Group Blog
All Blog
<<< "ขอให้พยายามสร้างธรรมะไว้ในใจ" >>>












“ขอให้พยายามสร้างธรรมะไว้ในใจ”

ควรคิดถึงความตายให้มากๆ คิดถึงความตายอยู่เรื่อยๆ

 คิดว่าทุกคนในที่สุดก็ต้องตายกันหมด

 สิ่งต่างๆที่ทำกันแทบเป็นแทบตาย ก็หมดความหมายไป

 ไม่เป็นประโยชน์อีกต่อไป การทำให้ร่างกายอยู่สุขสบาย

อยู่ไปนานๆ ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย มีงานทำ มีเงินใช้

เป็นความสุขชั่วคราว ไม่ติดไปกับเรา

คนจนตายกับคนรวยตายก็เท่ากัน

ไม่ได้เอาทรัพย์สมบัติไปกัน จะมาเสียเวลา

กับการหาทรัพย์สมบัติข้าวของเงินทอง

หาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกายไปทำไม

 แต่สิ่งที่ทำให้จิตใจนี้ เราเอาติดตัวไปได้หมดเลย

ทำทานได้มากน้อยเพียงไร ก็จะติดเป็นนิสัยไป

 รักษาศีลได้มากน้อยเพียงไร ก็จะติดเป็นนิสัยไป

เจริญสตินั่งสมาธิเจริญปัญญาได้มากน้อยเพียงไร

 ก็จะติดเป็นนิสัยไป คนเราถึงมีความแตกต่างกัน

 เวลามาเกิดในแต่ละภพแต่ละชาตินี้

บางคนสามารถไปได้อย่างรวดเร็ว

ฟังเทศน์ฟังธรรมครั้งสองครั้งก็บวชได้บรรลุธรรมได้

บางคนฟังเป็นสิบสิบครั้ง ฟังแล้วฟังอีก

ก็บวชไม่ได้บรรลุธรรมไม่ได้ เพราะไม่ได้ทำมามากพอ

 มัวแต่ไปยุ่งกับการหาเงินหาทอง

 หาความสุขทางร่างกาย ถ้าเป็นอย่างนี้

กลับมาพบพระพุทธศาสนาอีก ๑๐๐ ครั้ง ๑๐๐๐ ครั้ง

ก็จะเป็นอย่างนี้ จะไม่ได้รับประโยชน์จากพระพุทธศาสนา

 เพราะไม่มีธรรมเก่ามารองรับ แต่ถ้าได้สร้างธรรมะต่างๆไว้

 พอมาพบกับพระพุทธศาสนาอีกครั้ง

 ก็เหมือนกับปลาได้น้ำ จะฟื้นขึ้นมาทันที

 เหมือนต้นไม้ที่ได้น้ำ ก็จะออกใบทันที

 เพราะมีต้นอยู่แล้วมีรากอยู่แล้ว ถ้ายังไม่มีต้นไม่มีราก

 ต่อให้ฝนตกหนักขนาดไหน ก็จะไม่เจริญงอกงาม

ขอให้พยายามสร้างธรรมะต่างๆให้มีไว้ในใจ

 เพราะจะติดไปกับเรา เป็นของเรา

ทานบารมี ศีลบารมี เป็นของเรา

 สติ สมาธิ ปัญญา เป็นของเรา

 ทำได้มากน้อยก็จะติดไปกับเรา

 บางคนจึงนั่งสมาธิได้ง่ายเพราะมีสติมาก

 บางคนนั่งสมาธิเป็นปีๆ ก็ไม่เคยสงบสักครั้งหนึ่ง

 เพราะไม่ได้สร้างสติมาในอดีต

 แล้วก็ไม่สร้างสติในปัจจุบัน ถ้าในอดีตไม่ได้สร้างสติมา

 ในปัจจุบันเราก็สร้างขึ้นมาได้ ถ้ามีคนสอน

แล้วเราพยายามทำตาม อีกไม่นานก็จะมีสติ

 พอมีสติแล้วนั่งสมาธิก็จะสงบได้อย่างรวดเร็ว

พอมีสมาธิก็จะละตัณหาได้ พอปัญญาบอกว่า

นี่คือความอยาก อย่าไปอยากนะ อยากแล้วจะทุกข์

 ก็จะละได้หลุดพ้นได้ ขอให้บำเพ็ญกันมากๆ

อย่าทำแต่ทานอย่างเดียว

ทานนี้ได้ทำกันอย่างเด่นชัดแล้ว

 แต่ยังไม่มากพอ ทำทีเดียวให้หมดไปเลย

จะได้ไม่ต้องทำบ่อยๆ จะได้ไปบวชได้

ถ้าทำหมดแล้วก็จะไปบวชได้ ไปรักษาศีลให้บริสุทธิ์ได้

 ไปปลีกวิเวกไปภาวนาได้ เจริญสติสมาธิปัญญาได้

 หลุดพ้นได้ ตอนนี้พวกเราติดอยู่ที่ขั้นทานกัน

 การทำทานดี ไม่ใช่ไม่ดี

 เพียงแต่ว่าอย่าติดกับการทำทาน

ทำทานเพื่อให้ขึ้นไปสู่ขั้นรักษาศีล ขั้นออกบวช

ที่ให้ทำทานเพื่อจะได้ไม่ใช้เงินทองซื้อความสุข

 ให้ปฏิบัติธรรมเพื่อให้จิตสงบ

 เอาความสุขที่เกิดจากความสงบ

แทนการเอาเงินไปซื้อความสุข

ความสุขที่ซื้อด้วยเงินนี้ไม่ดี เป็นความสุขร้อน

 ไม่เที่ยงแท้แน่นอนไม่ถาวร สุขเดี๋ยวเดียว

แต่ความสุขที่เกิดจากการรักษาศีลปฏิบัติธรรมนี้

 เป็นความสุขที่แท้จริง จะอยู่ในใจไปตลอด

 ถ้ารักษาศีลได้ ภาวนาได้ จะมีความสุขทางใจเสมอ

ความสุขทางร่างกายทางเงินทอง

ถ้าไม่มีเงินทองก็จะไม่สามารถมีได้

 อย่าไปหาความสุขอย่างนี้

 มีเงินก็อย่าเอาไปใช้ซื้อความสุข

เอาไปทำบุญให้หมด  จะได้ไม่ต้องไปหาเงิน

 จะได้มีเวลาไปบวชได้ ทุกวันนี้ก็อ้างว่าต้องทำงาน

 ทำไปเพื่ออะไร ก็ทำไปเพื่อกิเลส ทำไปทำไม

ควรลาออกจากงานแล้วก็ไปบวช ทำไปทำไม

 พออายุ ๖๐ ก็ต้องหยุดทำ

ตอนนั้นจะไปบวชก็ไปไม่ไหวแล้ว ไม่มีกำลัง แก่แล้ว

 น่าเสียดายโอกาสอันดี

นานๆจะมีโอกาสอย่างนี้สักครั้งหนึ่ง

กลับไม่ฉวยโอกาส กลับปล่อยให้ผ่านไป

 ไม่เห็นคุณค่าของโอกาส เหมือนไก่ได้พลอย

 คุ้ยเขี่ยไป พอเจอพลอยก็เขี่ยทิ้งเขี่ยทิ้ง

 จะเอาแต่ตัวหนอนตัวไส้เดือน

จะเอาแต่ความสุขจากการใช้เงิน

ที่เป็นเหมือนไส้เดือน ความสุขที่ได้จากการภาวนา

 ที่เป็นเหมือนเพชรพลอยกลับไม่เอากัน เขี่ยทิ้งหมด

 ก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไป ถ้าภาวนาได้

 ชาตินี้ก็สามารถยุติการเวียนว่ายตายเกิดได้

ยังไม่สายเกินไป ๗ ปีเท่านั้นเอง

 อายุตอนนี้เท่าไหร่ อายุ ๘๐ ปีก็ยังไม่สาย

 ถ้าปฏิบัติจริงๆ อายุ ๘๗ ปีก็บรรลุได้

หลวงปู่ตันท่านบวชตอนแก่แล้ว ท่านก็บรรลุได้

ไม่ยากเลยถ้ามีคนสอน เหมือนกับเรียนหนังสือ

พอมีมหาวิทยาลัย เราก็ไปสมัครเรียนเท่านั้นเอง

 แล้วก็เรียนตามที่เขาสอน ๔ ปีก็ได้ปริญญา

ถ้าไม่มีมหาวิทยาลัยเรียนอย่างไรก็จะไม่ได้ปริญญา

เพราะไม่มีคนสอน ตอนนี้พวกเรา

มีมหาวิทยาลัยเปิดรับเต็มที่แล้ว ไม่ต้องสอบเอ็นทรานซ์

 รับทุกคนไม่ว่าหญิงว่าชาย ไม่ว่าเด็กไม่ว่าผู้ใหญ่

 รับหมดเลย สมัครเท่าไหร่ก็รับหมดเลย

ปริญญาก็ ๔ ขั้น ๔ ระดับด้วยกันคือ

 โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์

 นี่คือปริญญาของมหาวิทยาลัยของพระพุทธศาสนา

 ไม่ยอมสมัครกันเลย ค่าสมัครก็ไม่เก็บ

 เอ็นทรานซ์ก็ไม่มี ก็พูดได้เท่านี้แหละ

โฆษณาให้กับพุทธศาสนาได้เท่านี้แหละ

เราคงจะเป็นเซลส์แมนที่ไม่ค่อยดี

 ขายสินค้าไม่ค่อยออก

 แต่ก็มีหลายคนที่ศรัทธามาบวชกัน

 ปีนี้ก็มีพระมาอยู่บนเขาเพิ่มอีก ๓ รูป

ปีที่แล้วก็มีอยู่ ๒ รูป

 แล้วก็มีฆราวาสอีก ๑ ท่านจะบวชชี

ก็พอมีรายได้จากคอมมิชชั่น พออยู่ได้

 ไม่อดตาย ถ้าได้กลุ่มพวกเรานี้ทั้งหมด

คงจะได้หลายสตางค์ ได้ค่าคอมมิชชั่นมาก

 ไม่สงสารเราบ้างเหรอ ช่วยซื้อสินค้าหน่อย

 เชื่อว่าคงจะมีมาเรื่อยๆ

ตอนนี้คงจะเตรียมตัวเตรียมใจกัน วางแผนกัน

การอยู่ใกล้ครูบาอาจารย์นี้มีความสำคัญมาก

 ถ้ายังพึ่งตนเองไม่ได้ อยู่กับครูบาอาจารย์

จะมีประโยชน์มาก ท่านจะให้กำลังใจให้ความรู้ต่างๆ

 คอยสกัดกั้นกิเลสให้ คอยเตือนว่าอย่าไปทางนี้

 ทางนี้เป็นทางของกิเลส อย่าไปติดกับของกิเลส

 ถ้าไม่อยู่กับครูบาอาจารย์ บางทีความคิดของเรา

จะถูกกิเลสแทรกเข้ามาโดยไม่รู้ตัว

 ทำให้เห็นผิดเป็นชอบ เห็นกงจักรเป็นดอกบัวได้

แต่ถ้าได้ฟังเทศน์ฟังธรรมอยู่ตลอดเวลา

 กิเลสจะไม่มีวันแทรกเข้ามาได้ พอคิดไปทางกิเลส

ก็จะรู้ว่าไม่ใช่ทาง ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์

ก็ต้องอาศัยหนังสืออาศัยซีดีของท่าน

 ควรอ่านควรฟังอยู่เรื่อยๆ ได้ประโยชน์เหมือนกัน

 เหมือนกับได้ฟังจากปากของท่านเลย

 เหมือนกับตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่

ต่างกันตรงที่ไม่สามารถถามปัญหาได้

 แต่ตอนที่เราอยู่กับหลวงตาก็ไม่เคยถามปัญหาเลย

เพราะท่านแสดงอย่างละเอียดถี่ถ้วนทุกขั้นตอน

 ไม่มีอะไรสงสัยเลย ปฏิบัติตามที่ท่านพูด

ก็จะเห็นตามที่ท่านพูดทุกอย่าง

 หนังสือและซีดีของครูบาอาจารย์จึงมีประโยชน์มาก

 ขอให้พยายามอ่านหรือฟังอยู่เรื่อยๆ

อ่านแล้วฟังแล้วก็ต้องปฏิบัติด้วย

ถ้าอ่านแล้วฟังแล้วไม่ปฏิบัติก็จะไม่เกิดผล.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

............................

กำลังใจ ๕๙, กัณฑ์ที่ ๔๔๙

วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕









ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 26 ธันวาคม 2561
Last Update : 26 ธันวาคม 2561 13:07:33 น.
Counter : 435 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ