happy memories
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
 
21 กุมภาพันธ์ 2557
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๘๓




ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto









“งานเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธลิศหล้านภาลัย ประจำปี ๒๕๕๗”


สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนิน ทรงเป็นประธานเปิด “งานเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธลิศหล้านภาลัย ประจำปี ๒๕๕๗” พร้อมทอดพระเนตรโขนกลางแจ้ง ชุด กุมภกรรณทดน้ำ ในวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๑๕.oo น. ณ อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ ร.๒ อัมพวา สมุทรสงคราม


ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงประกอบพิธีเปิดของใหม่ในอุทยาน ร.๒ รวม ๓ แห่ง ได้แก่ พระที่นั่งสนามจันทร์จำลอง, พิพิธภัณฑ์พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และพิพิธภัณฑ์บ้านพักอาศัยและการดำเนินชีวิตของคหบดีชนบท ซึ่งทั้ง ๒ พิพิธภัณฑ์ได้มีการปรับปรุงจากที่มีอยู่เดิมให้สมบูณณ์น่าชมได้อย่างเพลิดเพลิน


จากนั้นเสด็จทอดพระเนตรการแสดง ณ โรงละครกลางแจ้ง ๓ ชุด ได้แก่ รำอาศิรวาทประกอบด้วยพระ-นาง ๑๖ คู่ ประพันธ์บทชับร้องและอำนวยการแสดงโดย อาจารย์วันทนีย์ ม่วงบุญ ต่อด้วย บทละครนอกเรื่องสังข์ทอง ตอน หนีนางพันธุรัต แสดงโดยยุวศิลปินของมูลนิธิ ร.๒ ทีได้รับการฝึกถ่ายทอดจากบรรดาครูนาฎศิลประดับศิลปินแห่งชาติ โดยมี อาจารย์สุวรรณี ชลานุเคราะห์ เป็นผู้อำนวยการฝึกซ้อม อาจารย์ประกอบ ลาภเกษร เป็นผู้อำนวยการแสดง และ อาจารย์ทัศนีย์ ขุนทอง เป็นผู้อำนวยการเพลง ซึ่งในการแสดงชุดนี้ผู้ชมจะได้รับฟังบทเพลงไทยเก่าแก่ที่ทรงคุณค่า และหาฟังได้ยาก อาทิ เพลงการเวก เพลงเขมรขอทาน และเพลงคางคกปากบ่อ เป็นต้น


การแสดงชุดสุดท้าย ซึ่งเป็นไฮไลท์ของงาน ได้แก่ การแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน องคตสื่อสาร ถึง กุมภกรรณทดน้ำ แสดงโดยศิลปินกรมศิลาปกรโรงใหญ่ โดยมี ครูมืด-ประสาท ทองอร่าม เป็นผู้จัดทำบทการแสดง ในการแสดงชุดนี้ จะมีฉากที่น่าตื่นเต้นชวนติดตามหลายตอน เช่น ตอนองคตม้วนขดหางต่างแท่นที่นึ่ง เพื่อจะได้นั่งสูงเทียมทศกัณฐ์ และตอนกุมภกรรณทดน้ำ จนทำให้กองทัพของพระรามไม่มีน้ำใช้ จนหนุมานต้องถีบกุมภกรรณให้พลิกกายขึ้น เพื่อให้น้ำไหลออกมา ซึ่งกรมศิลปากรได้เนรมิตฉากต่าง ๆ อย่างสุดฝีมือเพื่อให้การแสดงสมจริงมีความตระการตา


ไม่เพียงเท่านั้น ภายในงานนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ นิทรรศการ ซึ่งในปีนี้ได้เน้นไปที่เรื่อง “บัว” โดยสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย การประกวดวาดภาพ “บัว” การประกวดอาหารจานเดียวจากบัว ซึ่งผู้เข้าชมงานได้เห็นว่า “บัว” นั้น นอกจากมีดอกสวยงามแล้ว ยังมีส่วนต่าง ๆ ที่สามารถนำมาประกอบอาหารและเป็นสมุนไพรได้ด้วย นิทรรศการทางทัศนศิลป์และประณีตศิลปิ์ ก็มีให้ชม เช่น วิทยาลัยช่างศิลป์ จัดโครงการสืบทอดศิลปวัฒนธรรม ด้านทัศนศิลป์ของมูลนิธิฯ วิทยาลัยกาญจนาภิเษกช่างทองหลวงสาธิตงานเครื่องทองประกอบย่านลิเพา โรงเรียนช่างฝีมือในวัง (หญิง) สาธิตงานดอกไม้สด ร้อยมาลัย เครื่องแขวน เป็นต้น การสาธิตการทำของหวานตำรับชาววัง อาทิ มะปรางริ้ว จากราชสกุลกุญชร ขนมจีบ ขนมปั้นสิบ จากโรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ขนมเบื้องไทย จากทายาท ม.ล.สีตอง สนิทวงศ์ และขนมพื้นบ้านชาวอัมพวา จากชาวอัมพวา และตลาดน้ำ


โครงการรักการอ่าน ซึ่งเป็นโครงการที่ขาดไม่ได้ในงานนี้ โดยจัดมห้มีกิจกรรมรักการอ่าน การประกวดเรียงความหัวข้อ “พระพุทธศาสนา” ให้สอดคล้องกับนิทรรศการพระประวัติสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการแสดงคารวาลัยแด่ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก


“งานเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธลิศหล้านภาลัย ประจำปี ๒๕๕๗” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๒-๒๓ ภุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ซึ่งผู้สนใจเข้าชมการแสดงโขน ในรอบวันเสด็จพระราชดำเนิน ๒๒ กุมภาพันธ์ บัตรราคาร ๕oo บาท และ ๓oo บาท นั่งบนอัฒจันทร์ และ ๕o บาท นั่งบนเสื่อปูบนสนาม ส่วนการแสดงในวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ จะไม่มีการแสดงรำอาศิรวาท และละครนอก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและซื้อบัตรเข้าชมที่ มูลนิธิ ร.๒ โทร. o๒-๖๒๘-๗๒๑๗, o๒-๒๘๑-๗๔๓๕







พระฉายาลักษณ์และข้อมูลจาก
naewna.com
thairath.co.th
บล็อกคุณ tui/Laksi














"สมโภชเทวสถาน ศาสนสถานคู่กรุง”


เป็นเวลากว่า ๒oo ปีที่ "เทวสถาน" สำหรับพระนครได้รับการสถาปนาขึ้นตั้งแต่เมื่อแรกสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันจึงเสื่อมโทรมลงไปตามกาลเวลา คณะพราหมณ์พร้อมด้วยหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ร่วมกันจัดโครงการบูรณปฏิสังขรณ์เทวสถาน สำหรับพระนครขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสอันเป็นมงคล ๔ วาระ คือเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้ทรงสถาปนาเทวสถาน เพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗ รอบ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘o พรรษา และเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๗ รอบ






ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปในการพิธีสมโภชเทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ ณ เทวสถาน ถนนดินสอ โดยมี พล.ร.อ.ม.จ.ปุสาณ สวัสดิวัตน์ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการดำเนินโครงการปฏิสังขรณ์เทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ พร้อมด้วยสมาชิกราชสกุล อาทิ ม.จ.ภีศเดช-ม.ร.ว.ดัจฉราพิมล รัชนี, ม.จ.มงคลเฉลิม ยุคล, ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล, ม.ร.ว.ปิยะฉัตร ฉัตรไชย, ม.ร.ว.รุจยา อาภากร, ม.ร.ว.เอมจิต จิตรพงศ์, ม.ร.ว.จิยากร อาภากร เสสะเวช, ม.ล.กุลชาติ ดิศกุล, ม.ล.สุภสิทธิ์ ชุมพล, ม.ล.สารศักดิ์ หัสดินทร ฯลฯ เฝ้าฯ รับเสด็จ เมื่อวันก่อน


ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ คณะกรรมการดำเนินงานโครงการ กล่าวรายละเอียดในการดำเนินงานโครงการบูรณปฏิสังขรณ์ เทวสถาน สำหรับพระนครที่ทรุดโทรมลงตามกาลเวลานับจากการบูรณะครั้งสุดท้ายเมื่อปี ๒๕๓o โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี พระราชทานเงินส่วนพระองค์เป็นทุนเริ่มต้นในการบูรณปฏิสังขรณ์ เทวสถานเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๒






“ในปี ๒๕๕๕ ถือเป็นการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ เริ่มบูรณะตั้งแต่ปี ๒๕๕๒ แล้วเสร็จในปี ๒๕๕๕ มีการบูรณะอาคารศาสนสถานที่ประดิษฐานเทพเจ้าสำคัญทั้ง ๓ หลัง ได้แก่ สถานพระอิศวร สถานพระพิฆเนศวร และสถานพระนารายณ์ ปรับปรุงหอเวทวิทยาคม ให้มีความมั่นคงแข็งแรง ปรับปรุงซุ้มเทวาลัยพระพรหมให้เหมาะสมกับสถาปัตยกรรมโดยรวม สร้างซุ้มเทวาลัยประดิษฐานพระศิวลึงค์ที่ได้รับมอบจากวัดบวรนิเวศวิหาร ปรับปรุงศาลาอเนกประสงค์ ศาลาหนังตะลุง กำแพง ประตูรวมถึงปรับปรุงภูมิทัศน์ และระบบสาธารณูปโภค" ท่านผู้หญิงบุตรี กล่าว


หนึ่งในสายสกุลที่มีความผูกพันกับโบสถ์พราหมณ์มาเป็นเวลายาวนาน ม.ร.ว.ดัจฉราพิมล รัชนี เผยว่า ลูกหลานในสายสกุลรัชนีทุกคน ต้องเข้าพิธีทำขวัญเดือนซึ่งเป็นพิธีมงคลของเด็กที่เกิดใหม่ โดยเชิญพราหมณ์ไปทำพิธีที่วังประมวญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่เด็กที่จะเจริญเติบโตต่อไปในภายภาคหน้า รวมทั้งเคารพบูชาพระพิฆเนศ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งศิลปะวิทยาเป็นการส่วนตัวด้วย






ด้าน ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ไทย กล่าวถึงการสมโภชเทวสถานครั้งสำคัญนี้ ไม่เพียงทำให้ศาสนสถานโบสถ์พราหมณ์กลับมารุ่งเรืองและสวยงามตามรูปแบบโบราณอีกครั้งหนึ่ง แต่จะส่งผลอันเป็นสิริมงคลต่อบ้านเมืองด้วยเช่นกัน


“เทวสถานเป็นสถานที่ประดิษฐานเทพเจ้าหลายๆ องค์ ซึ่งเป็นเทพองค์สำคัญ การได้มาปฏิบัติบูชาก็ถือว่า เป็นโอกาสที่จะทำให้เกิดหรือมีส่วนทำให้เกิดความสงบสุข ความร่มเย็นเป็นสุข เพราะเทพแต่ละองค์นั้นกษัตริย์ไทยตั้งแต่โบราณทรงบูชามาอย่างต่อเนื่อง อย่างพระนารายณ์เป็นเทพผู้ที่ปกปักรักษา ทำนุบำรุงโลกมนุษย์ให้อยู่เป็นสุขร่มเย็น พระพิฆเนศก็เป็นเทพแห่งการขจัดอุปสรรคทั้งหลาย น่าจะทำให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความราบรื่น บ้านเมืองก็น่าจะเป็นปกติสุขอีกครั้งหนึ่ง" ดร.อนุชา กล่าว



ภาพและข้อมูลจาก
komchadluek.net














"จัด สังคีตะบูชา ถวายอาลัย “สังฆราช”


‘กรมศิลป์’บวงสรวงราชรถงานพระราชทานเพลิงพระศพ “สังฆราช” ๖ มีนาคม เผยประชาชนสักการะพระศพ ๑.๓ ล้านคน จัดมหรสพ สังคีตะบูชา ถวาย ๓ ชุด ๒๑ กุมภาพันธ์นี้


วันนี้ (๑๗ ก.พ.) นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยความคืบหน้าหลังจากรัฐบาลมอบหมายให้กรมศิลปากรเตรียมการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ว่า ขณะนี้กรมศิลปากร กำลังเร่งออกแบบซ่าง ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระสังฆราช ที่เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส คาดว่าการออกแบบจะแล้วเสร็จภายในเร็วนี้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปบูรณะและปรับปรุงอาคารรอบๆ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์แล้ว ส่วนการบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถ ราชยาน และเครื่องประกอบพระราชพิธี ซึ่งจะใช้ในริ้วขบวนพระอิสริยยศเชิญพระศพนั้น วันที่ ๖ มีนาคมนี้ สำนักช่างสิบหมู่จะจัดพิธีบวงสรวงราชรถ ๒ องค์ ได้แก่ ราชรถพระนำ และราชรถอัญเชิญพระโกศ ซึ่งการบูรณะราชรถทั้ง ๒ องค์นั้นคาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนกันยายนนี้


วันเดียวกันที่อาคารมนุษยนาควิทยาทาน วัดบวรฯ พระวรชัย ธัมวโร เจ้าหน้าที่กองอำนวยการงานพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก กล่าวว่า สังคีตะบูชา หนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดวัน การพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ว่า นับตั้งแต่สมเด็จพระสังฆราชสิ้นพระชนม์จนถึงวันนี้รวมแล้ว ๑๑๗ วัน มีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ได้เดินทางมากราบสักการะพระศพ กว่า ๑,๓oo,ooo คน โดยวันศุกร์ ที่ ๒๑ กุมภาพันธ์นี้จะครบการสิ้นพระชนม์ ๑๒๑ วัน ทางวัดบวรฯ ร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) จัดแสดง “สังคีตะบูชา” เพื่อระลึกถึงสมเด็จพระสังฆราช


นายศิริชัยชาญ ฟักจำรูญ อธิการบดี สบศ.กล่าวว่า การจัดแสดงสังคีตะบูชา หนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดวันการพระศพสมเด็จพระสังฆราช จัดแสดง ๓ ชุด ได้แก่ การแสดงรำถวายอาลัย “สังคีตะบูชิต อัญชลิต พระสังฆราชา” การแสดงชุด “พิฆเณศวร ประทานทศคชา มหามงคล” และ การแสดงชุด “เหล่าอสูรวารพล ร่วมถวายอาลัยสมเด็จพระสังฆราช ทรงมีพระกรุณาธิคุณ พระเมตตาคุณแห่งองค์พระสังฆบิดร โดยเฉพาะเมตตาคุณต่องานศิลปวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งจะเห็นได้ว่าสมัยที่ท่านยังมีพระชนม์ ไปที่แห่งจะมีงานแสดงเกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้น เป็นการต้อนรับ



ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th
สำนักการสังคีต กรมศิลปากร














"สู่ ๑oo ปีชาตกาล ป๋วย อึ๊งภากรณ์”


ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมอิ่มเอมครื้นเครงใจในงาน “ป๋วย ๑oo ปี วันบรรเลง เพลงประลอง”


การประลองดนตรีไทยระหว่างวงปี่พาทย์เสภา-วงเครื่องสายไทย


โดย โครงการเตรียมงานรำลึก ๑๐๐ ปี ชาตกาล ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์, มูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป


วันเสาร์ที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๗.๓o น. เป็นต้นไป ณ สยามสมาคม ในพระบรมราชูปถัมภ์ (อโศก)


กำหนดการแสดง

ช่วงที่ ๑ การบรรเลงและขับร้องวงปี่พาทย์มอญเครื่องใหญ่

# เพลงกระต่ายเต้น
# เพลงเก้าทัพ
# เพลงย้าดเล้
# เพลงบุเรงนองลั่นกลองรบ
# เพลงย่ำค่ำ ประลองเปิงมางคอก
# เพลงชุดด่อมค่าย
# การแสดงรำพลายชุมพล


ช่วงที่ ๒ การประลองวงปี่พาทย์เสภากับวงเครื่องสายไทย

# ขับเสภา โดย อาจารย์นพคุณ สุดประเสริฐ
# วงปี่พาทย์เสภาบรรเลงเพลงโหมโรงมหาฤกษ์
# วงเครื่องสายไทยบรรเลงเพลงโหมโรงไอยเรศ
# วงเครื่องสายไทยบรรเลงเพลงเชิดจีนตัวที่ ๑
# วงปี่พาทย์เสภาบรรเลงเพลงเชิดจีนตัวที่ ๒
# วงเครื่องสายไทยบรรเลงเพลงเชิดจีนตัวที่ ๓
# วงปี่พาทย์เสภาบรรเลงเพลงเชิดจีนตัวที่ ๔
# วงเครื่องสายไทยบรรเลงและวงปี่พาทย์เสภารวมเพลงแขกบรเทศ เถา
# เดี่ยวเครื่องดนตรีแต่ละเครื่องมือรอบวงทั้งวงเครื่องสายและวงปี่พาทย์เสภาเพลงแขกบรเทศ ชั้นเดียว







ภาพและข้อมูลจาก
เฟซบุคงานแสดง
artbangkok.com














"ยุคทองวรรณคดีไทย”


กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพรรณนาถึงอาหาร ๑๕ ชนิด คือ แกงมัสมั่นไก่, ยำใหญ่, ตับเหล็กลวก, หมูแนม, ก้อยกุ้ง, แกงเทโพ, น้ำยา, แกงอ่อม, ข้าวหุงเครื่องเทศ, แกงคั่วส้ม, พล่าเนื้อ, ล่าเตียง, หรุ่ม, ไตปลา, แสร้งว่า และของหวานอีก ๑ ชนิดคือ รังนก


ติดตามพระราชนิพนธ์เรื่องอื่น ๆ ได้ในงาน “ยุคทองวรรณคดีไทยในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย” วันเสาร์ที่ ๒๒ – วันอาทิตย์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๑๒.oo น. - ๑๗.oo น. ที่อุทยานการเรียนรู้ TK park











ภาพและข้อมูลจาก
painaidii.com
เฟซบุค tkparkclub
exhibition.contestwar.com














"นิทรรศการ The World of calligraphy”



นิทรรศการศิลปะการเขียนพู่กันญี่ปุ่น The World of calligraphy


ผลงานโดย ศิลปินญี่ปุ่น Mr. Tenkou Hirata


จัดแสดงระหว่างวันที่ ๓o มกราคม - วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗


เวลา ๑๕.oo - ๒o.oo น. ณ ศูนย์ศิลปะบ้านตึก : Baan Tuek Art Center ถ.ท่าแพ จ.เชียงใหม่



















































ภาพและข้อมูลจาก
exhibition.contestwar.com
เฟซบุค Baan Tuek Art Center














"BRANDNEW Art Project”


โครงการศิลปกรรม Brand New ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๔๗ และดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ในปีนี้ Brand New 2013 มีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๖ – มกราคม ๒๕๕๗ (เริ่มรับสมัครผู้สนใจส่งผลงานเข้าร่วมโครงการและการสัมภาษณ์นักศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่างๆ) และนิทรรศการจะจัดขึ้นระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม ๒๕๕๗ ที่ Bangkok University Gallery, นำทอง แกลเลอรี่และ WTF Gallery เพื่อสนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ให้มีโอกาสพัฒนาผลงานสร้างสรรค์ของตัวเองอย่างอิสระ โดยผ่านการเลือกสรรจากคณะกรรมการและภัณฑารักษ์ของโครงการ นอกจากการคัดเลือกศิลปินรุ่นใหม่แล้ว หอศิลปมหาวิทยาลัยกรุงเทพยังให้ความสำคัญกับผู้ทำหน้าที่เป็นภัณฑารักษ์ของโครงการในแต่ละปี หอศิลปฯ ได้เชิญภัณฑารักษ์ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างประเทศมาทำหน้าที่คัดเลือกศิลปิน ในปีนี้ทางโครงการได้เชิญ Ms. Isabel Ching (อิซาเบล ชิง) ภัณฑารักษ์รุ่นใหม่ชาวสิงคโปร์ ซึ่งกำลังเป็นที่จับตามองในปัจจุบัน เนื่องจากการมีประสบการณ์เช่ียวชาญในด้านศิลปะร่วมสมัยระดับภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ และพม่า ฯลฯ รวมถึงประสบการณ์การร่วมโครงการสำคัญๆทั้งหลายระดับนานาชาติ มาทำหน้าที่คัดเลือกผลงานศิลปินไทยรุ่นใหม่ในโครงการศิลปกรรม Brand New ปีนี้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การคัดเลือกผลงานของโครงการศิลปกรรม Brand New มีเอกลักษณ์ และความโดดเด่นเฉพาะตัว จนได้รับจากเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ชมและบุคคลทั่วไป


จากที่โครงการศิลปกรรม Brand New นี้ได้มีการผลักดันให้เกิดศิลปินและนักวิจารณ์ศิลปะรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องนั้น ได้มีศิลปินและนักวิจารณ์ที่ประสบความสำเร็จและมีผลงานที่สร้างชื่อเสียงมากมายหลังจากผ่านโครงการฯไปแล้ว อาทิ


ยุรี เกนสาคู ศิลปินหญิงร่วมสมัยที่น่าจับตามองในขณะนี้ ได้เข้าร่วมการแสดงนิทรรศการกลุ่มและเดี่ยวหลายครั้ง ได้รับเชิญให้เข้าร่วมโครงการ Artist in Residency ณ Yokohama Museum of Art ประเทศญี่ปุ่น แสดงผลงานเดี่ยวในชื่อ “The Adventure of Momotaro Girl” และล่าสุด “Karma Police : ดวงตาเห็นทำ” ที่ ๑oo ต้นสนแกลเลอรี่


อริญชย์ รุ่งแจ้ง เป็นศิลปินที่กำลังมีผลงานที่โดดเด่นในขณะนี้ ล่าสุดได้ถูรับเชิญไปร่วมแสดงในVenice Biennale ครั้งที่ ๕๕ “Golden Teardrop” ของศาลาไทย และ Singapore Biennale 2011 ที่ผ่านมาได้จัดแสดงนิทรรศการกลุ่มและเดี่ยวหลายครั้ง อาทิ นิทรรศการ “เรื่องจริงไม่อิงนิยาย” “พรมแดนมหัศจรรย์” เป็นนิทรรศการกลุ่มจัดขึ้นที่ มหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒ และผลงานเดี่ยวในนิทรรศการ “รัศมี-รุ่งแจ้ง” จัดขึ้นที่ Ver Gallery


พรทวีศักดิ์ ริมสกุล ได้ร่วมนิทรรศการทั้งในและต่างประเทศมากมาย Politics of Fun ประเทศเยอรมนี, ออสเตรีย และญี่ปุ่น และยังได้ร่วมแสดงใน Busan Biennale ประเทศเกาหลี, Kuandu Biennale ประเทศไต้หวัน และ Fluid Zones Jakarta Biennale ประเทศอินโดนีเชีย


กฤช งามสม เป็นหนึ่งในศิลปินชั้นนำของประเทศไทย ได้ร่วมแสดงนิทรรศการกลุ่มที่ชื่อว่า ‘เล็ก…เป็น…เรื่อง’ (mini matters) ที่ Gallery N ตามมาด้วยผลงานเดี่ยวล่าสุดในปีนี้ที่กำลังจัดแสดงอยู่ที่ Number 1 Gallery ในนิทรรศการ “Already Mades” และกำลังจะได้แสดงผลงานใน Singapore Biennale 2013: If the World Changed


สุดศิริ ปุยอ๊อก เป็นศิลปินที่มีผลงานมากมายทั้งงานแสดงนิทรรศการในและต่างประเทศ “The Street of Two Birds”ประเทศอิสราเอล นิทรรศการเดี่ยวที่ประเทศไทย “Life-Living” จัดขึ้นที่ ARDEL Gallery และล่าสุดได้ถูกคัดเลือกผลงานเพื่อรวบรวมในคอลเลคชั่นศิลปะร่วมสมัยที่สำคัญระหว่างปีพ.ศ. ๒๕๕๒-๒๕๕๔ ของ Singapore Art Museum “Tomorrow, Today: Contemporary Art from the Singapore Art Museum”


ชล เจนประภาพันธ์ เป็นศิลปินนักวิจารณ์รุ่นใหม่ ซึ่งหลังจากผ่านโครงการ Brand New 2010 ไปแล้วนั้น เขาก็ยังคงทำงานอีกหลายด้าน ทั้งเป็นคอลัมนิสต์ประจำในนิตยสาร Photo Art Magazine เป็นภัณฑารักษ์ให้กับหลายนิทรรศการของนำทองแกลเลอรี่ อาทิ Raw, Classroom, กาย + ภาพ, Between the Line


กลุ่ม Mute Mute เป็นกลุ่มศิลปินด้านวัฒนธรรมที่รวมตัวกันจากจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมากด้วยความคิดสร้างสรรค์ ผลงานของกลุ่มศิลปิน Mute Mute จึงเป็นลักษณะระดมความคิดเปิดพื้นที่ให้กับวัฒนธรรม เป็นแนวคิดสื่อศิลปะแบบโต้ตอบ, ถ่ายภาพ, ภาพเคลื่อนไหว, การโฆษณาเผยแพร่, มัลติมีเดีย, ออกแบบกราฟิก, การจัดการข้อมูล เพื่อสร้างเครือข่ายคนสร้างสรรค์


ปัจจุบันโครงการศิลปกรรม Brand New ได้ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นปีที่ ๙ ด้วยความร่วมมือระหว่างหอศิลป์ร่วมสมัยหลายแห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และความร่วมมือจากคณาจารย์และบัณฑิตจากสถาบันการศึกษาหลากแห่งทั่วประเทศ อาทิ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยศิลปากร, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มหาวิทยาลัยบูรพา, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม



ภาพและข้อมูลจาก
fineart-magazine.com














"งานศิลปะ(สัตว์)ร่วมสมัย ครั้งที่ ๑”


เริ่มต้นเดือนแห่งความรักด้วย "งานศิลปะ(สัตว์)ร่วมสมัย ครั้งที่ ๑" ที่ร้าน "หลังแรกบาร์" ในวันเสาร์ที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ มีสินค้าเช่นกระเป๋า เสื้อยืด ถุงเท้า ภาพวาดต่าง ๆ จากแบรนด์เล็ก ๆ อาทิ เช่น Girltist Brand, Kamijn : ขมิ้น, Tastefulness, n y m m และอื่น ๆ อีกมากมาย


โครงการในปีนี้จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือ น้องแมวจรจัด โดยหักเป็นรายได้ ๑o% ในการขาย นำไปจัดซื้ออาหารให้น้องแมว น้องหมา ครั้งนี้จะเป็นการนำอาหารไปบริจาคให้ "มูลนิธิกองทุนพอใจ กองทุนส่วนบุคคลเพื่อช่วยเหลือเพื่อนสี่ขาเจ็บ พิการ และไร้บ้าน จ.สระบุรี"


กองทุนพอใจเป็นกองทุนที่ไม่แสวงผลกำไร รายได้ทั้งหมดที่เข้ากองทุนนี้จะถูกนำไปเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าอาหารให้กับน้องหมา น้องแมวในมูลนิธินี้ //www.facebook.com/pages/กองทุนพอใจ


งานเริ่มตั้งแต่ ๕ โมงเย็น ในวันเสาร์ที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ติดต่อสอบถามได้ที่ o๘o-๒o๒-๘o๖๒ และ o๙o-๙๘๖-๔๔๒๑


สถานที่ : หลังแรก Bar Restaurant Gallery บ้านเลขที่ ๑ ซอยมหรรณพ ๑ มหรรณพ สำราญราษฎร์ พระนคร กรุงเทพฯ ๑o๒oo





On process
กำลังเพ้นท์แมวมงคลทั้ง ๑๗ชนิด ลงบนถุงผ้าฝ้ายแบบหูรูด เพื่อเอาไปขายในงาน มีไม่กี่ใบเท่านั้น






ถุงเท้าของแบรนด์ "Girltist"
หัก ๑o% ในการขาย






Bullterrier & Daihatsu illustrator by nymm
หัก ๑o% ในการขาย นำให้แมวจรจัด






เสื้อของแบรนด์ "Namngoen"
หัก ๑o% ในการขาย นำให้แมวจรจัด











แผนที่ร้าน



ภาพและข้อมูลจาก
เฟซบุคงานศิลปะ(สัตว์)ร่วมสมัย ครั้งที่ ๑














"Princess of Evil ”


Number 1 Gallery is pleased to present the art exhibition
“Princess of Evil” by Supamas Taveechotipart

Princess of Evil คือการผสมผสาน ระหว่างความงามเข้ากับความเผ็ดร้อนของด้านมืด ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยภาษาของ เซอร์ลเรียลลิส และแฟนตาซี ทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้ล้วนมี ๒ ด้าน มีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง ที่มักจะปรากฏออกมาพร้อมกันเสมอ ๆ ล้วนแต่มีนัยยะแอบแฝงด้วยกันทั้งสิ้น สิ่งที่น่ากลัวอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด


นัมเบอร์วันแกลลอรี่ ยินดีนำเสนอนิทรรศการศิลปะ "Princess of Devil" โดย "ศุภมาส ทวีโชติภัทร์" พิธีเปิดงานนิทรรศการวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.oo น. เชิญร่วมกิจกรรม พบปะพุดคุยกับศิลปินและรับสูจิบัตร งานนิทรรศการจัดแสดงตั้งแต่วันที่ : ๑๓ กุมภาพันธ์ – ๘ มีนาคม ๒๕๕๗


รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : o๒-๖๓o-๒๕๒๓















ภาพและข้อมูลจาก
เฟซบุคนิทรรศการ














"ธรรมชาติ ๑+๑ (Natural 1+1)”


โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ ขอเชิญทุกท่านร่วมต้อนรับเทศกาลตรุษจีนด้วยความเป็นสิริมงคลกับงานนิทรรศการศิลปะภาพเขียนชุด “ธรรมชาติ ๑+๑” ผลงานของ มร. ซี เช่ง ศิลปินจีน ผู้โดดเด่นด้านงานศิลปกรรมร่วมสมัย ระหว่าง วันที่ ๒๗ มกราคม – ๒๘ กุมภาพันธ์ ศกนี้ ตั้งแต่ เวลา ๙.oo – ๒๑.oo น. ณ บริเวณลานนิทรรศการ ชั้น ๓ ของโรงแรมฯ รายได้จากการจำหน่ายภาพ สมทบทุนสภากาชาดไทย


มร. ซี เช่ง ศิลปินจีนผู้โดดเด่นด้านงานศิลปกรรมร่วมสมัย เคยแสดงผลงานต่างๆมาแล้วมากมายทั้งเดี่ยว และ กลุ่ม ในทวีปยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมัน ฮ่องกง มาเลเซีย และอีกมากมาย อีกทั้งยังได้รับเชิญให้ร่วมแสดงในงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ “ฟลอเรนซ์ เบียนนาเล่” (Florence Biennale) ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศอิตาลี อีกด้วย ผลงานชุด “ธรรมชาติ ๑+๑” เป็นผลงานชุดล่าสุดที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความประทับใจในความเป็นธรรมชาติของสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัว ซึ่งมีความงดงามหลากหลายรูปแบบไม่ซ้ำกัน ไม่เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็น ต้นไม้ใบหญ้า ต้นน้ำลำธาร ภูเขาหรือดอกไม้ แต่รวมถึงความงามของสรีระสตรี ด้วยเช่นกัน ซึ่งศิลปินได้ถ่ายทอดความงดงามเหล่านั้นออกมาได้อย่างลงตัว











ภาพและข้อมูลจาก
portfolios.net














"นิทรรศการภาพถ่ายศิลปนิพนธ์ ARISING”


นิทรรศการภาพถ่ายศิลปนิพนธ์ โดยนักศึกษาสาขาศิลปะการถ่ายภาพ


คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


เชียงใหม่ วันที่ ๒๑ ก.พ. - ๑๔ มี.ค. ๒๕๕๗


ณ House of Photography (ศาลแขวงเก่า ตรงข้ามอนุเสาวรีย์สามกษัตริย์)


กรุงเทพฯ วันที่ ๒๘ มี.ค. - ๖ เม.ย. ๒๕๕๗ ณ สยามพารากอน



ภาพและข้อมูลจาก
เฟซบุคนิทรรศการ














"next station สถานีจิตวิญญาณร่วมสมัยแห่งศตวรรษที่ ๓๑”


แตกต่างจากพิพิธภัณฑ์ที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาทั่วประเทศไทย สำหรับ พิพิธภัณฑ์จิตวิญญาณร่วมสมัยแห่งศตวรรษที่ ๓๑ (สถานี) โครงการศิลปะที่ คามิน เลิศชัยประเสริฐ ศิลปินร่วมสมัยจังหวัดเชียงใหม่ ริเริ่มขึ้นเมื่อ ๔ ปีก่อน มุ่งหวังให้ผู้คนกลับมามีเสรีภาพในการแสดงออก ปลุกจิตสำนึกความเชื่อมั่นและความเข้มแข็งที่ซุกซ่อนอยู่ภายในให้ออกมาโลดแล่นสร้างสรรค์ ศิลปินคามินเชื่อใครแวะสถานีที่ ๓๑ นี้ จะเรียกคืนพลังในการประเมินค่าของตัวตนที่แสดงออกมาอย่างไม่ต้องยึดติดกับวัฒนธรรมกระแสหลัก หรือคุณค่าทางสุนทรียศาสตร์ ทุกคนเป็นศิลปิน เป็นภัณฑารักษ์ และเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์ร่วมกัน






การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์จิตวิญญาณร่วมสมัยแห่งศตวรรษที่ ๓๑ ครั้งนี้ สำนักศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจรพาตะลุยสถานีที่ใช้ตู้คอนเทนเนอร์ ๗ ตู้มาวางเรียงกันเป็นเลข ๓๑ เพื่อนำเสนอผลงานเจ๋ง ๆ ของศิลปินร่วมสมัยชื่อดังเมืองเชียงใหม่ผู้นี้ แม้เจ้าของโปรเจ็กต์จะไม่อยู่ต้อนรับ เพราะติดภารกิจเผยแพร่ผลงานต่างประเทศ แต่มีทีมงานประจำโครงการศิลปะนี้ช่วยบอกเล่าแนวคิดของโครงการให้ฟังอย่างละเอียด






ที่มาต้องย้อนไปเมื่อเดือนมิถุนายน ปี ๒๕๕๒ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งศตวรรษที่ ๒๑ เมืองคานาซาวา ประเทศญี่ปุ่น ได้เชิญคามิน เลิศชัยประเสิรฐ ศิลปินไทย เข้าร่วมสัมมนาในหัวข้อ "กระตุ้นเมืองด้วยศิลปะ" ซึ่งเป็นหัวข้อที่คามินมองว่าท้าทายสุดๆ นอกเหนือจากสัมมนา เขาได้มีโอกาสท่องเที่ยวเมืองคานาซาวา เยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ เพื่อหาสถานที่ในการทำงานและจัดแสดงผลงานในเดือนตุลาคมไปพร้อมกัน


หนึ่งในสถานที่ที่เขาได้ไปคือ โรงเรียนประถมชูโอะ คุณครูใหญ่ได้พาคามินเดินชมโรงเรียน หลังจากนั้นไปที่สำนักงาน และได้ชมภาพลายอักษรที่เขียนขึ้นด้วยมืออย่างบรรจงบนกระดาษ ครูใหญ่บอกเป็นประกาศนียบัตรที่เขาเขียนขึ้นเพื่อมอบแด่นักเรียนแต่ละคนที่สำเร็จการศึกษาในปีนี้ แต่ละใบสร้างความประหลาดใจให้คามิน เพราะเขียนความดีของนักเรียนคนนั้น ๆ ลงไป เช่น "คุณมีความสามารถพิเศษด้านดนตรีมาก" "คุณเป็นนักว่ายน้ำที่เก่งมาก" "คุณเป็นคนที่มีน้ำใจ" ซึ่งสมัยเป็นเด็กคามินได้รับประกาศนียบัตรเด็กยอดแย่ประจำโรงเรียน เพราะสร้างวีรกรรมต่าง ๆ ไว้ มันเป็นบาดแผลที่ลึกสำหรับเด็กชายคนหนึ่งที่ถูกตราหน้า






คามินถามครูใหญ่ว่าถ้ามีเด็กแย่ที่สุดในโรงเรียนจะเขียนถึงเด็กคนนั้นว่าอย่างไร คำตอบที่เขาได้ "ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะแย่มากสักแค่ไหน อย่างน้อยเขาต้องมีข้อดีในตัวอยู่สักข้อ ผมเชื่อเช่นนั้น" นี่เป็นข้อคิดที่เรียบง่าย วันนั้นคามินขอให้ครูใหญ่เขียนประกาศนียบัตรให้กับเด็กชายคนนั้น ท่านเขียนไว้ว่า "ทุก ๆ คนล้วนมีความดีอยู่ตัวเอง อย่างน้อยที่สุดหนึ่งข้อ"


ประกาศนียบัตรใบนั้นทำให้ศิลปินเชียงใหม่คนนี้เกิดแรงบันดาลใจที่จะกระตุ้นผู้คนให้หันกลับไปสำรวจประสบการณ์ตัวเอง เพื่อมองหาความหมายบางอย่างในชีวิต สิ่งของธรรมดาที่มีความหมายจริง ๆ สำหรับแต่ละคน แม้ว่าจะดูไร้สาระ โง่เง่า หรือบ้าบอในสายตาคนอื่นก็ตาม นี่คือสิ่งที่ชักนำไปสู่พิพิธภัณฑ์จิตวิญญาณร่วมสมัยแห่งศตวรรษที่ ๓๑ (สถานี) ที่ได้รวบรวมสิ่งของล้ำค่าทางจิตใจสำหรับใครคนหนึ่ง และอีกหลายคนที่ได้รับและแบ่งปันความรู้สึกร่วมกัน






สิ่งของที่จัดแสดงในแต่ละตู้คอนเทนเนอร์ แม้ไม่ใช่ผลงานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ศิลปะ หรือราคาหลักแสนหลักล้าน แต่คามินคัดผลงาน สิ่งของที่มีเรื่องราวและประวัติศาสตร์เฉพาะที่บรรจุจิตวิญญาณและพลังงานแห่งการสร้างสรรค์เอาไว้ ซึ่งประเมินราคาไม่ได้ ไม่สำคัญว่าของชิ้นนั้นจะทำจากวัสดุราคาแพงหรือไม่ อาจเป็นสิ่งของที่เรียบง่ายสำหรับคนอื่น แต่มีความหมายทางจิตใจอย่างมากสำหรับบางคน ตัวอย่างเช่น ของขวัญ คำอวยพร โปสต์การ์ด แหวน ดอกไม้ หรือแม้แต่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้รับจากคนที่เรารัก บางครั้งอาจได้รับจากคนที่ไม่รู้จักกันเลย หรือคนที่ให้ด้วยความปรารถนาดี ให้เพื่อเป็นกำลังใจ ผลงานทุกชิ้นคามินคัดด้วยตัวเอง โดยที่ไม่มีผลงานส่วนตัวของเขาแสดงเลย






ศิลปินร่วมสมัยคามินเชื่อว่า "เราทุกคนมีสิ่งของประเภทนี้อยู่หรืออย่างน้อยก็เคยได้สัมผัส แต่เรามักจะลืมหรือแอบซ่อนไว้อยู่คนเดียว และอาจมีบางครั้งที่เราไม่มีเวลาคิดหาความหมายที่ซ่อนอยู่" สำหรับโครงการนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมากระตุ้นให้ทุกคนร่วมกันประสบการณ์ที่มีคุณค่าและความหมายร่วมกับผู้อื่น


ใครมาเยี่ยมชมสถานี ๓๑ นี้ ทีมงานประจำโครงการระบุไม่ต้องเรียนจบศิลปะ เพราะเป็นผลงานทางจิตวิญญาณ ความดี ความงาม ความสวย ไม่ได้อยู่ที่วัตถุ มันอยู่ที่ใจ เพียงแค่ใช้ความรัก ความเมตตาขั้นพื้นฐานของมนุษย์ก็เข้าใจ เป็นความตั้งใจของศิลปินคามิน หวังให้ศิลปะรับใช้คุณค่าทางจิตใจมากกว่าคุณค่าของคนเฉพาะกลุ่ม






โครงการศิลปะรับใช้สังคมของคามิน เลิศชัยประเสริฐ นี้มีกำหนด ๕ ปี เป็นการกระตุ้นสังคมให้ตื่นตัว และทดลองทำงานร่วมกับชุมชนในพื้นที่ สำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชมจะมีการบันทึกและสัมภาษณ์เพื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการ ตลอดจนแนวคิดต่างๆ มีส่วนสร้างพื้นที่ศิลปะลงในจิตใจของตนเอง ปี ๒๕๕๘ ครบ ๕ ปี จบโครงการสถานี ๓๑ ตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง ๗ อาจจะยกไปจัดแสดงในบ้านของศิลปินเอง และเปลี่ยนเนื้อหาในพิพิธภัณฑ์ เน้นศิลปะเป็นวิถีชีวิต มีความเคลื่อนไหว ไม่ใช่ของตาย ก่อนเปิดให้ชมอีกครั้ง แต่ตอนนี้พิพิธภัณฑ์ก็อยู่ข้างบ้านคามินที่เชียงใหม่แล้ว.



ภาพและข้อมูลจาก
31century.org














"นิทรรศการภาพถ่าย วิถีชีวิตและวัฒนธรรมประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง”


ขอเรียนเชิญทุกท่าน เข้าร่วมพิธีเปิด นิทรรศการภาพถ่ายเชิงวัฒนธรรม


” วิถีชีวิตและวัฒนธรรมประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง”


โดย คณาจารย์และนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นและคณาจารย์


และนักศึกษาสถาบันวิจิตรศิลป์แห่งชาติ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว


ในวันพฤหัสบดี ที่ ๒o กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ กิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา เวลา ๑๗.๓o น.


ณ ชั้นดาดฟ้า อาคารหอศิลป์ต้นตาล ( ตลาดต้นตาล ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น)



ภาพและข้อมูลจาก
เฟซบุค Khon Kaen Events















"นิทรรศการภาพวาดบนกระเบื้อง ครั้งที่ ๒”


Thai Porcelain Painting Club ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมงานนิทรรศการภาพวาดบนกระเบื้อง ครั้งที่ ๒


ภายในงานจะมีการจัดแสดงงาน และประมูลงานเพื่อการกุศล


ระหว่างวันที่ ๒o-๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๑o.oo - ๑๙.oo น.


สถานที่จัดงาน ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น ๒ สยามพารากอน


พิธีเปิด วันพฤหัสบดีที่ ๒o กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๑๖.oo น.


หากนำรถไปสามารถเข้าได้ทางถนนอังรีดูนัง



ภาพและข้อมูลจาก
เฟซบุคมัณฑนศิลป์ ศิลปากร




บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2557 22:34:44 น. 0 comments
Counter : 2802 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.