Group Blog
All Blog
<<< "ปฎิบัติจริงจะได้เห็นผลจริง" >>>










“ปฏิบัติจริงจะได้เห็นผลจริง”

คนเราถึงแม้จะเกิดมาจากพ่อแม่คนเดียวกัน

 พอโตขึ้นมาก็มีความแตกต่างกัน

 บางคนก็เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า

บางคนก็กลายเป็นโจรไป ไม่ได้มาจากพ่อจากแม่

 เพราะพ่อแม่ก็สอนให้ลูกเป็นคนดีเหมือนกัน

 แต่กรรมของเขาเป็นตัวที่ผลักดัน

ให้เขาไปในทิศทางที่เขาได้สะสมมา

 ถ้าสะสมในทิศทางที่ไม่ดี

 ก็จะผลักให้เขาไปทำในสิ่งที่ไม่ดีต่อไป

 เพราะเป็นความเคยชิน ทำแล้วง่าย

เหมือนคนที่ถนัดมือซ้าย ก็จะใช้มือซ้าย

คนที่ถนัดมือขวาก็จะใช้มือขวา

 แต่เปลี่ยนได้ถ้าเห็นว่าไม่ถูกไม่เกิดประโยชน์

 ถ้าเห็นว่าใช้มือซ้ายแล้วสู้คนใช้มือขวาไม่ได้

 ก็หัดใช้มือขวาไป ใหม่ๆจะรู้สึกไม่ถนัด

 พอใช้ไปเรื่อยๆก็จะถนัด เช่นเดียวกับการทำความดี

หรือทำความชั่ว คนที่เคยทำความชั่วมา

จะทำความชั่วง่าย พูดโกหกนี้จะเร็วสะดวก

 หยิบข้าวของๆคนอื่นโดยไม่ขออนุญาตก่อน

 จะทำได้ง่ายทำได้รวดเร็ว

ถ้ามารู้ในภายหลังว่าไม่ดีไม่เจริญ

อยากจะเป็นคนดี อยากจะเจริญ ก็ต้องฝึกนิสัยใหม่

 เวลาพูดอะไรก็ต้องระมัดระวัง

มีสติมีปัญญาคอยกลั่นกรอง

ว่าสิ่งที่จะพูดนั้นถูกผิดอย่างไร จริงหรือเท็จ

 ถ้าพูดความจริงไม่ได้ก็พูดเรื่องอื่นแทน

 หรือไม่พูดเลย จะได้ไม่ต้องพูดปด

 ข้าวของๆคนอื่นก็เช่นเดียวกัน ไม่ถือวิสาสะ

 ถ้าอยากได้ก็ต้องคิดก่อนว่าของนี้มีเจ้าของ

 ถ้าอยากได้ก็ต้องขออนุญาตก่อน ทำให้ถูกต้อง

 ฝึกทำได้ ต่อไปก็จะเป็นนิสัย ก็จะทำง่าย

ดังมีคำพูดว่า คนดีทำดีง่าย คนชั่วทำดียาก

คนดีทำชั่วยาก คนชั่วทำชั่วง่าย เพราะความเคยชิน

 ถ้าเคยชินกับการทำความชั่วย่อมทำชั่วง่าย

 ถ้าเคยชินกับการทำความดีย่อมทำดีง่าย

ชีวิตของเราก็อยู่ตรงนี้เอง อยู่ที่ทำดีละบาป

 กำจัดโลภโกรธหลง ที่เป็นต้นเหตุ

ของความวุ่นวาย ของความทุกข์

ของความชั่วทั้งหลาย ถ้ารู้ว่ายังทำดีไม่ครบ

 ก็พยายามทำให้ครบ ถ้ารู้ว่ายังทำบาปอยู่

 ก็ต้องพยายามตัด ถ้ารู้ว่ายังมีโลภโกรธหลงอยู่

ก็ต้องพยายามกำจัด

สิ่งแรกที่ต้องมีก็คือสติ ต้องรู้ว่ากำลังทำอะไร

 กำลังพูดอะไร กำลังคิดอะไร

เพราะจะนำไปสู่การทำดีละบาป กำจัดโลภโกรธหลง

 พอคิดปั๊บก็ต้องถามตัวเองเลยว่า

 ความคิดนี้นำไปสู่การทำความดีหรือเปล่า

นำไปสู่การละบาปหรือเปล่า

นำไปสู่ความโลภความโกรธความหลงหรือเปล่า

 ถ้าไม่มีสติก็จะทำไปอย่างอัตโนมัติ ทำไปตามนิสัย

 เห็นอะไรอยากได้ก็หยิบมาเลย

โดยไม่ไตร่ตรองก่อน พอจะพูดโกหกก็จะพูดไปเลย

 เพราะขาดสติ ถ้าฝึกสติแล้วสติจะเร็วกว่าความคิด

 จะทันความคิด จะรู้เลยว่า

กำลังคิดไปทางโลภทางโกรธทางหลงหรือไม่

 ไปในทางดีหรือไม่ ก็จะสามารถควบคุมบังคับใจ

ให้ไปในทาง ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ไปได้

คือทำดีละบาป กำจัดโลภโกรธหลง

ผลก็จะดีตามมา จิตใจจะร่มเย็นเป็นสุข

 จิตใจจะสูงขึ้น จิตใจจะพ้นจากอบาย

 จากความเป็นเปรตเป็นเดรัจฉานเป็นสัตว์นรก

จะเป็นแต่มนุษย์เป็นเทพเป็นพรหมเป็นพระอริยเจ้า

 นี่คือความเจริญที่แท้จริง ต้องเจริญที่จิตใจ

ไม่เจริญที่ลาภยศ สรรเสริญสุข

ที่พวกเราถูกความหลงหลอกให้ไปเจริญกัน

 ทำให้ต้องทำบาป ต้องโกหก ต้องทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

 เพราะคิดว่าลาภยศสรรเสริญสุขเป็นสรณะเป็นที่พึ่ง

 ต้องมีลาภยศสรรเสริญสุขถึงจะมีความสุขถึงจะเจริญ

 เพราะทางโลกวัดกันด้วยลาภยศสรรเสริญสุข

ถ้าได้เลื่อนตำแหน่ง ได้เลื่อนขั้น ได้เงินเดือนเพิ่ม

ก็ว่าเจริญ มีเงินทองมากขึ้น มีคนสรรเสริญ

มีความสามารถในการหาความสุข

ทางรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ

 มีบ้านใหญ่โต มีรถราคาแพงๆ กินอาหารราคาแพงๆ

 ใส่เสื้อผ้าราคาแพงๆ ก็ว่าเป็นความเจริญ

 แต่ไม่เห็นว่าใจอาจจะเสื่อมลงไปจากมนุษย์

ไปเป็นเดรัจฉาน เป็นเปรตแล้วก็ได้

 ถ้าหามาอย่างไม่ถูกศีลถูกธรรม เบียดเบียนผู้อื่น

 ทำบาปทำกรรม ใจก็จะตกต่ำ

 แต่มีลาภยศสรรเสริญสุขมากขึ้น

 เพราะไม่มีธรรมะ มองไม่เห็นใจ

ไม่เห็นตัวที่ต้องรับผลของการกระทำก็คือใจ

 จึงต้องฝึกสติตามพระมหาสติปัฏฐานสูตรนี้

 ลองไปอ่านดูแล้วลองไปปฏิบัติดู

ถ้าปฏิบัติได้จะเห็นผล

ถึงแม้จะทรงแสดงให้แก่พระภิกษุก็ตาม

 แต่ไม่ได้หมายความว่า

ฆราวาสจะนำเอาไปปฏิบัติไม่ได้

 เพราะฆราวาสกับพระภิกษุก็เป็นคนเหมือนกัน

 มีร่างกายมีใจเหมือนกัน ต้องอาศัยธรรมะ

เป็นเครื่องพัฒนาเหมือนกัน

 ต่างตรงที่พระภิกษุมีเวลามากกว่าฆราวาส

 ที่จะทุ่มเทให้กับงานทางด้านธรรมะ

ก็ลองไปปฏิบัติดู ฝึกตั้งสติอยู่เรื่อยๆ

 ตั้งแต่ตื่นจนถึงหลับ ให้มีสติเป็นเหมือนกับยาม

เฝ้าดูการกระทำของเรา

 ดูความคิดการพูดการกระทำต่างๆ

 ให้มีสติคอยติดตาม มีปัญญาคอยกลั่นกรอง

 ถ้าปฏิบัติอย่างจริงจัง จะได้เห็นผลอย่างจริงจัง.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

...........................

จุลธรรมนำใจ ๑๐, กัณฑ์ที่ ๓๗๒

วันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๐





ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 20 มกราคม 2562
Last Update : 20 มกราคม 2562 11:03:57 น.
Counter : 494 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ