happy memories
Group Blog
 
<<
กันยายน 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
14 กันยายน 2557
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๑๔๑




ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto








กู่พระโกนา


เมืองร้อยเอ็ด ภูมิแห่งชัยชนะของพระเจ้าจิตรเสน


การพบจารึกอักษรปัลลวะภาษาสันสกฤตบนฐานศิวลึงค์ที่แหล่งโบราณคดีดอนขุมเงิน ต. เด่นราษฎร์ กิ่งอำเภอหนองฮี จ.ร้อยเอ็ด นั้นเป็นจารึกที่กล่าวถึงพระนามพระเจ้าจิตรเสน (มเหนทรวรมัน) กษัตริย์แห่งอาณาจักรเจนละ ในสมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๒ หรือกว่า ๑,๓๐๐ ปีมาแล้วนั้น เป็นหลักฐานที่ทำให้พื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้มีฐานะเป็นชุมชนสำคัญ ไม่เช่นนั้นแล้ว พระเจ้าจิตรเสนคงไม่แผ่อำนาจเข้ามาครอบครอง และสถาปนาจารึกของพระองค์ไว้ ในพื้นที่จ.ร้อยเอ็ด อาทิตย์นี้จึงได้ตามรอยสำนักศิลปากรที่ ๑๐ ไปยังแหล่งปราสาทขอมหรือกู่สำคัญในพื้นที่ร้อยเอ็ด โยตามรอยจากจารึกที่มีข้อความและลักษณะรูปอักษรเหมือนกับกลุ่มจารึกของพระเจ้าจิตรเสน กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยขอมโบราณ ที่เคยขุดพบที่บริเวณปากน้ำมูล จ.อุบลราชธานี





ปรางค์กู่



สำหรับเนื้อหาของจารึกนี้ได้กล่าวถึงพระเจ้าจิตรเสนว่าเป็นพระราชนัดดาของพระเจ้าศรีสารวเภามะ เป็นพระ เชษฐาของพระเจ้าศรีภววรมัน และเมื่อพระเจ้าจิตรเสนขึ้นครองราชย์นั้นได้รับการอภิเษกเป็นพระเจ้าศรีมเหนทรวรมัน แท่นฐานศิวลึงค์นี้ที่พระเจ้าจิตรเสนสร้างขึ้นนี้เป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะ นับเป็นการค้นพบครั้งแรกของประเทศไทยและอาจมีเพียงชิ้นเดียว อีกทั้งยังเป็นหลักฐานทางโบราณคดีที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ และยังพบ แท่นฐานโคอุสภะ และชิ้นส่วนจมูกวัว เป็นต้นที่เชื่อว่าทุ่งกุลาดำที่เชื่อว่าเป็นดินแดนแห้งแล้งจนร้องไห้นี้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเจนละมาก่อน ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๑ ระหว่าง พ.ศ. ๑๒๐๐-๑๒๒๔





กู่กระโดน



เนื่องจากระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๒, ๑๓, ๑๔ และ ๑๕ สถาปัตยกรรมและศิลปกรรม จะเน้นการสร้างด้วยอิฐศิลาและการก่อสร้างด้วยไม้เป็นหลัก ส่วนพุทธศตวรรษที่ ๑๖ และ ๑๗ เริ่มใช้อิฐน้อยลงและไม่ใช้อิฐเลย ด้วยเหตุนี้แนวความคิดการสร้างสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างเครื่องไม้และวัตถุถาวรประเภทหินในพุทธศตวรรษที่ ๑๒ นั้นยังแสดงให้เห็นว่ามีหลักฐานที่บอกถึงการเปลี่ยนแปลงการนับถือศาสนาจากพราหมณ์มาเป็นนับถือศาสนาพุทธ ด้วยพบพระพิมพ์แบบศิลปะทวาราวดีจำนวน ๓ องค์อีกด้วย





กู่คันธนาม



เมืองร้อยเอ็ดแห่งนี้มีเรื่องจากตำนานอุรังคธาตุ เล่าไว้ว่าบริเวณนี้เดิมเป็นเมืองขนาดใหญ่ของอาณาจักรกุลุนทะชื่อเมืองสาเกต มีพระเจ้ากุลุนทะเป็นกษัตริย์ครองสืบๆกันมา จนถึงสมัยพระยาศรีอมรนีซึ่งมีพระโอรสชื่อสุริยกุมาร อายุ ๑๖ ปี พระโอรสองค์นี้เป็นนักรบที่สามารถรวบรวมเมืองต่าง ๆ เข้ามาอยู่ในอำนาจได้ ๑๑ หัวเมืองได้แก่เมืองเชียงเหียน เมืองฟ้าแดด เมืองสีแก้ว เมืองเปือย เมืองทอง เมืองหงส์ เมืองบัว เมืองคอง เมืองเชียงขวง เมืองเชียงดี และเมืองไพ ดังนั้นการมีเมืองอยู่ในอำนาจ ๑๑ เมือง จึงเป็นที่มาของทางเข้าและประตูเข้าสู่เมืองหลวง ๑๑ ประตู สมัยโบราณ นิยมเขียน ๑๑ เป็น๑๐-๑ คือ สิบ กับหนึ่งจึงเรียกร้อยเอ็ด





ยอดปรางค์ของกู่โพนระฆัง



สำหรับหลักฐานที่มีโบราณสถานนั้นได้พบอยู่หลายแห่งเช่น เมืองโบราณที่อำเภอพนมไพรมีคูเมืองและสระรอบ ๆ เนินดินแล้งยังมีสระโชติ (สระขี้ลิง)ตรงกลาง รอบสระโชติเป็นเนินสูงมีเสมาหินศิลปขอมจมอยู่ สันนิษฐานว่าขอมเป็นผู้สร้างแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังพบกู่หรือปราสาทขอมอยู่หลายแห่งในอำเภอเกษตรวิสัย-อำเภอสุวรรณภูมิ อำเภอธวัชบุรี-เป็นต้น ซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญที่น่าสนใจทุกแห่งได้แก่ กู่กาสิงห์ กู่โพนระฆัง กูโพนวิท กู่กระโดน กู่เมืองบัว กู่พระโกนา พระธาตุบ่อพันขัน กู่คันธนาม ปรางค์กู่ เป็นต้น สร้างด้วยศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีประตูเข้าออกเป็นสี่ด้าน ภายในมีศิลาแลงวางทับกันเป็นชั้น ๆ มีภาพสลักหน้าจั่วและโบราณวัตถุสำคัญมากมาย จนไม่น่าเชื่อว่าดินแนดนี้คือ ภูมิแห่งชัยชนะที่พระเจ้าจิตรเสนนั้นครอบครองและมีการสร้างปราสาทหินขึ้นไว้มากมาย





แท่นศิวลึงค์ที่มีอักษรปัลลวะของพระเจ้าจิตรเสน





พระธาตุบ่อพันขัน





จารึกทีี่ฐานของศิวลึงค์ของพระเจ้าจิตรเสน




ภาพและข้อมูลจากเวบ
roiet.go.th
naewna.com














วันศิลป์ พีระศรี ๒๕๕๗


ศิลปินมีความประหลาด
มีข้อบกพร่อง
และมีคุณสมบัติต่าง ๆ
เหมือนกันกับมนุษย์ทั้งหลายทั่วไป
แต่ศิลปินได้รับความรู้สึกที่ไวกว่า
ศิลปินบางคนช่างคิดฝัน
บางคนมีอารมณ์ร้าย
บางคนตลกโปกฮา
บางคนเป็นนักเยอะเย้ย กระทบกระเทียบ
บางคนข่มขื่น และอิจฉาตาร้อน
บ้างก็เป็นคนเปิดเผย
ใช้เงินหมดทุกสตางค์จนเกินรายได้
และบางคนก็งกเงิน

ศิลป์ พีระศรี


ขอเชิญร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงานวันศิลป์ พีระศรี ประจำปี ๒๕๕๗



มหาวิทยาลัยศิลปากรร่วมกับกรมศิลปากร สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยศิลปากร และสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร กำหนดจัดงานวันศิลป์ พีระศรี “๑๒๒ ปีศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี” เพื่อเป็นเกียรติและรำลึกถึงศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ผู้ร่วมก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากรและผู้วางรากฐานการศึกษาศิลปะร่วมสมัยของไทย ในวันจันทร์ที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๗ ณ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ


ในการนี้ ฯพณฯ นายชวน หลีกภัย ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ในวันจันทร์ที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๗ เวลา ๙.oo น. ณ ลานอนุสาวรีย์ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ กรุงเทพฯ มหาวิทยาลัยศิลปากรจึงขอเรียนเชิญท่านร่วมเป็นเกียรติและร่วมตักบาตร พร้อมวางช่อดอกไม้คารวะอนุสาวรีย์ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เนื่องในงานวันดังกล่าวด้วย







ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค interprint














รูปแห่งศรัทธา


นิทรรศการแสดงผลงานประติมากรรมและภาพเขียนของ หงส์จร เสน่ห์งามเจริญ


และผลงานภาพถ่ายของ เชิดวุฒิ สกลยา


โดยศิลปินเลือกบุคคลที่ตนเองศรัทธา ในผลงาน ตลอดจนแนวความคิดและอุดมการณ์ มาเป็นต้นแบบในการถ่ายทอดผ่านผลงานศิลปะที่จัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้


และหวังว่าผู้ชมโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่จะได้รับแรงบันดาลใจ
จากบุคคลเหล่านี้ในเรื่องการอุทิศตนทำงานเพื่อส่วนรวม


เปิดนิทรรศการวันศุกร์ที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.๓o น.


จากนั้นจัดแสดงให้ชมไปจนถึงวันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๗


ณ หอศิลป์จามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย











ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค art eye view














นิทรรศการประติมากรรม "อมตะแห่งสำริด"


คงไม่มีใครปฎิเสธว่า งานประติมากรรมชิ้นยิ่งใหญ่ สำคัญ ๆ ระดับโลกที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาในช่วงศิลปะยุคกลางนั้น มักจะใช้วัสดุหล่อสำริด (บรอนซ์) เป็นเนื้อแท้ของผลงาน (ไม่นับรวมงานแกะสลักหินอ่อน หรือหินประเภทต่างๆตามโบสถ์หรือเทวสถานที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ศิลปะยุคต้น ๆ) แม้จะผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน นับร้อยหรือ พันปี ผลงานเหล่านี้ก็ยังทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา “อมตะ” ไม่เสื่อมคลาย ยังคงความงดงามพร้อมๆกับชื่อเสียง ของศิลปิน ที่ถูกจารึกคู่กับผลงานไว้ตลอดกาลเช่นกัน


“สำริด” หรือ “สัมฤทธิ์” ในภาษาอังกฤษหมายถึง “Bronze” คือ โลหะผสมที่เกิดจากเทคโนโลยีการนำแร่ทองแดงจากธรรมชาติ มาหล่อด้วยความร้อนรวมกับดีบุก ตะกั่ว ในอัตราส่วนที่เหมาะสม บางครั้งยังพบงานสำริดบางชิ้นมีส่วนผสมของสังกะสีด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการสร้างสรรค์งานศิลปะให้กับประติมากรชั้นนำทั่วโลก


ด้วยคุณค่าความงามอันเป็นนิรันดร์ของวัสดุ “สำริด” นี้เอง ฮอฟอาร์ตจึงขอหยิบยกนำผลงานประติมากรรมหล่อสำริด จากศิลปินไทยที่มีชื่อเสียงหลากหลายท่าน ทั้งระดับครูบาอาจารย์และระดับอาวุโส รวมทั้งศิลปินรุ่นใหม่ที่มีผลงานน่าสนใจ มานำเสนอในนิทรรศการชุด “อมตะแห่งสำริด” หรือ “Bronze World” ขึ้น


ในนิทรรศการครั้งนี้ ฮอฟอาร์ต ได้รับเกียรติอย่างสูงที่ได้นำผลงานอันทรงคุณค่าแก่วงการประติมากรรมไทยมาจัดแสดง ทั้งจากครอบครัวศิลปินชั้นเยี่ยมอาวุโส อ.เขียน ยิ้มศิริ ครอบครัวศิลปินแห่งชาติ อ.ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ อีกทั้ง ศิลปินแห่งชาติ อ.นนทิวรรธน์ จันทนะผลิน และที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้น ฮอฟอาร์ตยังได้รวบรวมผลงานประติมากรรมหล่อสำริดหลายชิ้น ซึ่งเป็น มาสเตอร์พีซที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก และยังไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน จากศิลปินชื่อดังทั้งไทยและต่างประเทศอีกหลายท่าน ซึ่งได้ไว้วางใจมอบผลงานนำมาจัดแสดงที่นี่ร่วมกันเป็นครั้งแรกอีกด้วย


“เราเชื่อว่าเหล่านักสะสมงานผลงานประติมากรรม จะต้องให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะในงานนี้ เรายังได้เปิดตัวศิลปินรุ่นใหม่ที่มีฝีมืออีก ๒ ท่าน คือ สัญชัย คงกล่อม และ ศราวุธ คำมูลชัย สองคลื่นลูกใหม่ไฟแรง ซึ่งมีชั้นเชิงทางศิลปะสุดฝีมือ กล่าวได้ว่าวงการประติมากรรมไทยควรต้องจับตามองและไม่ควรพลาดชมนิทรรศการครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง” นายจารุต วงศ์คำจันทรา ผู้อำนวยการฮอฟอาร์ตกล่าว


นิทรรศการประติมากรรม “อมตะแห่งสำริด” หรือ BRONZE WORLD เป็นนิทรรศการที่รวบรวมผลงานประติมากรรมหล่อสำริดกว่า ๕o ชิ้นงาน จากศิลปินชั้นครู ศิลปินรุ่นใหญ่ รุ่นกลาง รุ่นเล็ก และจากนักสะสม รวมทั้งหมดกว่า ๑o ท่าน มาจัดแสดงร่วมกันเป็นครั้งแรก โดยจัดเปิดงานอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๗ และเปิดให้ชมฟรี พร้อมจำหน่าย ตั้งแต่วันที่ ๕-๓o กันยายน ๒๕๕๗ เวลา ๑o.oo – ๑๙.oo น. ทุกวัน (หยุดวันนักขัตฤกษ์) ณ HOF ART SPACE ในโครงการ W DISTRICT ถนนสุขุมวิท ระหว่างซอย ๖๙ – ๗๑
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ โทร o๒-๑๗๘-oo๙๕



ภาพและข้อมูลจากเวบ
ocac.go.th














นิทรรศการศิลปะโดยคิงตุ๋น I'm a Painter…On Earth


ขอเชิญชมนิทรรศการศิลปะ “I’m a Painter...on Earth” นักวาด…บนโลก โดย “คิงตุ๋น” ภาคินี รัตนะ ๑-๓o กันยายน ๒๕๕๗ ที่หอศิลปะมารศี วังสวนผักกาด...


“การได้วาดรูป คือความสุข เราจะวาดตอนไหนได้ ถ้าไม่ใช่วาดตอนมีชีวิต ได้วาดรูป บนโลก สนุกและสุขที่สุดแล้ว”


งานแสดงภาพวาดครั้งนี้ เป็นการบอกเล่าเรื่องราว ความคิด อารมณ์ ความรู้สึก ของนักวาด ที่ชื่อคิงตุ๋น ผ่านผลงานลายเส้นบนจอคอมพิวเตอร์ สีน้ำบนกระดาษ และสีอะคริลิคบนเฟรมผ้าใบ พร้อมถ้อยคำประกอบภาพ อันเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คิงตุ๋นอยากทำ นั่นคือการเป็นนักเขียน






พบกับ ภาพวาดของคิงตุ๋น ได้ทุกวัน ที่นิทรรศการ “I’m a Painter..On earth” ๑-๓o กันยายน ๒๕๕๗ ที่หอศิลปะมารศี วังสวนผักกาด ทุกวัน เวลา ๙.oo-๑๖.oo น. เปิดงานวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๓o น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.facebook.com/kingtuntheartist โทร. o๘๑-๖๔๖-๖๖๒๗





Harmony of color No.6..Home-Town



ชื่อภาพ :Harmony of color No.6..Home-Town ขนาด ๘ox๑oo ซม. เทคนิค สีอะคริลิค บนผ้าใบ

ได้เดินทางกลับบ้านเกิด มองเห็นภาพจากมุมสูงบนเครื่องบิน ครุ่นคิด ถึงชีวิต คน โลก และจักรวาล...คนช่างเล็กนิดเดียวแต่ความทรงจำนั้นยิ่งใหญ่





Past perfect



ชื่อภาพ Past perfect ขนาด ๑oox๑๒o ซม. เทคนิค สีอะคริลิค บนผ้าใบ

นึกถึงการเดินทางของชีวิตที่ผ่านมา................
บางทีคนเรา ก็เหนื่อยเพราะมัวแต่ วิ่งตามอนาคต จนลืมนึกไปว่า
ถ้านับจากอดีตจริง ๆ เรามาได้ไกลแล้ว ไกลมาก





Vincent and I



ชื่อภาพ :Vincent and I ขนาด ๑oox๑๒o ซม. สีอะคริลิคบนผ้าใบ

ชื่นชอบและศรัทธาผลงานและความเป็นศิลปินของ วินเซ็นต์ แวนโก๊ะ มาก จึงอยากวาดภาพในแนวของตัวเองผสานความเป็นแวนโก๊ะ



ภาพและข้อมูลจากเวบ
thairath.co.th














Muse Fest


มิวเซียมสยาม ขอเชิญร่วมงาน "มิว เฟส (Muse Fest)" ตอน วันพิพิธภัณฑ์ไทย ระหว่างวันที่ ๑๙ ถึง ๒๑ กันยายน ๒๕๕๗ พร้อมบันเทิงสาระ พร้อมบริการรถรับส่งฟรี ชมพิพิธภัณฑ์รอบเกาะรัตนโกสินทร์


มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ (Museum Siam: Discovery Museum) ภายใต้สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) จัดงาน "มิว เฟส (Muse Fest)" ตอน วันพิพิธภัณฑ์ไทย ระหว่างวันที่ ๑๙ ถึง ๒๑ กันยายนศกนี้ ชวนเยาวชน หนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ หรือครอบครัว ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์เพื่อหาความรู้ ซึ่งเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่มีความหลากหลาย โดยผ่านกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ที่สร้างสรรค์ มีสาระคู่บันเทิง เพื่อระลึกถึงวันก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ หรือมิวเซียม ขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๑๗


สำหรับงาน "มิว เฟส (Muse Fest)" ตอน วันพิพิธภัณฑ์ไทย มิวเซียมสยามเปิดให้เข้าชมฟรี พร้อมชมการแสดงละครที่จะถ่ายทอดเรื่องราวในแต่ละช่วงสมัย ก่อนจะเป็นประเทศไทยในปัจจุบัน ร่วมฟังการเล่านิทานพื้นบ้าน ๒ ภาษา ตื่นตาไปกับกิจกรรมและโชว์เด็ด ๆ อีกมากมาย เพื่อส่งเสริมการสร้างประสบการณ์สดใหม่ ในการชมพิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้เพื่อให้การเรียนรู้ประวัติศาสตร์และเรื่องราวต่าง ๆ เป็นไปอย่างสนุกสนานยิ่งขึ้น


นอกจากนี้ มิวเซียมสยามจะมีบริการรถรับส่ง เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์และแหล่งการเรียนรู้ฟรี ที่จะให้บริการเฉพาะวันที่ ๒o ถึง ๒๑ กันยายน ตั้งแต่เวลา ๑o.oo–๘.oo น. โดยรถออกทุกชั่วโมง กับ ๒ เส้นทางด้วยกัน เส้นทางแรก เริ่มต้นที่มิวเซียมสยาม, หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว, นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ สิ้นสุดที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน และเส้นทางที่ ๒ เริ่มต้นที่มิวเซียมสยาม, ไปรสนียาคารสิ้นสุดที่พิพิธภัณฑ์ศิริราช ทั้งนี้สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ o-๒๒๒๕-๒๗๗๗ ต่อ ๑๒๓



ภาพและข้อมูลจากเวบ
kapook.com
tlcthai.com














งานศิลปะวัฒนธรรมในเทศกาลใบไม้ ๕ สีของญี่ปุ่น


ขอเชิญสนุกไปกับ The Greatest Omatsuri Performance Show การแสดงสุดพิเศษ พร้อมชุดเครื่องดนตรีญี่ปุ่น อาทิ กลองไทโกะ จากนักแสดงชาวไทย-ญี่ปุ่น พร้อมชมการแสดง Koto เครื่องดนตรีโบราณจาก อาจารย์ โนริโกะ ทซึโบอิ (Ms.Noriko Tsuboi) ชาวญี่ปุ่น และ ญาญ่า อุรัสยา






Autumn Food & Gift : ๑๒ – ๒๒ ก.ย. ๕๗

อร่อยไปกับอาหารญี่ปุ่นทั้งคาวหวาน พร้อมขนมประจำฤดูกาลใบไม้ร่วง อย่างเช่น ไดฟูกุไส้ลูกพลับ และไดฟูกุมันม่วง ซึ่งลูกพลับและมันม่วงถือเป็นผลไม้ของการเข้าสู่ฤดูหนาวของญี่ปุ่น จึงได้มีการนำผลไม้ทั้ง ๒ มาทำเป็นขนม ไดฟูกุ เพื่อเป็นขนมประจำฤดูกาล พร้อมช้อปสนุกกับขบวนสินค้าญี่ปุ่นนานาชนิด






Fashion Showcase “Sakura Collection” โดย Japan Foundation ๑๒ – ๒o ก.ย. ๕๗

ตื่นตาไปกับ อูชิคาเคะ (Uchikake) ชุดกิโมโนเต็มยศ สำหรับเจ้าสาวสวมใส่ในพิธีแต่งงาน ที่ตัดเย็บจากผ้าไหม ประดับด้วยดิ้นไหมสีทองและเงินลวดลายนก ตามแบบฉบับดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น ชม ๑๖ ผลงานการออกแบบจากดีไซน์เนอร์ชั้นนำจากประเทศเวียดนาม เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไทย และญี่ปุ่น ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดออกแบบชุดภายใต้แนวคิดจากศิลปะและเครื่องแต่งกายของชาวญี่ปุ่น คอลเล็คชั่นประจำปี ๒o๑๓ - ๒o๑๒






๑๘ – ๒o ก.ย. ๕๗ ร่วมชื่นชม ๙ ผลงาน ของผู้เข้ารอบการประกวด คอลเล็คชั่นประจำปี ๒o๑๔

Nippon Activities ๑๓ - ๑๔, ๒o - ๒๑ ก.ย. ๕๗

สนุกกับ Yosokoi Dance การเต้นระบำสมัยใหม่ กับบทเพลงญี่ปุ่นโบราณ พร้อมชุดแต่งการที่ดัดแปลงมาจากแต่งกายโบราณที่เป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่น พูดคุยแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว กับกูรูชื่อดัง อาทิ ฮิโระ ซาโนะ สวมใส่ชุด ยูกาตะ และร่วม workshop การพับกระดาษ Origami โดย J-Education พิเศษ สำหรับผู้ถือบัตร Thailife ร่วม workshop ชงชาญี่ปุ่นพร้อมรับฟรีโมจิลูกพลับ



ภาพและข้อมูลจากเวบ
truelife.com














Chihiro Iwasaki


จากรูปประกอบวรรณกรรมเยาวชนอันโด่งดัง “โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง” ผลงานของชิฮิโระ อิวาซากิ (Chihiro Iwasaki) ศิลปินภาพสีน้ำและนักวาดภาพประกอบชื่อดังชาวญี่ปุ่น จะถูกนำมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย


เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ ร่วมกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะชิฮิโระแห่งเมืองอะซูมิโนะ (Chihiro Art Museum Azumino) จะจัดแสดงภาพเขียนสีน้ำจำนวนมากกว่า ๔o ชิ้นของ ชิฮิโระ อิวาซากิ ระหว่างวันที่ ๕ ตุลาคม – ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ณ ผนังโค้ง ชั้น ๓ – ๕ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร


พิธีเปิดจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เวลา ๑๖.oo น.
รับฟังการบรรยายพิเศษจากคุณยูโกะ ทาเคะซาโกะ รองผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ศิลปะชิฮิโระ ระหว่างเวลา ๑๗.oo-๑๗.๓o น.


ผู้จัด: เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะชิฮิโระแห่งเมืองอะซูมิโนะ
ผู้จัดร่วม : หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร


นิทรรศการ : ผลงานสีน้ำของชิฮิโระ อิวาซากิ (Chihiro Iwasaki) Chihiro Iwasaki and Picture Books of Japan from the Chihiro Art Museum Collection
ศิลปิน : ชิฮิโระ อิวาซากิ (Chihiro Iwasaki)
วันที่ : ๓ ตุลาคม – ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗
สถานที่ : ผนังโค้ง ชั้น ๓ – ๕ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ สำนักงานหอศิลปกรุงเทพฯ : o๒-๒๑๔-๖๖๓o – ๘



















ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














The lost paradise of childhood


นิทรรศการศิลปกรรม ที่ถ่ายทอดความทรงจำอันประทับใจในวันวาน โดย ๙ ศิลปินหญิงรุ่นใหม่ จากศิษย์เก่า ๔ สถาบันการศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงครัตนโกสินทร์


โดยได้สร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งมีแนวความคิดจากความทรงจำ ความผูกพัน ต่อสิ่งต่าง ๆ ที่ศิลปินได้สัมผัส และได้พบเห็นในวันวาน มาพัฒนา ต่อยอด และสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะในรูปแบบต่าง ๆ กัน อาทิ ภาพถ่าย ภาพพิมพ์ จิตรกรรม สื่อผสม วิดีโออาร์ต ประติมากรรม โดยแสดงความเป็นปัจเจกของแต่ละบุคคล เพื่อให้เป็นแหล่งการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพทางด้านทัศนศิลป์ พัฒนาคุณธรรม จริยธรรม และส่งเสริมสุนทรียะทางศิลปะ อันเป็นวัฒนธรรมที่ดีงาม ช่วยขัดเกลาจิตใจให้มีความอ่อนโยนในท่ามกลางกระแสสังคมที่เกิดความขัดแย้งและวุ่นวายในปัจจุบัน ส่งเสริมให้เยาวชนและบุคคลทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเสริมสร้างการรับรู้ทางด้านทัศนศิลป์ สุนทรียศาสตร์ ศาสตร์ของศิลปะร่วมสมัย


ขอเชิญทุกท่านร่วมพิธีเปิดนิทรรศการ ในวันศุกร์ที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๗.oo น ณ หอนิทรรศการ g23 ชั้น ๒ ศููนย์ศิลปกรรมแห่งประเทศไทย อาคารนวัตกรรม มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ


นิทรรศการ : The lost paradise of childhood โดย ๙ ศิลปินหญิงรุ่นใหม่
ศิลปิน : กุลธิดา มีสกุลถาวร, สุพัตรา หมั่นแสวง , นันทวัน เจ็กจันทึก, ทัศยา เขม้นงาน, สุชาดา สุวรรณชม, ณิชาดา บุญญธนาภิภัทร, นิลรัตน์ ปัททุม, เจนจิรา ร่วมญาติ, ธาริณี ศักดิ์นาวีพร
วันที่ : ๑๙ กันยายน -๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๗
สถานที่ : หอนิทรรศการ g23 ชั้น ๒ ศููนย์ศิลปกรรมแห่งประเทศไทย อาคารนวัตกรรม : ศาสตราจารย์ ดร.สาโรช บัวศรี มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ สุขุมวิท ๒๓ กรุงเทพมหานคร
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : จี & บี : o๒-๒๖๑-๒o๙๖
Facebook : G23 At Swuniplex











ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














ศิลปะแนว Street Art


ศิลปะแนว Street Art กระแสศิลปะที่กำลังมาแรง และได้รับความสนใจอย่างมาก เห็นได้จากงานแสดงผลงานศิลปะนี้ ถูกจัดขึ้นอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง รวมไปถึงองค์กรธุรกิจต่าง ๆ เอง ที่มองเห็นถึงเสน่ห์ของศิลปะแนวนี้ จึงหยิบเอาชิ้นงานศิลปะมาผสมผสานเข้ากับสินค้า และผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าและความน่าสนใจให้แก่ธุรกิจของตนเองมากขึ้น หลายคนอาจจะยังนึกไม่ออกว่า ศิลปะแนวนี้เป็นศิลปะประเภทใด ทั้งที่จริงแล้ว มันเป็นงานศิลปะที่อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่ใครหลายคนคิด วันนี้เราจะมาทำความรู้จักศิลปะประเภทนี้กัน


Street Art หรือ “ศิลปะข้างถนน” คือ งานศิลปะที่บอกเล่าและสะท้อนเรื่องราวความเป็นไป ในสังคม สร้างสรรค์ด้วยหลากหลายเทคนิคทางศิลปะ มักถูกพบเห็นได้ในพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่รับรู้กันว่าศิลปะประเภทนี้เป็นศิลปะต้องห้าม และหนึ่งในรูปแบบศิลปะนี้ ที่มีความโดดเด่น และจดจำได้ของคนส่วนใหญ่ คือ งานศิลปะสีสันบนกำแพง หรือ Graffiti (กราฟฟิตี้)






นประเทศไทย ก็มีศิลปินที่มีชื่อเสียงและมีเอกลักษณ์อยู่หลายท่าน อาทิ RUKKIT (นายรักกิจ ควรหาเวช) ศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานสไตล์กราฟฟิกเวกเตอร์ที่มีลักษณะเฉพาะตัว ผลงานของเขามีทั้งงานวาดภาพประกอบ ออกแบบปกอัลบั้มศิลปิน ออกแบบชุดตัวอักษร รวมไปถึงการเป็นอาร์ตไดเร็คเตอร์ของนิตยสาร “สารกระตุ้น” RUKKIT ได้รับรางวัลเกี่ยวกับด้านออกแบบกราฟฟิกในระดับนานาชาติหลายรางวัล มีผลงานในนิตยสารด้านกราฟฟิก ทั้งในและนอกประเทศหลายเล่ม นอกจากนี้ก็ยังเป็นตัวแทนชาวไทยร่วมแสดงผลงานในงานออกแบบกราฟฟิกระดับนานาชาติ


หรือจะเป็น P7 (นายพีระพงศ์ ลิ้มธรรมรงค์) ศิลปินอิสระเจ้าของผลงานรูปแบบไลฟ์สไตล์อาร์ต ที่สร้างผลงานด้วยการผสมผสานเทคนิคที่หลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งผลงานของเขามีสีสันและลายเส้นที่สดใส จับเอาเรื่องต่าง ๆ มาทำให้สนุกสนานได้ผ่านลายเส้น รวมทั้งมีการเพิ่มเติมรายละเอียดเล็กน้อย เพื่อให้ผลงานแตกต่างจากต้นฉบับ โดยมีทั้งงานภาพวาดที่จัดแสดงตามแกลอรี่ต่าง ๆ ทั้งแบบแสดงเดี่ยวและกลุ่มงานออกแบบเสื้อ บัตรเครดิต บัตรโทรศัพท์ รวมถึงการเป็นอาจารย์พิเศษด้านศิลปะให้กับหลายสถาบันและได้รับเชิญไปแสดงผลงานในหลายประเทศอีกด้วย






และเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนมีเวทีในการแสดงออกด้านศิลปะอย่างสร้างสรรค์ พร้อมทั้งส่งเสริม การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลจากยาเสพติด โครงการ A LA ART @MBK Center ได้จัดประกวด “A LA ART WALL COMPETITION ความหลากหลายที่ลงตัว” ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า ๑oo,ooo บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ


โดยเชิญชวน นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไปผู้มีใจรักในศิลปะ ร่วมสร้างสรรค์ ผลงานศิลปะบนกำแพงผนัง ซึ่งผู้ที่ผ่านการคัดเลือกและตัดสินจะได้แสดงผลงานร่วมกับศิลปินชาวไทย อาทิ RUKKIT, P7, BONUS TMC รวมถึงศิลปินชื่อดังระดับโลก อาทิ JNJ CREW, WAIS1, KC1, และXEME



ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th














โครงการศิลปินในพำนัก(Artist-in-Residency) ประจำปี ๒๕๕๗/๕๘


สถาบันออสเตรเลีย - ไทย เชิญชวนศิลปินชาวออสเตรเลียและไทยยื่นใบสมัครเพื่อรับทุนสนับสนุนใน โครงการศิลปินในพำนัก(Artist-in-Residency) ประจำปี ๒๕๕๗/๕๘ โดยเปิดรับใบสมัครระหว่างวันที่ ๑ - ๓o กันยายนนี้


โครงการศิลปินในพำนักเป็นโครงการที่มีขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อมอบทุนสนับสนุนให้ศิลปินไทยเดินทางไปพำนักและสร้างสรรค์ผลงานในออสเตรเลีย และศิลปินออสเตรเลียเดินทางมาพำนักและสร้างสรรค์ผลงานในไทย โครงการมีวัตถุประสงค์ในการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างศิลปินและหน่วยงานด้านศิลปะระหว่างสองประเทศ


ทั้งนี้ สถาบันออสเตรเลีย - ไทย จะมอบทุนสนับสนุนมูลค่ามากถึง ๑o,ooo เหรียญออสเตรเลียต่อปี ผ่านโครงการนี้ ให้กับศิลปินอย่างน้อย ๑ ท่านเพื่อดำเนินงานตามโครงงานที่นำเสนออย่างเต็มเวลาเป็นเวลา ๔- ๑๒ สัปดาห์ โดยสถาบันออสเตรเลีย - ไทย อาจมอบทุนมากกว่า ๑ ทุนต่อปีตามความเหมาะสมของงบประมาณ


ผู้สมัครต้องมีอายุมากกว่า ๑๘ ปีขึ้นไป และมีประสบการณ์การทำงานด้านศิลปะมาแล้วอย่างน้อย 3 ปีในสาขาทัศนศิลป์ ศิลปะการแสดง หรือวรรณกรรม และสามารถปฏิบัติงานในฐานะศิลปินในพำนักได้ระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๕๗ ถึง มิถุนายน ๒๕๕๘


โครงการศิลปินในพำนักเปิดโอกาสให้ผู้สมัครเลือกสถานที่ปฏิบัติงานได้จาก๒ ทางเลือก ได้แก่ องค์กรที่ผู้สมัครเป็นผู้นำเสนอเอง หรือที่คำเปิง ซึ่งเป็นองค์กรอิสระในจังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย


อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการและแนวทางการสมัครได้ที่ //www.dfat.gov.au/ati



ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th














งานจิตรกรรมบนข้อมือ


เดอะ เมโทรโพลิแทน มิวเซียม ออฟ อาร์ท สโตร์ หรือ The Met Store นำความงดงามอันยิ่งใหญ่ของ อารยธรรมโบราณ และ ศิลปะตะวันตก-ตะวันออก ถ่ายทอดออกมาบนเครื่องบอกเวลาในคอลเลคชั่น อาร์ต คัลเลอร์ เมจิก วอท์ช คอลเลคชั่นนาฬิกาข้อมือที่สร้างขึ้นโดยมีงานศิลป์ระดับโลกเป็นแรงบันดาลใจ






ความงามของศิลปะ กรีซไมซีเนียน ช่วงปีค.ศ. ๑๖oo-๑๑oo ก่อนคริสตกาล ลวดลายตัว S แบบบิดเป็นเกลียว สลับกลับหัวขึ้นลง ซึ่งเป็นลายเครื่องประดับต่าง ๆ ที่ตกแต่งกันทั่วไปภายในพระราชวังไมซีเนียน ได้รับการถ่ายทอดออกมาเป็นนาฬิกา ไมซีเนียน สไปรัลส์ (Mycenaean Spirals Watch)






รสนิยมการตกแต่ง 'ลอเรนทัน ฮอลล์' ซึ่งเป็นทั้งที่พักและสตูดิโอรวมชิ้นงานมาสเตอร์พีซและงานสะสมจากทั่วทุกมุมโลกของ หลุยส์ คอมฟอร์ท ทิฟฟานี ศิลปินชาวอเมริกัน ปรากฎอยู่บนนาฬิกา จิวเวล ลอเรนทัน ฮอลล์ โมเสค (Jeweled Laurelton Hall Mosaic Watch) ตัวเรือนเคลือบโรสโกลด์ ประดับคริสตัลสาธารณรัฐเช็ก หน้าปัดเปลือกหอยมุกประดับโมเสคเทียม โชว์ลายที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก 'ลอเรนทัน ฮอลล์' นั่นเอง






จิตรกรรมลายหางนกยูงที่เรียกว่า 'แววมยุรา' บนแจกัน ฝีมือ 'หลุยส์ คอมฟอร์ท ทิฟฟานี' ถ่ายทอดอยู่บนหน้าปัดวงกลม ขนาด ๑.๒๕ นิ้ว ที่ค่อย ๆ ไล่สีฟ้าออกมาเป็นระลอกคลื่นของนาฬิการุ่น ฟาว์ริล พีค็อก เฟทเธอร์ (Favrile Peacock Feather Watch) ขณะที่ลวดลายดอกแมกโนเลียบนหน้าต่างกระจกย้อมสีถ่ายทอดออกมาเป็นลายพิมพ์บนสายนาฬิการุ่น แมคโนเลีย บลอสซั่มส์ (Magnolia Blossoms Watch)






ผู้ซึ่งหลงใหลภาพผู้หญิงล่องลอยอยู่ในอากาศ ที่สื่อถึงความใฝ่ฝันในความสุขของมนุษยชาติ โดยใช้ผู้หญิงเป็นตัวแทน ผลงานจิตรกรรมของ กุสตาฟ คลิมท์ จิตรกรชาวออสเตรียแนวซิมบอลิสม์ ยุคปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ สามารถชมภาพนั้นได้ตลอดเวลา เพราะเดอะ เมท สโตร์ นำมาพิมพ์อยู่หน้าปัดและสายนาฬิกา รุ่น คลิมท์ พิงค์ (Klimt Pink Watch) ตัวเรือนทองเหลือง ฝาหลังสเตนเลสสตีล






ส่วนศิลปะสมัยใหม่จากลายกราฟฟิกเชิงเรขาคณิตสีเข้มรูปทรงต่าง ๆ ของ 'คลิมท์' จำลองออกมาเป็นลายของสายนาฬิการุ่น คลิมท์ แบล็ค (Klimt Black Watch) ตัวเรือนเคลือบเงิน หน้าปัด ๑.๒๕ นิ้ว


ลวดลายแสดงความอุดมสมบูรณ์ของดอกไม้ในสวนพฤกษศาสตร์ จากผลงานจิตรกรรมของ วิลเลียม มอร์ริส ศิลปินชาวอังกฤษยุควิคตอเรียน ปรากฎอยู่บนนาฬิกา รุ่น วิลเลียม มอร์ริส คอมป์ทัน สแควร์ (William Morris Compton Square Watch) หน้าปัดรูปสี่เหลี่ยมขนาด ๑.๒๕ นิ้ว






ลวดลายสวย ๆ ของดอก โบตั๋น ราชาแห่งดอกไม้ หรือ 'ดอกไม้นำโชค' บนฝากล่องเคลือบเงา 'มากิเอะ' ของชาวญี่ปุ่นยุคเอโดะ (ค.ศ. ๑๖๑๕-๑๙๖๙) ซึ่งเป็นกล่องบรรจุอาหารของ 'ไดเมียว' ผู้ช่วยด้านการทหารของโชกุน ได้รับการสร้างสรรค์ออกมาเป็นลายพิมพ์บนสายนาฬิกา รุ่น เจแปนนีส พีโอนี สโคลส์ (Japanese Peony Scrolls Watch)






ขณะที่ ลวดลายของภาพแขวนพิธีมงคลสมรสของชาวจีน สมัยราชวงศ์ชิง (ค.ศ. ๑๖๔๔-๑๙๑๑) ยุคที่ศิลปะพัฒนาก้าวหน้าถึงระดับสูงสุด มีผลงานจิตรกรรมมากมายบนผ้าไหม เซรามิก งานเคลือบ หยก ฯลฯ สวยงามอยู่นาฬิการุ่น ชิง ฟลาวเวอร์ริง ทรี (Qing Flowering Tree Watch)






การจำลองงานศิลปะที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ คือการเปิดโอกาสให้คนส่วนใหญ่ซึ่งชื่นชมความสามารถของศิลปินระดับโลก ได้มีของที่ระลึกอย่างถูกต้องตามกฎหมายวิธีหนึ่ง


หมายเหตุ : The Met Store ชั้น ๓ ดิ เอ็มโพเรียม



ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุคกรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์














รายละเอียดซ่อนคุณภาพ


คุณสมบัติของงานออกแบบที่ดี ที่ขาดไม่ได้คือการใส่ใจในคุณภาพ ผู้สร้างสรรค์ผลงานย่อมรู้ดีว่าการให้ความสำคัญกับรายละเอียดนับร้อยนับพันที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด ล้วนเป็นเรื่องเล็กน้อยที่จำเป็นและท้าทายอย่างมากสำหรับนักออกแบบ จึงต้องใช้เวลาศึกษา ทดลอง แก้ไขและทบทวน ให้เกิดผลสำเร็จที่มีคุณภาพ สร้างความพอใจให้กับผู้สร้างสรรค์และส่งต่อไปยังผู้ใช้งาน


นิทรรศการ “รายละเอียดซ่อนคุณภาพ” จะช่วยขยายเรื่องเล็กในมุมลึกได้อย่างละเมียดละไมและใส่ใจมากขึ้น เพราะรายละเอียดที่ไม่ถูกมองข้ามมักส่งผลลัพธ์แสนงดงามแก่โลกใบนี้เสมอ โดยผลงานจาก _ นักออกแบบแฟชั่น Curated by Ek Thongprasert, DULY, METTIQUE, MOO Eyewear, rotsaniyom WHITE LABEL, TIMO, Vatit Itthi และ Wisharawish จะร้อยเรียงทุกบริบทแห่งความประณีต ให้กับผู้ชมในทุกแง่มุม


วันและเวลา : ๑o กันยายน - ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๗
-
สถานที่ : ห้องสมุดเฉพาะด้านการออกแบบ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ



ภาพและข้อมูลจากเวบ
wikalenda.com














ทาคาชิ อาคิยาม่า


การแสดงผลงานการสร้างสรรค์ด้าน Graphic Design โดย


Professor Takashi Akiyama จากมหาวิทยาลัย Tama


Art University และ ผู้อํานวยการพิพิธภัณฑ์


วันและเวลา : ๑๑-๒๘ กันยายน ๒๕๕๗

-
สถานที่ : หอศิลป์ มช.



ภาพและข้อมูลจากเวบ
wikalenda.com














Infliction


นิทรรศการ "INFLICTION" ผลงานโดย KNOCK จัดแสดงระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๘ กันยายน ๒๕๕๗ และจะมีพิธีเปิดในวันฤหัสบดีที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๙.oo น. ณ MIDNICE Gallery สำหรับผู้สนใจใน Street Arts ขอเชิญร่วมงานนิทรรศการ "INFLICTION" การแสดงผลงานเดี่ยวโดย "KNOCK" (https://www.facebook.com/Nokroe) ในคืนวันเปิดงาน พฤหัสบดีที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๗ ตั้งแต่ ๑ ทุ่มตรงเป็นต้นไป ที่ MIDNICE Gallery โชคชัย ๔ ซอย ๑๘ ถนนลาดพร้าว กรุงเทพฯ และจะจัดแสดงต่อไปเป็นเวลา ๑ สัปดาห์เท่านั้น!


วันและเวลา : ๑๑ - ๑๘ กันยายน ๒๕๕๗
-
สถานที่ : มิดไนท์ แกลลอรี่



ภาพและข้อมูลจากเวบ
wikalenda.com













Art Talk ชีวิตแห่งเจตจำนง (Life Specific ) : คามิน เลิศชัยประเสริฐ


สนทนากับ คามิน เลิศชัยประเสริฐ ในแง่มุมของศิลปะและชีวิตที่หลอมรวม จนเกิดเป็นวิถีในการดำเนินชีวิต กระบวนการค้นหาความสุขอันนำไปสู่การตระหนักรู้ตนเองและสังคมรวมทั้งการใช้ศิลปะเป็นกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ เพื่อกระตุ้นให้ เกิดความเข้าใจและเคารพในคุณค่า เอกลักษณ์ของตนเองและผู้อื่น ซึ่งจะส่งให้เราอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุข


คามิน เลิศชัยประเสริฐ เป็นศิลปินผู้ก่อตั้ง พิพิธภัณฑ์จิตวิญญาณร่วมสมัยแห่งศตวรรษที่ ๓๑ (31th Century Museum Contemporary of Spirit) และมูลนิธิที่นา เพื่อส่งเสริมให้คนทั่วไปเรียนรู้จิต วิญญาณและพัฒนาจิตใจ เขามีแนวทางในการสร้างสรรค์งานศิลปะจากแรงบันดาลใจ “การหาคำตอบและความหมายของชีวิต” เป็นการตั้งคำถามและเกิดความสงสัย จึงก่อให้เกิดการทดลอง เพื่อแสวงหาความหมายของสิ่งเหล่านั้น และถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านงานศิลปะ ด้วยวิธีการร่วมสมัยไม่ยึดติดกับรูปแบบ จึงทำให้เขามีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักทั้งใน และต่างประเทศ


วันเสาร์ที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๗ เวลา ๑๔.oo-๑๖.oo น. ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น ๑ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งได้ที่ฝ่ายการศึกษา โทร. o-๒๒๑๔- ๖๖๓o - ๘ ต่อ ๕๑๙



ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค art eye view




บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




Create Date : 14 กันยายน 2557
Last Update : 14 กันยายน 2557 22:13:39 น. 0 comments
Counter : 4179 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.