Bloggang.com : haiku : เสพงานศิลป์ ๘๘

เสพงานศิลป์ ๘๘

ภาพจากเวบ deviantart.com


	"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ บางสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย ในงานศิลปของฉัน ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี

Romance - Yuhki Kuramoto

“ศิลปินร่วมบุญ เกื้อหนุน ๑oo ปี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์”

รศ.นพ.โศภณ นภาธร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พร้อมด้วย รศ.นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฝ่ายบริหารและประธานคณะกรรมการจัดงาน ร่วมชื่นชมผลงานของ อ.อนุพงษ์ จันทร

เนื่องในโอกาสครบรอบ ๑oo ปี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จัดงาน PREVIEW “ศิลปินร่วมบุญ เกื้อหนุน ๑oo ปี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์” งานกาลาดินเนอร์การประมูลงานศิลปะ โดยศิลปินแห่งชาติ, ศิลปินอาวุโส, ศิลปินชั้นนำที่มีชื่อเสียง, ศิลปินรุ่นใหม่ และผู้สะสมงานศิลป์ ที่ได้กรุณาบริจาคกว่า ๓o ชิ้นงาน ดำเนินการประมูลโดย บริษัท คริสตี้ส์ อ๊อกชั่น(ประเทศไทย) จำกัด เพื่อนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายสมทบการก่อสร้างอาคาร “ภูมิสิริมังคลานุสรณ์” อาคารรักษาพยาบาลรวมเฉลิมพระเกียรติฯ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยจัดแสดงผลงานก่อนการเปิดประมูล ตั้งแต่วันนี้-๑๒ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ โถงชั้นล่าง อาคารผู้ป่วยในพิเศษ ๑๔ ชั้น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และในวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๗ ได้รับพระกรุณาจาก พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จทรงเป็นองค์ประธานเปิดงาน ณ ห้องคริสตัลฮอลล์ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน

รศ.นพ.โศภณ นภาธร ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เผยว่า การจัดงานPREVIEW “ศิลปินร่วมบุญ เกื้อหนุน ๑oo ปี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์” เพื่อให้ประชาชน และผู้สนใจได้รับชมผลงานของศิลปินแห่งชาติ, ศิลปินอาวุโส, ศิลปินชั้นนำที่มีชื่อเสียง, ศิลปินรุ่นใหม่ และผู้สะสมงานศิลป์ อาทิ ศ.เกียรติคุณชะลูด นิ่มเสมอ ศิลปินแห่งชาติ, ศ.เกียรติคุณ ประหยัด พงษ์ดำ ศิลปินแห่งชาติ, ศ.เมธี นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ศิลปินแห่งชาติ, อ.ประเทือง เอมเจริญ ศิลปินแห่งชาติ, อ.ช่วง มูลพินิจ, อ.จิรวัฒน์ ชวนะธิต, อ.กัญจน์คชา คงคามี และ อ.พีระ โภคทวี เพราะเชื่อว่างานศิลปะนั้นมีคุณค่า ความงดงาม และสุนทรียภาพต่อจิตใจแล้ว ในทางการแพทย์ ยังสามารถพิสูจน์ได้ว่า งานศิลปะยังมีผลดีต่อการช่วยเยียวยาร่างกาย และจิตใจอีกด้วย ทั้งนี้ การจัดประมูลงานศิลปะถือว่าเป็นการร่วมใจสร้างกุศล ทั้งของบรรดาเหล่าศิลปิน ผู้สะสมงานศิลป์ ที่ร่วมบริจาคผลงานต่างๆ มาให้ดำเนินการประมูล อีกทั้งผู้มีจิตกุศล ที่ร่วมประมูลผลงานศิลป์เหล่านี้ ซึ่งรายได้จะนำไปสมทบการก่อสร้าง อาคาร “ภูมิสิริมังคลานุสรณ์” อาคารรักษาพยาบาลรวมเฉลิมพระเกียรติฯ และศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ต่อไป

คณะผู้จัดงาน นำโดย รศ.นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์, รศ.พวงแก้ว ปุณยกนก,
ปัญญ์ชลี เพ็ญชาติ, เยาวณี ช่อวิเชียร, รศ.นพ.โศภณ นภาธร, คุณหญิงปัทมาลีสวัสดิ์ตระกูล,
ศ.ดร.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ และ ศ.นพ.อนันต์ ศรีเกียรติขจร

ด้าน รศ.นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฝ่ายบริหารและประธานคณะกรรมการจัดงาน เผยว่า งาน “ศิลปินร่วมบุญ เกื้อหนุน ๑oo ปี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์” เป็นงานกาลาดินเนอร์การประมูลงานศิลปะฉลอง ๑oo ปี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้น หาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานหม้อน้ำมนต์ถมตะทองทรงกลีบบัวลายดอกพุดตาน และใบเทศ พร้อมกี๋ไม้แกะสลักสายบัว และพระกรุณาธิคุณ ที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานผลงานส่วนพระองค์ ด้วย ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ชุด “ภาพแห่งชีวิต”, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ประทานผลงานฝีพระหัตถ์สร้อยข้อมือมุก พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทาน ผลงานฝีพระหัตถ์ กล่องใส่เครื่องมือ Patchwork พร้อมลายเซ็นพระนาม, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประทานโถเบญจรงค์, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานผลงานจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ประทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ให้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อร่วมประมูลในงานครั้งนี้

อ.ชาลี สดประเสริฐ กับผลงาน ภาพ “Thai Countryside”

นอกจากนี้ ผลงานศิลปะที่เข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ ได้รับความอนุเคราะห์จากศิลปินแห่งชาติ, ศิลปินอาวุโส, ศิลปินชั้นนำที่มีชื่อเสียง, ศิลปินรุ่นใหม่ และผู้สะสมงานศิลป์ อาทิ ศ.เกียรติคุณชะลูด นิ่มเสมอ ศิลปินแห่งชาติ, ศ.เกียรติคุณ ประหยัด พงษ์ดำ ศิลปินแห่งชาติ, ศ.เมธีนนทิวรรธน์จันทนะผะลิน ศิลปินแห่งชาติ, อ.ประเทือง เอมเจริญศิลปินแห่งชาติ, อ.ช่วง มูลพินิจ, อ.จิรวัฒน์ ชวนะธิต,อ.กัญจน์คชา คงคามี และ อ.พีระ โภคทวี ร่วมบริจาคทั้งภาพจิตรกรรม และประติมากรรม กว่า ๓o ชิ้นงาน ซึ่งการประมูล ได้แบ่งออกเป็น ๒ แบบคือ การประมูลแบบเปิด ของ ๓๑ ศิลปิน ๓๕ ผลงานในวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๗ และ การประมูลแบบปิด (Silent Auction) ของ ๒๒ ศิลปิน ๒๗ ผลงาน

อ.บัญชา ทัสมาลี กับผลงานที่ชื่อว่า “เบิกบาน”

อ.อนุพงษ์ จันทร เผยถึงที่มาของผลงาน “เปรตผิวแดง” ว่า เป็นเรื่องการแตกแยก การทะเลาะเบาะแว้ง ซึ่งมาจากเรื่องเล็ก ๆ ในครอบครัวก่อน เพราะคนเรามีสังคม มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน และไม่ว่าจะเกี่ยวดองกันหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้น คือ การกระทบกระทั่งในด้านความคิด เลยเถิดไปถึงการลบหลู่ ที่ใช้อารมณ์เข้าหากัน ซึ่งความเป็นครอบครัว เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อมีปัญหา และเกิดการทะเลาะกัน โดยไม่ใช้ความคิด แต่กลับใช้อารมณ์แทนนั้น สุดท้ายปลายทางก็นำไปสู่ความรุนแรง ซึ่งตัว “เปรตผิวแดง” เป็นสัญลักษณ์ของมนุษย์ในเรื่องการทะเลาะของคนในครอบครัวนั่นเอง

อ.ชาลี สดประเสริฐ เผยว่า ภาพ “Thai Countryside” ได้แรงบันดาลใจจากการไปชมวิวทิวทัศน์ทางภาคอีสาน เห็นวิวสวยจึงสเกตช์ภาพขึ้นมาก่อน จากนั้นค่อยวาดขึ้นมาใหม่ โดยใช้เทคนิคสีน้ำบนผ้าใบ การที่ได้ไปสัมผัสชีวิตของคนชนบททำให้ตนรู้ว่า คนชนบทนั้นต้องการได้รับความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก การที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการประมูลงานศิลปะถือเป็นก้าวแรกที่อย่างน้อย ๆ ได้ช่วยเหลือผู้ป่วยให้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

ทั้งนี้ ผู้มีจิตศรัทธา สามารถร่วมบริจาคเงินสมทบทุนสร้างอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ได้ที่ สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ชั้น ๒ ตึกอำนวยนรธรรม และที่ศาลาทินฑัต และตึกวชิรญาณวงศ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โทร.o๒-๒๕๖-๔๓๙๗, o๒-๒๕๖-๔๓๘๒ และ o๒-๒๕๑-๗๘o๔

ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com

"MRT ชวนชมฟรี! หุ่นกระบอกร่วมสมัย”

บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BMCL) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า MRT ขอเชิญชวนผู้โดยสารและประชาชนทั่วไป ชมการแสดงละครเพลงหุ่นกระบอกไทยร่วมสมัย ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เรื่อง พันท้ายนรสิงห์ เดอะมิวสิคัลพัพเพท การแสดงที่สร้างจิตสำนึกให้คนไทยทั้งชาติตระหนักถึงความซื่อสัตย์ รักชาติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระมหากษัตริย์ ซึ่งจัดแสดงให้ชมฟรีระหว่างในวันที่ ๒๓-๒๔ มี.ค. ๒๕๕๗ รวม ๕ รอบ ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ผู้สนใจสามารถเข้าชมฟรี! โดยสำรองที่นั่งฟรี ๑ ท่านต่อบัตรเข้าชม ๒ ใบ โทร.o-๒๒๔๗-oo๒๘ ต่อ ๔๑๑๗, ๔๑๑๙ หรือเข้าอบรมพร้อมชมเบื้องหลังการทำงานของละครเพลงหุ่นกระบอกไทยได้ในวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๗ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บ้านตุ๊กกะตุ่น หุ่นกระบอกไทย โทร.o-๒๕๗๙-๘๑o๑.

ภาพและข้อมูลจากเวบ
ryt9.com
aecmiracle.com

"เยือนนันทบุรีตามใจ 'สิเนหามนตาฯ'”

เงียบสงบแต่มอบมนต์สะกดใจให้แก่ผู้มาเยือนเสมอ สำหรับนครนันทบุรี หรือ "จังหวัดน่าน" เมืองเล็กที่ควรยกให้เป็นสถานที่พักผ่อนอันดับต้นๆ ในแผนการท่องเที่ยวสักครั้งในชีวิต ด้วยบรรยากาศความเป็นมิตร เรียบง่าย ไม่รีบร้อน รายล้อมด้วยประวัติศาสตร์ล้านนาที่มีอยู่ในวัดวาอารามเก่าทุกซอกมุมเมือง และหากย้อนไปเมื่อ ๔ ปีก่อน บุคคลดังแห่งวงการธุรกิจ บัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย ก็เป็นอีกคนที่หลงเสน่ห์เมืองน่านเข้าอย่างจัง ถึงขั้นเกิดแรงบันดาลใจให้ศึกษาบ้านเมืองเก่านี้รอบด้าน ทั้งความเป็นอยู่ ภาษา ศิลปวัฒนธรรมและกลั่นกรองออกมาเป็นหนังสือนิยายกึ่งประวัติศาสตร์ด้านเงาและแจ้ง (อดีต-ปัจจุบัน) ในชื่อ "สิเนหามนตาแห่งล้านนา" ที่โลดเล่นอยู่ในโลกของนักอ่านมาเกือบ ๑ ปีแล้ว จนเป็นเรื่องราวก่อเกิดความอยากรู้อยากสัมผัส สถานที่ในแต่ละฉากที่มีอยู่จริงในเมืองน่าน ทำให้วันนี้นักท่องเที่ยวไม่น้อยนิยมเดินทางตามรอยหนังสือเล่มนี้มาที่เมืองน่านเพื่อได้ยลโฉมฉากสวย ๆ ประหนึ่งเป็นตัวประกอบอยู่ในหนังสือสักบทหนึ่ง

เฉกเช่นการเดินทางครั้งนี้ เรามาย้อนรอยหนังสือพร้อมคณะนักอ่านจากเดอะวิสดอม ธนาคารกสิกรไทย ที่ไม่ใช่แค่มาสืบรู้เรื่องนิยายเท่านั้น ประวัติศาสตร์ และศิลปะแบบน่านก็ยังสะกดอารมณ์ทุกคนให้ตื่นตาตื่นใจไปด้วย จากการเล่าเรื่องราวโดยไกด์กิตติมศักดิ์อย่าง อ.เผ่าทอง ทองเจือ ที่บอกว่านิยายเรื่องนี้ดำเนินเรื่องด้วยตัวละคร ๒ ยุค ๒ สมัย เล่าคร่อมประวัติศาสตร์ล้านนา และสถานที่ที่มีอยู่จริง เริ่มต้นกันที่วัดภูมินทร์ ฉากการมาเยือนน่านครั้งแรกของสาวสมัยใหม่อย่าง รุ้งราตรี นางเอกของเรื่อง ซึ่งมาที่วัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจ.น่านแห่งนี้เป็นที่แรก เป็นวัดหนึ่งเดียวในไทยที่สร้างเป็นทรงจัตุรมุข เป็นทั้งมหาเจดีย์ พระวิหารและพระอุโบสถอยู่ในที่เดียวกัน ไม่มีจารึกชัดเจนว่าว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ในปี ๒๑๔๖ มีการกล่าวถึงในพงศาวดารว่า ที่นี่มีความเก่าไม่ต่ำกว่า ๕oo ปี ทั้งสถาปัตยกรรม ภาพฝาผนังมีการวาดขึ้นตอนปลายรัชกาลที่ ๔ ต้นรัชกาลที่ ๕ รูปของหนุ่มสาวกระซิบรัก ซึ่งชาวน่านเรียกคู่รักคู่นี้ว่า "ปู่ม่าน ย่าม่าน" เป็นดังภาพต้อนรับการมาเยือน เพราะนอกจากในวัดนี้แล้วก็ยังมีรูปนี้อยู่ทั่วทั้งเมือง

ตามท้องเรื่องเมื่อพระญาผาสุริยา ตัวเอกของนิยายเล่มนี้ถูกวางไว้อยู่ในยุคต้นราชวงศ์ภูคา หรือประมาณ ๖-๗ ร้อยปีที่แล้ว สามารถกอบกู้เอกราชบ้านเมืองตัวเองมาได้ และได้ปกครองเมืองวรนคร หรือ อ.ปัว ในปัจจุบัน โดยความรุ่งเรืองของเมืองปัวในอดีตอยู่ที่เม็ดเกลือ เพราะมีราคาแพงยิ่งกว่าทองนับเป็นยุทธปัจจัยในสมัยโบราณ หลายนครทางเหนือทั้งอยุธยา สุโขทัย เชียงใหม่ หลวงพระบาง มักยกทัพชิงเมืองปัวเพื่อนำเกลือมาถนอมอาหาร ในปัจจุบันแหล่งเกลือสินเธาว์ยังตั้งอยู่ใน ต.บ่อเกลือ แน่นอนว่ายุคนี้เกลือไม่ใช่ของสำคัญ แต่ชาวบ้านยังคงสืบต่อการต้มเกลือไว้อย่างดีมาเป็นระยะเวลาหลายร้อยปี และไม่เปลี่ยนแปลงกรรมวิธีแต่อย่างใด

อีกหนึ่งฉากที่เล่าถึงความเป็นมาของ จ.น่านได้ดีที่สุดคือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดน่าน ตัวอาคารในอดีตเป็น “หอคำ” หรือคุ้มของเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน ทรงสร้างเป็นที่ประทับเมื่อปี ๒๔๔๖ ในนี้มี “งาช้างดำ” ที่ได้รับมาจากเชียงตุงและกลายเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด ถูกอัญเชิญวางบนครุฑซึ่งเป็นสัตว์พาหนะของพระนารายณ์ เป็นสมบัติของชาติอันสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์สุดขีดของป่าไม้เมืองล้านนา และประเทศเพื่อนบ้านในสมัยก่อนซึ่งหาช้างพิเศษเหล่านี้ไม่พบแล้วในปัจจุบัน โดยในทริปนี้ยังได้ตามรอยสถานที่สำคัญอีกมากมาย อาทิ วัดป่าคอวัง วัดพระธาตุแช่แห้ง และวันต้นแหลง ซึ่งเสน่ห์ที่แท้จริงอยู่ตรงความสงบ มีสถาปัตยกรรม ประเพณีการทำบุญดั่งเดิมราวย้อนไปในอดีต สวยงามไม่เอาใจคนสมัยใหม่แต่อย่างใด

หลังจากเที่ยวตามรอยมาบางส่วน "ปั้น" บัณฑูร ล่ำซำ ผู้ประพันธ์ สิเนหามนตาแห่งล้านนา บอกเล่าถึงเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และเมืองน่านในปัจจุบันว่า ความเป็นล้านนาตะวันออกมีการจดประวัติศาสตร์ในแถบนี้น้อยมาก เป็นตำนานที่ยังไม่มีใครยืนยันได้ ๑oo เปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้ที่ไม่ใช่นักวิชาการและนักเขียนมืออาชีพที่นี่จึงเป็นพื้นที่ใช้จินตนาการในงานประพันธ์ได้เต็มที่

"เรื่องความเป็นไปของเมืองน่านในปัจจุบันเป็นโจทย์ที่ท้าทาย เช่น การแทรกเรื่องการเมือง การปกครอง งานบริหารต่างๆ รวมถึงการรักษาป่าเมืองน่านที่เป็นปัญหาใหญ่ในตอนนี้ ขณะเดียวกันก็เล่าไปพร้อมกับประวัติศาสตร์ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่มนุษย์ต้องรู้ว่าบริบทชีวิตที่มาของประเทศที่เราอยู่ บ้านเมืองของเราเป็นอย่างไร ทำให้เกิดปัญญาไปอีกขั้นหนึ่งที่จะพิจรณาความเป็นไปในสังคมปัจจุบันได้ พูดได้ว่าระยะเวลา ๔ ปี ที่หลงรักและมาอยู่ใน จ.น่าน วัฒนธรรมของนันทบุรีนี้แน่นหนาพอสมควรไม่สามารถมาทำลายได้ง่ายๆ ยังมีเสน่ห์ที่ความสงบ นุ่มนวล มีไมตรีจิตอยู่เสมอ" ผู้เขียนบอกถึงน่านในมุมมองของสิเนหามนตาแห่งล้านนา

ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net

"นิทรรศการศิลปะ A Piece of Cake"

นิทรรศการศิลปะ A Piece of Cake ผลงานโดย ทรงวิทย์ สี่กิติกุล (Songwit Seakitikul) จัดแสดงระหว่างวันที่ ๗ มีนาคม - ๒๕ เมษายน ๒๕๕๗ และจะมีพิธีเปิดในวันศุกร์ที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.oo-๒๑.oo น. ณ ArtGorillas ArtGallery

อาร์ตกอริลล่าส์ อาร์ตแกลเลอรี่ภูมิใจเสนอนิทรรศการศิลปะ A Piece of Cake งานแสดงผลงานเดี่ยวครั้งแรกของ ทรงวิทย์ สี่กิติกุล นักเขียนการ์ตูนที่มีผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ต่อเนื่องมากว่า ๑๔ ปี นิทรรศการครั้งนี้มุ่งสะท้อนความอุตสาหะในอาชีพของศิลปินอดีตสถาปนิกที่ผัน ตัวมาเป็นเป็นนักเขียนการ์ตูนและนักวาดภาพประกอบ ผ่านภาพวาดต้นฉบับ ภาพร่าง ภาพเขียน และงานการ์ตูนสั้นจบในตอนที่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหนมาก่อน

ผลงานของทรงวิทย์ สี่กิติกุล ที่ผ่านมามีหลากหลาย อาทิ หนังสือโลกของเรา (World&Earth), ที่นี่มีชีวิต (Find Joy), โปรดติดตามตอนต่อไป (To be continued) และเล่มล่าสุด สามัญรัญจวน (Super Ordinary Stories) ปัจจุบันเขียนคอลัมน์ Spirited Away ประจำในนิตยสาร Filmax และยังเคยร่วมแสดงนิทรรศการมาแล้วหลายครั้ง

ชมผลงานของศิลปินเพิ่มเติมได้ที่ sengsongwit.tumblr.com

ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com
sengsongwit.tumblr.com
exhibition.contestwar.com
เฟซบุค artgorillas

"Two Sides to Every Story”

นิทรรศการภาพเขียนของกฤษณา ชัยกิจวัฒนา ซึ่งถือว่าเป็นศิลปินรุ่นเยาว์ที่มีความคิดเฉียบคมมากที่สุดคนหนึ่ง ผลงานที่สะท้อนระหว่างความจริงกับนิยาย หรือเป็นในแนวหลากหลายมุมมองที่เป็นสองด้าน ที่สะท้อนแง่มุมบางอย่างในสังคม รวมไปถึงแง่มุมการเมืองด้วย นิทรรศการชุดนี้จัดแสดงไปจนถึงวันที่ ๑๕ มีนาคมศกนี้ ที่ Thavibu Gallery อยู่บนสีลม แกลเลอรี่ ชั้น ๔ เปิดแสดงตั้งแต่จันทร์-เสาร์ เวลา ๑๑.oo-๑๙.oo น.

ภาพและข้อมูลจากเวบ
ryt9.com
fineart-magazine.com

นิทรรศการ "FACES”

นิทรรศการสื่อผสมของณรงค์ยศ ทองอยู่ ศิลปินผู้เชี่ยวชาญด้านจิตรกรรม แสดงผลงานที่สะท้อนธรรมชาติของมนุษย์ และครั้งนี้เขาก้าวข้ามสายงานเคยชินจากการระบายรูปบนกระดาษ มาสู่การเพนต์ภาพบนชิ้นงานไม้ โดยใช้เหล็กร้อนแทนพู่กัน วาดระบายผลงานลงบนเนื้อไม้ ทำให้เนื้อไม้เก่าแก่นับร้อยปีกลายเป็นผลงานศิลปะแนวใหม่ทันที จัดแสดงที่ Tita allery ไปจนถึงวันที่ ๓o เมษายน ๒๕๕๗

ภาพและข้อมูลจากเวบ
ryt9.com
portfolios.net

นิทรรศการ “อะไรอยู่ในเส้น”

แต่ละวันประชากรมากกว่าหนึ่งส่วนสี่ของโลกบริโภคอาหารประเภทเส้น มูลค่าของเส้นก๋วยเตี๋ยวในตลาดค้าปลีกทั่วโลกปี ๒o๑๓ มีมูลค่าถึง ๑,๔๑๓.๓ พันล้านบาท ตามมาด้วยพาสต้าที่มีมูลค่า ๘๓๗ พันล้านบาท ยังไม่รวมถึงปริมาณเส้นก๋วยเตี๋ยวและพาสต้าที่ทํากินเองที่บ้านซึ่งไม่ได้รวมอยู่ในสถิติที่บันทึกไว้

จาก 'ลาเมี่ยน' เส้นหมี่จีนดึงด้วยมือแบบบ้านๆ สู่เส้น 'โซบะ' บัควีทญี่ปุ่นชั้นดี และ 'ฟูซซี่ลี่' พาสต้าอิตาเลียนเส้นเกลียว ประวัติศาสตร์ของอาหารประเภทเส้นนั้นกําเนิดขึ้นจากความจําเป็นและพัฒนาขึ้นอย่างช้า ๆ ตามสถานที่ เวลา และเทคนิคทักษะ

ความต้องการยืดอายุการเก็บรักษาข้าวสาลีและข้าวเจ้าหลังฤดูเก็บเกี่ยวของคนโบราณกลายเป็นความหลากหลายทางรสชาติและรสสัมผัสแบบร่วมสมัยได้อย่างไร? เส้นต่าง ๆ คงไม่เกิดขึ้นมากมายหากปราศจากการประดิษฐ์คิดค้นโรงสีที่ช่วยให้ชาวนาสามารถเปลี่ยนข้าวสาลี ข้าวฟ่าง และข้าวเจ้าให้กลายเป็นแป้ง

เมื่อเส้นแพร่หลายจากจีนไปทั่วเอเชีย เทคนิคการทำถูกผสมผสานเข้ากับเมล็ดพืชและเครื่องเทศในแต่ละท้องถิ่น ในประเทศญี่ปุ่นเรายังมีโอกาสเห็นร้านอูด้งและโซบะที่ทำตามตำรับดั้งเดิมจากเมื่อหลายร้อยปีก่อนอย่างไม่มีผิดเพี้ยน ส่วนสยามประเทศศูนย์กลางเส้นทางการค้าที่เชื่อมโลกตะวันตกกับตะวันออกตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๖ ก็โดดเด่นเรื่องน้ำซุปและเครื่องปรุงรสซึ่งผสมเข้ากับการปรุงอาหารพื้นเมืองที่รับมาจากต่างถิ่น ได้ผลเป็นก๋วยเตี๋ยวที่มีเอกลักษณ์ของไทยในปัจจุบัน
แต่พัฒนาการที่ละเอียดลออมากที่สุดของส่วนผสมง่ายๆ จากแป้งและน้ำ คือการทำพาสต้าอิตาเลียน ซึ่งประยุกต์กระบวนการทดลองทางวิทยาศาสตร์มาใช้ออกแบบก้อนแป้งให้มีผลต่อรูปทรงและความเหนียว ตลอดจนการดูดซับน้ำซอส การศึกษารายละเอียดต่าง ๆ เหล่านี้อย่างถ้วนถี่เพื่อตอบความต้องการการปรุงอาหารของแต่ละท้องถิ่นในขั้นแรกได้กลายมาเป็นอุตสาหกรรมการผลิตพาสต้าที่หลากหลาย

สุดท้าย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วย ไอคอนอาหารและวิถีการกินของศตวรรษที่ ๒o ซึ่งกระจายไปทั่วทุกชนชั้นทางสังคมจากเขตเมืองสู่ชนบทห่างไกล ด้วยความหลากหลายของเครื่องโรยหน้า เครื่องปรุง และหีบห่อ ยึดพื้นที่ในแต่ละครัวเรือนทั่วโลก

ประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าสี่พันปีของเส้น แสดงให้เห็นความชาญฉลาดของมนุษย์ในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการผลิตอาหาร ถ้าปราศจากมัน… ตอนนี้เราจะอยู่กันอย่างไร?

ถ้าเพียงเพื่อประทังชีพ... เราจะมีทั้ง สปาเกตตี้ บะหมี่ อูด้ง และเส้นต่าง ๆ ในโลกมากมายขนาดนี้ไหม

เข้าชมฟรีที่ TCDC เชียงใหม่ ๑/๑ ถนนเมืองสมุทร ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ๕o๓oo
สอบถาม โทร. o๕๒-o๘o-๕oo # ๑
เวลา ๑o.๓o - ๑๘.oo (ปิดวันจันทร์)
เวลา: ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ - ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๗
สถานที่: ห้องนิทรรศการ TCDC เชียงใหม่

ภาพและข้อมูลจากเวบ
portfolios.net

"เทศกาลหนังสารคดีนานาชาติศาลายา ครั้งที่ ๔”

ถือเป็นกิจกรรมที่ทำเป็นประจำต่อเนื่องมาเป็นปีที่ ๔ งานงานเทศกาลภาพยนตร์สารคดีนานาชาติศาลายา ซึ่งจัดโดยหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อคัดสรรภาพยนตร์สารคดีคุณภาพจากทั่วโลกมาให้ผู้ชมชาวไทยซึ่งอาจจะไม่คุ้นเคยกับภาพยนตร์สารคดีได้รับชม และที่สำคัญ ยังมีการประกวดภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยมจากประเทศอาเซียนอีกด้วย

ในปีนี้ เทศกาลภาพยนตร์ศาลายานานาชาติ ครั้งที่ ๔ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ ๒๒ – ๒๙ มีนาคม ศกนี้ ณ โรงภาพยนตร์ศรีศาลายา หอภาพยนตร์ฯ (ถ.พุทธมณฑลสาย ๕) และ วันที่ ๒๖ – ๒๘ มีนาคม ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น ๕ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุค Salaya Doc หรือ fapot.org หรือ โทร o๒-๔๘๒-๒o๑๓ – ๑๔ ต่อ ๑๑๑

ภาพและข้อมูลจากเวบ
fineart-magazine.com

บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor

Create Date : 07 มีนาคม 2557

Last Update : 9 มีนาคม 2557 12:23:02 น.

0 comments

Counter : 1908 Pageviews.