วันนี้ มาทำงานเป็นวันแรกของปี ๕๕ มาถึงที่ทำงานพอดีกับเวลาทำงานเป๊ะเลย ไม่สายไม่ก่อนเวลา ได้ของขวัญปีใหม่จากพี่ร่วมงานด้วยกันที่กลับบ้านที่ชัยภูมิ เป็นหมอนใบชาเขียว หมอนลูกเล็กๆ สีแดงมีมังกรบนหมอน นี่ไงหน้าตาแบบนี้ ประโยชน์ของหมอนลูกนี้เก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าแก้กลิ่นอับในตู้เสื้อผ้า แต่คงไม่เก็บไว้หรอก คงจะวางไว้บนโต๊ะทำงานแบบนี้ล่ะ สวยดี
ของขวัญชิ้นที่สอง เป็นกระเช้าแบรนด์ กระเช้านี้มาวางอยู่บนโต๊ะคอม เมื่อเช้ามาทำงานพอถึงโต๊ะก็เห็นวางอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นของใครก็เลยดูที่ป้ายอวยพรถึงได้ว่าเป็นของเพื่อนร่วมงาน ก็เลยโทรไปขอบคุณของขวัญที่เค้ามอบให้เรา แต่เราก็บอกไปว่าไม่ต้องมากมายแบบนี้หรอก แค่ ส.ค.ส. ใบเดียวก็ดีใจแล้วล่ะ แต่เค้าอยากให้เราสุขภาพแข็งแรง พี่ๆ เค้าก็แซวกันโด๊ปตั้งแต่อายุสามสิบเลยหรอ นี่ไงหน้าตาของขวัญชิ้นที่สอง
ของขวัญชิ้นที่สาม พี่เค้าถือขึ้นมาให้บนสองของที่ทำงานเลย เพราะพี่เค้าทำงานอยู่ชั้นล่าง เราทำงานที่ชั้นสอง แต่พี่เค้าเดินถือมาให้ เป็นกล่องสีแดง กล่องใหญ่ คิดว่าคงจะเป็นผ้าเช็ดตัว เพราะปีที่แล้วพี่เค้าก็ให้กล่องแบบนี้แต่สีเงินกล่องเล็กกว่ากันนิดหน่อย นี่ไงหน้าตาของขวัญชิ้นที่สาม
ไม่รู้จะมีมาอีกหรือเปล่า แต่ตอนนี้ลงในบล็อกได้เท่าที่มีตอนนี้ แล้ว ส.ค.ส. ที่เราส่งให้เพื่อนป่านนี้ถึงกันหรือยังนะ ยังไม่ได้รับความตื่นเต้นจากเพื่อนๆ คิดว่าน่าจะถึงวันนี้นะ เพราะส่งไปตั้งแต่วันที่ ๒๘ ธันวาคม ๕๔ ล่ะ ไม่แน่ตอนบ่ายอาจจะได้รับสายจากเพื่อนๆ ตื่นเต้นจังเลย เพราะวันปีใหม่เราก็โทรไปอวยพรปีใหม่ซึ่งกันและกัน แต่ไม่ได้บอกเรื่อง ส.ค.ส. ไว้ให้ตกใจเล่นๆ
เมื่อวานอยู่บ้านซักผ้าตามปกติ แต่ว่าอากาศครึ้มๆ เหมือนฝนจะตกไม่แดด อากาศไม่แจ่มใส นึกว่าผ้าจะไม่แห้งแต่ก็แห้ง แต่แห้งไม่สนิท ที่แห้งได้เพราะว่าอากาศเย็นๆ ทำให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นจากเดิมแต่แห้งไม่สนิท กินแล้วก็นอนกลางวัน หลับไปพักหนึ่งแล้วก็ตื่นขึ้นมาหาไรกินต่ออีก ตกเย็นก็ซิคอัพห้าสิบครั้งกับม้านั่งบริหารกล้ามเนื้อ พุงยุบลงหน่อยๆ ล่ะ และก็เลยปรับน้ำหนักดัมเบลเพิ่มจำนวน ๑๐ กิโลกรัม เท่ากับจำนวนที่ซื้อมาตอนแรก แต่ใส่แผ่นน้ำหนักไม่หมดเหลืออีก ๑ กิโลกรัม เมื่อวานก็เลยจัดการใส่แผ่นน้ำหนักเข้าไปอีกข้างล่ะ ครึ่งกิโล รวมแล้วหนัก ๑๐ โลพอดี ยกเมื่อวาน เบามากเลย ไม่หนักเลย หรือว่าเรายกเก้าโลมาจนชินแล้ว ได้ผลดีร้อนไปทั้งตัวเลย เหงื่อออก แค่ยกข้างล่ะสามสิบครั้งนะเปลี่ยนท่ายกสามท่า
ประสบการณ์ที่ดีจากการเติมเงิน เมื่อวานมีเด็กแถวบ้านเค้ามาเติมเงินเข้าเบอร์ทรูมูฟ เค้าเติมสามสิบบาทเราก็เติมให้ไป ได้รับข้อความว่าได้โอนเงินให้ลูกค้าแล้วสามสิบ สักพักเด็กคนนี้กลับมาอีกครั้งมาบอกว่าเงินไม่เข้า เราก็ไม่ได้พูดอะไร สักพักมาอีกครั้งเราก็เลยขอดูโทรศัพท์แต่เด็กคนนั้นกำลังตรวจเบอร์ของเค้า เราก็เลยไม่ได้สนใจอะไร เติมให้อีกครั้งสามสิบบาทแต่ไม่ได้เก็บเงิน เงินก็โอนเข้าไปเหมือนเดิม แต่โทรศัพท์ของเด็กคนนั้นไม่ได้รับข้อความการเติมเงิน เราก็แปลกใจ เลยโทรเข้าเบอร์เด็กคนนี้ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้ เอาอีกเบอร์โทรก็ติดต่อไม่ได้ หลายคนที่นั่งอยู่ด้วยคนเค้าบอกว่าเด็กคนนี้ไม่เปิดเครื่องโทรศัพท์ แต่เราก็เห็นหน้าจอโทรศัพท์เด็กเค้าเปิดอยู่นะ แต่เด็กเค้าตรวจเบอร์ขอเค้าไม่ได้ ส่งคำขอไปก็ไม่มีการตอบสนอง สุดท้ายเราคืนเงินให้เด็กคนนี้จำนวนสามสิบบาท แต่เราเติมให้เด็กคนนี้ไปสองครั้ง ครั้งละสามสิบบาท รวมเป็นหกสิบบาท เราเลยดึงเงินคืนกลับหมดเลยสองครั้ง ครั้งละสามสิบ สองครั้งก็หกสิบบาท ได้คืนหมด
ก่อนที่จะเหตุแบบนี้เราก็เติมให้เด็กคนนี้เมื่อสองวันก่อนก็เข้า เติมให้เบอร์พี่เด็กคนนี้ก็เข้า เติมให้คนอื่นๆ ก็เข้า ตั้งแต่เติมเงินออนไลน์มาไม่เคยเจอเลย เพิ่งจะเจอกับเด็กคนนี้เมื่อวานครั้งแรก แต่สองวันที่ผ่านมาเราเติมเงินดีมาก หรือว่าเค้าจะทำให้เสียชื่อ หลายๆ คน ก็บอกเราว่าเด็กคนนี้แกล้งปิดเครื่อง เรามานั่งคิดว่าเด็กคนนี้จะทำแบบนี้ทำไม แต่เด็กคนนี้ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กไม่ดี เราเลยคิดแล้วจะไม่เติมเงินให้เด็กคนนี้แล้ว ให้เค้าไปเติมที่อื่น ทำให้เราเสียชื่อ ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ และไม่เคยคิดโกงใคร เพราะข้อความยืนยันได้ว่าเราโอนเงินให้จริงทั้งสองครั้ง ถ้าโอนเงินไม่ได้นะระบบจะฟ้องให้รู้เลยว่าเติมเงินไม่ได้ แต่นี่ได้รับข้อความตามปกติ แต่สิ่งที่ไม่ปกติคือโทรศัพท์เด็กคนนั้น แต่ช่างมัน คืนเงินให้เด็กเค้าไป แล้วเราก็ดึงเงินคืนได้ครบหมด แล้วขึ้นแบล็กลิตส์ไม่เติมเงินให้เด็กคนนี้ หลังจากนี้เราก็ป้องกันให้คนเติมเงินเค้ารอเงินเข้าโทรศัพท์เลย จะได้รู้ว่าเข้าไม่เข้า เพราะถ้าเกิดแบบนี้อีก เราเสียหายฝ่ายเดียว ภาวนาให้คนที่คิดชั่วกับเราให้เค้าได้รับผลความชั่วนั้นกับตัวเค้าเป็นล้านเท่าที่เค้าทำกับเรา ทุกคนในบ้านต่างแค้นแทนเรากันหมดเลย กับเงินสามสิบบาท เราไม่โกงใครหรอก ลูกค้ามาเติมกับเราเยอะแยะ ไม่เคยเจอมีแบบนี้ คนชั่วนี่มันชั่วตั้งแต่หัวจรดเท้าจริงๆ
เริ่มต้นกับการก้าวเข้ามาของคน คนหนึ่งแต่ตอนนี้ยังไม่ได้สรุปว่ายังไง แต่ได้คุยกัน รู้จักกันตั้งแต่สิ้นปีที่แล้ว เค้าก็โทรมาคุยด้วยตอนคืนสิ้นปี แล้วเค้าก็ไปฉลองปีใหม่กับที่บ้านของเค้า เมื่อคืนเค้าก็โทรมาอีกเป็นครั้งที่สอง เค้าจะมาดูตัวเรา แต่ยังไม่รู้เมื่อไหร่ เจอกับเค้าแล้วก็คงจะได้คำตอบล่ะว่าเค้าจะต่อยาวหรือตัดสัมพันธ์ เค้าอยู่ไม่ไกลจากเราหรอก บ้านเค้าอยู่แม่กลองนี่เอง รอดูกันอีกทีว่าจะสรุปยังไง เค้าบอกเค้าเป็นคนรักใครรักจริง ถ้าผิดหวังแล้วเค้าจะหยุดพักไปเป็นปีๆ เลย แล้วค่อยหาใหม่ แต่เค้ามีแฟนมาก่อนนานแล้ว แล้วปัจจุบันเค้าบอก เค้ามีกิ๊กอยู่สองคน แต่ก็ติดต่อกันอยู่ทั้งสองคน เราก็ได้แต่ฟังที่เค้าเล่าให้ฟัง แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไรเค้านะ เพราะเรากับเค้ายังไม่ได้เป็นอะไรกัน แฟนกันก็ยังไม่ใช่ เรากับเค้าพอกัน แต่เราดีกว่าเค้าตรงที่ว่าเราไม่มีกิ๊ก แต่เค้ามีกิ๊กแล้วไม่ใช่แค่คนเดียว ตั้งสองคนนะ
เค้าบอกว่า ถ้าเป็นแฟนเค้า ห้ามไปมีไรกับคนอื่นนะ เราก็บอกได้ แต่เราไม่ได้บอกเค้าว่า เค้าต้องเลิกกับกิ๊กของเค้านะ เค้าพูดขู่แต่กับเราไม่ให้เราไปมีใคร แต่กับเค้าเราไม่เคยพูดขออะไร เพราะมันอยู่ในช่วงที่เริ่มคุยๆ กัน แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะยังไงต่อ เพราะรอให้เค้ามาเห็นตัวเป็นๆ ก่อน เมื่อคืนเค้าก็บอกให้เราฟังว่ากิ๊กของเค้าโทรมาหา กิ๊กเค้าถามว่าเค้าจะมา กทม บ้างมั้ย ถ้ามาให้แวะมาหากิ๊กด้วย เราก็รู้สึกเฉยๆ นะ เพราะตอนนี้คุณยังไม่ใช่แฟนเรานิ เค้าพูดห้ามทำเกี่ยวกับคนที่สามหลายอย่าง นี่แค่เริ่มต้น แต่เราไม่ได้ขออะไรเลย แล้วเราจะไม่ขอด้วย ถึงวันที่ตกลงเป็นแฟนกับเค้า เราก็จะไม่ขอ แล้วจะไม่ยุ่งกับกิ๊กของเค้าด้วย เพราะเราจะดูการกระทำของเค้า เค้าห้ามเราทุกอย่าง แต่คุณจำไว้อย่างหนึ่ง คุณขอเรา เรารับคำพูดตามคำขอของคุณ
ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการกระทำของคุณนะ เพราะเราจะไม่ขอ ถ้าหากจิตใจเรารับรู้ความรู้สึกบอบช้ำเมื่อไหร่ เราจะเป็นฝ่ายตัดความสัมพันธ์กับคุณเอง อยู่ที่ว่าคุณจะรักษาสิ่งดีๆ อยู่ในมือของคุณได้นานเท่าไหร่ เราทำได้ในสิ่งที่คุณขอ สบายมาก แต่เราไม่ขออะไรจากคุณแม้แต่อย่างเดียว เราจะดูการกระทำของคุณเท่านั้นจริงๆ นี่เรากับเค้าแค่คุยกันนะ คุยกันก่อนที่จะเป็นแฟนกัน แต่จะแฟนนกันหรือไม่นั้น ค่อยดูวันที่เค้าจะมาดูตัวเราก่อนแล้วกัน ถ้าทุกอย่างเค้าโอเค เราก็ตามข้างบนที่เราได้บอกไว้ แต่เป็นสิ่งที่ดีนะ ที่เราคุยกับเค้า เค้าเปิดฉากคุยมาก่อนเลยนะเพราะเค้าเป็นผู้ใหญ่กว่าเรา คือเค้าแก่กว่าเรา แล้วเค้ามีแฟนเด็กอายุน้อยกว่าเค้ามาก แต่เราคนแรกที่อายุไล่เลี่ยอ่อนกว่าเค้าไม่มากเท่าไหร่ เค้าถึงได้กล้าเปิดฉากพูดมาแบบนี้ เพราะเค้าคงคิดว่าเราก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ช่วงนี้ก็ได้แค่คุยโทรศัพท์กัน มันเร็วเหมือนกันนะกับการคุยเริ่มต้นกัน อาจจะเป็นเพราะว่าเราเตรียมใจตั้งแต่ก่อนสิ้นปีแล้ว ว่าปีนี้เราจะไม่ปิดกั้นใจแล้ว มันจะเป็นยังไงค่อยดูกันอีกที เจอกันแล้วเค้าอาจจะไม่ชอบเราก็ได้ ไว้ให้วันนั้นมาถึงก่อน แต่ตอนนี้ต้องทำงานแล้วล่ะ ไปล่ะ
| Create Date : 04 มกราคม 2555 |
| Last Update : 4 มกราคม 2555 10:24:35 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 1184 Pageviews. |
 |
|
|
