happy memories
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
 
28 กุมภาพันธ์ 2557
 
All Blogs
 

เสพงานศิลป์ ๘๕




ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto










นิทรรศการแสดงภาพประกอบหนังสือ "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า"


สำหรับชาวพุทธแล้วย่อมทราบกันดีว่า องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นมีอยู่มากมายหลายพระองค์ พระพุทธเจ้าที่ล่วงมาแล้วหลายพระองค์ มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน อุปมาว่าจำนวนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ล่วงไปแล้วมีจำนวนมากกว่าเม็ดทรายในมหาสมุทรทั้งสี่ พระพุทธเจ้าตรัสว่าเรื่องพุทธวิสัยเป็นอจินไตย คือเป็นสิ่งที่ไม่อาจเข้าใจได้ด้วยตรรกะสามัญของปุถุชน


ในพุทธวงศ์ หมวดพุทธปกิณณกกัณฑ์ซึ่งว่าด้วยเรื่องเบ็ดเตล็ดเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า กล่าวถึงพระพุทธเจ้าไว้ ๒๘ พระองค์ โดยเป็นพระพุทธเจ้าก่อนพุทธวงศ์ ๓ พระองค์ และในพุทธวงศ์ ๒๕ พระองค์ รวมเป็น ๒๘ พระองค์ดังนี้


พระตัณหังกรพุทธเจ้า,พระเมธังกรพุทธเจ้า,พระสรณังกรพุทธเจ้า,พระทีปังกรพุทธเจ้า,พระโกณฑัญญพุทธเจ้า,พระมังคลพุทธเจ้า,พระสุมนพุทธเจ้า,พระเรวตพุทธเจ้า,พระโสภิตพุทธเจ้า,พระอโนมทัสสีพุทธเจ้า,พระปทุมพุทธเจ้า,พระนารทพุทธเจ้า,พระปทุมุตตรพุทธเจ้า,พระสุเมธพุทธเจ้า,พระสุชาตพุทธเจ้า, พระปิยทัสสีพุทธเจ้า,พระอัตถทัสสีพุทธเจ้า,พระธัมมทัสสีพุทธเจ้า,พระสิทธัตถพุทธเจ้า,พระติสสพุทธเจ้า, พระปุสสพุทธเจ้า,พระวิปัสสีพุทธเจ้า,พระสิขีพุทธเจ้า,พระเวสสภูพุทธเจ้า,พระกกุสันธพุทธเจ้า,พระโกนาคมนพุทธเจ้า,พระกัสสปพุทธเจ้า ส่วนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ปัจจุบันคือ พระโคตมพุทธเจ้า






สำหรับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง ๒๘ พระองค์นี้ ๓ พระองค์แรก คือ พระตัณหังกรพุทธเจ้า, พระเมธังกรพุทธเจ้า และ พระสรณังกรพุทธเจ้า พระองค์ไม่ได้พยากรณ์แก่พระโคตมพุทธเจ้าสมัยยังเป็นพระโพธิสัตว์


แต่พระโคตมพุทธเจ้าเพิ่งจะได้รับการพยากรณ์ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าครั้งแรกจากพระทีปังกรพุทธเจ้า จึงนับพระทีปังกรเป็นพระองค์ที่ ๑ ในพุทธวงศ์ ซึ่งพระโคดมพุทธเจ้าในอดีตได้ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรกเมื่อ ๒o อสงไขยกับอีกหนึ่งแสนกัปที่แล้ว


โดยในครั้งนั้นพระองค์เห็นพระธุดงค์อยู่ในป่าแล้วศรัทธาถวายผ้าเก่า ดังที่พระองค์ตรัสเล่าไว้เองใน พุทธาปทานชื่อปุพพกรรมปิโลติ (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒) ไม่ใช่ปรารถนาครั้งแรกตอนแบกมารดาว่ายข้ามแม่น้ำอย่างที่เข้าใจกันตามข้อมูลในหนังสือมุนีนาถทีปนี และหลังจากที่ได้ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรกแล้วก็บำเพ็ญบารมีอย่างต่อเนื่องจนได้มาพบกับพระทีปังกรพุทธเจ้าแล้วได้รับพยากรณ์จากพระทีปังกรพุทธเจ้าว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอน






หากแบ่งตามกัป โดยการนับอสงไขยกัปในที่นี้ จะนับอสงไขยกัปแรกโดยเริ่มนับจากช่วงเวลาที่ อดีตชาติของพระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า เริ่มสร้างบารมี โดยการอธิษฐานในใจว่าปรารถนาจะเป็นพระสัมมาพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก จะมีพระพุทธเจ้าในอดีตตามที่ปรากฏในพระไตรปิฎก


กล่าวสำหรับ อาจารย์สุรีย์ มีผลกิจ นั้นท่านนับเป็นนักเขียนด้านพระพุทธศาสนาที่ได้รับการยกย่องว่า ท่านสร้างผลงานเอาไว้มากมายและล้วนแล้วแต่มีคุณค่ายิ่ง รวมไปถึงผลงานเล่มล่าสุดนี้ “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ซึ่งจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและเป็นผลงานเขียนเล่มสุดท้ายของ นักเขียนด้านพุทธศาสนา วัย ๘๖ ปีท่านนี้


พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นหนังสือที่รวบรวมพระพุทธประวัติ พระพุทธกิจ และพระพุทธวงศ์ พร้อมภาพประกอบ เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาตั้งแต่วัยเยาว์ พร้อมเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต อันจะยังความสงบสุขมาสู่บ้านเมือง ให้สมกับเป็นเมืองแห่งพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง






และนอกจากจะเป็นผลงานที่มีคุณค่ายิ่งแล้ว ยังเป็นหนังสือที่มีภาพประกอบงดงามมาก ซึ่งใน "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า" จะมีการจัดงานเปิดตัวและเสวนาแรงบันดาลใจจากหนังสือ "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า" ของ สุรีย์ มีผลกิจ สู่นิทรรศการแสดงภาพประกอบหนังสือ ซึ่งจิตรกรผู้สร้างสรรค์ผลงานคือ อรรถนิติ ลาภากรณ์


สำหรับนิทรรศการแสดงภาพประกอบหนังสือ "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า"เป็นนิทรรศการเพื่อการกุศล ไม่ได้ทำเพื่อการค้าใด ๆ ทั้งสิ้น โดยรายได้ทั้งหมดในการจำหน่ายหนังสือและของที่ระลึกทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย มอบเป็นการกุศลให้ ๓ หน่วยงาน ดังนี้


- วัดพระรามเก้ากาญจนาภิเษก กรุงเทพฯ(กองทุนปลูกรากแก้ว ศาสนทายาท)
- วัดพระธรรมจักร จ.นครนายก เพื่อสร้างโรงเรียนธรรมปฏิบัติ
- โรงพยาบาลสงฆ์ เพื่อดูแลรักษาพระภิกษุอาพาธ


ซึ่งการจัดแสดงผลงานนั้นจะมีระหว่างวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ – ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัตุรัสจามจุรีและมีการจัดงานเสวนาและเปิดงานในวันศุกร์ที่ ๒๗ กุมภาพันธ์นี้ เริ่มเวลา ๑๓.oo น.เป็นต้นไป






การเสวนาหนังสือ "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า" นั้นจะมีวิทยากรรับเชิญ อาทิ พระราชญาณกวี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก,พระปลัดชัชวาล ชินสโภ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมจักร จ.นครนายก,คุณทรงยศ สามกษัตริย์ ผู้จัดการศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและคุณนาวี อนันต์รักสกุล ประธานชมรมรักษ์ธรรม บริษัท ปตท.สผ. จำกัด (มหาชน)


นอกจากนี้จะมีการ PRESENT ผลงานแรงบันดาลใจจากหนังสือ “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” สู่นิทรรศการแสดงภาพประกอบหนังสือ โดย... คุณอรรถนิติ ลาภากรณ์ ผู้วาดภาพประกอบหนังสือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเขาเป็นศิลปินไทยคนแรกที่ใช้เทคนิคการวาดภาพจิตรกรรมไทยด้วยปากกา Marker


ใครที่สนใจก็สามารถชมนิทรรศการภาพจิตรกรรมไทย จากจินตนาการของผู้วาด ที่ถ่ายทอดออกมาได้สอดคล้องกับเรื่องราวของหนังสือ "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า" ซึ่งเขียนโดย คุณสุรีย์ มีผลกิจ และภาพวาดจริง (ต้นฉบับ) กันได้



ภาพและข้อมูลจากเวบ
siamdara.com
portfolios.net













"รพ.จุฬาฯ เชิญประชาชนชมห้องประทับสมเด็จพระสังฆราช”


รพ.จุฬาลงกรณ์ เปิดให้ประชาชนทั่วไปชมห้องประทับ 'สมเด็จพระสังฆราช' และนิทรรศการพระราชประวัติพระกรณียกิจ ที่ทรงมีพระเมตตาต่อโรงพยาบาล...


โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ขอเชิญประชาชนที่สนใจเข้าเยี่ยมชมห้องประทับของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และนิทรรศการพระราชประวัติพระกรณียกิจ ที่ทรงมีพระเมตตาต่อโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยได้ในวันราชการ (จันทร์-ศุกร์) ระหว่างเวลา ๙.oo-๑๔.oo น. ณ ตึกวชิรญาณ-สามัคคีพยาบาร ชั้น ๖



ภาพและข้อมูลจากเวบ
thairath.co.th














"ราชรถราชยาน ภูมิศิลปกรรมแห่งจักรวาล”


เมื่อเร็ว ๆ นี้กรมศิลปากรได้จัดพิธีบวงสรวงราชรถ และราชยาน เพื่อดำเนินการอนุรักษ์และบูรณะ ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร อาทิตย์นี้ขอตามรอย ศิลปกรรมของราชรถในเบื้องต้นก่อนที่จะมีการเตรียมงานพระเมรุพระศพของสมเด็จพระสังฆราชในเดือนกันยายน





พระแท่นย่อมุมไม้สิบสองบนยานมาศ



เนื่องจากราชรถนั้นเป็นศิลปกรรมที่แสดงลักษณะหรือสัญลักษณ์ความเป็นผู้ยิ่งใหญ่หรือความเป็นกษัตริยาธิราชที่ได้รับการยกย่องเหมือนเทพเจ้าหรือเป็นองค์สมมติเทวราชตามคติความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ ที่รับอิทธิพลมาจากอินเดีย ดังนั้นการประดิษฐ์หรือการก่อสร้างสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกษัตริย์จึงมีรูปแบบสถาปัตยกรรมหรือศิลปกรรมจากความเชื่อกันว่าเทพเจ้าสถิตอยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นวิมาน ณ ยอดเขาพระสุเมรุอันเป็นใจกลางของจักรวาล เขาพระสุเมรุนี้มีเทือกเขาและมหาสมุทรล้อมรอบอยู่ ๗ ชั้น ที่เชิงเขานั้นเป็นป่าหิมพานต์ มีสระอโนดาษเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หิมพานต์นานาชนิดและบรรดานักสิทธิ์วิทยาธรผู้ทรงคุณวิเศษทั้งหลาย





เครื่องมือสำหรับใช้ซ่อมราชรถ



ช่างศิลปะไทยโบราณนั้นได้จินตนาการรูปแบบศิลปกรรมของจักรวาลให้มีลักษณะพิเศษ ดังปรากฏในหมู่ปราสาทราชมณเฑียรและพระที่นั่งต่าง ๆ เครื่องราชูปโภคโดยเฉพาะราชรถนั้นเป็นเครื่องใช้ในการเดินทางของกษัตริย์แล้วและยังเป็นเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศอย่างหนึ่งด้วย ส่วนพระบรมวงศานุวงศ์ราชวงศ์นั้นก็มีศิลปกรรมลดหลั่นตามพระอิสริยยศ รวมถึงสมเด็จพระราชาคณะด้วย





พิธีบวงสรวงอัญเชิญราชรถเพื่อซ่อมบำรุง



ราชรถองค์สำคัญหนึ่งเดียวนั้นได้แก่พระมหาพิชัยราชรถ พระเวชยันต์ราชรถที่ได้สร้างขึ้นในรัชกาลที่ ๑ แล้ว ยังมีราชรถน้อยและราชรถโถงอีกหลายองค์ตามพระอิสริยยศที่น่าสนใจอีก ล้วนเป็นราชรถที่ถูกสร้างขึ้นตามคติความเชื่อดังกล่าวจึงมีการสร้างมีบุษบกเป็นส่วนยอดของราชรถเปรียบเสมือนพระวิมานอยู่บนยอดเขาพระสุเมรุซึ่งมีขนาดสูงใหญ่อลังการประดับด้วยรูปจำหลักเทพพนมและสัตว์หิมพานต์ เช่น ครุฑ และนาค เป็นต้น





พระยานมาศสามลำคานของเก่า



สำหรับราชรถน้อย ราชรถโถง พระยานมาศ และรถปืน รวม๙ รายการนี้ใช้ สำหรับพระราชวงศ์และสมเด็จพระสังฆราชานั้นได้พบว่าของเดิมได้เสื่อมสภาพลง ทำให้กระจกประดับ ตัวไม้จำหลักลวดลายนั้นชำรุด บางส่วนก็หลุด หักหาย จนไม่สามารถใช้การได้





พระมหาเวชยันตราชรถ



แต่ด้วยราชรถโถงดังกล่าวเป็นผลงานศิลปกรรมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ซึ่งเคยถูกใช้ในงานพระราชพิธี ทรงโกศพระบรมวงศานุวงศ์ นั้นยังคงมีความงดงามทางด้านศิลปะที่ควรแก่การอนุรักษ์ เก็บรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ต่อไป กระทรวงวัฒนธรรมจึงได้มอบหมายให้กรมศิลปากร จัดทำโครงการอนุรักษ์และบูรณะราชรถ ราชยาน ที่จัดแสดง ณ ระเบียงหมู่พระวิมานด้านทิศเหนือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ขึ้น โดยในปีงบประมาณ ๒๕๕๗ กรมศิลปากรได้จัดสรรงบประมาณจากโครงการอนุรักษ์และพัฒนาพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) จำนวนสี่ล้านบาทถ้วน ให้สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติและสำนักช่างสิบหมู่ ดำเนินการอนุรักษ์และบูรณะรถโถง ๒ รายการ และยานมาศสามลำคาน ๑ รายการ รวมทั้งสิ้น ๓ รายการ





รถโถงประดิษฐานวอช่อฟ้า



การบูรณะราชรถ ราชยาน นี้จะดำเนินการบูรณะเชิงอนุรักษ์ โดยขั้นตอนในการดำเนินงานจะมีการบันทึกรายละเอียดสภาพราชรถ และราชยานก่อนการอนุรักษ์ ซ่อมโครงสร้างไม้ให้แข็งแรง ซ่อมแซมล้อของราชรถ รถโถง ให้แข็งแรงและสามารถเคลื่อนที่ได้ ทำความสะอาดทอง กระจกที่ปิดประดับ ซ่อมแซมส่วนประกอบ และ ลวดลายประดับที่ทำด้วยไม้ โลหะ และผ้า ปิดทองประดับกระจกส่วนที่ชำรุดเสื่อมสภาพบันทึกรายละเอียดสภาพราชรถและราชยานหลังการอนุรักษ์ ใช้ระยะเวลาดำเนินการ ๑ ปีเมื่อได้อนุรักษ์และบูรณะแล้วจะได้จัดแสดงให้ความรู้เรื่อง ราชรถ ราชยาน แก่ประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ให้รู้ถึงขนบธรรมเนียมประเพณี ของการใช้ราชรถ ราชยานในสังคมไทยต่อไป





ราชรถโถงสมัยรัตนโกสินทร์





อธิบดีกรมศิลปากรสวมมาลัยให้ราชรถ





พระแท่นบนยานมาศสามลำคานขนาดใหญ่





รถโถงสำหรับเทียมม้า ๔ ล้อ





รถปืนใหญ่ล้อเหล็ก





ราชรถสมัยรัชกาลที่ ๕





ราชรถน้อยสำหรับพระราชพิธีต่าง ๆ





ราชรถโถงทรงพระโกศพระบรมวงศานุวงศ์



ภาพและข้อมูลจากเวบ
กระทู้พันทิป
naewna.com














"ศิลปินแห่งชาติพาศิลปินเทศโชว์ผลงาน-เรียนรู้รากแก้วคนไทย”


กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับ สภาศิลปกรรมไทยสหรัฐอเมริกา (L.A. Artcore USA.) และมหาวิทยาลัยนเรศวร นำผลงานอันทรงคุณค่าของศิลปินแห่งชาติและศิลปินนานาชาติ จัดแสดงนิทรรศการศิลปะนานาชาติ เสริมสร้างโอกาสการเรียนรู้แนวความคิดสร้างสรรค์ระดับนานาชาติสู่ภูมิภาค


นางพิมพ์รวี วัฒนวรางกูร รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดเผยว่า เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการศิลปะนานาชาติ ในโครงการสืบทอดประเพณีส่งเสริมค่านิยมและความเป็นไทย กิจกรรมนิทรรศการศิลปินแห่งชาติส่งเสริมประเพณี ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก โครงการนี้เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การสร้างสรรค์งานศิลป์ในความหลากหลายทางวัฒนธรรม ระหว่างศิลปินแห่งชาติ และศิลปินนานาชาติกลุ่มอเมริกัน เพื่อเผยแพร่ผลงานอันทรงคุณค่าต่อการเรียนรู้ ประสบการณ์ ปรัชญาในการทำงานศิลปะของศิลปินแห่งชาติ ศิลปินนานาชาติกลุ่มอเมริกัน สู่นักเรียน นักศึกษา เยาวชน ครู อาจารย์ และประชาชนทั่วไป โดยมีศิลปินแห่งชาติ ศิลปินนานาชาติผู้บริหารและอาจารย์จากมหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมด้วย


โดยมีศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จำนวน ๙ ท่าน ได้แก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณประหยัด พงษ์ดำ, ดร.กมล ทัศนาญชลี, ดร.ถวัลย์ ดัชนี, นายทวี รัชนีกร นายประเทือง เอมเจริญ, ศ.เดชา วราชุน, ศาสตรเมธีนนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน, นายธงชัย รักปทุม และศ.วิโชค มุกดามณี และศิลปินนานาชาติ จำนวน ๑๕ ท่าน ได้แก่ Ann Phong, Marla Fields, KathyYounSook Kim, Kaoru Mansour, Lore Eckelberry, VeldaIshizaki, EdemElesh, Otto Youngers, Won Sil Kim, Julienne Johnson, SuguruHiraide, SinanRevell, James Finnegan, Mika Revell และ Gary Kious ร่วมบรรยายให้ความรู้ และอธิบายถึงผลงานที่นำมาโชว์ในนิทรรศการครั่งนี้ด้วย


ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ ซึ่งเป็นเหมือนแม่งานในการนำศิลปินนานาชาติ ร่วมแลกเปลี่ยนและจัดนิทรรศการครั้งนี้ เปิดเผยว่า ครั้งนี้เป็นการจัดงานที่มีการนำศิลปินแห่งชาติ และศิลปินานาชาติ ร่วมเดินทางไปให้ความรู้ และโชว์นิทรรศการหลายสถานที่ด้วยกัน แต่สำหรับการพามาที่ จ.พิษณุโลก เพื่อแสดงนิทรรศการ และพามาที่ จ.สุโขทัยด้วยนั้น ก็เพราะว่าต้องการให้เห็นความเป็นเมืองเก่า เนื่องจากสุโขทัยเป็นเมืองเก่าแก่ มีอายุ ๗oo กว่าปี อยากแสดงให้ทุกคนเห็นว่า วัฒนธรรมก่อนที่จะมาอยู่ที่นี่สุโขทัยถือว่าเป็นเมืองที่รุ่งเรืองที่สุด มีพระพุทธรูปที่เป็นต้นแบบของทวารวดี ศรีวิชัย รวมไปถึงอยุธยา ก็มีการนำเอาศิลปะเกี่ยวกับพระพุทธรูปของสุโขทัยไปใช้ รวมไปถึงเจดีย์ต่าง ๆ ด้วย


นอกจากนั้นก็อยากแสดงให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรมของสุโขทัย ที่ยังมีช่างโบราณที่เป็นลูกหลานชาวสุโขทัยได้อนุรักษ์และสืบสานกันอยู่ เช่น งานปั้น งานหล่อ งานแกะสลักไม้ ซึ่งมาถึงรุ่นนี่ก็ยังอนุรักษ์และสืบสานกันอยู่อย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นจะพาไปที่อยุธยา และไปที่กรุงเทพฯ เพื่อต้องการให้เห็นว่า คนไทยยังรักษารากแก้วที่สำคัญ ส่วนเรื่องของนิทรรศการที่จัดขึ้นนั้น ก็คือว่า คนในยุคนี้ เป็นยุคร่วมสมัย คือถ้าย้อนไป ๑o-๒o ปี ถ้าร่วมสมัยร่วมยุคกัน ถึงแม้อาจจะคิดอะไรแตกต่างกัน แต่ก็ต้องถือว่ายังเป็นการร่วมยุคกัน แต่ต้องบอกว่าศิลปะของศิลปินไทยค่อนข้างจะมีกลิ่นอายของความเป็นตะวันออก มีนามธรรมเป็นรากเหง้าที่ต่อเนื่องกันมา และศิลปินแห่งชาติก็ของเราแข็งแกร่ง มีเอกลักษณ์ของตัวเอง มีความหลากหลาย มีรากแก้วที่สืบสานกันมาถึงปัจจุบัน ในการแสดงออกทางความคิดที่เป็นสากล เช่น ถ้าสะท้อนศาสนา เราสะท้อนความเป็นตะวันออก


ดร.กมล กล่าวว่า นอกเหนือจากการโชว์ในเมืองไทยแล้ว หลังจากกลับก็จะนำงานของศิลปินทั้งของไทยและนานาชาติในครั้งนี้ไปโชว์ที่สหรัฐอเมริกาด้วย เริ่มแสดงตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๗ และจัดแสดงยาวถึง ๒ สัปดาห์


Ann Phong หนึ่งในศิลปินสาวผู้โดดเด่น ซึ่งร่วมในโครงการนี้ด้วย เปิดเผยว่า สำหรับเธอแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาประเทศไทย รู้สึกประทับใจกับมิตรไมตรีและรอยยิ้มของคนไทย ซึ่งสำหรับเธอนั้น รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเลือกเข้าร่วมงานเพื่อแลกเปลี่ยนและพบปะกับศิลปินอื่น ๆ ในครั้งนี้


สำหรับผลงานของเธอที่นำมาเสนอครั้งนี้ มาจากแนวคิดที่ว่า talk about your work ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับมนุษยชาติที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เกี่ยวกับความดีงาม และสะท้อนออกมาเป็นงานศิลปะ โดยผลงานจะเป็นการนำมาจัดวาง เป็นงานศิลปะหลาย ๆ ชิ้นแล้วนำมารวมกัน เป็นความรู้สึกของมนุษยชาติ โดยการเอาถุงมือหมอที่ใช้ในการทำงานจริง ๆ เป็นสีน้ำเงินมาวางต่อ ๆ กันเพื่อให้เป็นผลงาน เพราะต้องการสะท้อนถึงความรู้สึกเจ็บป่วย การรักษาของคนป่วย เหตุที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องมวลมนุษย์ เพราะรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนกับช่างภาพ ที่คอยเก็บภาพผู้คนที่พบเห็นทั่วโลก แล้วก็เกิดคำถาม อย่างเช่นมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องการรักษาคนที่เจ็บป่วย ซึ่งคนที่ป่วยก็ต้องผ่านถุงมือของหมอ จึงทำให้เกิดเป็นผลงานนี้ออกมา


“ก่อนจะมาเมืองไทย เมื่อคิดถึงผลงานชิ้นนี้ได้แล้วก็ตั้งใจทำงานออกมา และก่อนที่จะมาเมืองไทยก็ได้นำผลงานชิ้นนี้ไปโชว์ที่ฟลอเรนส์ ประเทศอิตาลี ก็ถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์เมืองไทยก่อนที่จะมาด้วย”



ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net














"คอร์สวาดภาพสีน้ำสำหรับประชาชน”


คอร์สวาดภาพสีน้ำสำหรับประชาชน


สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพมหานคร


ขอเชิญผู้สนใจเรียนพื้นฐานและเทคนิคการวาดภาพสีน้ำกับอาจารย์โกศล พิณกุล


เรียนทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ๙.oo-๑๖.oo น. รวม ๔ ครั้ง


ค่าลงทะเบียน ๑,๒๕o บาท ไม่รวมค่าอุปกรณ์


ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานการวาดภาพ


เริ่มเรียน ๑ มีนาคม ๒๕๕๗


สนใจสมัครเรียนหรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ o๒-๙๔๒-๘๘๒๒ ต่อ ๒oo, ๒o๔- ๒o๕



















ภาพและข้อมูลจากเวบ
jipjipgang.com
เฟซบุคกุล่มสีน้ำทุ่งบางเขน














"ภาพพิมพ์เทคนิคผสมศิลปินเจแปน No Confidence Man”


นำเสนอผลงานภาพพิมพ์เทคนิคผสมที่เต็มไปด้วยความประณีตละเอียดอ่อน โดย ศิลปินชั้นครูชาวญี่ปุ่น ฮิซาชิ คุราจิ ด้วยแนวความคิดเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงและความไม่มั่นคงในมิติต่าง ๆ ของการดำรงชีวิตยุคปัจจุบัน






เส้นสายรายละเอียดขนาดเล็กจำนวนมากในแต่ละชิ้นงาน สอดประสานให้เกิดรูปทรงอันงดงามแปลกตา และให้ความหมายทั้งในแง่มุมของความเหมือนจริง ความเหนือจริง กระทั่งความเป็นนามธรรมที่ผู้ชมสามารถคิดฝันจินตนาการได้อย่างเสรี






นิทรรศการ : “No Confidence Man”
ศิลปิน : Hisashi Kurachi (ฮิซาชิ คุราจิ)
วันที่ : ๒o กุมภาพันธ์-๑๖ มีนาคม ๒๕๕๗
สถานที่ : DOB Hualamphong Gallery
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : o๒-๔๒๒ -๒o๙๒
อีเมล : ardelgallery@gmail.com, ardelworkshop@gmail.com







ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














"ศิลปะสร้างสุข วิถีทางเปลี่ยนสังคม”


ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ผู้คนพยายามถีบตัวเองเพื่อความอยู่รอด นำมาซึ่งคำถามว่าแท้จริงแล้วความสุขอยู่หนใด โจทย์ที่รอคำตอบทำให้ พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย รีบประสานมือแนวร่วมสำคัญ สถาบันศิลปะบำบัดในแนวทางมนุษยปรัชญา จัดนิทรรศการ "ศิลปะสร้างสุข ปี ๓" นำเสนอแง่มุมของศิลปะที่มีศักยภาพในการพัฒนาเยาวชนด้วยการสร้างความสุขจากภายใน แล้วสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ พร้อมตั้งวงเสวนาหัวข้อ "ศิลปะสร้างสุข เพื่อสังคมที่เปลี่ยนแปลง" โดย "ครูมอส" อนุพันธุ์ พฤกษ์พันธ์ขจี ผู้อำนวยการสถาบันศิลปะบำบัดในแนวทางมนุษยปรัชญา และ "ครูอุ้ย" อภิสิรี จรัลชวนะเพท วิทยากรประจำโครงการศิลปะสร้างสุข ที่พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่


ก่อนวงเสวนาจะเริ่ม ณภัทร ชัยสุบรรณ์กนก ชวนผู้เข้าชมนิทรรศการร่วมกิจกรรมจังหวะและดนตรีเพื่อการผ่อนคลาย จากนั้น "ครูอุ้ย" อภิสิรี เปิดประเด็นศิลปะสร้างสุขได้อย่างไรว่า ศิลปะใช่เพียงภาพวาดแต่มีความหมายกว้างมาก ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม, การปั้น, ดนตรี, ภาษา, ละคร,การเคลื่อนไหว ซึ่งศิลปะแห่งชีวิตตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแทรกซึมอยู่ในวิถีชีวิต กิจกรรมศิลปะสร้างสุขใน ๓ ปีที่ผ่านมาไม่ได้ทำต่างจากยุคบรรพชน เป็นการค้นหารากเหง้าว่าคนยุคก่อนพูดถึงศิลปะไว้อย่างไร


"คนยุคโบราณวาดรูป ปั้นของใช้ ทำสร้อยคอ สะท้อนว่าศิลปะสมัยก่อนใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันมากกว่ายุคนี้ แต่ปัจจุบันศิลปะเป็นเรื่องของศิลปินผู้สร้างสรรค์ และไม่เคยคิดว่าศิลปะสร้างสุขได้ การจะบอกว่าศิลปะสร้างสุขได้นั้นต้องมองในแง่สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างไร เอาง่าย ๆ ศิลปะสามารถสร้างสุขให้เด็กพิเศษได้ แค่เราสร้างผนังห้องให้สวยงาม ทุกขั้นตอนทำให้มีความสุข เป็นศิลปะแห่งชีวิต" วิทยากรประจำโครงการ กล่าว


ด้าน "ครูมอส" อนุพันธุ์ ชี้ว่าตัวเองเป็นนักศิลปะ และคนที่เข้ามาเรียนศิลปะกับตัวเองคือคนธรรมดา หลายคนในสังคมที่ไม่เคยสัมผัสศิลปะมาก่อนจะไม่รู้ว่าศิลปะสร้างสุขได้อย่างไร สำคัญอยู่ที่จะปรับตัวอย่างไร นั่นคือศิลปะเปลี่ยนแปลงบุคคลแล้วจึงนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชุมชน


"กิจกรรมหนึ่งคือเราระบายผนังด้วยลมหายใจ สิ่งที่ประทับใจคือมีการถามไถ่พูดคุยกัน ครูคนหนึ่งบอกว่าเราอบรมมาทั้งปีไม่เคยได้คุยกันเลย ซึ่งเทคนิคการสร้างความสัมพันธ์ด้วยการระบายสีนี้คนเดียวไม่สามารถทำได้ ต้องระบายทั้งชุมชน เป็นผลให้มีรอยยิ้ม มีความสนิทใจ เห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น จริงๆ เรามีความหวังเสมอ " ครูมอสพูดจบ ครูอุ้ยก็เสริมทันทีว่า ต้องมีต้นแบบก่อนแล้วคนทำงานก็จะง่ายขึ้น แสงของพระอาทิตย์ส่องมายังโลกมี ๗ สี แต่ไม่ได้เลือกให้ใครประทับใจสีใดสีหนึ่ง นั่นคือความเท่าเทียม เหมือนศิลปะที่ให้ทุกคนลืมตาแล้วมาวาดภาพด้วยกัน ไม่ต้องกลัวว่าจะผิดหรือไม่สวย!!






สิ่งที่ครูอุ้ย ปรารถนาการให้เกิดขึ้นคือ การให้โอกาสตัวเอง เพราะหากไม่เคยสัมผัสความงามก็เหมือนเป็นการปิดกั้นตัวเอง เพราะฉะนั้นให้ลองทำความรู้จักกับศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นภาษา บทกลอน การเคลื่อนไหว การวาด ปั้น หรือสถาปัตย์ สอดคล้องกับมุมมองของครูมอส ที่ว่าแท้จริงแล้วมนุษย์มีความหวังเสมอ สิ่งที่อยู่ในนิทรรศการนี้เรียบง่าย เป็นการส่งภาษาไปถึงพ่อแม่หรือสังคมที่กำลังอ่อนแอ


"อยากบอกคุณครูต้นแบบว่าเวลาทำงานศิลปะแล้วมีความสุข อย่าคิดว่าเป็นการฝึกตัวเองเพื่อนักเรียน แต่ให้คิดว่าฝึกตัวเองให้มองเห็นความงามของศิลปะ แค่เห็นโลกก็สำเร็จแล้ว" ครูมอส ชี้ชวน


ที่ผ่านมาโครงการศิลปะสร้างสร้างสุขได้ทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาเยาวชนที่มีความต้องการพิเศษที่โรงเรียนเพชรบุรีปัญญานุกูลมาอย่างต่อเนื่อง มีการจัดหาผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาพิเศษไปออกแบบพัฒนากิจกรรมเสริมหลักสูตรการเรียนการสอน ด้วยการใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือในการพัฒนา ถ่ายทอดพลังแห่งการสร้างสรรค์ภายในออกมาให้ปรากฏเป็นภูมิคุ้มกันและเยียวยา สร้างพลังใจ พลังชีวิตสำหรับเยาวชนที่มีความต้องการพิเศษ โดยมุ่งเน้นที่ครูเป็นหลัก เพราะครูคือ ต้นแบบของการถ่ายทอดที่สำคัญ


ทั้งนี้ มีการจัดอบรมพัฒนาความรู้ความเข้าใจและวิถีทางของศิลปะให้กับครูโรงเรียนเพชรบุรีปัญญานุกูลจนได้ครูต้นแบบ ๗ คนที่สามารถวางแผนและออกแบบกิจกรรมได้ด้วยตัวเองและพร้อมเผยแพร่เป็น "ต้นแบบ" ขยายผลไปยังโรงเรียนปัญญานุกูลในจังหวัดอื่น ๆ ต่อไป


นิทรรศการจัดไปจนถึงวันที่ ๔ เมษายนนี้ (เว้นวันหยุดธนาคาร) ตั้งแต่ ๑o โมงถึง ๕ โมงเย็น ระหว่างนี้มีกิจกรรมเสริมได้แก่ กิจกรรมศิลปะสร้างสุข เสริมสร้างสมาธิและความสุขให้เยาวชน และกิจกรรมเล่านิทานหุ่นมือ-ภาษามือ เสริมสร้างจินตนาการ คุณงามความดีผ่านความรักความอบอุ่นในครอบครัว สอบถามโทร. o-๒๕๔๔-๓๘๕๘



ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net














นิทรรศการ "Wave of Life"


นิทรรศการ “Wave of Life” นำเสนอผลงานประติมากรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยไม้ ภายใต้แนวความคิดเกี่ยวกับความสัมพัทธ์สัมพันธ์ของสรรพสิ่งในธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ พืชพรรณ หรือสรรพสัตว์ ซึ่งดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสอดประสานและเอื้ออาศัยซึ่งกันและกัน ผลงานประติมากรรมไม้แกะสลักขัดแต่งที่ผสมผสานระหว่างรูปทรงเรขาคณิตและรูปทรงสัญลักษณ์ในธรรมชาติ สร้างสรรค์โดย จุมพล อุทโยภาศ


**พิธีเปิดนิทรรศการเลื่อนไม่มีกำหนด**


ตั้งแต่วันที่ ๒๘ มกราคม - ๒ มีนาคม ๒๕๕๗
ณ อาร์เดลเธิร์ดเพลส แกลเลอรี (สุขุมวิท ๕๕ ทองหล่อซอย ๑o)



















ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค ARDEL Gallery














ศิลปะสีน้ำ สีน้ำมัน สีอะครีลิก ชุด "รัก-รักษ์”


ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ จะจัดนิทรรศการศิลปะ สีน้ำ สีน้ำมัน สีอะครีลิก ชุด “รัก-รักษ์” บรรจงศิลป์สวย…สื่อความรู้สึกของหัวใจ เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก โดย ฉัตรชัย คุรุรัตนากร และกลุ่มศิลปินที่จะมาร่วมนำเสนอผลงานศิลปะแนวร่วมสมัย สะท้อนความงามผ่านสีสันทั้งโทนสีอ่อนหวาน และโทนสีสดใสจัดจ้าน สะท้อนอารมณ์และความรู้สึกถึงความรักหลากหลายรูปแบบอย่างละเมียดละมัย ทั้งนี้ ขอเชิญชวนผู้สนใจงานศิลปะแนวร่วมสมัย และประชาชนทั่วไป เข้าชมนิทรรศการสีน้ำ สีน้ำมัน สีอะครีลิก ชุด “รัก-รักษ์” ได้ระหว่างวันที่ ๑๓ -๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ นี้ ณ พื้นที่ศิลปะ บริเวณชั้น ๒ ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้






นอกจากนี้ ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ ยังได้จัดให้มีงาน เลิฟอินกรีเดียนท์” [Love Ingredient] สีสันและส่วนผสมแห่งรัก โดยจะมีร้านค้าระดับพรีเมี่ยมมากมาย ร่วมจำหน่ายผลิตภัณฑ์และสินค้าอินเทรนด์ ที่ล้วนสื่อความรัก…ความห่วงใย และจัดให้มีโซนกิจกรรม เลิฟ..เลิฟ อาทิ โซนเลิฟสตอรี่ ชมหนังรักสุดโรแมนติก, โซนซาวน์ออฟเลิฟ กิจกรรมบอกรักเก๋ ๆ เป็นต้น เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้ร่วมปรุงแต่งความรักให้กลมกล่อม ระหว่างวันที่ ๑๓ – ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ นี้ ณ ริเวอร์ซิตี้ แกรนด์ฮอล์ ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้



ภาพและข้อมูลจากเวบ
newswit.com














"ALL EQUALS ONE ART THESIS”


คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ขอเชิญผู้สนใจชม นิทรรศการศิลปนิพนธ์ของนักศึกษาปริญญาตรีชั้นปีสุดท้าย “หกสิบหก ยกกำลัง ศูนย0”


โดยนักศึกษาชั้นปีสุดท้าย (รุ่นที่ ๖๖) ปีการศึกษา ๒๕๕๖ คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร พิธีเปิด วันอังคารที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.oo น. คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช (กรรมการมูลนิธิธนาคารกรุงเทพ) เป็นประธานในพิธีฯ ณ สวนแก้ว มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ กรุงเทพฯ นิทรรศการเปิดให้ชมตั้งแต่ ๓ – ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๗


ตารางการจัดแสดง
ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร (วังท่าพระ)
จันทร์ – ศุกร์ ๙.oo – ๑๙.oo / เสาร์ – อาทิตย์ ๙.oo – ๑๖.oo (เปิดทุกวัน)

ณ หอศิลปะสถาปัตยกรรมพระพรหมพิจิตร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
จันทร์ – อาทิตย์ ๑o.oo – ๑๘.oo (เปิดทุกวัน)

ณ หอศิลปะและการออกแบบ คณะมัณฑนศิลป์
จันทร์ – อาทิตย์ ๑o.oo – ๑๘.oo (เปิดทุกวัน)

ณ PSG Art Gallery คณะจิตรกรรมประติมากรรม และภาพพิมพ์
จันทร์ – อาทิตย์ ๑o.oo – ๑๘.oo (เปิดทุกวัน)

**ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุค All Equals One Art Thesis



























งานเสวนา




วันพฤหัสบดีที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑o.oo – ๑๒.oo น. “สนทนาแลกเปลี่ยนมุมมองทางศิลปะ”
โดย รองศาสตราจารย์ธเนศ วงศ์ยานนาวา (อาจารย์ประจำสาขาวิชาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)


วันศุกร์ที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.oo – ๑๕.oo น. “วงการศิลปะร่วมสมัยไทย เราเดินด้วยกันอย่างไร”
โดย คุณธวัชชัย สมคง (บรรณาธิการ Fineart Magazine) และ คุณนำทอง แซ่ตั้ง (ผู้อำนวยการ Numthong Gallery)


วันศุกร์ที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.oo – ๑๕.oo น. “ศิลปิน งานศิลปะ และมากกว่านั้น…”
โดย คุณลำพู กันเสนาะ และ คุณตะวัน วัตุยา ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร โถงหน้า ท้องพระโรง (วังท่าพระ)
ติดต่อนำชมนิทรรศการที่ : o๘๘– ๖๙๒–๔๘๖o/ o๘๖–๓๗๔–๒๗๒๔



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














"บรรเลงเพลงละเลงสี”


นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานในพิธีเปิด "โครงการบรรเลงเพลงละเลงสี" จัดโดยสำนักวัฒนธรรรม กีฬา และการท่องเที่ยว เป็นกิจกรรมสร้างสรรค์โดยใช้ศิลปะและดนตรีเป็นสื่อ มีประโยชน์ต่อประชาชนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะเด็ก/เยวชนได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เรียนรู้ ฝึกฝนทักษะด้านศิลปะและดนตรี ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันภัยร้ายอย่างยาเสพติด ซึ่งสอดรับกับนโยบาย "รักกรุงเทพฯ ร่วมสร้างกรุงเทพฯ" เป็นมหานครแห่งความสุข ของม.ร.ว.สุขุมพันธฺุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร


สำหรับโครงการบรรเลงเพลงละเลงสี เป็นการจัดกิจกรรมการแสดงดนตรี โดยใช้ศิลปะการวาดภาพผนวกกับการบรรเลงดนตรี สร้างสรรค์ผลงานโดยใช้คำขวัญกรุงเทพมหานคร "กรุงเทพดุจเทพสร้าง เมืองศูนย์กลางการปกครอง วัด วัง งามเรืองรอง เมืองหลวงของประเทศไทย" ถ่ายทอดความงดงามผ่านทางการแสดงดนตรีโดยวงออร์เคสตร้าเยาวชนและวงซิมโฟนิคแบนด์ มีช่วงสำคัญ คือ การวาดภาพของศิลปินเยาวชนที่มีความสามารถในทางศิลปะในระดับดีเยี่ยม ประกอบบทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นใหม่ภายใต้แนวคิดคำขวัญกรุงเทพมหานคร โดยได้รับเกียรติจากศ.ดร.ณรงค์ฤทธิ์ ธรรมบุตร ศิลปินศิลปาธร เป็นผู้ประพันธ์บพเพลง ชื่อ "เทวานครา"


จัดแสดงครั้งแรกไปแล้วที่ศูนย์เยาวชน คลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม โดยจิตรกรเยาวชน น.ส.สิริลักษณ์ แซ่แต้ (มีพิธีเปิดโครงการ) ในวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ที่สวนสาธารณสันติชัยปราการ ถนนพระอาทิตย์ เขตพระนคร โดยจิตรกรเยาวชน นายสิปปกฤต เชื้อเพชร์ (และจะจัดอีก ๒ ครั้ง) วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๗ ที่ศูนย์เยาวชนพระราม ๙ เขตราษฎร์บูรณะ โดยจิตรกรเยาวชน นายสามพงษ์ ผลรัศมี และวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๗ ที่ลานหน้าอนุสาวรีย์สมเด็จเจ้าพระยา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา โดยจิตรกรเยาวชน นายกฤช ตระกูลพิชิต


ขอเชิญชวน เด็ก เยาวชน และประชาชนร่วมโครงการบรรเลงเพลงละเลงสี ร่วมสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์ที่มีประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติต่อไป



ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com














นิทรรศการ "เมื่อโลกตั้งครรภ์เป็นงานศิลป์”


ปิยทัต เหมทัต พร้อมด้วย ชนุตม์ชา พงษ์จีน และร่วมแสดงความยินดีกับบัทม์ แก้วงอก(คนกลาง) ในงานเปิดนิทรรศการเซรามิค เมื่อโลกตั้งครรภ์เป็นงานศิลป์ (EARTH PREGNANT) โดยมี Yati Bernhold , Dr.Juergen Bernhold ร่วมแสดงความยินดี นิทรรศการเซรามิค จัดแสดงตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ อา-ม่า หรือ อาร์ เอม เอ อินสติทูท (RMA institute) ๒๓๘ ซอยสายน้ำทิพย์ ๒ ถนนสุขุมวิท ๒๒ เวลา ๙.๓o-๑๙.oo น. ทุกวัน (ปิดเฉพาะวันจันทร์) ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร o๒-๖๖๓-o๘o๙







ภาพและข้อมูลจากเวบ
newswit.com
static.asianet.co.th














"PLAY”


นำเสนอผลงานจิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้าใบโดยมีต้นแบบจากหน้าปกนิตยสาร PLAYBOY ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งเด่นเรื่องจุดยืนของบรรณาธิการที่เป็นอิสระ (Liberal editorial stance) ในยุคต้นทศวรรษ 1960


ภายในนิทรรศการนอกจากจะมีการแสดงผลงานจิตรกรรมของธวัชชัย สมคง แล้ว ยังเปิดพื้นที่ให้ศิลปินรับเชิญ ร่วมสร้างสรรค์ผลงานผ่านมุมมองที่มีต่อธวัชชัย ในฐานะบรรณาธิการนิตยสาร PLAY มีการรวบรวมภาพกิจกรรม รวมถึงบทความจากนักเขียนรับเชิญเพื่อสร้างเป็นนิตยสารจำลอง ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเชิงปฏิสัมพันธ์แบบทดลองทางศิลปะด้วย


นิทรรศการ : “PLAY”
ศิลปิน : ธวัชชัย สมคง
วันที่ : 3 เมษายน – 18 พฤษภาคม 2557
สถานที่ : หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล (ถนนบรมราชชนนี)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล โทร : 02-422-2092
เว็บไซต์ : //www.ardelgallery.com















ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














"GENESIS”


ขอเชิญชวนคนรักศิลปะและการถ่ายภาพร่วมชมนิทรรศการภาพถ่ายแฟชั่นและดิจิทัลอาร์ต “GENESIS” จากฝีมือช่างภาพและศิลปินดิจิทัลรุ่นใหม่ ณัฐภา (เจน) กมลเศวตกุญ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดเกี่ยวกับการสร้างโลก โดยเป็นการนำเสนอตามลำดับขั้นของการสร้างจักรวาล ตั้งแต่การสร้างสิ่งอันเป็นกายภาพ เช่น แผ่นดินและผืนน้ำ จนถึงการสร้างสรรพสัตว์และมวลมนุษยชาติ


นิทรรศการ GENESIS จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๕-๒๕ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ แบดโมเทล (BADMOTEL) ทองหล่อ ซอย ๑๕ และ ๑๗ และจะมีพิธีเปิดนิทรรศการในวันที่ ๕ มีนาคม เวลา ๑๙.oo น. โดยจะมีแขกรับเชิญจากทั้งแวดวงไฮโซและวงการบันเทิงเข้าร่วมในพิธีและร่วมชมนิทรรศการ อาทิ กิ๊บซี่-กิ๊บซ่า วงเกิร์ลลี่เบอร์รี่, ไอซ์ อภิษฎา เครือคงคา, คิด-คณชัย เบญจรงคกุล, ณัฐ สารสาส เป็นต้น


นิทรรศการ : “GENESIS”
ศิลปิน : ณัฐภา (เจน) กมลเศวตกุญ
วันที่ : ๕-๒๕ มีนาคม ๒๕๕๗
สถานที่ : แบดโมเทล (BADMOTEL) ทองหล่อ ซอย ๑๕ และ ๑๗
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร : o๒-๗๑๒-๗๒๘๘, o๙๑-๒๒๙-๗๙๙๔
อีเมล : badmotel@hotmail.com







ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com




บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




 

Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2557
0 comments
Last Update : 2 มีนาคม 2557 10:40:17 น.
Counter : 4187 Pageviews.


haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.