* = * * = * * = * รีวิว ONCE UPON SOMETIMES * = * * = * * = *












ONCE UPON SOMETIMES

ผู้เขียน ทรงศีล ทิวสมบุญ
สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์
จำนวนหน้า 216 หน้า
ราคาปก 175 บาท



หนังสือเล่มนี้ซื้อมาด้วยการอ่านรีวิวที่ทุกรีวิว (ที่ได้อ่าน) ล้วนแล้วแต่ "ชม" และ "เชียร์" ค่ะ

ซึ่งพอได้อ่านแล้วก็รู้สึกว่าไม่ผิดหวังนะคะ ฮี่ๆ




หนังสือเล่มนี้เป็นการรวมเรื่องสั้นที่สื่อมาในรูปแบบนิยายภาพทั้งหมด 22 เรื่องด้วยกันค่ะ

บางเรื่องเศร้า บางเรื่องหวาน บางเรื่องชวนครุ่นคิด

บางเรื่องเหมาะที่จะใช้บอกรักใครสักคนที่แอบรักมานาน

บางเรื่องเหมาะที่จะใช้บอกรักใครสักคนที่คบหากันมาพักใหญ่

บางเรื่องเหมาะที่จะบอกกับใครสักคน ว่าเราดีใจแค่ไหนที่มีเขาอยู่ข้างๆ








ขอยกมาเป็นบางเรื่องแล้วกันนะคะ

อย่างเรื่องเพลงเศร้าของโบตั๋น (The Peony's Sad Song)



ดอกโบตั๋นที่กำลังเหี่ยวแห้งเล่นเพลงเศร้า หมีน้อยเดินผ่านมาและร้องไห้ น้ำตาของหมีน้อย ทำให้โบตั๋นยิ่งเล่นเพลงเศร้าขึ้นๆ ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อต้องการน้ำตามาหล่อเลี้ยงตัวเอง ท้ายที่สุดหมีน้อยก็ต้องเสียใจจนตาย ณ ตรงนั้น


โอ้..แม่เจ้า อ่านแล้วนอกจากเศร้าแล้ว มันคิดอะไรได้หลายๆ อย่างนะคะ ความอยากได้บางอย่างมากเกินไป ไม่ใส่ใจว่าสิ่งที่ตนเองได้มานั้นมันทำร้ายใครไหมความไม่พอ และทำร้ายต่อไปเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ท้ายที่สุด ก็สูญเสียไปตลอดกาลได้







หรืออย่างเรื่องรักของพิราบขาเดียว (I Love You Too)


เรื่องนี้ก็เศร้ามากค่ะ เรื่องของนกพิราบที่หลงรักพิราบหิน เฝ้าบอกรักทุกวัน และทุกค่ำคืนที่หลับ ก็ได้ยินเสียงกระซิบตอบว่า ฉันก็รักเธอ แต่แล้ววันหนึ่ง..เสียงนั้นก็หายไป


เราอ่านเรื่องนี้ด้วยความรู้สึกเศร้าและหนักหน่วงใจมากค่ะ อ่านแล้วก็..คิดว่าตัวเองคิดถูกแล้วที่เป็นคนแบบนี้ เราเป็นคนที่ถ้าชอบใคร รักใคร จะเลือกที่จะบอกเขาค่ะ (ป.ล. ยกเว้นกรณีเขามีแฟนอยู่แล้ว อันนี้จะเก็บไว้กับตัวเอง และเลือกที่จะรักแบบรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่บอกให้มันไปสร้างความเจ็บปวดกับใครน่ะนะคะ)


เ พ ร า ะ ข อ ง บ า ง อ ย่ า ง . . ก ว่ า จ ะ รู้ มั น อ า จ จ ะ ส า ย ไ ป ต ล อ ด ก า ล ก็ ไ ด้ น ะ ค ะ









พูดถึงเรื่องความรักมาสองเรื่องแล้วพูดเรื่องอื่นบ้างแล้วกันนะคะ แฮ่...



เรื่องดนตรีที่ถูกลืมกับเสียงเพลงในป่าใหญ่ (The Forgotten Music)

เรื่องราวของกระรอกที่รักดนตรี แล้วก็เล่นดนตรีอยู่ทุกวัน แล้ววันหนึ่งก็เลิกเล่น เพราะไม่เห็นว่าใครจะสนใจหรือเห็นค่า ทว่า..ไม่ไกลจากนั้น มีแม่ลูกหนูนา ที่เคยได้ยินดนตรีและประทับใจ แต่วันหนึ่ง เมื่อดนตรีนั้นหายไป ทั้งสองคนก็อดรู้สึกเสียดายไม่ได้

นะคะ..ของบางอย่าง ถ้ามีใครสักคนทำอะไร แล้วเราไม่บอกเขาว่าเราชอบ ไม่ให้กำลังใจเขา เขาก็อาจจะไม่มีกำลังใจจะทำต่อ

ขณะเดียวกัน การกระทำบางอย่างที่เราคิดว่า ทำไปแล้วก็ไม่เห็นจะมีค่าอะไร ที่จริง..มันอาจจะมีค่ามากมายกว่าที่คิดก็ได้ค่ะ






และเรื่องสุดท้ายของเล่มนี้กับอีกาในภาพวาด (The Crow in the Painting)

เราขอสรุปเรื่องแค่ว่า..ภาพวาดที่กลายเป็นมีชีวิตค่ะ

แต่ขอบอกว่า เป็นเรื่องปิดจบที่...!! มากกกกกกกก
(ถ้าอยากอ่าน ไปหาซื้อซะนะคะ )

















สรุปแล้วคงเป็นหนังสืออีกเล่มที่เชียร์ให้มีไว้ในครอบครองค่ะ


ซึ่ง..ต่อให้ไม่มีคนรัก ไม่มีคนที่อยากบอกรัก ไม่ได้คิดจะซื้อหนังสือเล่มนี้ให้เป็นสื่อแทนใจ

แต่มีไว้อ่านเอง ก็น่าจะดีนะคะ อิอิ















ปิดท้ายด้วยประโยคที่เราชอบๆ เนาะ







แต่คงเป็นเช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลง
การหลงรักใครบางคน เป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้
และเช่นเดียวกับการตกหลุมรัก
การเลิกรักใครสักคน ก็เป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้เช่นกัน









แต่ฉันเอง
ก็เคยได้ยินใครบางคน
ว่าไว้เช่นกัน
ว่าแม้นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่
ที่เดินทางมาแล้วรอบโลก
ก็อาจรู้จักเพียงเส้นทาง
ที่ตนเคยผ่านพบเท่านั้น
(อันนี้เราโคตะระเห็นด้วยอย่างแรงค่ะ)










ชื่อเสียงโปรยปรายใส่เงาของฉัน
เทลงมาดังสายฝนแห่งความฝัน
จนนานวันมันเริ่มลามล้นและน่าหวั่น
เกรงจะกลายเป็นหล่มฝันท่ามกลางฝน













ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

925385+5891/6446/587




 

Create Date : 09 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 9 พฤษภาคม 2554 9:39:00 น.
Counter : 2833 Pageviews.  

* = * * = * * = * รายงานความเสียหาย มหกรรมล้มละลายของคนอ่านหนังสือแห่งชาติ #2 * = * * = * * = *






สวัสดีค่าาาาา


หลังจากที่รีวิวรายงานความเสียหายของการไปงานหนังสือมาแล้วหนึ่งรอบ ที่ลิงก์นี้ (คลิกเพื่ออ่าน)










และเนื่องด้วยวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา (ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการจัดงานครั้งนี้) ก็ได้ไปอีกรอบ ถ้าเอาตามความจริงแล้ว เราตั้งใจจะไปซื้อชีวิตนอกวังเล่ม 14 15 16 ให้คุณแม่หละค่ะ (ถ้าจำได้ คราวที่แล้วเอาเงินไปไม่พอ) เนื่องด้วยคุณแม่ก็ได้กริ๊งกร๊างมาบอกว่า สามเล่มที่ซื้อไปรอบที่แล้ว แม่อ่านหมดแล้วนะลูก ถ้าหนูได้ไปอีก ก็ไปซื้อให้แม่หน่อยนะ แต่ถ้าไม่ได้ไปก็ไม่เป็นไรจ้า...


เนื่องด้วยชีวิตตัวเองก็ไม่ได้ค่อยทำอะไรให้แม่เท่าที่แม่ทำให้เรานัก ดังนั้นในเมื่อเรื่องนี้ไม่ได้หนักหนาสากรรจ์แต่อย่างใด ประกอบกับวันนั้นนอกจากไปหม่ำๆ มื้อกลางวัน ณ ทาคุมิ (มีรีวิวแน่ค่ะ แต่คงอีกพักใหญ่ๆ) แล้ว ก็ไม่มีเหตุอื่นใด ก็เลยไปซื้อหนังสือให้ท่านแม่ซะหน่อยดีกว่า แล้วก็จะเก็บหนังสืออีกสองสามเล่มที่อยากได้ด้วยอะนะคะ




เดินทางไปถึงที่ศูนย์สิริกิติ์เวลาเกือบๆ บ่ายสามโมง ก็ไปที่บู๊ทเพื่อขอผังแผนที่งาน (หาของเก่าไม่เจอง่ะ) ปรากฏว่าหมดค่ะ ก็เลยต้องระบุุบู๊ทให้น้องฟังว่าจะไปสนพ.อะไร แล้วน้องก็จะเขียนใส่กระดาษมาให้แทน จากนั้นก็ขอแว้บไปที่บู๊ทวงกลมก่อนเป็นบู๊ทแรก (หลังจากเดินวนๆ ไปดูนานมีกับสารคดีแล้ว เกือบใจอ่อน ต้องรีบผละมาโดยพลัน) แล้วก็หยิบเล่มที่หมายตาของนักเขียนคนโปรดมาโดยไว



บู๊ทสำนักพิมพ์วงกลม

เวลาติดปีก - ม.ย.ร.มะลิ ราคาเต็ม 240 บาท เหลือ 205 บาท (ลด 15 เปอร์เซนต์)













จากนั้นก็เดินไปที่บู๊ทอะเดย์ ฝ่าฝูงชนเข้าไปไม่ไหว เลยถามว่ามี Nine Lives หรือไม่ เจ้าหน้าที่บอกว่าของฟูลสต็อปครับ อยู่ที่ซีหนึ่ง และบอกหมายเลขบู๊ทมาด้วยว่า P27 (ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ ) จากนั้นก็เดินเลาะตามเส้นทางเดิม (ได้แก่เส้นเมนหลักในเพลนนารี่ฮอลล์ฝั่งติดลานจอดรถด้านใน) เจอเอเชียบุ๊คส์ เลยแว้บเข้าไป


เห็นมีโปสเตอร์ติดว่า Lonely Planet ลด 20% ทุกเล่ม ลองเปิดๆ เทียบกับของ Eyewitness ที่คุณวา sweety-around-the-world เคยแนะนำ ปรากฏว่าสนใจอายวิทเนสมากกว่าแฮะ ก็เลยถามจนท์ว่าลดกี่เปอร์เซนต์ จนท.แจ้งว่าลด 10 เปอร์เซนต์ แต่ถ้าเป็นสมาชิกลด 15 ก็เลยพยายามโทร.หา LMJ แต่ชีไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป (มาูรู้ทีหลังอ้ะ) ก็เลยบอกน้องว่า งั้นยังไม่ซื้อ น้องก็บอกว่า สะกดชื่อให้เซิร์ชหาก็ได้ค่ะ ปรากฏว่าไม่มีอีก (แต่ที่จริงแล้วเราสะกดชื่อให้ผิด ) น้องเค้าคงเวทนาแกมสงสาร ก็เลยบอกว่า ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวลดให้นะคะ เลยได้มาหนึ่งเล่ม (เอามาลองอ่านประกอบกับจะไปสิงคโปร์ปลายเดือนนี้อะค่ะ ถ้าถูกใจ เดี๋ยวไปไหนคงได้อุดหนุนอีกเป็นแน่แท้ หุๆ)




บู๊ท Asia Books

อายวิทเนส มาเลเซียแอนด์สิงคโปร์ ราคาเต็ม 750 บาทเหลือ 637 บาท (15%)












จากนั้นเริ่มไม่ได้การ แบบว่า..ยังไม่ได้ของแม่ แต่ตัวเองหมดไปเกือบพันแล้ว ตรงไปบู๊ทพลอยแกมเพชรเลยดีกว่า แล้วก็ไปคว้าชีวิตนอกวัง 14 15 16 มาสามเล่ม (พร้อมขนมช็อกโกแลตจากฝรั่งเศสหนึ่งชิ้น ที่มีคนที่บู๊ทฯ ชวนชิมค่ะ ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แหะๆ)



บู๊ทพลอยแกมเพชร

ชีวิตนอกวัง 14 15 16 เล่มละ 200 บาท (จากเล่มละ 250 บาท) หมดทั้งสิ้น 600 บาท
















เสร็จจากบู๊ทพลอยแกมเพชร พยายามแข็งใจกับนายอินทร์อยู่พักหนึ่งแล้วก็ตัดสินใจว่า อะนะ ไปดูช็อกโซนซะหน่อยแล้วกัน เผื่อมีอะไรราคาโดนๆ น่าสนใจจริงๆ แล้วก็ได้มาหนึ่งเล่ม (เริ่มออกแวว) ก่อนจะเดินไปมุมแลกซื้อ ปรากฏว่ามีน้องน่ารักคนหนึ่ง เอาคูปองลด 70% มาให้ (ขอบคุณมา ณ ที่นี้อีกเช่นกัน) ก็เลยหยิบมาอีกหนึ่งเล่ม แล้วก็ตัดใจว่า พอเหอะ นี่ไม่ได้อยู่ในลิสต์เลยแม้แต่นิดเดียว หมดกับบู๊ทนี้ไปสองเล่มดังนี้



บู๊ทนายอินทร์

อ้ายเปียด้วน (ของฮิวเมอริสต์) จาก 210 บาทเหลือ 105 บาท (ลด 50%)
เข็นครกลงเขา (ของคุณหญิงจำนง) จาก 179 บาทเหลือ 54 บาท (ลด 70%)















รีบเดินออกจากบู๊ทนายอินเพื่อไปยังบู๊ทของบรรลือสาส์น เพื่อจะไปรับลูกของใครบางคนแถวนี้มาหนึ่งเล่ม ดังนี้


บู๊ทบรรลือสาส์น

สนธิสัญญาทาสแมว แปลโดยหย่งชุน ราคาเต็ม 109 บาท เหลือ 87 บาท (ลด 20%)












จากนั้นก็ตั้งใจว่าจะแค่เดินดูเล่นๆ ไม่ซื้ออะไรแล้ว (เหลือที่ "ต้อง" อีกหนึ่งเล่มคือ เยิรเงาสลัว แต่ดันจำไม่ได้ว่า คุณศลบอกว่าอยู่บู๊ทไหน ก็เลยคิดว่า ถ้าเจอก็ซื้อ ไม่เจอก็ไม่ซื้อ) เดินเมียงมองไปเรื่อยๆ ดั๊นไปเจอที่บู๊ทหนึ่ง ขายสมุดบันทึกไม่มีเส้นในราคาโอ ก็เลยลืมตัว ซื้อมาซะงั้น



บู๊ท JIx ZEW / WITTYGROUP

สมุดบันทึกแบบไม่มีเส้น 2 เล่มๆ ละ 59 บาท โปรฯ 2 เล่ม 100 หมดไป 100 บาท














จากนั้นก็ไปเจอบู๊ท Fullstop จนได้ ที่จริงอยากได้ถั่วงอกหัวไฟเล่ม 3 ด้วยเหมือนกัน แต่มันมีแต่ปกแข็ง ซึ่งที่บ้านมีปกอ่อนของเล่ม 1 กับ 2 แล้ว มันไม่เข้าชุดกันอ้ะ ลังเลอยู่นาน ตัดสินใจว่า เอาฟระ เอาไว้ค่อยซื้อปกแข็งทีเดียวสามเล่มให้เข้าชุด เล่ม 1 กับ 2 ค่อยเอาไปบริจาคก็ได้ แต่เนื่องด้วยช่วงนี้ทรัพยากรไม่อำนวย (มีเที่ยวปลายเมษาด้วยอีกรอบ) ก็เลยเอาเล่มที่ "ตั้งใจ" ว่าจะซื้อแ่น่ๆ ก่อนหนึ่งเล่ม



บู๊ท Fullstop

Nine Lives ของทรงศีล ราคาเต็ม 255 เหลือ 210 บาท (ลด 15%)
















รวมสรุปแล้วหมดไปกับรอบสองและรอบสุดท้ายนี้ทั้งสิ้น

205+637+600+105+54+87+100+210 เท่ากับ 1998 บาท


รอบที่แล้วหมดไป 1958 บาท



รวมสำหรับค่าเสียหายงานหนังสือ ณ เมษา 54 คือ 1998+1958 = 3956 เกือบสี่พันอีกแล้ว


















ขอบคุณทุกท่านที่แวะมานะคะ

905156/6391/581





 

Create Date : 11 เมษายน 2554    
Last Update : 11 เมษายน 2554 10:10:13 น.
Counter : 2488 Pageviews.  

* = * * = * * = * รายงานความเสียหาย มหกรรมล้มละลายของคนอ่านหนังสือแห่งชาติ * = * * = * * = *





สวัสดีค่ะ





คำเตืิอน บล็อกรีวิวงานหนังสือรอบนี้ ออกแนวพร่ำพรรณา+บรรยายมากมาย

ไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ ควรหลีกเลี่ยงนะจ๊ะ แหะๆ








ก็ถือว่าเป็นธรรมเนียมของชาวหนอน (ที่ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ก่อสร้างวางรากฐานวัฒนธรรมอันนี้ อันก่อให้เกิดกิเลสแก่นักอ่านหนังสือโดยถ้วนทั่วกัน แต่หากจะว่าไปแล้วไซร้ ก็อาจจะถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดยอดขายที่ดียิ่งๆ ขึ้น ต่อผลิตภัณฑ์อันทรงคุณค่าทางสมองที่แพงโคตะระอย่างหนึ่ง ซึ่งหวังว่าเมื่อต่อไปมันเป็น mass product พอสมควรแล้วไซร้ ก็อาจจะทำให้มันถูกลงพอๆ กับราคาชาเขียวก็ได้นะ..หรือเปล่าหว่า - เอิ่ม เป็นวงเล็บที่ยาวมาก ) ที่จะต้องมารายงานผลของการไปเสียทรัพย์สำหรับงานหนังสือ (ที่ข้าพเจ้าก็จำไม่ได้สักทีว่าชื่อเต็มๆ มันคืออะไร เรียกแต่งานหนังสือ งานสัปดาห์หนังสืออยู่นั่นแล้ว เหอๆ)


ซึ่งการไปครานี้ก็ได้นัดกับเพื่อนบล็อกแกงค์บางส่วนตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยเวลาอันไม่ได้กำหนดชัดเจนแต่อย่างใด เรียกว่าฤกษ์สะดวกของแต่ละคน ใครใคร่ไปเวลาไหนก็ไป แต่ก็ได้บอกเจ้าหนี้ (rebel ผู้ที่ข้าพเจ้าได้อาศัยไหว้วานให้ซื้อเสื้อเชียร์ธรรมศาสตร์มาได้ทู้กกกกปีอะนะ) ว่า ข้าพเจ้าต้องกลับมิเกินเวลา 14.00 น.เน้อ เพราะต้องมาเคลียร์งานที่ที่ทำงานในบ่ายวันนั้น เช่นนั้นแล้ว หากอยากเจอ (หรืออีกนัยหนึ่งในกรณีนี้ - อยากให้ใช้หนี้ค่าเสื้อ) ก็ไปเจอกันก่อน 14.00 น.แล้วกันจ้า




อารัมภบทมาซะยาว (ใครจะอ่านหละนี่ เหอๆ ) เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ข้าพเจ้าไปถึงเวลา 11.00 น.เล็กน้อย เนื่องด้วยมีนัดหมายว่าจะไปถือป้ายไฟ (AKA ไปเชียร์ แต่มิได้ถือป้ายไฟให้เป็นที่อับอายแก่วัยของตัวเองแต่อย่างใด) เชียร์คุณลวิตร์ (พัณณิดา ภูมิวัฒน์) ณ ห้องอะไรสักสิ่งตรงข้าม Plenary Hall ซึ่งเป็นห้องที่ใช้จัดงานของสนพ. Enter Book อะนะ


ไปถึง 11.00 น.กว่าๆ (บอกเวลาอีกที) ถามพนักงานหน้าห้องด้วยน้ำเสียงอันไพเราะ (เหรอ?) ว่า "คุณลวิตร์ขึ้นเวทีกี่โมงคะ" (ทั้งนี้เพราะทราบข่าวมาว่า 11.00 น. แต่ ณ ขณะนั้น บนเวทียังมีการประกวดคอสเพลย์กันให้กระหึ่มลึ่มร่ำ (สะกดถูกมั้ย)) เจ้าหน้าที่ทำหน้าเจื่อนๆ บอกว่า "ที่จริงต้องขึ้นแล้วค่ะ แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าอย่างไร" ข้าพเจ้าก็เลยพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะถามต่อว่า "แล้วถ้าจะซื้อหนังสือให้คุณลวิตร์เซ็น ต้องไปซื้อที่บู๊ทแล้วกลับมาที่นี่หรือเปล่าคะ?" เจ้าหน้าที่ก็ตอบต่อไปว่า "อ๋อ เดี๋ยวก็มีเอามาขายค่ะ"


ได้ความดังที่ร่ายไปข้างต้น ก็แบกเป้เข้าไปรอในห้อง ฟังเสียงกรี๊ดให้กับบรรดาคอสเพลย์ทั้งหลาย จนพิธีกรประกาศว่า คุณลวิตร์จะขึ้นแล้ว ก็เลยเดินไปหาที่นั่งหน้าเวทีแต่...อ่า ไม่มีค่ะ บางที่มีกระเป๋าวางไว้ (AKA ฉันจองตรงนี้ไว้นะจ๊ะ อย่ามานั่งกันเลยทีเดียว) ก็เลยไปๆ มาๆ ก็หาที่หย่อนก้นมุมๆ ได้หน่อยหนึ่ง แหะๆ


ไม่นานนัก ทินาก็มานั่งเป็นหน้าม้าด้วยกัน เราก็สบตาส่งประกายวิ้งๆ ให้คุณลวิตร์ พอการสัมภาษณ์จบลงและประกาศให้ขอลายเซ็น ก็เหลียวมองหา ง่า..ในห้องนั้นไม่เห็นวี่แววว่าจะมีขายเลย เลยตัดสินใจกับทินาไปหน้าห้อง อ้อ เจอเค้าตั้งโต๊ะขายอยู่ (โดยต้องเลือกจากแผ่นเมนูกระดาษ ตามวัฒนธรรมของสนพ.นี้อะนะคะ) ก็ซื้อไปสองชุด เราชุด ทินาชุด




หมดกับบู๊ทแรก Enter Books

เซรีญา 1-3 (แถมท้ายตอนพิเศษที่เล่ม 3 ด้วย) 490 บาท
(จำเปอร์เซนต์การลดไม่ได้ฮ่ะ ราคาเต็มเล่มหนึ่ง 229 บาท เล่มสอง 159 บาท เล่มสาม 189 บาท)














หลังจากทำหน้าที่หน้าม้าของแฟนคลับที่ดีเรียบร้อยแล้ว ทินาก็โบกมือบ๊ายบายหนีไปเที่ยว ข้าพเจ้าก็เดินไปขอแผนผังบู๊ทมา เตรียมหาบู๊ทที่กะว่าจะไปซื้อหนังสือ แล้วก็เดินเข้า Plenary Hall ไปก่อน ปรากฏว่าเห็น missed call ของแมวพันปี LMJ ก็เลยโทร.หา ปรากฏว่าอยู่ที่ศูนย์อาหาร ก็เลยลงไป ระหว่างทางแวะบู๊ท Tib Thai Interbook ซื้อสิงคโปร์คู่มือเที่ยวตามใจชอบหนึ่งเล่ม



บู๊ท Tib (แถวๆ Atrium)

สิงคโปร์ คู่มือเที่ยวตามใจชอบ ลด 15% 190 บาท (ราคาเต็ม 225 บาท)










หลังจากเจอพจจี๋แอนด์เฟรนด์แล้วก็รอ hunjang กับ Pok Deng มาสมทบ รับของขวัญชิ้นแรกจากพจจี้ได้แก่ ตามรอยปริศนาชาร์เลอมาญ ก่อนจะเดินทางไปทำภารกิจให้แม่ คือซื้อชีวิตนอกวังเล่ม 8-16 แต่เนื่องด้วย เอิ่ม...ข้าพเจ้าลืมเอาบัตรเครดิตและบัตร ATM มา มีแต่เงินสดที่ติดตัวอยู่ 3000 ก็เลยซื้อให้แม่มาแค่ 3 เล่มคือ เล่ม 8 10 และ 13 ส่วน 14-16 เก็บไว้ก่อน (เล่ม 9 11 12 มิมีฮ่ะ)




บู๊ทพลอยแกมเพชร (อยู่ใกล้กับบู๊ทนายอินทร์)


ชีวิตนอกวัง เล่ม 8 10 13 เล่มละ 200 บาท หมดทั้งสิ้น 600 บาท













จากนั้นเดินเข้้าบู๊ทนายอินทร์ แบบไม่ยอมไปช็อกโซนและอื่นใดทั้งสิ้น (กลัวใจอ่อน เสียตังค์เป็นพันอีกแน่ๆ ตรู) เพื่อไปซื้อจอมโจรยูเจฯ เล่มสี่ จำนวน 2 เล่ม (ของตัวเองหนึ่ง ให้เพื่อนที่เป็นแฟนชุดนี้ด้วยกันอีกหนึ่ง) และได้อานิสงส์จาก Pok Deng ที่ซื้อหนังสือ 2 เล่มในสนพ.เดียวกัน ก็เลยได้ลดเพิ่มจาก 15% เป็น 20%



บู๊ทนายอินทร์

จอมโจรยูเจฯ เล่ม 4 แผนสมคบคิดแห่งองค์ราชัน 2 เล่ม ที่จริงต้อง 312.5 บาท
แต่ด้วยการคำนวณที่ผิดพลาดของข้าพเจ้าเอง จ่ายให้ป๊อก (ซึ่งจ่ายรวมไปก่อน) แค่ 280 บาท แง















จากนั้นมวลหมู่พลพรรค ก็ยกขบวนกันไปบู๊ทรหัสคดีใน Plenary Hall เพื่อไปรับหนังสือ (ที่คนแปลไม่ยอมแจกลายเซ็นซะงั้น ) และซื้อหนังสือมา 1 เล่มถ้วน





บู๊ทรหัสคดี


พฤติการณ์ของนายทองอิน รัตนาเนตร์ 180 บาท
นักแปลให้ฟรีหนึ่งเล่ม - สามโลงศพ





จากนั้น..ก็เจอกับแมวแข ใช้หนี้สินค่าเสื้อไปสองตัวๆ ละ 180 รวมเป็น 360 บาท










ยกขบวนไปที่ฟรีฟอร์ม เจอหนังสือราคาน่าตกใจ (อย่างแรงอ้ะ) เลยอุดหนุนมาหนึ่งเล่มค่ะ (นักเขียนคนนี้เคยอ่านเรื่องรักระหว่างเราแล้วชอบน่ะค่ะ)



สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม


ผู้ชายเหมือนระเบิด 50 บาท (ย้ำอีกที 50 บาท บร้าไปแล้ว ขายได้ไงเนี่ยยยยย)










จากนั้นไปที่บู๊ทมติชน กลั้นใจไปหยิบมาเล่มเดียว (และเป็นเล่มเดียวที่อยู่ในลิสต์เดิมที่ตั้งใจจะซื้อตั้งแต่งานหนังสือรอบที่แล้ว)



บู๊ทมติชน


แคดฟาเอลยอดนักสืบ ตอนโครงกระดูกนักบุญ 20% 168 บาท (จาก 210 บาท)







รวมทั้งสิ้นทั้งปวง 12 เล่ม 490+190+600+280+180+168+50= 1958 บาท
(+ค่าเสื้อเชียร์ 360 บาทต่างหาก และหนังสือฟรีอีกสองเล่ม แหะๆ)






อ่า..หนังสือสมัยนี้ แพงอะไรขนาดนี้เนี่ยยยยยยยย














ป.ล. งานหนังสือมีถึงวันที่ 6 เมษายน 2554 นะคะ ถ้าท่านใดยังไม่ได้ไป ก็ลองไปดูนะคะ
แต่วันหยุดคนอาจจะเยอะหน่อยเน้อออออ











ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

898244/6377/579






 

Create Date : 04 เมษายน 2554    
Last Update : 4 เมษายน 2554 8:10:19 น.
Counter : 2306 Pageviews.  

* = * * = * * = * เรื่องเล็กในเมืองใหญ่ - รู้เรื่องเมืองจีนกันสักหน่อยดีไหม * = * * = * * = *












เรื่องเล็กในเมืองใหญ่
เขียนโดย วริษฐ์ ลิ้มทองกุล
สำนักพิมพ์ บ้านพระอาทิตย์
จำนวนหน้า 234 หน้า
ราคาปก 180 บาท





เรารู้จักคุณวริษฐ์จากบล็อกรีวิวหนังสือของคุณยาคูลท์ค่ะ(เจ้าตัวขา กลับมารีวิวหนังสือลงบล็อกอีกเถอะ นะค้าาาาาาาา ) โดยเล่มที่เราซื้อมาอ่านเพื่อทำความรู้จักคือ หมื่นลี้ไร้เมฆาค่ะ หลังจากนั้นก็รู้สึกเลยว่า เป็นนักเขียนที่น่าสนใจค่ะ


คือ..เป็นหนังสือเชิงท่องเที่ยวที่อ่านเพลิน อ่านง่าย แถมข้อมูลที่ใส่มาเป็นสิ่งที่เราอยากรู้อ้ะ แล้วก็ยังมีเกร็ดบอกเรื่องการเดินทางในท้ายแต่ละบทด้วยนะคะ



สำหรับเล่มนี้ ถ้าจำไม่ผิด (เพราะอ่านหมื่นลี้ฯ นานมากๆ แล้ว แหะๆ) เนื้อหาโดยรวมจะค่อนข้าง "แน่น" กว่าหมื่นลี้ฯ นะคะ เรียกว่า..โอ้โห ขนมาทั้งข้อมูลประวัติศาสตร์ สถิติ ฯลฯ เลยค่ะ


แต่ "สำหรับเรา" นะคะ เป็นข้อมูลที่อ่านง่ายมาก

เหมือนเจ้าตัวเขาย่อยมาเรียบร้อยแล้วแล้วเอามาเล่า มาเขียนให้อ่านได้ง่ายค่ะ




แล้วก็ปกติถ้าอ่านหนังสือเล่มไหน หรือที่ผ่านมาเวลาฟังใครเล่าข้อมูล


เราจะมีคำถามเสมอเลยว่า อ้าว..แล้ว..ไอ้นั่นหละ แล้วไอ้นี่หละ ทำไมมันถึงได้..หละ? (ช่างสงสัยจนน่าเอาบาทามาประสานบนใบหน้ามิใช่น้อย 555+ )








แต่คนเขียนหนังสือเล่มนี้ เหมือนนั่งอยู่กลางใจเลยค่ะ


คือ..ถ้าเราอ่านแล้วเกิดสงสัยเรื่องนี้ เจ้าตัวจะหาคำตอบต่อจากนั้นให้เรียบร้อยเลยหละค่ะ

อย่างเช่น เวลาที่เจ้าตัวเขาเล่าว่า เขานี่เป็น 1 ใน 5 ยอดภูของจีน

เขาก็จะร่ายมาให้ฟังเลยว่า ทั้งห้าภูเขาที่ถือว่าเป็นยอดภู (อู่เยว่) นั้นมีที่ไหนบ้างค่ะ
(ซึ่งก็ได้แก่
1. เหิงซาน ภูเหนือ มณฑลซานซี
2. เหิงซาน ภูใต้ มณฑลหูหนาน
3. ไท่ซาน ภูตะวันออก มณฑลซานตง
4. หัวซาน ภูตะวันตก มณฑลส่านซี
5. ซงซาน ภูกลาง มณฑลเหอหนาน)



แล้วแถมบอกด้วยว่า แต่เดิมมีอยู่แค่ 4 ยอดภู และให้ความรู้เพิ่มด้วยว่า การยกย่องอู่เยว่ (ภูเขาห้าลูก) นี้ ไม่ได้ดูจากความสูง แต่ดูจากความสวยงามและความสง่างามของภูเขาค่ะ






นอกจากนั้นก็ยังมีบอกอีกว่า ยังมี 4 ยอดภูพุทธแห่งจีนด้วย คือ
1. ผู่ถัวซานหรือภูพุทโธ แห่งมณฑลเจ้อเจียง
2. จั่ิวหัวซานหรือภูเก้าวิจิตร มณฑลอานฮุย
3. เอ๋อเหมยซานหรือภูคิ้วนาง มณฑลเสฉวน
4. อู่ไถซานหรือภูห้าหอ มณฑลซานซี (ที่คนเขียนได้ไปเที่ยวหนะแหละค่ะ)







หรือการพูดถึงถ้ำสลักหิน 4 แห่ง (แถมบอกด้วยว่า บางที่ตัดเหลือ 3 โดยตัดไม่จีซานออก) อันได้แก่

1. ถ้ำหินสลักโม่เกา แห่งตุนหวง มณฑลกานซู่
2. ถ้ำหินสลักหลงเหมิน แห่งลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน
3. ถ้ำหินสลักหยุนกัง แห่งต้าถง มณฑลซานซี
4. ถ้ำหินสลักไม่จีซาน แห่งเทียนสุ่ย มณฑลกานซู่

แล้วแถมท้ายด้วยว่า ถ้าเป็นของโลกจะมีอยู่ 2 คือ ถ้ำ Ajanta อินเีดีย และ Bamiyan อัฟกานิสถานค่ะ (เนี่ยหละค่ะ คือสไตล์การให้ข้อมูลแบบตรงจริตเรามากๆ อ้ะ เราเป็นคนที่พออ่านถึงสี่ถ้ำ เราจะสงสัยเลยว่า เออ..แล้วของระดับโลก หรือประเทศอื่นมีมั้ย แกก็ตอบให้เสร็จสรรพ เราก็เลยชอบมากๆ น่ะค่ะ )









เราอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว เรียกว่า ได้ความรู้ในสิ่งที่อยากรู้และได้ความรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน+สำนวนต่างๆ ของจีนด้วยค่ะ อย่างเช่น



"ไม่ไปปักกิ่งไม่รู้ตัวว่ายศต่ำ ไม่มาเซี่ยงไฮ้ไม่รู้ตัวว่าจน"


"หากชาวโลกกล่าวถึงก๋วยเตี๋ยวก็ต้องนึกถึงจีน
หากชาวจีนกล่าวถึงก๋วยเตี๋ยวก็ต้องนึกถึงซานซี"

ฯลฯ






หรืออย่างเรื่องอาหารภาคตะวันออกของจีน ที่จะมีแบ่งออกเป็น 3 สำนักใหญ่ ได้แก่

1. สำนักเจียงซู (หนานจิงเมืองเอกมณฑล)
2. สำนักฝูเจี้ยน
3. สำนักเจ้อเจียง (หางโจวเป็นหลัก)






แถมตอนบทที่พูดถึงหวงซาน ก็มีการยกคำพูดว่า ไปห้าภูกลับมาไม่มองภูเขา ไปหวงซานกลับมาไม่มองห้าภู(คือ..เล่นเอาอยากไปหวงซานเลยหละค่ะ 555+)

เพราะหวงซานเป็นลูกผสมระหว่าง ความสง่างามของไท่ซาน ความอันตรายของหัวซาน ความแปลกของเอียนตั้งซาน ความอ่อนช้อยของเอ๋อเหมยซาน ทะเลหมอกของภูใต้ (เหิงซาน) และความสดใสของลูซาน


นอกจากนั้นยังมีให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า บางตำราบอกว่าทัศนคติของคนจีนเดิมจะแบ่งภูเขาออกเป็นแค่สองแบบค่ะ คือ ความแข็งแกร่งสง่ามงาม ได้แก่ ไท่ซาน แห่งภูตะวันออก มณฑลซานตง และอ่อนช้อย สะโอดสะอง ได้แก่หัวซาน มณฑลอานฮุย

นอกจากนั้นก็มีการพูดถึงชาเหมาเฟิง ซึ่งเป็นชาเขียวขึ้นชื่อของหวงซาน ที่ทำเอาคนรักชาอย่างเราแทบคลั่ง เพราะกินหลงจิ่งแล้วติดใจในคุณสมบัติของเขามาก









โดยสรุปแล้ว เราว่าเป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับคนที่อยากจะรู้จักเมืองจีนเพิ่มขึ้นหรืออยากรู้เรื่องราวต่างๆ ของจีนมากขึ้น (เช่น ประวัติของท่านซุนยัดเซ็น เหตุการณ์ที่หนานจิง ตำนานนางพญางูขาว ฯลฯ)



คือ..อ่านแล้วนอกจากได้ความรู้แล้ว เล่นเอาเราอยากแบ็คแพ็คไปจีน ไปเที่ยวอีกแล้วค่ะ แต่..คงต้องรอให้เก่งภาษาจีนกว่านี้ (มากๆ) ซะก่อนอะนะคะ เฮ้อ...







แต่ขณะเดียวกัน ข้อด้อยของหนังสือเล่มนี้ก็คือ รูปเล็กและไม่มีสีค่ะ ทำให้เล็กเกินกว่าที่จะเห็นรายละเอียดต่างๆ อย่างกรณีของวัดแขวนนี่ ชัดเจนมากๆ แทบไม่เห็นเลยง่ะ











สรุปแล้วคงเป็นนักเขียนอีกคนที่น่าสนใจในแนวนี้ค่ะ

คงตามเก็บงานเขาอะนะคะ เพราะอ่านแล้วคิดว่าน่าจะใช้ประโยชน์สำหรับตัวเองได้ด้วยหละค่ะ ฮี่ๆ
















ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านบล็อกเรานะคะ

876851/6334/571






 

Create Date : 09 มีนาคม 2554    
Last Update : 9 มีนาคม 2554 12:42:11 น.
Counter : 3708 Pageviews.  

* = * * = * * = * อยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝน - ม.ย.ร.มะลิ * = * * = * * = *





สวัสดีค่ะ





วันนี้มีหนังสืออีกเล่มจะมานำเสนอนะคะ

ซึ่งก็เป็นผลพวงมาจากการร่วมสนุกอ่านหนังสือตามโจทย์ ณ ห้องสมุดพันทิปหละค่ะ





อยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝน
เขียนโดย ม.ย.ร.มะลิ
สำนักพิมพ์ วงกลม
จำนวนหน้า 225 หน้า
ราคาปก 250 บาท


ไม่ว่าฝนจะตกตอนเช้า หรือพายุจะเข้าตอนกลางคืน
อย่าทิ้งความหวัง
ยังไง..เราก็ต้องใช้ชีวิตต่อไปอยู่ดี




ม.ย.ร.มะลิเป็นหนึ่งในนักเขียนคนโปรดของเรานะคะ

ซึ่งเราก็เคยรีวิวหนังสือของม.ย.ร.มะลิไปแล้วค่ะ คือ
จักรวาล 1x1 เมตร (คลิกเพื่ออ่าน)
งานเขียนของม.ย.ร.มะลิ (คลิกเพื่ออ่าน)
และโตเกียวอะโซบิ (คลิกเพื่ออ่าน)



หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือรวมบทความที่อ่านแล้วชวนอมยิ้มให้อารมณ์ดีน่ะค่ะ ซึ่งก็แบ่งออกเป็นอยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝน / เหงาทั่วปริมณฑล คนจับไม่ได้ / อยู่ใต้ฟ้า (ต่อ)





สำหรับหนังสือเล่มนี้...

ยังไงดีหละคะ...

แบบว่า...เวลาเรารู้สึกแย่มากๆ แล้วได้คุยกับใครที่เขาเป็นคนดี มองโลกในแง่ดี...

เราจะรู้สึกดีขึ้น ไม่ย่ำแย่จนเกินไปนัก



เวลาอ่านหนังสือของม.ย.ร.มะลิจะรู้สึกแบบนั้นค่ะ เหมือนได้เอาสารส้มมาแกว่งๆ น้ำขุ่นๆ ในใจตัวเองให้ใสขึ้น


เขาไม่ได้เขียนว่าต้องมองโลกในแง่ดียังไง ต้องเป็นแบบไหน เขาเขียนเหมือนเล่าให้ฟัง แต่เราอ่านแล้ว "สัมผัส" ได้น่ะค่ะ



อ่านแล้วพอจะเข้าใจอารมณ์+ความรู้สึกที่เราได้อ่านมั้ยคะ







เรื่องเล่า+รูปวาดของม.ย.ร.มะลิมีเสน่ห์เฉพาะตัวบางอย่างค่ะ

อย่างที่..คนที่ไม่ได้อ่านเอง คงไม่สามารถจะเข้าใจได้

และ..กระทั่งคนที่อ่านเอง เราก็ไม่แน่ใจว่าจะรู้สึก "เยอะ" เหมือนเราหรือเปล่านะคะ แฮ่...





ทั้งที่เรื่องราวเหล่านั้น บางทีก็เป็นเรื่องที่ดูเหมือนธรรมด๊า ธรรมดานะคะ
(จนบางที อาจจะมีบางคนบอกว่า "เรื่องแค่นี้ก็เอามาเขียนเนี่ยนะ" )

แต่พอเจ้าตัวเอามาเล่า มาวาด มันก็ทำให้เราอดอมยิ้มไม่ได้จริงๆ ค่ะ







อย่างเรื่องแรกของเล่มเลยนะคะ กับเรื่อง "คุณค่าของเงินบาทเดียว" ที่เจ้าตัวเล่าเรื่องวิธีการแก้เวลารู้สึกว่าชีวิตหดหู่ ไม่อยากจะทำอะไร ด้วยการจ่ายค่าข้าวด้วยเหรียญบาทล้วนๆ ซึ่งตอนแรกเหมือนจะแบบ..โห..แกล้งเหรอ แต่พออ่านถึงตอนจบ ก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ ค่ะ (เธอน่ารักจริงๆ นะนี่)


หรืออย่างเรื่องทรงผม ที่เจ้าตัวบอกว่า มันเปลี่ยนแววตาของเธอได้ อ่านแล้วมัน..อดอมยิ้มไม่ได้จริงๆ น่ะค่ะ (เป็นรีวิวที่ใช้คำว่า "อดยิ้มไม่ได้" ได้สิ้นเปลืองมาก )








บางเรื่องก็อ่านแล้วก็เป็นความรู้ใหม่ค่ะ อย่างเรื่องการหาเต่าทองมากินเพลี้ย อันนี้เราไม่เคยรู้มาก่อนจริงๆ นะนี่ หรือบางเรื่องก็อ่านแล้วทำให้คิดและอยากทำให้ได้ อย่างเรื่องของความโกรธกับความกลัว (ได้แต่บอกตัวเองว่า จะพยายามนะคะ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะทำได้ และทำได้แค่ไหน )


บางเรื่องก็อ่านแล้วทำให้อยากลองทำตามบ้าง อย่างเรื่องปณิธานปีใหม่ (ใบไม้ผลิ) ทั้งสองปีของเจ้าตัว ซึ่ง...น่ารักมาก ทำให้คิดว่า เออ..เราตั้งปณิธานอะไร (ที่น่ารักๆ แบบนี้บ้าง) ดีมั้ย


และบางเรื่องก็ทำให้น้ำตาเรารื้นขึ้นมาได้ค่ะ นั่นก็คือเรื่อง แผลเป็นที่เห็นคนเดียวค่ะ (ลองอ่านดูนะคะ)






มาถึงในส่วนของเหงาทั่วปริมณฑลฯ ซึ่งเคยลงในอะเดย์บ้างนะคะ

เรื่องที่น่าพูดถึงก็อย่างเช่น ร้านกาแฟ 'เอ็กเต็งผู่กี่' - ที่อ่านแล้วอยากไปนั่งสุดๆ ค่ะ (ว่าแต่มันอยู่ส่วนไหนของเยาวราชเนี่ย)

วิธีไล่ความง่วงด้วยสติ - อ่านแล้วอยากทำได้บ้างอ้ะ แล้วก็สงสัยว่า ใช้กับการไล่เรื่องอื่นด้วยได้มั้ยหนอ หุๆ


หรืออย่างเรื่องแมวเสกมนต์ 'ดวงตาเห็นแมว' เราอ่านแล้วกรี๊ดเลยค่ะ ถ้าเป็นแคทเลิฟเวอร์สงสัยจะกรี๊ดหนัก ฮ่าๆๆ




สรุปแล้ว ก็ยังเป็นอีกผลงานหนึ่งที่อ่านแล้วทำให้อารมณ์ดี สายตาดี (คือ..ขุ่นมัวและมองในแง่ร้ายน้อยลง) เป็นเหมือนชารางจืด ที่ช่วยล้างพิษทางอารมณ์ให้เราได้ดีจริงๆ ค่ะ












ปิดท้ายด้วยข้อความที่เราชอบๆ นะคะ






ส่วนฉันเป็นมนุษย์ผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินทางผ่านฤดูฝน ฤดูร้อน ฤดูหนาว ไปจนจบวงจรชีวิตของตัวเอง แต่มนุษย์เป็นสัตว์โลกที่มีออปชันพิเศษ สามารถตั้งปณิธานได้ การตั้งปณิธานในเรื่องที่แม้จะเล็กน้อย แต่ถ้าเราแน่วแน่และพยายามประคองปณิธานนั้นไว้ให้ดีที่สุด มันจะกลายเป็น 'เครื่องรางของหัวใจ' มอบความเข้มแข็งให้ชีวิตของเราค่ะ








ดังนั้นสิ่งใดก็ตามที่เราเก็บไว้โดยไม่เหลียวแลมานานนับปี แสดงว่ามันได้ทำหน้าที่เสร็จไปแล้ว จง 'ปล่อยของ' นั้นไปอย่าเสียดาย ปล่อยมันไป เอาไปทิ้งหรือเอาไปให้คนอื่น เผื่อว่ามันจะมีโอกาสได้ทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง








ป.ล. แล้วก็เล่มนี้ ขอชมสนพ.และคนพิสูจน์อักษรนะคะ ไม่มีคำผิดให้เห็นเหมือนเล่มอื่นๆ เลยหละค่ะ















ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

813491+28310=841801/6258/559









ป.ล.2 บล็อกนี้อัพในหมวดหนังสือนะคะ

ป.ล.3 จขบ.ไม่อยู่ยาวจนวันจันทร์ บล็อกใหม่จะอัพวันอังคารหน้าเลยค่ะ











 

Create Date : 28 มกราคม 2554    
Last Update : 28 มกราคม 2554 9:10:02 น.
Counter : 4302 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ


เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก


ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com
หรือ
https://www.facebook.com/saoguide






Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สาวไกด์ใจซื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.