ด้วยท่วงทำนองไพเราะจับใจ ให้อารมณ์ที่สดใสและรื่นเริง ฟังแล้วติดหู เข้าถึงง่าย งานชิ้นนี้จึงเป็นเพลงเดี่ยวไวโอลินที่ได้รับความนิยมและถูกนำออกบรรเลงมากที่สุดในบรรดาเพลงคอนแชร์โตสำหรับไวโอลินทั้งหลาย ได้รับการยกย่องว่าเป็นงานชิ้นเอกบทหนึ่งของเมนเดลโซห์น ผู้มีความเป็นอัจฉริยะแห่งต้นยุคโรแมนติค สำหรับบทซิมโฟนีหมายเลข % ของเบโธเฟ่นนั้น เป็นหนึ่งในบรรดาซิมโฟนีที่ยิ่งใหญ่ของผู้ประพันธ์ แสดงออกถึงความรู้สึกและพลังได้อย่างยอดเยี่ยม






อนเสิร์ตครั้งนี้ เป็นรายการแรกประจำสมัยกาลแห่งปี ๒๕๕๗ ของวง BSO ในซีรีส์ “Great Artists Concert Series 2014” ซึ่งจะจัดขึ้นตลอดปีนี้รวม ๙ รายการเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ คอนเสิร์ตซีรีส์นี้ มูลนิธิวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพฯ ร่วมจัดกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม โดยความสนับสนุนจากมูลนิธิสุขุโม บี.กริม และเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ






คลาร่า-จูมิ คัง ศิลปินเดี่ยวไวโอลินชาวเกาหลี อายุ ๒๖ ปี เกิดที่เมืองแมนไฮม์ ประเทศเยอรมนี เริ่มเรียนไวโอลินอย่างจริงจังเมื่ออายุเพียง ๔ ขวบ ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยดนตรีที่มีชื่อเสียงหลายแห่งคือ Mannheim Musikhochschule, Juilliard School of Music, Berlin Hanns Eisler Hochschule เธอได้เรียนไวโอลินกับปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายคนคือ Prof. Valerie Gradov, Zakhar Bron, Dorothy Delay, Hyo Kang และ Christopher Poppen และสำเร็จการศึกษาที่มหาวิทยาลัย Korean National University of Arts โดยเรียนไวโอลินกับ Nam Yun Kim ปรมาจารย์ไวโอลินชาวเกาหลีที่มีชื่อที่สุดคนหนึ่งในระดับนานาชาติ






คลาร่ามีผลงานแสดงเดี่ยวทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรปและเอเชีย ได้ออกแสดงเดี่ยวครั้งแรกที่เกาหลีเมื่ออายุ ๘ ขวบ โดยเล่นเพลง Concerto No.5 ของโมสาร์ทกับวง Korean Chamber Ensemble ที่ Seoul Arts Center ชนะการแข่งขันไวโอลินที่มีชื่อเสียงหลายรายการคือ รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่สามรายการ Tibor Varga Competition (ปี ๒oo๗) รางวัลชนะเลิศ Seoul International Violin Competition (ปี ๒oo๙), รางวัลรองชนะเลิศ Hannover International Violin Competition (ปี ๒oo๙), รางวัลชนะเลิศ Sendai International Violin Competition และล่าสุดในปี ๒o๑o ชนะเลิศเหรียญทองรายการ International Violin Competition of Indianapolis (ครั้งที่ ๘)






คลาร่ามีผลงานอัลบั้มเดี่ยวไวโอลินครั้งแรกเมื่ออายุ ๙ ขวบ ในสังกัดค่าย Teldec โดยบรรเลงบทประพันธ์ Triple Concerto ของเบโธเฟ่น ล่าสุดเธอออกอัลบั้มเดี่ยวชุด “Modern Solo–Virtuoso Music for Solo Violin” ให้กับบริษัท Decca ปัจจุบัน คลาร่าใช้ไวโอลินเก่าอายุกว่า ๓oo ปี ทำโดยอันโตนิโอ สตราดิวารี ช่างทำไวโอลินอัจฉริยะชาวอิตาเลียน ไวโอลินคันนี้มีน้ำเสียงเป็นเลิศ เป็นหนึ่งในไวโอลินเก่าที่ค้นพบเพียงร้อยกว่าคัน เป็นของหายาก มูลค่ามหาศาล






คาร์ลอส อิซการาย (Carlos Izcaray) ผู้อำนวยเพลงหนุ่มดาวรุ่งชาวเวเนซูเอล่า ได้รับรางวัลการอำนวยเพลงระดับโลก รายการ “Toscanini International Conducting Competition” ครั้งที่ ๘ (ปี ๒oo๘) ที่อิตาลี และรางวัลการอำนวยเพลงในเทศกาล “The Aspen Music Festival” ได้รับเชิญเป็นผู้อำนวยเพลงให้กับวงออร์เคสตร้าอาชีพชั้นนำหลายวง อาทิ วง Lausanne Chamber, Toscanini Orchestra, Venezuela Orchestra, Mozarteum-Caracas Chamber, Venezuela System of Youth Orchestra รวมทั้งงานแบบเชมเบอร์มิวสิค ล่าสุดได้อำนวยเพลงอุปกากรเรื่อง “Carmen” ให้กับวง St. Louis Opera Theatre และอำนวยเพลงในเทศกาลดนตรี 60th Wexford Festival Opera (ไอแลนด์) คาร์ลอส ศึกษาด้านอำนวยเพลงที่ American Academy of Conductor (Aspen), Interlachen Arts Academy, Jacobs School of Music (Indiana University)


บัตรราคา ๔oo, ๘oo, ๑,๒oo, ๑,๖oo และ ๒,ooo บาท
จำหน่ายบัตรที่ Thaiticketmajor โทร. o๒-๒๖๒-๓๔๕๖
สอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานมูลนิธิฯ โทร. o๒-๒๕๕-๖๖๑๗-๘ โทรสาร o๒-๒๕๕-๖๖๑๙
Email: bsof@bangkoksymphony.org / //www.bangkoksymphony.org
สอบถามรายละเอียด การประชาสัมพันธ์งานและศิลปิน ได้ที่ บ.เมเจอร์ ครีเอชั่น จำกัด โทร.o๘๗-๕oo๕-๑๑๑, o๘๑-๑๕o-๔o๙๕



ภาพและข้อมูลจากเวบ
mglobemall.com












ลีโอ ฟิลลิปส์


ชมรายการดนตรีคลาสสิค”Sunrise in the East”



คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และเดอะฟิลลิปส์สตริงควอเต็ทนำเสนอรายการดนตรีคลาสสิก ”Sunrise in the East” วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๑๙.๓o น. ณ บริติชคลับ สีลมซอย ๑๘


ฟิลลิปส์ สตริงควอเต็ท เป็นการรวมตัวของนักดนตรีชั้นนำ ๔ ท่านคือลีโอ ฟิลลิปส์(Leo Phillips) นักไวโอลิน และรูธ ฟิลลิปส์( Ruth Phillips) นักเชลโล่ ทั้งสองมีความสามารถหลากหลายเคยร่วมงานกับวงที่มีชื่อเสียงหลายวงทั้งในอังกฤษและในระดับนานาชาติ อีกทั้งยังเคยมีผลงานการแสดงและบันทึกเสียงในระดับนานาชาติมากมาย อาทิวงลอนดอนฟิลฮาร์โมนิค( London Philharmonic )และเชมเบอร์ออเครสตร้าออฟยุโรป(Chamber Orchestra of Europe) ภายใต้การอำนวยเพลงของ Claudio Abbado





รูธ ฟิลลิปส์



วนในฐานะผู้อำนวยเพลงในประเทศไทย ลีโอ ฟิลลิปส์(Leo Phillips) เคยมีผลงานอำนวยเพลงให้วงดุริยางค์หลายวง เช่น Pro Musica Orchestra, Bangkok Symphony Orchestra และ Thailand Philharmonic Orchestra อีกด้วย

ในครั้งนี้ นักดนตรีชาวอังกฤษทั้งสอง จะร่วมกันบรรเลงกับนักดนตรีชั้นแนวหน้าของไทย ทัศนา นาควัชระ และรวยชัย แซ่โง้ว โดยจะบรรเลงผลงานคลาสสิก Mozart "Hunt" Quartet และ Haydn "Sunrise" Quartetรวมถึงผลงานยอดนิยมของ Purcell และ Tchaikovsky

การแสดงจะมีขึ้นในวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๑๙.๓o น. ณ บริติชคลับ สีลมซอย ๑๘ บัตรราคา ๗oo และ ๓oo บาท (สำหรับนักเรียน นักศึกษา) ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.o๒-๒๓๔-p๒๔๗ หรือ //www.britishclubbangkok.org



ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com














"ความงามแห่งสันติภาพ”


ความงามแห่งสันติภาพ

โดย แดเนียล กอร์ดอนเยร์

ณ Modern Gallery ศูนย์การค้า O.P Garden

๒๖ กุมภาพันธ์ – ๑๖ เมษายน ๒๕๕๗

“สายตาของผมมองเห็นสิ่งที่แปลกต่างจากคนทั่วไป

และผมหวังว่าภาพถ่ายของผมจะกลายเป็นดัง

แรงอธิษฐานที่ถูกโอบอุ้มด้วยสายลม”






งานนิทรรศการภาพถ่ายล้ำสมัยในคอนเซ็ปต์ ‘ความงามแห่งสันติภาพ’ โดย ศิลปินช่างภาพชาวฝรั่งเศส แดเนียล กอร์ดอนเยร์ กำลังจะมีขึ้นเพื่อยกระดับเวทีงานศิลปะของเมืองไทย นำเสนอโดย คิวเรเตอร์ชื่อดัง เอลิเซียว บาร์บารา กับซีรี่ส์ภาพถ่ายชุดเข้มข้นที่เจ้าตัวออกเดินทางสำรวจวิถีพุทธ จากธงศักดิ์สิทธิ์ทิเบต สู่พลังศรัทธาของมหาเจดีย์พุทธนาถแห่งเนปาล


ผลงานภาพถ่ายของแดเนียลเป็นมากกว่าการถ่ายทอดเรื่องราวของการเดินทาง หากยังเป็นเหมือนอุปมาอุปไมยและสะท้อนภาพความเป็นจริงของชีวิต ชื่อของนิทรรศการครั้งนี้คล้ายเป็นการตอกย้ำถึงความตั้งใจที่เขาอยากจะแบ่งปันความทรงจำส่วนตัว และเรื่องราวที่ชวนขบคิด ผ่านฝีมือการบันทึกภาพของเขา


การสร้างสรรค์ผลงานของแดเนียล กอร์ดอนเยร์ชุดนี้ เรียกว่าเป็นสไตล์ ‘Multiple Exposure’ โดยเขาเรียกมันว่า ‘shooting star’ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแนวอิมเพรสชั่นนิสม์และเซอร์เรียลลิสต์ ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพถ่ายที่ทรงพลัง เพราะภาพแต่ละภาพคือสูตรผสมลงตัวของการผสานเรื่องราวที่แตกต่าง เกิดเป็นมุมมองแปลกใหม่ที่โดดเด่นเฉพาะตัว ทั้งแสงสีอันเร่าร้อนและมโนภาพเหนือจินตนาการ ศิลปินอย่างแดเนียลไม่ได้ต้องการบอกเล่า หรือรายงานถึงเรื่องราวใดเรื่องราวหนึ่ง หากแต่อยากจะสื่อให้เราเห็นถึงอารมณ์ ความรู้สึก และความตื่นเต้นที่เกิดขึ้น ณ ตรงนั้น






แดเนียล กอร์ดอนเยร์ มีความสามารถในเรื่องของการสร้างสรรค์ ตั้งแต่การทำงานยุคแรก ๆ งานแรกของเขาเป็นงานเกี่ยวกับการแปรสภาพโลหะ ซึ่งเป็นสิ่งที่แดเนียลหลงใหลมาตลอด และได้เข้าไปคลุกคลีอยู่ในวงการมากกว่าสิบปี ความชอบนี้เองที่ชักนำเขาเข้าสู่อุตสาหกรรมการบิน นิวเคลียร์ และงานสร้างยานยนตร์ เรื่องราวของการดัดแปลงหล่อหลอมโลหะ ทำให้แดเนียลตระหนักถึงความไร้แก่นสารขององค์ประกอบต่าง ๆ และมีสายตามองเห็นวัตถุทั้งหลายได้ลึกซึ้งกว่ารูปทรงภายนอกของมัน สิบปีต่อมาเขาได้ผันตัวไปจับธุรกิจเครื่องปรับอากาศ


ทว่าพอย่างเข้าสู่ปีที่ ๕o การตัดสินใจขายธุรกิจของตัวเอง ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของอิสรภาพและบริบทใหม่ของชีวิต ความปรารถนาแรกของเขาคือการท่องโลกแห่งวัฒนธรรมที่หลากหลาย เขาจึงออกเดินทางโดยเริ่มจากมาดากัสการ์ที่เวิ้งว้าง สู่ความมีชีวิตชีวาของอินเดีย และความคึกคักและแสงสีของกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน การท่องเที่ยวถือเป็นความฝันของเขาตั้งแต่สมัยวัยเยาว์ แต่มันก็ทำให้เขาได้ค้นพบถึงความยากลำบากของชีวิต ที่ปรากฏและสะท้อนอยู่บนใบหน้าของผู้คน และนั่นทำให้แดเนียลนึกอยากแบ่งปันเรื่องราวของพวกเขาผ่านชัตเตอร์และมุมมองที่ไม่ธรรมดา


ปัจจุบัน แดเนียล กอร์ดอนเยร์ อาศัยและทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานคร


งานเปิดตัวนิทรรศการภาพถ่าย ‘ความงามแห่งสันติภาพ’


วันพุธที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.oo น. เป็นต้นไป


สถานที่ : MODERN GALLERY 4, 6 โอพี การ์เด้น เลขที่ 1A-1103 ถนนเจริญกรุง ๓๖ บางรัก กรุงเทพฯ


เวลาทำการ : จันทร์-เสาร์ ๑๑.oo – ๑๙.oo น. โทร : o๒-๒๓๘-๖๔๔๙


รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ :

นวินทนันท์ จิตรเดชาวัฒน์ (พิมมี่)

Project Manager, Midas PR

มือถือ : o๘๖-๙๙๙-๖๕๙๑ pimmy@midas-pr.com



ภาพและข้อมูลจากเวบ
fineart-magazine.com




บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2557 22:33:28 น. 0 comments
Counter : 4142 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.