Group Blog
All Blog
<<< "คุณค่าของพระธรรมคำสอน" >>>









“คุณค่าของพระธรรมคำสอน”

กุญแจสู่การบรรลุธรรม คือปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ

 การฟังธรรมเป็นปริยัติ เป็นการศึกษา

 การปฏิบัติเป็นการเอาธรรมะที่ได้ศึกษา

 มาชำระกายวาจาใจให้สะอาดบริสุทธิ์

มาเจริญสติสมาธิปัญญาให้สมบูรณ์

แล้วปฏิเวธคือการบรรลุธรรมขั้นต่างๆ

 ขั้นโสดาบัน ขั้นสกิทาคามี ขั้นอนาคามี ขั้นอรหันต์

 ก็จะเป็นผลตามมา เป็นหลักตายตัว

 ไม่มีใครล้มล้างความจริงนี้ได้

 ถ้ามีปริยัติ มีปฏิบัติ ปฏิเวธก็ต้องเป็นผลที่ตามมา

ถ้าไม่มีปริยัติ ไม่มีปฏิบัติ ปฏิเวธก็จะไม่ตามมา

 ต่อให้มีพระพุทธเจ้านั่งอยู่ต่อหน้าเรา

 ก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไร ถ้าฟังธรรมแบบไม่ตั้งใจฟัง

 ฟังแบบเข้าหูซ้ายออกหูขวา ก็เหมือนทัพพีในหม้อแกง

 ไม่รู้รสของแกง เหมือนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า

 ถึงแม้จะเกาะติดชายผ้าเหลืองของพระองค์

 ถ้าไม่มีสติ ไม่สนใจศึกษา ไม่สนใจปฏิบัติ

ก็เหมือนอยู่ห่างไกลจากพระองค์เป็นโยชน์

ถ้าอยู่ห่างไกลจากพระองค์เป็นโยชน์

 แต่มีสติสนใจศึกษาพระธรรมคำสอน

สนใจปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน

ก็จะอยู่ใกล้พระองค์ เพราะพระพุทธเจ้า

จะอยู่ในใจของผู้บรรลุธรรมนั้นเอง

ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต

ผู้เห็นตถาคต คือผู้เห็นธรรม

ธรรมที่ต้องเห็นก็คืออริยสัจ ๔

ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ต้องเห็นไตรลักษณ์

ไตรลักษณ์ก็มีทุกข์ ที่ทุกข์ก็เพราะเป็นอนิจจังไม่เที่ยง

 เป็นอนัตตา ทุกข์เพราะไม่เห็นอนิจจังไม่เห็นอนัตตา

ถ้าเห็นอนิจจังอนัตตา ก็จะไม่ทุกข์ เพราะจะปล่อยวาง

 ถ้าเห็นว่าร่างกายไม่เที่ยง เป็นอนัตตา

ก็จะปล่อยวาง จะไม่ยึดติด

จะคิดว่าเป็นเหมือนของที่ยืมมา

 วันหนึ่งก็ต้องคืนเจ้าของไป

เวลาคืนเจ้าของก็ไม่ทุกข์ใจ จะรู้สึกเฉยๆ

เพราะเตรียมตัวเตรียมใจที่จะคืน

 ถ้าเตรียมตัวเตรียมใจคืนร่างกาย

ให้กลับสู่สภาพเดิมได้ เวลาร่างกายเป็นอะไรไป

ก็จะไม่เป็นปัญหากับใจ

 นี้คือคุณค่าของพระธรรมคำสอน

 ที่เป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ก่อนที่จะเสด็จปรินิพพานไปว่า

 ธรรมวินัยที่ตถาคตตรัสไว้ชอบแล้วนี้แล

จะเป็นศาสดาของพวกเธอต่อไป

พระองค์ไม่ได้ทรงตั้งพระสารีบุตร

ไม่ได้ทรงตั้งพระโมคคัลลานะ

เป็นศาสดาแทนพระองค์ แต่ทรงตั้งพระธรรมวินัย

คือพระธรรมคำสอน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์

เป็นศาสดาของพวกเรา ถ้าศึกษาพระธรรมคำสอน

ก็เท่ากับได้ศึกษาจากพระพุทธเจ้าโดยตรง

 ศึกษาคำสอนของครูบาอาจารย์

 ก็เหมือนกับได้ศึกษาจากท่านโดยตรง

ท่านไม่ได้ไปไหน ท่านอยู่ในหนังสือธรรมะ

อยู่ในซีดีธรรมะ เปิดฟังไป อ่านไปเถิด

จะเหมือนกับว่าท่านกระซิบอยู่ในหูเรา

ฟังสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนไป

 แล้วจะรู้ว่าท่านไม่ได้จากเราไป

สิ่งที่จากไปนั้นเป็นเพียงดินน้ำลมไฟ

 แต่ธรรมะหรือตัวท่านนี้ไม่ได้จากเราไป

ตัวท่านยังเป็นอาจารย์ เป็นศาสดา

อยู่กับพวกเราจนถึงทุกวันนี้

ถ้ามีธรรมจะมีสรณะ มีที่พึ่ง พอมีธรรมก็จะมีพระพุทธ

มีพระสงฆ์อยู่ในใจ ผู้ใดเห็นธรรม

ผู้นั้นเห็นพระพุทธเจ้า เห็นตถาคต

 ผู้ที่จะเห็นธรรม เห็นพระพุทธเจ้า

 ก็ต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

สุปฏิปันโน อุชุปฏิปันโน ญายปฏิปันโน สามีจิปฏิปันโน

ก็คือพระอริยสงฆ์ ๔ ประเภท คือพระโสดาบัน

พระสกิทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์

ท่านเหล่านี้เป็นผู้ที่เห็นพระพุทธเจ้า เห็นพระธรรม

มีสรณะเป็นที่พึ่งแล้ว พอได้ขั้นโสดาบัน

ก็พ้นจากอบายแล้ว ไม่เกิน ๗ ชาติ

ก็พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด

 พอขั้นพระสกิทาคามีก็เหลือเพียงชาติเดียว

 พอขั้นพระอนาคามีก็ไม่ต้องมีร่างกายเลย

 สมมุติตายไปยังไม่บรรลุเป็นพระอรหันต์

ก็ไม่ต้องมาหาร่างกายมาเพื่อปฏิบัติธรรม

สามารถบรรลุด้วยจิตเลย เพราะอวิชชาอยู่ในจิต

 ไม่ได้อยู่ในร่างกายจึงควรเห็นคุณค่า

ของพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

 หมั่นฟังเทศน์ฟังธรรม หมั่นศึกษา

แล้วนำเอาไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ใจจะได้มีที่พึ่ง

ไม่ทุกข์ไม่เดือดร้อนกับความเสื่อมทั้งหลาย

ไม่ว่าจะเป็นความเสื่อมทางลาภยศสรรเสริญ

 ทางรูปเสียงกลิ่นรส ทางร่างกาย

ทางรูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ

จะเสื่อมก็ปล่อยให้เสื่อมไป

จะเจริญก็ปล่อยให้เจริญไป เป็นอนัตตา

 สั่งเขาไม่ได้ สั่งให้เป็นไปตามความต้องการไม่ได้

 แต่สั่งใจไม่ให้ทุกข์กับสิ่งต่างๆได้

ไม่ให้ทุกข์กับความเสื่อมของสิ่งต่างๆได้

ขอให้ศึกษาและปฏิบัติให้มากๆ

ให้ถือว่าเป็นงานที่แท้จริงของเรา

งานอย่างอื่นเป็นงานสนับสนุนการศึกษาการปฏิบัติ

อย่าทำงานเพื่อเอาเงินมาสนับสนุนกิเลสตัณหา

 เพราะเป็นการประหัตประหารจิตใจ

 สร้างความทุกข์ให้แก่ใจ เป็นความโง่เขลาเบาปัญญา

 ถ้าได้เงินมาแล้วเอาไปเที่ยว

ไปหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย

 เป็นการวิ่งเข้าหากองทุกข์

เป็นเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ

ควรทำมาหากินหาเงินหาทองเพื่อสนับสนุนการศึกษา

และการปฏิบัติธรรม สนับสนุนการบรรลุธรรม

 ตัดไปเถิดความสุขทางโลก

 ทางรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ

เพราะไม่ใช่เป็นความสุข

เป็นเหมือนแสงสว่างของกองไฟ

ที่แมลงเม่าหลงใหล พอเห็นแสงสว่างก็บินเข้าหา

 แล้วก็ตายด้วยความร้อนของไฟ

 สัตว์โลกทั้งหลายก็ทุกข์ทรมานใจกับแสงสีเสียงนี่เอง

 กับรูปเสียงกลิ่นรส ติดกันงอมแงมเหมือนติดยาเสพติด

 อยู่โดยปราศจากรูปเสียงกลิ่นรสไม่ได้

 แล้วก็ต้องมาทุกข์กับความเสื่อมของรูปเสียงกลิ่นรส.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.........................

กำลังใจ ๕๘, กัณฑ์ที่ ๔๔๔

วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๕







ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 25 ธันวาคม 2561
Last Update : 25 ธันวาคม 2561 9:10:47 น.
Counter : 1431 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ