###### รีวิวหนังสือราชินีสีแดง - สนุกเชียวค่ะ ######




สวัสดีฮ้าบบบบ 








สำหรับวันนี้ก็จะมารีวิวหนังสือเล่มหนึ่งในโครงการเพื่อนรักนักรีวิวของนายอินทร์นะคะ กับหนังสือเล่มนี้ค่ะ



https://www.naiin.com/product/detail/199559/

ราชินีสีแดง (RED QUEEN)
ผู้เขียน - วิกตอเรีย เอฟยาร์ด
ผู้แปล - อรทัย พันธพงศ์
สำนักพิมพ์ - แพรวสำนักพิมพ์
จำนวนหน้า - 392 หน้า
ราคาปก - 325 บาท




เรื่องย่อ

แมร์ หญิงสาวผู้เกิดในชาติพันธุ์สีแดง ชาติพันธุ์ที่เกิดมาเพื่อทำหน้าที่ในระดับล่างๆ ให้กับชาติพันธุ์สีเงิน ชาติพันธุ์สีเงินที่มีความสามารถพิเศษต่างๆ มากมายที่ชาติพันธุ์สีแดงไม่มีวันมี เช่น วิสเปอร์ ที่สามารถบังคับความคิด (สมอง) ได้ หรือสวิฟท์ ที่มีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว พี่ชายของเธอทั้งสามคนไม่ว่าจะเป็นบรี เทรมี เชด ต่างก็ถูกเกณฑ์ทหารไปเรียบร้อยแล้ว เมื่ออายุครบและไม่มีงานอื่นสำหรับทำ แต่แล้ววันหนึ่งด้วยสถานการณ์หลายๆ อย่างก็ทำให้แมร์ต้องเข้าไปเป็นคนรับใช้ในวังของตระกูลกษัตริย์ และนั่นเองทำให้ทุกคนได้ค้นพบสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าจะปรากฏอยู่ในตระกูลของชาติพันธุ์สีแดง





ความรู้สึกที่ได้อ่าน


สนุกมากๆ ค่ะ แบบว่า...เอาตั้งแต่การปูพื้นฐานให้คนอ่านเข้าใจความแตกต่างระหว่างสองชาติพันธุ์ การผูกเรื่องต่างๆ ให้เรื่องดำเนินไปอย่างน่าติดตาม (อาจจะอืดหน่อยในช่วงแรก แต่สักพักพอนับตั้งแต่ที่มีข่าวร้ายของคิลอร์น วอร์เรน ที่ตกงานและจะต้องถูกเกณฑ์ทหาร จนแมร์ต้องหาวิธีช่วยแล้ว เรื่องก็สนุกขึ้นเรื่อยๆ เลยค่ะ) นอกจากนั้นรายละเอียดของตัวละครแต่ละตัวก็น่าตื่นตาตื่นใจใช้ได้เลยค่ะ เป็นการสร้างโลกและตัวละครที่น่าสนใจมากๆ


แต่ขณะเดียวกันการสร้างตัวละครหลายๆ ตัวในหนังสือเล่มนี้ก็ค่อนข้างมีความแบนน่ะนะคะ คือ ตัวร้ายก็ร้ายจริงๆ เลยอะนะ ส่วนไอ้ตัวร้ายแฝงนี่...สำหรับเด็กถึงวัยรุ่นอาจจะคิดไม่ถึง แต่สำหรับคนที่ผ่านโลกและผ่านความร้ายของโลกมาพอควรแล้วน่าจะไม่เซอร์ไพรซ์นะคะ หุๆ





จุดที่เซอร์ไพรซ์เรากลับเป็นจุดที่คาลเลือกในสิ่งน่าจะทำให้คนที่คาดหวังจากหนังสือรักผิดคาดน่ะแหละค่ะ แต่ก็เป็นสิ่งที่เรากลับรู้สึกว่า คนอย่างคาลต้องเลือกแบบนี้นั่นแหละนะคะ เพราะถ้าเลือกอีกแบบคงรู้สึกว่า..ชวนฝันเกิ๊น 555


แต่ขณะเดียวกันเมเวนก็ทำให้เราแปลกใจไม่น้อยในบางมุมที่เขาแสดงออกมา (ตอนไปหาที่คุกเป็นต้น) ซึ่งตรงนี้เราว่าคนเขียนทำได้ดีที่ทำให้คนอ่านรู้สึกว่า เมเวนเองก็มีความรู้สึกบางอย่างเช่นกันน่ะนะคะ 


ทว่าไม่รู้ทำไมเหมือนกันค่ะ อ่านหนังสือเล่มนี้ไปก็นึกถึง Twilight ไป 555 อาจจะเป็นเพราะมีความเป็นสองชายหนึ่งหญิงด้วยหละมั้งคะ ซึ่งหลังๆ ในหนังสือหรือนิยายหลายๆ เล่มก็จะมีลักษณะนี้กันค่อนข้างเยอะนะคะ





แต่ถ้าเอาสั้นๆ เราคิดว่าเป็นนิยายแนวแฟนตาซีที่น่าสนใจค่ะ สนุกและมีการสร้างโลกสร้างตัวละครที่ชวนจินตนาการตามดี แต่ที่ขัดใจคือ มันคือเล่มเริ่มต้น เล่มหนึ่งค่ะ มันมีเล่มต่ออีก (เพราะยังมีอีกหลายปม หลายเรื่องเลยที่ทิ้งค้างไว้นะคะ) เลยคงต้องไปหาเล่มต่ออ่าน แต่ไม่รู้ว่ามันมีทั้งหมดกี่เล่มแล้วไทยแปลหมดหรือยังน่ะสิ แง้วๆ (เท่าที่ดูในเว็บเหมือนจะมีแค่เล่มสองออกมา ซึ่งไม่รู้ว่าจบหรือยังค่ะ)


ก็เป็นอีกเล่มหนึ่งที่อ่านเล่มหนึ่งแล้วอยากไปหาเล่มต่ออ่านค่ะ




ปิดท้ายด้วยข้อความที่เราว่าเป็นไม่กี่ประโยคที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นเผ่าพันธุ์สีเงินได้ค่อนข้างชัดน่ะค่ะ




หน้า 13

...แต่ก็เช่นเดียวกับพวกสีเงินทั้งหลายพวกเขาไม่ได้ทำอะไรตามความจำเป็น พวกเขาทำตามความต้องการ และสิ่งใดที่พวกเขาต้องการ พวกเขาย่อมต้องได้มา








ปฏิทินธรรม





วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม
2560
 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น. 


ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
//www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447



2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/




วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2560

1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)




วันอาทิตย์ที่ 12 และ 26 มีนาคม2560 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts



วันฑฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม 2560

1. เททองหล่อรูปเหมือนพระญาณวิศิษฏ์ (หลวงปู่ทอง จนฺทสิริ) ในวาระครบรอบ1 ปี แห่งการละสังขาร เวลา 17.30 น. 

ณ มณฑลพิธีชั่วคราวหน้าวิหารสุทธิธรรมรังสี วัดอโศการาม

https://www.facebook.com/watasokaram.org/photos/a.368766819863212.83919.368757619864132/1416477191758831/?type=3&theater



วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2560 (จัดทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. 19 มีนาคม- ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

https://www.facebook.com/bogboon/photos/ms.c.eJwzNDYwNDM2NTIwNjI0NjEx0zOEChhCBEwBbqgGhw~-~-.bps.a.662747730435533.1073741841.335629013147408/1301635213213445/?type=3&theater



วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2560

1. "ฟังธรรมพระกรรมฐาน" โดย หลวงปู่ทองอินทร์ กตปุญโญ วัดประชาคมวนาราม(ป่ากุง) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด

ณ โถงอาคาร 10 ชั้น 2 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เวลา 17:30 

https://www.facebook.com/utcckammatanclub/photos/a.161140240611685.35074.156949817697394/1336441746414856/?type=3&theater



วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 25 และ 26 มีนาคม 2560 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)

1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด

ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.479376905439284.105742.335629013147408/701496553227317/?type=1&theater












ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1,469,696+4304197=5773893/12675/1421




 

Create Date : 26 มีนาคม 2560    
Last Update : 26 มีนาคม 2560 10:14:24 น.
Counter : 2901 Pageviews.  

###### รีวิวหนังสือ ตาผมเป็นต้นเชอร์รี่ - คนเราจะไม่มีวันตาย ตราบใดที่ใครคนหนึ่งยังรักเรา ######



สวัสดีค่ะ








รีวิวหนังสือเล่มที่สองของปี (และเป็นอีกเล่มของโครงการรีวิวหนังสือของนายอินทร์) ค่ะ กับเรื่องนี้




https://www.naiin.com/product/detail/198107/


ตาผมเป็นต้นเชอร์รี่
เขียนโดย อันเจลา นาเน็ตตี
แปลโดย นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ
สำนักพิมพ์ แพรวเยาวชน
จำนวนหน้า 128 หน้า
ราคาปก 235 บาท





เรื่องย่อ

เรื่องราวของโตนีโน่ กับครอบครัวอันประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยายและห่านนามอัลฟอนซีน่า ความผูกพันกับต้นเชอร์รี่ที่ถูกปลูกและเติบโตมาพร้อมๆ กับแม่ การจากไปของยาย และการเปลี่ยนแปลงไปของตา 



ความรู้สึกที่ได้อ่าน

ต้องบอกก่อนว่า เป็นอีกเล่มหนึ่งที่อ่านแล้วร้องไห้ด้วยแหละ แต่ไม่ใช่ร้องไห้แบบโฮ สะอึกสะอื้น ดราม่านะคะ แต่เป็นการร้องไห้แบบน้ำตาไหล เป็นความเศร้าอันแผ่วเบาเหมือนระลอกคลื่นบนผิวน้ำน่ะค่ะ


ในเรื่องนี้ มีหลายจุดหลายตอนที่อ่านแล้วสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่มันหายไปจากตัวเรา และพอได้อ่านก็หวนคิดถึงและได้รับรู้ว่าตัวเองคิดถึงความรู้สึกแบบนี้มากแค่ไหนน่ะค่ะ ความละเอียดอ่อนของความรักระหว่างคนคู่หนึ่ง ที่แม้ความตายจะทำให้จากกันในด้านกายภาพ แต่อย่างที่หนังสือเล่มนี้โปรยหน้าปกไว้ค่ะ "คนเราจะไม่มีวันตาย ตราบใดที่ใครคนหนึ่งยังรักเรา" มันทำให้ใครอีกคนนั้นไม่เคยตายไปจากใครอีกคนที่ยังคงมีความรัก (และความคิดถึง) ให้อย่างสม่ำเสมอ


ความละเอียดอ่อนที่คนจะมีต่อสัตว์ แต่ขณะเดียวกันแม้ว่าจะรักแต่เมื่อถึงคราวอันจำเป็น ก็ต้องทำสิ่งที่สมควรทำ (และยกเว้นสำหรับตัวที่เป็นที่รักถึงที่สุด) การฆ่าเขาเหล่านั้นด้วยความแมตตาที่ท้ายที่สุดวันหนึ่งไม่สามารถทำได้แล้วก็ต้องปล่อยไปตามครรลอง (ซึ่งสารภาพว่า เราทำไม่ได้แน่ๆ ไม่ว่าจะฆ่าแม้จะจำเป็น หรือการปล่อยไปตามครรลองน่ะนะคะ)





มันเป็นหนังสือเล่มบางๆ ที่กลับมีหลายประเด็นให้ขบคิดมากเหลือเกินค่ะ


ไม่ว่าจะเป็นประเด็นความแตกต่างระหว่างครอบครัวที่อยู่ในเมือง (พ่อ ปู่ ย่า หมา) และครอบครัวชนบท (ตา ยาย ห่าน) ที่ท้ายที่สุดแล้ว เหมือนสังคมในชนบทต่างหากจะเป็นคำตอบของความสุขในครอบครัว (ซึ่งในฐานะของคนที่เคยอยู่ทั้งในชีวิตชนบทและเมือง ค่อนข้างโอนเอียงไปทางเห็นด้วยนะคะ) ประเด็นการ "เข้าถึง" จิตวิญญาณบางอย่างที่คนในเมืองมองว่ามันเป็นเรื่องเหลือเชื่อและเป็นได้เพียงในจินตนาการ การถูกครอบด้วยความคิดสมัยใหม่ที่ตัดสินว่าอะไรที่เด็กควรกินหรือไม่ควรกิน ประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว ที่อะไรที่ควรทำหรือไม่ควรทำ ฯลฯ มันมีมากมายจริงๆ นะคะ อ่านไปก็คิดถึงเรื่องโน้นเรื่องนี้ไป บางเรื่องเรารู้ว่าไม่ควรทำแต่เราก็เข้าใจในสิ่งที่ตัวละครนั้นๆ ต้องตัดสินใจทำน่ะนะ แม้จะต้องทอดถอนใจที่ท้ายที่สุดแล้วมันก็ต้องจบแบบที่ไม่เหนือจากการคาดการณ์ก็ตาม





สิ่งหนึ่งที่เราชอบในหนังสือเล่มนี้ก็คือ การถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ด้วยสายตาของเด็กที่เป็นตัวละครหลักของเรื่อง มันทำให้อะไรหลายๆ อย่างมันถูกถ่ายทอดด้วยสายตาของความเป็นเด็ก (หรือผู้เขียนพยายามที่จะให้เรามองด้วยสายตาแบบนั้นน่ะนะคะ) ซึ่งทำให้บางเรื่องมันก็รุนแรงมาก (เมื่อมองด้วยสายตาเด็ก) และบางเรื่องก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่า เกิดอะไรขึ้นแต่ขณะที่ตัวเอกของเรื่องกลับ (ถูกคนเขียนทำให้) ไม่รู้ ซึ่งนั่นทำให้ความรู้สึกสงสารมันเกิดขึ้นกับคนอ่านด้วยน่ะนะคะ


เราชอบการสร้างตัวละครตาและยาย รวมทั้งเจ้าห่านอัลฟอนซีน่ามากๆ เลย คือ...ทั้งหมดแล้วล้วนแต่มีเสน่ห์และน่ารัก ขณะที่ตัวละครอื่นๆ แม้จะดูมีแง่มุมที่ร้ายมากกว่าตัวละครอันเป็นที่รักนี้ แต่ขณะเดียวกัน เราก็เกลียดไม่ลง โอเค แม้ว่าจะไม่ได้มีรายละเอียดหรือเรื่องราวมากมายขนาดทำให้รัก แต่คนเขียนไม่ได้ป้ายสีหรือครอบความเป็นตัวร้าย แต่เผยให้เราเห็นถึงความเป็นมนุษย์ซึ่งมีทั้งดีเลว ถูกผิดในตัวแต่ละคนต่างหาก





เป็นหนังสือที่คิดว่าเหมาะสำหรับผู้ใหญ่มากยิ่งกว่าเหมาะกับเด็กนะคะ (ไม่ใช่ว่าเด็กอ่านไม่ได้ แต่คิดว่าผู้ใหญ่อ่านแล้วน่าจะคิดอะไรได้มากกว่า...ถ้าคิดที่จะคิดน่ะนะ) ซึ่งนั่นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราชอบหนังสือเล่มนี้ค่ะ เพราะนอกจากได้เรื่องของความรู้สึกที่งดงามหลายๆ อย่าง (โดยเฉพาะฉากที่ตาหัดให้หลับตาแล้วรู้สึกและได้ยินนั้น มันงามมากในความรู้สึกเรานะคะ) แล้ว ก็ยังทำให้เราคิดอะไรอีกหลายอย่างต่อไปอีกด้วยค่ะ





เป็นหนังสือแนววรรณกรรมเยาวชนอีกเล่ม ที่อ่านง่าย ใช้เวลาไม่มาก แต่ทำให้เราได้คิดและรู้สึกหลังอ่านจบไปได้อีกนานทีเดียวค่ะ







ปฏิทินธรรม





วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์
2560
 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น. 


ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
//www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447



2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/




วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560

1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)




วันอาทิตย์ที่ 12 และ 26 กุมภาพันธ์ 2560 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts



วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560

1. 14 กุมภาพันธ์ - “ฟังพระธรรมเทศนา และ เจริญสมาธิภาวนา” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดย พระครูมงคลญาณ (หลวงปู่คำพอง ปญฺญาวุโธ)วัดป่านานาชาติ เมืองอัลดี้ รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ณ ห้องทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม (9501) ชั้น 5 อาคาร 9 (บุญสม สุวชิรัตน์) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(บางเขน)


วันศุกร์และเสาร์ที่ 17 - 18 กุมภาพันธ์ 2560

1. งานมุฑิตาสักการะอายุวัฒนมงคล 103 ปี หลวงปู่บุญฤทธิ์ บัณฑิโต
ณ สวนทิพย์ ปากเกร็ด นนทบุรี



วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 25 และ 26 กุมภาพันธ์ 2560 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)

1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด

ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.479376905439284.105742.335629013147408/701496553227317/?type=1&theater












ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1,469,696+4105582=5579278/12600/1378




 

Create Date : 30 มกราคม 2560    
Last Update : 30 มกราคม 2560 8:28:50 น.
Counter : 4192 Pageviews.  

###### รีวิวหนังสือ แม่เล่าให้ฟัง ######




สวัสดีค่าา







เปิดประเดิมรีวิวหนังสือเล่มแรกของปี 2560 ด้วยหนังสือเล่มนี้นะคะ แม่เล่าให้ฟังค่ะ




เขียนโดย สมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
สำนักพิมพ์ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์
จำนวนหน้า 286 หน้า
ราคาปก ไม่มี





สำหรับหนังสือเล่มนี้ เราได้มาจากงานหนังสือเมื่อเดือนตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา หลังเหตุการณ์สูญเสียครั้งใหญ่นะคะ โดยได้ทราบมาจากหน้าเฟซเพื่อนว่ามูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ แจกหนังสือสองเล่มฟรี คือ แม่เล่าให้ฟัง และเจ้านายเล็กๆ - ยุวกษัตริย์ โดยจะต้องไปต่อคิวและมีจำนวนจำกัดในแต่ละรอบ โดยรอบที่เราไปเป็นงานหนังสือวันสุดท้าย รอบสุดท้ายของวันนั้น เราได้คิวสุดท้ายของวันนั้น (แต่พอนั่งๆ ไปมีคนลุกไม่เอาคิว เลยกลายเป็นรองสุดท้ายแทนค่ะ) 


หนังสือเล่มนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลโดยสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา โดยตั้งใจจะทำตั้งแต่ปีพ.ศ. 2515 ในโอกาสที่สมเด็จย่าจะมีพระชนมายุพรรษาครบ 72 พรรษาค่ะ โดยเนื้อหาตอนแรกจะเป็นเพียงส่วนของภาคที่สองของหนังสือเล่มนี้ แต่ด้วยเหตุบางประการก็ทำให้ต้องพักโครงการนี้ไว้ก่อนค่ะ จนกระทั่งมีการตีพิมพ์เป็นเล่มออกมาครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2523 นะคะ


หนังสือเล่มนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองภาค คือ ภาค 1 แม่เล่าให้ฟัง เป็นเรื่องราวของสมเด็จย่าตั้งแต่เกิดจนกระทั่งถึงครั้งที่ดำรงตำแหน่งเป็นสมเด็จพระราชชนนี และภาค 2 ซึ่งจะเป็นการรวบรวมเอาข้อคิดจากนักคิดต่างๆ หลายๆ ท่านที่สมเด็จย่าท่านให้ความสนใจในแนวคิดซึ่งสมเด็จพระพี่นางฯ ได้นำมารวบรวมเพื่อให้เห็นความคิดจิตใจบางส่วนของสมเด็จย่าค่ะ โดยในภาคนี้นั้นสมเด็จพระพี่นางฯ ได้บอกว่า ขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิธีอ่านภาคนี้ให้ต่างไปจากการอ่านภาคแรกหรืออ่านนวนิยาย คือขอให้อ่านช้าๆ ซ้ำๆ และทีละน้อยๆ จะได้ทำให้เข้าใจความหมาย และซาบซึ้งยิ่งขึ้น ค่ะ





ซึ่งในภาคหนึ่งนี้เอง เราจะได้ทราบว่าสมเด็จย่าท่านมีชีวิตในวัยเด็กที่เรียกได้ว่าค่อนข้างลำบากเลยค่ะ แต่ขณะเดียวกันท่านก็เป็นคนที่ค่อนข้างมีไหวพริบ มีความเชื่อมั่นในตัวเอง และมีใบหน้าที่สวยงามมาแต่ไหนแต่ไรนะคะ รูปหลายๆ รูปที่เราได้เห็นในหนังสือเล่มนี้ โดยเฉพาะรูปที่ท่านถ่ายกับคนอื่นๆ จะเห็นเลยว่า ท่านจะเด่นออกมาจากคนอื่นๆ เลยค่ะ (ซึ่งทำให้เราแอบคิดว่าไม่แปลกเลยที่สมเด็จพระมหิตลาธเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกจะทรงรักท่านน่ะค่ะ)


ซึ่งหนังสือเล่มนี้ตอบข้อสงสัยที่เราเคยสงสัยมาตลอดว่า ทำไมสามัญชนคนหนึ่งถึงมีโอกาสได้ไปแต่งกับราชวงศ์ได้น่ะนะคะ พออ่านแล้วก็ได้เห็นที่มาที่ไปหละค่ะ รวมทั้งภาพโดยรวมของครอบครัวท่านด้วย


นอกจากท่านเราจะได้เห็นรูปหลายๆ รูปที่หลายๆ คนน่าจะยังไม่เคยเห็นด้วยนะคะ (เห็นแล้วเราก็นึกถึงตอนงานพระศพสมเด็จย่าที่มีเอารูปต่างๆ มาจัดแสดง เราถ่ายรูปไว้เต็มเลยค่ะ แต่เป็นฟิล์มนะ อัดไว้ด้วย แต่อัลบั้มนั้นหายไปทั้งอัลบั้มเลยค่ะ เสียดายมากๆ) ตั้งแต่ท่านยังไม่แต่งงานจนกระทั่งแต่งงานและมีพระราชธิดา พระราชโอรสทั้งสามพระองค์ (ที่ทำให้เห็นว่า ร.๘ ท่านงามมากๆ งามแบบที่ได้รับความงามทั้งจากพระราชบิดาและพระราชมารดาเลยค่ะ) รวมทั้งเรื่องราวแบบ "เล่าให้ฟัง" ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร จริงๆ ค่ะ ไม่มีความเห็นใดๆ แทรกอยู่ทั้งสิ้นตามความตั้งใจของสมเด็จพระพี่นางฯ นะคะ





ส่วนในภาคที่สองนั้น อย่างที่บอกว่าเป็นการรวบรวมข้อคิด คำคม คำพูดของนักคิดนักเขียนต่างๆ ซึ่งเราก็ขอยกตัวอย่าง (โดยเลือกที่เราคิดว่าน่าสนใจ 555) มาตามนี้เลยนะคะ





หน้า 232

บุคคลผู้ปรารถนาจะดำรงชีพอยู่ด้วยความพอใจ จะต้องไม่รับภารกิจมากนัก ไม่ว่าจะเป็นส่วนตัวหรือราชการก็ดี อีกทั้งไม่กระทำสิ่งใดที่เหนือความสามารถ และเหนือธรรมชาติตน แม้นว่าโชคจะอำนวยและน่าจะส่งเสริมให้เขาสูงขึ้น เขาจะต้องไม่คำนึงถึงและระวังที่จะไม่ทำในสิ่งที่เกินกำลังตน ทั้งนี้เพราะโชคลาภเพียงสถานประมาณนั้นแน่นอนยิ่งกว่าความมั่งคั่งมหาศาล

เดโมคริต - นักปรัชญากรีก






หน้า 233

เราจำต้องละเว้นการกระทำผิดโดยหน้าที่ มิใช่ด้วยความกลัว

เดโมคริต - นักปรัชญากรีก







หน้า 233

ผู้ที่ยอมให้เรื่องเงินทองมีอำนาจเหนืออย่างสิ้นเชิง จะไม่ใช่ผู้ที่มีความยุติธรรม

เดโมคริต - นักปรัชญากรีก






หน้า 240

ผลประโยชน์พูดได้หลายภาษา และแสดงได้หลายบท แม้กระทั่งบทของผู้ที่ไม่หวังผลประโยชน์

ลารอชฟูโคล์ด์ - นักจริยธรรมฝรั่งเศส






หน้า 247

เราไม่อาจมีความรู้สึกต่อสิ่งที่แรงสุดขีด เสียงที่ดังเกินไปทำให้เราหูอื้อ แสงสว่างมากเกินไปทำให้ตาพร่า ระยะไกลเกินไปและระยะใกล้เกินไปทำให้ไม่อาจมองเห็นได้ ปาฐกถาที่ยาวเกินไปหรือสั้นเกินไปก็ทำให้เคลือบคลุมไม่แจ่มแจ้ง สนุกมากเกินไปก็น่ารำคาญ เราไม่รู้สึกความร้อนความเย็นที่สูงสุด คุณสมบัติที่เกินขนาดเป็นภัยแก่เราและไม่อาจะสังเกตได้ เราจะไม่มีความรู้สึก แล้วเราก็ต้องทุกข์ทรมาน ความหนุ่มสาวและความชรามากเกินไปทำให้ไม่มีความคิด การกินมากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็ทำให้ทำอะไรไม่สู้ดี การสั่งสอนที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็ทำให้โง่

ปาสคัล - นักคณิตศาสตร์ นักฟิสิกส์ และนักจริยศาสตร์ฝรั่งเศส






หน้า 281

ฝูงชนกำเนิดคล้าย คลึงกัน
ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง
ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด
ยกแต่ชั่วดีกระด้าง อ่อนแก้ฤๅไหว

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว





สำหรับหนังสือเล่มนี้ นับเป็นหนังสือที่ต่อไปจะยิ่งมีคุณค่า เมื่อทุกๆ คนที่ถูกกล่าวอ้างถึงนั้น ล้วนแล้วแต่ไม่อยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้วน่ะนะคะ และเป็นสิ่งที่เป็นที่ระลึกถึงครอบครัวของพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งที่เรารักท่านทั้งครอบครัวมากๆ แล้วก็สำหรับเรา เราอยากได้ปกแข็งมากๆ เลย มีโอกาสก็จะไปหาซื้อมาหละค่ะ







ปฏิทินธรรม





วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม
2560
 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น. 


ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
//www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447



2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/




วันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2560

1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)




วันอาทิตย์ที่ 8 และ 22 มกราคม 2560 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts



วันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2560

1. ชมรมพุทธธรรมกรรมฐาน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยขอเชิญร่วมทำบุญถวายพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เวลา 07.00 น.

ณ อาคาร 15 หอประชุมมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย



วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 28-29 มกราคม 2560 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)

1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด

ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.479376905439284.105742.335629013147408/701496553227317/?type=1&theater












ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1,469,696+4090166=5559862/12596/1372




 

Create Date : 24 มกราคม 2560    
Last Update : 25 มกราคม 2560 10:18:26 น.
Counter : 1880 Pageviews.  

###### รีวิวหนังสือ ลวง (Souls Embracing) - โหวเหวินหย่ง / อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี ######








สวัสดีค่ะ







วันนี้มารีวิวหนังสือแปลอีกเล่มนะคะ ซึ่งเป็นนิยายไต้หวันอีกเช่นเคยค่ะ



ลวง (Souls Embracing) 
เขียนโดย โหวเหวินหย่ง
แปลโดย อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี
สำนักพิมพ์ Mangmoom book
จำนวนหน้า 541 หน้า
ราคาปก 395 บาท





เรื่องย่อ


บทความที่เขาไม่ได้เขียน แต่กลับลงชื่อเขาและกลายเป็นบทความที่ดังไปในวงกว้างจนเขาไม่อาจปฏิเสธ การเปิดเผยตัวตนของผู้เขียนที่แท้จริง ที่่ทำให้เขาต้องจำยอมทำหลายสิ่ง ความขัดแย้งที่มีต่อนักเขียนร่วมวงการ และความรู้สึกบางอย่างที่ก่อขึ้นระหว่างเขากับผู้ประกาศสาวที่ถูกเพื่อนร่วมงานสตอล์คเกอร์ ความยุ่งเหยิงวุ่นวายที่ท้ายที่สุดจบลงด้วยการสูญเสีย





ความรู้สึกที่ได้อ่าน


เรื่องนี้ค่อนข้างเข้มข้นหนักกว่าทุกๆ เรื่องที่เราเคยอ่านของนักแปลคนนี้นะคะ เป็นเรื่องที่...ค่อนข้างให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากเล่มอื่นๆ อย่างชัดเจนพอควรค่ะ บรรยากาศค่อนข้างหนักและอึมครึมกว่าเรื่องอื่นๆ ทั้งตัวพล็อตและการสร้างตัวละครหลายๆ ตัวที่ค่อนข้าง "ดาร์ค" ใช้ได้เลยแหละ (และเพิ่งรู้จากเล่มนี้แหละค่ะว่านักเขียนเรื่องนี้เป็นนักเขียนคนโปรดของคนแปลนะนี่ หุๆ)


การสร้างตัวละครในเรื่องนี้ค่อนข้างมีลักษณะของ "เทาๆ" กันหมดค่ะ ไม่มีใครที่ดีแบบสมบูรณ์พร้อม และคนที่มองว่าเลว ก็ยังมีบางมุมที่ทำให้รู้สึกว่า...เออ เข้าใจได้ว่าทำไมเขาจึงเป็นเช่นนั้น (แต่ก็ยังกลัวอยู่ดี ฮือออ) การผูกเรื่องที่ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมตัวเอกฝ่ายชายถึงได้ "ตกกระไดพลอยโจน" ไปได้ หรือกระทั่งหวังอี้ผิง แฟนหนังสือที่ดูเหมือนจะโรคจิตจนน่ากลัว แต่กลับทำให้เราเสียน้ำตาในตอนท้ายเรื่องไปได้ในที่สุด กับทางที่เธอเลือก 


แต่ที่เราค่อนไปทางไม่ชอบคือตัวเอกฝ่ายหญิงค่ะ คือ ถามว่าเข้าใจในสิ่งที่เธอทำมั้ยเข้าใจนะคะ แต่บางช็อตเรากลับรู้สึกว่า..เธอไม่มีวุฒิภาวะน่ะ อารมณ์อยู่เหนือสติหลายครั้งมาก (เหมือนเรามากเกินไป...อ้าวป้า 555) จนบางทีก็รู้สึกว่า...เอิ่ม เจ๊คะ เจ๊ทำให้เรื่องมันแย่ไปกว่าเดิมนะนั่น เง่ออออ...


แต่ขอบอกว่าแม้ว่าจะเป็นหนังสือที่หนามาก แต่ถ้อยคำโดนๆ กลับมีไม่มากเท่าเล่มกาแฟรักอุ่นหัวใจที่รีวิวไปก่อนหน้านี้นะคะ (หรือเพราะไม่ใช่นิยายรักหว่า แหะๆ) แต่ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรชวนคิดนะคะ มีหลายเรื่องเลยหละค่ะที่ชวนคิด อย่างการที่นักเขียนเอกสองคนในเรื่องขัดแย้งกันในความเชื่อเรื่องของ "จิตวิญญาณ" นี่ก็น่าสนใจมาก หรือการที่บทความบทความหนึ่งที่ตัวเอกฝ่ายชายของเรามองว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรและผิวเผินมาก แต่กลับได้รับความนิยมนี่ก็ชวนคิดอยู่เหมือนกันนะคะ (มันจริ๊งจริงนะ สำหรับสังคมเราสมัยนี้ ดูจากยอดไลค์ในหลายๆ เพจได้ค่ะ) 


เสน่ห์ของเรื่องนี้ (แต่เราคิดว่าเหมาะสำหรับนักอ่านที่เป็นนักอ่านจริงๆ นะคะ เพราะหลายๆ ช่วงนี่เขียนทียาวเป็นพรืดดดดดเลย ใครที่ไม่ชอบอะไรที่เป็นตัวหนังสือเยอะๆ อาจจะไม่ถูกจริตค่ะ) นอกจากความเทาๆ ของตัวละครและบทสรุปสุดท้ายที่น่าประทับใจแล้วก็คือการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างเข้มข้นชวนติดตามเลยค่ะ คือ มันมีเรื่องราวต่างๆ มาผูกร้อยเรียงกันทั้งตัวเอกฝ่ายชายและหญิงจนน่าติดตามตลอดๆ เลยหละค่ะว่ามันจะเป็นเช่นไรต่อไป ซึ่งนั่นทำให้หนังสือที่หนาถึงห้าร้อยกว่าหน้านี่ไม่น่าเบื่อแต่อย่างใดเลยหละค่ะ





ในส่วนของข้อผิดพลาดในหนังสือ ก็มีอยู่จุดเดียวดังนี้นะคะ

หน้า 489 ตัวเครื่องหมายคำพูดเปิดค่ะ





ปิดท้ายด้วยถ้อยคำที่เราชอบจากหนังสือเล่มนี้ค่ะ




หน้า 476

คนเลวอย่างน้อยก็ยังซื่อสัตย์ แต่ความดีลวงโลกคือการโกหกหลอกลวงเป็นความเลวที่ชั่วยิ่งกว่าความเลว






หน้า 537

"ทุกนักเขียนที่ยิ่งใหญ่ มีตัวตนได้เพราะนักอ่านที่ยิ่งใหญ่..."









ปฏิทินธรรม




วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2559

1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)



วันอาทิตย์ที่ 
6 พฤศจิกายน 2559
 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น. 


ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
//www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447



2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/



วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2559

1. สวดมนต์ถวายพระราชินี จัดสวดตลอดปี 2558 รวม 12 ครั้ง
ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในเวลา 16.00น. ทุกวันที่ 5 ของทุกเดือน

https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.572181122825528.1073741826.335629013147408/924827967560840/




วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2559

1. ทอดกฐินวัดบุญญาวาส อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

2. ทอดกฐินวัดป่าสันติพุทธาราม จ.ราชบุรี


วันอาทิตย์ที่ 13 และ 27 พฤศจิกายน 2559 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts



วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2559 (จัดทุกวันเสาร์ที่สี่ของเดือน)


1. เชิญทุกท่านร่วมทำบุญตักบาตร สดับธรรม พระเถระวัดป่ากรรมฐาน เมตตารับบาตร โดย

ณ ลานเปรมปรีดิ์ มูลนิธิบ้านอารีย์


เว็บไซต์บ้านอารีย์
//www.baanaree.net



วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2559

1. ทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนสร้างพระเจดีย์ 101 ปี ปัณฑิโต พระคุณเจ้า หลวงปู่บุญฤทธิ์

ณ ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ หลวงปู่บุญฤทธิ์ บัณฑิโต ปากเกร็ด นนทบุรี เวลา 11.00 น. 

https://www.facebook.com/422886951105483/photos/a.422887751105403.103630.422886951105483/1171722426221928/?type=3&theater



วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 29-30 ตุลาคม 2559

1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด

ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.479376905439284.105742.335629013147408/701496553227317/?type=1&theater












ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1,469,696+3840482=5310178/12485/1272




 

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2559    
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2559 17:46:56 น.
Counter : 2717 Pageviews.  

###### รีวิวหนังสือ นิทานอินเดีย - อยากเล่าให้ฟังจัง! พัณณิดา ภูมิวัฒน์ ######




สวัสดีฮับ







วันนี้จะมารีวิวหนังสือของนักเขียนไทย (ที่เอาเรื่องจากหนังสือคนอื่นมาเล่าอีกที) นะคะ กับหนังสือเล่มนี้ค่ะ



นิทานอินเดีย อยากเล่าให้ฟังจัง!
ผู้เขียน พัณณิดา ภูมิวัฒน์
จำนวนหน้า 119 หน้า
ราคา 1xx บาท (จำราคาเป๊ะๆ ไม่ได้ค่ะ ราว 129-139 บาท ซื้อในงานหนังสือค่ะ)



หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ถูกเขียนขึ้นมาโดยการหยิบเรื่องราวจากภารตนิยาย ซึ่งเรียบเรียงโดยศ.ดร.ศักดิ์ศรี แย้มนัดดา ซึ่งรวบรวมนิยายรักโรแมนติกโบราณของสันสกฤตกว่า 100 เรื่อง โดยได้เรียบเรียงจากคัมภีร์พระเวท เรื่อยมาจนถึงมหากาพย์มหาภารตะและรามายณะ รวมถึงคัมภีร์ปุรณะฉบับต่างๆ ซึ่งมีถึง 18 คัมภีร์ โดยหนังสือเล่มนี้ เลือกเรื่องมาโดยการที่นักเขียนคือ คุณพัณณิดา ภูมิวัฒน์ เกริ่นว่าอยากเล่านิทานจากหนังสือเล่มนี้ที่แฟนเพจ (คลิก) และให้แฟนเพจเลือกเลขหน้า (แบบมั่วๆ ใครอยากเลือกโดยมีหลักอะไรก็ตามแต่ใจเถิด) แล้วเจ้าตัวก็หยิบเรื่องที่ตรงกับเลขหน้านั้นๆ มาเล่าให้แฟนเพจได่อ่านค่ะ


คราวนี้ ตอนแรกเจ้าตัวคงไม่คิดจะรวมเล่ม เพียงอยากที่จะถ่ายทอดหนังสือและเรื่องราวที่ตัวเองชอบให้แฟนเพจได้อ่าน แต่ปรากฏว่า แฟนเพจชอบมาก และขอให้รวมเล่ม (ข้าพเจ้าก็เป็นคนหนึ่งที่ไปถาม 555) เจ้าตัวจึงตัดสินใจรวมเล่มตีพิมพ์เอง และได้ภาพวาดประกอบน่ารัก (มากกกกก) จาก Clovertale (ทาสแมวมีกรี๊ดฟินแน่นอน) และวางขายในงานหนังสือที่ผ่านมานี่เองค่ะ


จากที่มาดังกล่าว ก็จะทำให้สำนวนการเขียนเป็นสำนวนแบบที่...มีถ้อยคำค่อนข้างเป็นกันเอง ขี้เล่น มีอีโมและมีศัพท์ที่ไม่ใช่แบบที่หนังสือทั่วไปจะมีอยู่มาก (แต่อ่านแล้วได้อารมณ์ฮา สนุกสนานสุดๆ อันจะยกตัวอย่างต่อไปนะคะ) ซึ่งทำให้...อ่านได้อย่างเพลิดเพลินมากกกกกกกกกกก สนุกมากกกกกกกกกก เรียกได้ว่าใครที่ไม่เคยเหลียวมองหรือสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับเทพเจ้าอินเดียหรือเรื่องราวในนิยายอินเดียอื่นๆ จะอ่านได้อย่างเพลิดเพลินเลยหละค่ะ (แต่ถ้าเป็นคนยึดติดกับระเบียบการวางประโยคแบบฟอมัลตามแบบหนังสือปกติหละก็...เล่มนี้อาจจะไม่ได้เหมาะกับคุณนะคะ) ทำให้เราได้รู้เรื่องราวหลายๆ เรื่อง เช่น การตายของกามเทพ ที่มาของพระอินทร์ที่มีอีกนามว่าผู้มีพันตา (แต่ที่มาบัดซบมาก 555) หมอชีวกโกมารภัจจ์ ฯลฯ


นี่ยังเสียดายว่า ไปนี่ ภารตนิยายซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของคุณพัณณิดาเธอหาซื้อไม่ได้แล้ว (ในงานหมดเกลี้ยง ซึ่งอิชั้นคาดการณ์ว่าน่าจะมาจากเหตุที่เธอนำมาแปลงจนเป็นที่นิยมด้วยส่วนหนึ่งค่ะ) ที่จริงอยากอ่านเวอร์ชั่นต้นฉบับเหมือนกัน จะได้รู้ว่า สนุกที่คุณพัณณิดาเธอว่านี่สนุกแบบไหน อรรถรสแตกต่างอย่างไรกับเวอร์ชั่นนี้น่ะนะคะ



เอาหละค่ะ เพื่อความเข้าใจอันดี ขอเอาบางส่วนจากเรื่องหนึ่งในเล่มมาลองให้อ่านกันดูนะคะ (เหมือนจะยาว แต่อยากให้ลองอ่านดูค่ะ ฮามาก)




จากเรื่อง "สมุทรกันยา"


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระศิวะกำลังนั่งบำเพ็ญตบะ (อาชีพเสริมของฮี) ไม่ได้ไปอี๋อ๋อกับเมีย (อาชีพหลักของฮี เชื่อตูสิ เปอร์เซนต์การใช้เวลามันต่างกันมากแบบเทียบกันไม่ติดเลยนะ)

พระอุมาไม่มีใครมาอี๋อ๋อด้วยจึงเบื่อไม่มีไรทำ เดินไปเดินมาก็วนกลับมาเจอพระศิวะนั่งบำเพ็ญอยู่ที่เดิม หลังจากวนอยู่หลายที จากที่เบื่อเฉยๆ เลยกลายเป็นเบื่อมาก ชีเลยเกิดซน ย่องไปหลังฝาละมี เอามือปิดตาฮีสองข้าง กระซิบใส่หูว่าใครเอ่ย

พระศิวะก็สะดุ้งเฮือก คือจริงๆ แล้วตั้งแต่ฮีบังเกิดขึ้นมา ฮีไม่เคยหลับตาเลยนะ แค่หรี่ๆ เพราะฮีมีหน้าที่คอยดูโลกอยู่

พอพระอุมามาใครเอ่ยใส่ ตาปิดไปสองข้าง ฮีตกใจมากเลยเผลอลืมตาที่สาม ซึ่งก็ฤทธิ์ประมาณกันกับไซคลอปส์ใน x-men แต่แรงกว่ายี่สิบล้านเท่า สรุปคือฮีเลยยิงบีม ทำโลกวอดไปหนึ่งแถบ

พระอุมาก็อ้าปากค้าง ฮีก็อ้าปากค้าง จากนั้นฮีก็หันมาโฮกใส่เมีย

เมียของฮีก็รู้สึกผิดอย่างรุนแรง ;w; ฮือๆ บดี (สามี) เค้าไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้จริงๆ

พระศิวะก็ชะงัก หยุดโฮก อุ้มชีขึ้นมานั่งตักบอกโอ๋ๆ อย่าร้อง ผิดที่ข้าเองไม่เคยสอนเจ้า เดี๋ยวจะสอนพระเวทให้นะ ลูบๆ (ฮีเป็นพ่อบ้านใจกล้า โฮกกับทุกคนมาหมดแล้วยกเว้นเมีย)

จากนั้นฮีจึงเริ่มสอนอภิปรัชญาให้เมียฟัง

สอนไปไม่นาน เมียของฮีก็หลับป็อกไป (ซึ่งก็ควรเป็นงั้นอะนะ)

ฮีก็ปื้ด แต่ก็ปลุกเมียขึ้นมาฟังต่อ คราวนี้พระอุมาฝืนไม่ป็อกสำเร็จ แต่ฟังไปเรื่อยๆ ก็ยากพีคมาก ชีเลยสติหลุด ใจลอยไปเรื่องอื่น

พระศิวะเห็นเมียตาลอยไปแล้วก็ปื้ดหนักกว่าเดิม ถามว่าเจ้าคิดไรอยู่

พระอุมาก็สะดุ้งตื่นจากฝันกลางวัน รีบบอกว่าเปล่าเพคะ ฟังท่านอยู่

พระศิวะเลยบอกว่า ฟังอยู่ก็ทวนซิว่าข้าพูดถึงไหน แน่นอนว่าพระอุมาตอบไม่ได้ พระศิวะเลยบอกว่า ฮึ เจ้ามัวแต่คิดถึงผู้ชายคนอื่นใช่มั้ยล่ะเลยไม่ฟังข้า ไปเกิดเป็นมนุษย์เลยไป (ที่แท้พี่ก็หึงสินะคะ)

พอพูดอย่างนี้ พระอุมาเลยหล่นจากสวรรค์ไปเกยตื้นที่แหลมกุมารี  ฟื้นขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้ เลยมีหัวหน้าชาวประมงแถวนั้นเก็บไปเลี้ยงเป็นลูกสาว ตั้งชื่อให้ใหม่ว่าสมุทรกันยา ชีก็สวยตะพึดตะพือมาก จึงมีชายหนุ่มจากแถวๆ นั้นแห่แหนกันมาตอม ท่วมเต็มรอบๆ หัวกะไดบ้านพ่อเลี้ยงชี

พ่อเลี้ยงชีเห็นหนุ่มเยอะละเกิน ยังกะแมลงวันหัวเขียว เลยถามชีว่าชอบคนไหนบ้างไหม (เผื่อเราจะได้เข้าออกบ้านง่ายขึ้นมั่ง ไม่ต้องฝ่าฝูงไอ้พวกนี้ไป) แต่ถึงสมุทรกันยาจะจำอะไรไมไ่ด้เลย ชีก็ยังจำได้เลือนๆ ว่าเหมือนชีจะมีเจ้าของแล้ว ชีจึงไม่เอาใครสักคนเดียว

เวลาก็ผ่านไป

เวลาในโลกผ่านไปกี่เดือนกี่ปีก็ไม่รู้น่ะนะ แต่คาดว่าเวลาบนสวรรค์คงผ่านไปสักสิบนาที

พระศิวะก็เริ่มลงแดงเมีย...

ฮีก็เมียหายไปไหนง่ะ ไปอยู่ไหนแล้ว เป็นอะไรไปแล้วหรือเปล่า

จากนั้นฮีก็เพิ่งนึกได้ว่า การส่งเมียอันสวยนิ้งของฮีลงไปเป็นมนุษย์ที่ไม่มีฤทธิ์เลย = ส่งอ้อยเข้าปากช้าง

พอเวิ่นเว้อถึงตรงนี้ ฮีจึงรีบส่องหาเมียฮีว่าไปอยู่ไหน ส่องไปส่องมาก็เจอเมียท่ามกลางหนุ่มฝูงใหญที่รุมเอาของกำนัลมาทุ่มใส่และขายขนมจีบเมียฮีอย่างบ้าคลั่ง

พระศิวะจึงเริ่มแทะงูที่คอ

จากนั้นฮีก็นึกว่า อืม ลงไปอุ้มมาเฉยๆ ก็เหมือนจะไม่ค่อยมีมาด เราคงไปอุ้มมาเฉยๆ ไม่ได้

แต่อีฝูงหนุ่มนั่นก็แห่ห้อมล้อมตามเมียฮีตลอดเวลา จนฮียิ่งแทะงูหนักขึ้นไปอีก

ก่อนที่งูจะถูกแทะตัยห่าไป ฮีก็เปิดปิ๊งไอเดียเด็ด (และน้ำเน่า) ขึ้นมาได้ รีบเรียกวัวของฮีมา บอกนนทิ เจ้าจงแปลงเป็นฉลามไปอาละวาดแถวแหลมกุมารีทีดิ๊

วัว (ชื่อนนทิ) ก็บอกว่า เอ่อได้พระเจ้าค่ะ แล้วไงต่อเหรอพระเจ้าค่ะ

พระศิวะก็บอกว่า พอคนแถวนั้นเดือดร้อนมากๆ ข้าก็จะไปปราบเจ้าไง จากนั้นข้าก็จะเป็นฮีโร่และอุ้มเมียกลับมาได้อย่างเท่ มัวะฮ่าฮ่าฮ่า (ตูบอกแล้วว่าน้ำเน่า)

นนทิก็อืม ตูเซ็งนายกะเมียนายละเกิน แต่ฮีก็ลงไปโดยดี เนื่องจากฮีเป็นวัวขาว เลยแปลงเป็นฉลามขาวด้วย ตัวก็ใหญ่มาก เหมือนอีอะไรนั่นในจูราสสิกที่มันชนะทีเร็กซ์ได้น่ะ

แล้วฮีก็อาละวาดกินปลารอบแหลมกุมารีเกลี้ยงไม่มีเหลือเลย

หลังจากปลาเกลี้ยงทะเล ชาวประมงแถวนั้นก็ลำบากมาก ในที่สุดหัวหน้าชาวประมงไม่มีทางเลือก จึงใช้วิธีอันสิ้นคิดซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายคือป่าวประกาศไปว่า ถ้าใครปราบอีหลามขาวนั่นได้ ฮีจะยกลูกสาวให้

ประกาศไปไม่ทันไร ก็มีไอ้หนุ่ม (หน้าตาคุ้นๆ) โผล่มาหนึ่งคนอย่างรวดเร็ว

ไอ้หนุ่มก็บอกว่า ข้าจะปราบฉลามเอง แต่ท่านต้องยกลูกสาวให้ข้านะ

หัวหน้าชาวประมงก็บอกว่าปราบได้ก็เอาไปเหอะพ่อ ไอ้หนุ่มจึงเดินไปชายน้ำ และ (แกล้งเต๊ะท่า) โอมอ่านมนต์ ไม่ทันไรอีฉลามก็สไลด์พรืดขึ้นมาบนหาดอย่างปาหี่ กระตุกสองทีก็หงายท้องอ้าปากแหงแก๋ ทำท่าเค้าตายแล้วจ้ะเอ๋ง

ชาวบ้านก็โอววว

ไอ้หนุ่มก็...เมี-เอ๊ย ลูกสาวท่านล่ะ เอามาจิ //แบมือ

หัวหน้าชาวประมงจึงจูงมือลูกสาวมาให้ (คราวนี้ชีไม่อิดเอื้อนอันใดเลย เป็นที่ยินดีแก่บิดามาก)

พอสองคนจับมือกัน ก็เกิดรังสีโฮลี่สาดไปทั่วฟ้าดิน กลายเป็นพระศิวะกะพระอุมานั่งบนหลังวัว พระอุมาก็จำทุกอย่างได้แล้วหลังจากแตะถูกตัวคุณสามี

พอถึงตอนนี้พระศิวะจึงยื่นฟักทองที่ทำจากทองชมพูนุทให้หัวหน้าชาวประมง บอกแต้งกิ้วที่ดูแลเมียข้านะ จากนั้นฮีก็ขี่วัวกลับเขาไกรลาสไปท่ามกลางความมึนของชาวบ้าน

กลับไปถึงแล้วจะมีการชำระความใดๆ ระหว่างฮีกับเมียหรือไม่ ตำนานก็ไม่ได้บอกไว้น่ะนะ




นี่คือตัวอย่างเรื่องหนึ่งจากหลายเรื่องในเล่มนี้ค่ะ แต่ละเรื่องก็มีความสนุกแตกต่างกันไป ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราชอบมาก อย่างเรื่องชีวกโกมารภัจจ์เราก็ชอบ (ชอบตอนท้ายเรื่องที่คุณพัณณิดาเธอสรุป) หรืออย่างอหลยา (ที่มาของพระอินทร์พันตา) เราก็ชอบค่ะ 


นี่ตั้งใจว่ากลับบ้านรอบหน้า จะลองไปอ่านแต่ละเรื่องให้หลานฟังหละว่าหลานจะสนุกและรู้สึก (พร้อมทั้งเข้าใจ) เหมือนที่เรารู้สึกกับมันไหม แฮร่...





สรุปแล้วก็เป็นหนังสือเรื่องหนึ่งที่สนุก ได้สาระ (ความรู้เกี่ยวกับเทพเจ้าต่างๆ ของอินเดีย ซึ่งบางเรื่องก็เกี่ยวพันกับศิลปะการสร้างปราสาทที่ถ้ารู้ไว้ก็เอาไปเล่าให้ลูกทัวร์ฟังได้สนุกด้วย หรือสำหรับคนทั่วไป เวลาไปปราสาทก็จะได้รู้ด้วย อย่างเรื่อง ศิวนาฏราชเป็นต้น) และคิดว่า ใครได้ไปอ่าน หากไม่ยึดติดกับกลวิธีการเขียนตามขนบ ก็น่าจะสนุกไปกับมันได้ไม่ยากนะคะ 


แต่ถ้าจะหาซื้อ คงต้องลองติดต่อไปที่เพจของนักเขียนโดยตรงค่ะ เพราะไม่มีวางจำหน่ายทั่วไปนะฮับ








ปฏิทินธรรม




วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2559

1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)



วันอาทิตย์ที่ 
6 พฤศจิกายน 2559
 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น. 


ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
//www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447



2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/



วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2559

1. สวดมนต์ถวายพระราชินี จัดสวดตลอดปี 2558 รวม 12 ครั้ง
ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในเวลา 16.00น. ทุกวันที่ 5 ของทุกเดือน

https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.572181122825528.1073741826.335629013147408/924827967560840/




วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2559

1. ทอดกฐินวัดบุญญาวาส อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

2. ทอดกฐินวัดป่าสันติพุทธาราม จ.ราชบุรี


วันอาทิตย์ที่ 13 และ 27 พฤศจิกายน 2559 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts



วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2559 (จัดทุกวันเสาร์ที่สี่ของเดือน)


1. เชิญทุกท่านร่วมทำบุญตักบาตร สดับธรรม พระเถระวัดป่ากรรมฐาน เมตตารับบาตร โดย

ณ ลานเปรมปรีดิ์ มูลนิธิบ้านอารีย์


เว็บไซต์บ้านอารีย์
//www.baanaree.net



วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2559

1. ทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนสร้างพระเจดีย์ 101 ปี ปัณฑิโต พระคุณเจ้า หลวงปู่บุญฤทธิ์

ณ ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ หลวงปู่บุญฤทธิ์ บัณฑิโต ปากเกร็ด นนทบุรี เวลา 11.00 น. 

https://www.facebook.com/422886951105483/photos/a.422887751105403.103630.422886951105483/1171722426221928/?type=3&theater



วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 29-30 ตุลาคม 2559

1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด

ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.479376905439284.105742.335629013147408/701496553227317/?type=1&theater












ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1,469,696+3817903=5287599/12478/1266




 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2559    
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2559 7:12:52 น.
Counter : 3112 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ


เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก


ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com
หรือ
https://www.facebook.com/saoguide






Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สาวไกด์ใจซื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.